φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



caligula overdose ตอนที่ ๑๒: วิ่งไล่จับที่ปาปิโกะ
เขียนเมื่อ 2020/07/22 11:58
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
>> ตอนที่แล้ว

เผชิญหน้ากับอิเกะพี

หลังจากที่แผนซุ่มโจมตีจบก็ได้ข่าวใหม่เข้ามาว่ามิวจะจัดคอนเสิร์ตที่หน้าสถานี จึงตัดสินใจพากันไปดู คนจัดงานคราวนี้คือนักดนตรีออสตินาโตคนหนึ่งชื่ออิเกะพี (イケP)



เมื่อมาถึงอิซึรุได้เห็นหน้าอิเกะพีก็รู้ว่านั่นคือเพื่อนห้องเดียวกันชื่อโคอิเกะ โทโมยะ (小池 智也)





อิเกะพี

เพลงของอิเกะพีชื่อว่า เพลงของเทวดา (天使てんしうた)

♫ ฟังเพลงนี้ใน youtube

ระหว่างคอนเสิร์ตครั้งนี้มิวดูแปลกๆ ได้มีการดูดความรู้สึกด้านลบจากผู้คนที่มาชมจนเห็นเป็นก้อนพลังอะไรบางอย่าง





หลังจบคอนเสิร์ต อาเรียก็บอกว่าเห็นท่าทางมิวแล้วดูจะท่าไม่ค่อยดีแล้ว ปล่อยไว้แบบนี้มิวจะยิ่งผิดเพี้ยนขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องรีบห้าม

แต่พอคอนเสิร์ตจบมิวก็หายไปอย่างรวดเร็ว นารุโกะหาข้อมูลในเน็ตอีกทีจึงรู้ว่าคราวนี้จะไปจัดคอนเสิร์ตต่อที่ปาปิโกะ



เมื่อตามมาถึงย่านปาปิโกะก็เจออิเกะพีทันที เขาดูเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกแอบตามมาจึงมาดักรออยู่แล้ว เขาดูจะมีความแค้นกับอิซึรุ เพราะหน้าตาดีเลยดึงความสนใจจากสาวๆที่เป็นพวกแฟนๆของอิเกะพีไป



แต่อิซึรุเองกลับไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำให้อิเกะพียิ่งแค้น



แล้วอิเกะพีก็หนีไป



ในขณะที่มีดิจิเฮดบุกเข้ามาทำให้ต้องสู้



พอสู้จบอิเกะพีก็หายไปแล้ว จึงพยายามจะไปตามหา



แต่ระหว่างที่ตามหาอยู่ก็ไปเจอกับฟลาเวอร์พรินเซส ๓ คนเข้า



พวกเธอดูเหมือนจะต้องการตามตัวอิซึรุ จึงต้องสู้กับทั้ง ๓ คน



แต่หลังจากสู้ชนะแล้วทั้ง ๓ คนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้สติ ยังคงไล่ตามอิซึรุต่อ อาเรียเห็นแล้วก็คิดว่าคงโดนอิเกะพีทำอะไรแปลกๆเข้าให้ แบบนี้ทำยังไงก็ไม่ฟื้นสติ หนีดีกว่า



แล้วก็เล่นไล่จับและซ่อนแอบไปทั่วย่านปาปิโกะ









จนหลังจากที่หลบที่ร้านแห่งหนึ่งก็เจอแฟนเพลงของอิเกะพีคนหนึ่งเข้ามาหา เขาก็ดูจะหลงไหลอิซึรุเช่นกัน พอคุยด้วยเธอก็มีพูดถึงร้านชื่อเมนส์ฟิสต์ (メンズフィストmen's fist) บอกว่าอิเกะพีชอบไปที่นั่นเป็นประจำ



ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าน่าจะลองมุ่งหน้าไปยังร้านนั้นดู

แต่ระหว่างนั้นก็ยังต้องเล่นซ่อนแอบกับฟลาเวอร์พรินเซสไปเรื่อยๆ





บ้างก็หาที่หลบซ่อนไม่ได้จนต้องให้สึซึนะแกล้งตะโกนว่ามีร้านจัดบุฟเฟต์เพื่อล่อดึงความสนใจของฟลาเวอร์พรินเซส



ระหว่างนั้นอิซึรุก็ดูเหมือนจะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนเขาจะกำลังรู้สึกสนุกเพราะไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน



หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาได้ก็เดินทางมาถึงร้านที่เป็นเป้าหมาย



เมื่อมาถึงแล้วก็ไม่พบอิเกะพี แต่พอให้นารุโกะลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับร้านนี้ดูก็พบว่าร้านนี้เป็นร้านที่มีอยู่ในโลกจริง ถูกจำลองมาทั้งๆอย่างนั้น แล้วในโลกจริงอิเกะพีทำงานเป็นพนักงานร้านนี้อยู่ด้วย

แต่พอได้ดูข้อมูลพนักงานแล้วเห็นรูปกลับพบว่าหน้าตาไม่ได้หล่อเหมือนอย่างอิเกะพีที่เห็นอยู่ที่นี่ จึงเริ่มเดาไว้ว่าอิเกะพีกลุ้มใจที่ตัวเองหน้าตาไม่หล่อ พอมาอยู่เมอบิอุสก็เลยขอให้เปลี่ยนหน้าให้หล่อแบบนี้ แต่อิซึรุกลับยังหล่อเด่นกว่าถึงได้ผูกใจเจ็บ



ในที่สุดก็หาเจอสถานที่ที่อิเกะพีอยู่จนได้



เมื่อเข้าไปก็พบว่าอิเกะพีกำลังถูกล้อมไปด้วยสาวๆ



แต่สาวๆดูเหมือนจะแค่หลงในหน้าตาอิเกะพีเท่านั้น ในขณะที่พวกเรารู้ความจริงแล้วว่านั่นไม่ใช่หน้าตาที่แท้จริง จึงมองว่าแบบนี้เข้าข่ายหลอกลวง จึงบุกเข้าไปเอาภาพอิเกะพีในโลกจริงให้ดู พอพวกผู้หญิงเห็นก็รู้ว่าตัวเองถูกหลอกแล้วไม่พอใจแล้วหนีไป



มิวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย อิเกะพีจึงฟ้องมิวว่าพวกเรามีเจตนากลั่นแกล้งทำลายความฝันของคนอื่นอย่างหน้าตาเฉย



แล้วมิวก็หนีไปแล้วเราก็ต้องสู้กับอิเกะพี



หลังจากล้มเขาได้แล้วเขาก็ยังมีท่าทีโกรธแค้นอิซึรุอยู่ แต่ก็ยอมฟังอะไรมากขึ้น



เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมให้อิเกะพี อิซึรุได้ให้อาเรียช่วยทำให้หน้าเขากลับเป็นเหมือนอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง เขาได้แสดงหน้าให้อิเกะพีเห็นคนเดียว ส่วนคนอื่นไม่ได้มองเห็นด้วยจึงไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่พอเห็นแล้วอิเกะพีก็ตกใจแล้วบอกว่าถ้าหน้าแบบนี้ทำไมยังอยากจะกลับไปโลกแห่งความเป็นจริงอีก



แล้วอิเกะพีก็เริ่มสงบลง แล้วบอกเบาะแสใหม่อีกว่ามิวน่าจะอยู่ที่แลนด์มาร์กทาวเวอร์ (ランドマークタワーlandmark tower) ซึ่งเป็นตึกสูงที่กำลังก่อสร้างอยู่ พร้อมกับนักดนตรีอีกคนคือ ชาโดวไนฟ์ (シャドウナイフshadow knife) จึงกำหนดได้ว่าน่าจะเป็นเป้าหมายต่อไปที่จะลองไปดู



แต่ระหว่างทางจู่ๆโชวโงะก็ทำท่าไม่อยากให้ไปแล้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปทำแผนซุ่มโจมตี



หลังจากนั้นจึงกลับมาที่ห้องชมรมแล้วก็ตกลงกันได้ว่าต่อไปจะไปซุ่มโจมตีที่สวนสนุกซีพาราอีโซ





ล้วงลึกถึงอดีตของสมาชิกชมรมกลับบ้าน

~เนื้อเรื่องเสริมของสมาชิกชมรมกลับบ้าน~

หลังจากจบเนื้อเรื่องไปอีกส่วน คราวนี้ก็เข้าสู่เนื้อเรื่องเสริมของสมาชิกชมรมกลับบ้านแต่ละคนต่อได้อีก ซึ่งครั้งนี้เรื่องของหลายคนดำเนินไปได้ไกลจนถึงขั้นที่ล้วงลึกเข้าไปถึงอดีตได้ มีทั้งหมด ๕ คน คือโคโตโนะ นารุโกะ เคนสึเกะ มิฟุเอะ สึซึนะ รวมกับอายานะที่ไปถึงตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็เป็น ๖ คน


โคโตโนะพูดถึงเรื่องที่วันก่อนที่โดนดิจิเฮดดักโจมตี อาเรียถามว่านึกออกหรือยังว่าเด็กผู้หญิงคนที่มาทักเหมือนรู้จักเธอนั่นคือใคร โคโตโนะก็บอกว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งจะมารู้จักกันในเมอบิอุสนี้ แต่ไม่รู้จักในโลกจริงมาก่อน แต่ฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนจะรู้เรื่องของตัวเอง แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเป็นใครบางคนที่รู้จักที่เปลี่ยนหน้าตาไปจนจำไม่ได้ เพราะในเมอบิอุสนี้บางคนก็ไม่ได้หน้าเหมือนกับในโลกจริง



เมื่อพยายามถามถึงเรื่องแม่และเรื่องคนที่ชื่อทักคุง โคโตโนะก็ลังเลที่จะบอก เพราะกลัวว่ารู้เรื่องนี้ไปแล้วอาจจะรังเกียจเธอได้ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อยังยืนกรานตัดสินใจที่จะล้วงลึกอดีตของโคโตโนะเธอก็ยอมเล่าความจริงให้ว่าที่จริงแล้วทักคุงก็คือลูกของตัวเอง ซึ่งตอนนี้น่าจะ ๔ ขวบแล้ว โดยเธอเริ่มตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุ ๑๘ แล้วต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่สุดท้ายกลับทิ้งให้แม่ช่วยเลี้ยงให้แทน แล้วตัวเองก็ได้ฟังเพลงของมิวแล้วหลงมาอยู่เมอบิอุส แต่ตอนนี้รู้สึกเสียใจและอยากกลับไปหาทักคุงให้ได้





โคตาโรวได้ตัดสินใจเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนรู้จักที่ชื่อยูโตะที่ไปเจอวันก่อนให้ฟังว่าเขาคือญาติลูกพี่ลูกน้อง แต่พอมาเจอกันที่นี่ยูโตะก็ยังบ่นถึงเรื่องที่บ้านแล้วบอกว่าตอนนี้นี้พ่อแม่เขาก็ล้มป่วยลง

หลังจากยูโตะก็จากไป แล้วโคตาโรวก็พูดต่อว่าจริงๆแล้วพ่อแม่ตัวเองเจออุบัติเหตุตายไปแล้วตั้งแต่ตอนอยู่ประถม เลยต้องไปอาศัยอยู่บ้านยูโตะ แต่ยูโตะไม่ชอบหน้าโคตาโรวจึงกลั่นแกล้งอยู่ตลอด



หลังจากนั้นชายที่ใช้ชื่อว่าสไลม์ก็เขียนข้อความขอความช่วยเหลือในเว็บอีก พอรีบตามไปก็เจอยูโตะกลายเป็นดิจิเฮดแล้วกำลังอาละวาดใส่สไลม์ จึงเข้าไปช่วยไว้ หลังชนะได้แล้วเขาก็เริ่มคืนสติ แต่ก็ยังไม่ยอมพูดดีด้วย โคตาโรวพยายามเตือนว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะโดนจับไปล้างสมองแล้วกลับมาเป็นดิจิเฮดอีก แต่เขาก็ไม่ฟังคำเตือนแล้วหนีไป





นารุโกะบ่นถึงเรื่องนิยายที่แต่งอยู่ ว่ามีคนไปแสดงคอมเมนต์โจมตีเสียๆหายๆจนทำให้เสียกำลังใจ พออาเรียไปปลอบว่าพวกคนที่โจมตีคนอื่นแบบนี้ยังไงก็เป็นพวกไม่มีเพื่อน แต่นารุโกะได้ยินแล้วกลับบอกว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วก็เดินจากไป



หลังจากนั้นเมื่อคุยอีกทีนารุโกะก็บอกว่าเลิกเขียนนิยายไปแล้ว จากนั้นพอลองตัดสินใจที่จะล้วงลึกถึงอดีตของนารุโกะไปอีกเธอจึงยอมเปิดใจว่าจริงๆแล้วเธอก็ไม่มีเพื่อน แล้วก็เคยโจมตีป่วนคนอื่นในเน็ตเหมือนกัน มีแต่ศัตรูเต็มไปหมด เพราะมีพ่อเป็นนักข่าวเลยถูกเพื่อนตั้งเป้ารังเกียจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยไปหันไปคบเพื่อนในเน็ต เจอคนที่รู้ใจเล่าเรื่องทุกอย่างแต่กลับถูกหักหลังขึ้นมา จนทำให้ไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก แล้วก็หันไปโพสต์โจมตีป่วนคนอื่นในเน็ต พอมาอยู่เมอบิอุสก็พยายามจะทำตัวให้เป็นที่สนใจเลยโพสต์อะไรลงเน็ตเรียกยอดชม จนไม่นานนี้ก็เริ่มเขียนนิยาย แต่ตอนนี้เริ่มท้อใจอยากจะเลิก



แต่พอเราและอาเรียเข้าไปปลอบใจแล้วบอกว่ากำลังตามอ่านนิยายของเธออยู่เธอก็กลับมาดูมีกำลังใจขึ้นมา





ส่วนเคนสึเกะกำลังคิดมากถึงเรื่องที่คนที่ชื่อบลูมันที่เจอกันวันก่อนนั้นได้พูดใส่และเริ่มท้อที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับโลกความเป็นจริง



พอตัดสินใจล้วงลึกอดีตของเคนสึเกะ เขาก็เล่าระบายความในใจให้ฟังว่าตัวเองรู้สึกกลัวที่จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องใช้ชีวิตน่าเบื่อแบบผู้ใหญ่ที่ตัวเองเคยรู้จักเพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์อะไร แม้แต่เรื่องแต่งเพลงเองก็เป็นเพราะได้มิวช่วยไม่งั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่อยากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว



แต่เมื่อพยายามปลอบใจว่าถึงจะหนียังไงก็ต้องยอมรับความเป็นจริงอยู่ดีและเคนสึเกะก็ไม่ได้เป็นคนไม่ได้เรื่องหรอก เพราะถึงขนาดตัดสินใจที่จะออกจากกลุ่มนักดนตรีมาอยู่กับชมรมกลับบ้านทั้งที่รู้ว่ามีแต่ความเสี่ยงแบบนี้ก็แสดงว่ามีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แบบนี้ดูดีออก ไม่ต้องท้อแท้ไป

สุดท้ายเคนสึเกะก็ขอบคุณที่มาคุยด้วยและทำให้รู้สึกใจสบายขึ้นมาหลังจากที่ได้คายความในใจออกมาแล้ว



มิฟุเอะชวนไปตามหา NPC ที่เป็นแม่ของเธอในเมอบิอุสต่อ แต่อยู่ๆก็เหมือนจะไม่สบายขึ้นมาเพราะไม่ได้กินอะไรมานาน พอจะพาไปโรงพยาบาลก็กลับปฏิเสธเต็มที่



พอตัดสินใจถามล้วงลึกเข้าไปมิฟุเอะก็ยอมเล่าให้ฟังว่าตัวเธอจริงๆก็เข้าโรงพยาบาลอยู่ เพราะอดอาหารจนผอมแห้งไม่มีแรง พอคิดแล้วก็เริ่มไม่อยากจะกลับสู่โลกเดิมขึ้นมา



แต่เรากับอาเรียก็ปลอบใจโดยบอกว่าจริงๆแล้วมิฟุเอะออกจะเข้มแข็งออก เพราะอุตส่าห์ได้มาอยู่เมอบิอุสแล้วมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์สามารถกินอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ก็ยังคิดที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงอีก



หลังจากได้ฟังแล้วมิฟุเอะก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา อาเรียเองก็บอกว่ายังไงก็จะช่วยหาแม่ให้เจอเพื่อเธอ



สึซึนะชวนมากินข้าวอีก คราวนี้ชวนนารุโกะมากินด้วย



แต่ต่อสึซึนะไปลองชวนโคตาโรวกินข้าวด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธ จึงรู้สึกเสียใจรู้สึกว่าตัวเองคงไม่มีใครอยากคุยด้วย



พอตัดสินใจถามล้วงลึกเข้าไปไปสึซึนะเธอก็เล่าให้ฟังว่า ตัวเธอในโลกจริงตอนที่ขึ้นมัธยมปลายมาก็ไม่มีเพื่อนเก่าจากโรงเรียนเดียวกัน แล้วตอนที่แนะนำตัวว่างานอดิเรกคืออ่านหนังสือกับร้องเพลงประสานเสียงก็กลับถูกหัวเราะเยาะ ทำให้พลาดโอกาสที่จะคบเพื่อนและเข้าชมรมร้องเพลงประสานเสียงด้วย



แต่แม้จะได้ระบายความในใจแล้วก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาในใจเธอได้ แถมอาเรียยังเผลอพูดอะไรซ้ำเติมให้แย่ลง เรื่องเลยจบไปแบบค้างคาไป

>> ตอนถัดไป


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> caligula

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ