พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ ชมแมวน้ำและสิงโตทะเลริมในชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น
เขียนเมื่อ 2023/12/05 04:08
แก้ไขล่าสุด 2023/12/11 22:16
# ศุกร์ 24 พ.ย. 2023
ต่อจากตอนที่แล้วที่กลับจากโยอิจิมายังโอตารุแวะร้านซูชิชื่อดังแต่ว่าอดกิน https://phyblas.hinaboshi.com/20231204
ต่อมาเราจึงเดินทางมายังเป้าหมายต่อไปที่จะเที่ยวครั้งนี้ นั่นคือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (おたる水族館) ตั้งอยู่บนแหลมทางเหนือของเมืองโอตารุ ริมชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น
พื้นที่มีทั้งส่วนที่อยู่ในตัวอาคาร ซึ่งจัดแสดงสัตว์น้ำในตู้เหมือนกับพวกพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไปในเมือง และยังมีส่วนที่เป็นกลางแจ้ง เรียกว่าสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล (海獣公園) ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นที่แท้จริงของที่นีเลย เพราะเลี้ยงสัตว์จำพวกสัตว์ตีนครีบเอาไว้ในน้ำทะเลจริงริมชายฝั่ง โดยบ่อเลี้ยงมีแค่กรงกั้นที่กั้นระหว่างทะเลภายนอก
ภายในยังมีร้านอาหารอยู่ด้วย สำหรับคนที่เข้าชมด้านใน ถ้าจะมาเพื่อแวะกินอาหารอย่างเดียวไม่ได้
ค่าเข้าเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ตอนที่ไปนั้นค่าเข้า ๑๘๐๐ เยน ซึ่งรวมทั้งส่วนในอาคารและส่วนสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลแล้ว แต่พอเข้าช่วงกลางฤดูหนาวแล้วตรงส่วนสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลจะปิด ทำให้ค่าเข้าถูกลง
ที่นี่ปิดตอนช่วง 27 พฤศจิกายนถึง 15 ธันวาคม ช่วงที่ไปนั้นเป็นช่วงก่อนที่จะปิดปรับปรุงก่อนหน้าหนาวพอดี ถ้าไปช้ากว่านั้นหน่อยก็คงไม่ได้เข้า
หลังจากออกจากร้านนิชิซึกะมาเราก็มุ่งหน้ามายังส่วนปลายแหลม เริ่มเห็นทะเล ระหว่างนั้นหิมะก็ตกลงมาเรื่อยๆทำให้ในรถก็ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝน อยู่ในนี้มองแล้วดูเผินๆเหมือนเป็นฝนตก แต่จริงๆเป็นหิมะทั้งนั้น
รถมาจอดในลานจอดรถของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งดูโล่งๆ
จากนั้นเดินขึ้นไปตรงนี้ จากตรงนี้มองเห็นชิงช้าสวรรค์ข้างๆ ตรงนั้นเป็นสวนสนุกชุกุตสึมารินแลนด์ (祝津マリンランド) ซึ่งก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนี้ แต่ว่าเปิดแค่ช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ตอนนี้ไม่ได้เปิดอยู่
เมื่อขึ้นมาถึงด้านหน้าอาคาร มองลงไปยังที่จอดรถ และไกลออกไปเห็นทะเล
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซื้อตั๋วเข้าชมตรงนี้แล้วจึงเข้าไปด้านใน
เข้ามาถึงด้านในก่อนอื่นเจอร้านขายของเล็กๆ
แล้วก็บ่อที่เลี้ยงเต่าตัวใหญ่
จากนั้นเดินเข้าชมด้านใน ภายในส่วนชั้น ๑
บันไดขึั้นไปยังชั้น ๒
ที่ชั้น ๒ นี้มีร้านอาหารอยู่ ซึ่งเราก็ตั้งใจจะมากินที่นี่อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ภายในร้าน
ทิวทัศน์ที่มองจากหน้าต่างในร้านนี้ มองออกไปเห็นสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ซึ่งอยู่ด้านนอกอาคารแต่ถือเป็นภายในบริเวณของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไม่สามารถเข้าจากด้านนอกได้โดยไม่ซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เดี๋ยวกินเสร็จเราก็จะแวะลงไปชมตรงนั้น
ภาพแสดงเมนูของที่นี่
การสั่งอาหารทำโดยใช้เครื่องขายอัตโนมัติ ทั้งหมดเป็นแบบบริการตัวเอง
ที่เราสั่งไปเป็นโอตารุอังกาเกะยากิโซบะ (小樽あんかけ焼そば) ของขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ เต็มไปด้วยอาหารทะเล อร่อยดี
ข้างๆร้านอาหารก็มีร้านขายพวกของที่ระลึก
จากนั้นไปชมส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำที่ชั้น ๒ ซึ่งก็มีอะไรอยู่อีกพอสมควร โดยส่วนใหญ่จะเป็นพวกของเล็กๆ ต่างจากชั้น ๑ ที่เป็นพวกของใหญ่ๆ
ส่วนภายในอาคารหลักก็หมดเท่านี้ จากนั้นจากชั้น ๒ นี้มีทางเชื่อมไปสู่อีกอาคาร คือส่วนแสดงโลมา
ในนี้จัดแสดงโลมาตามเวลา โดยมีรอบแสดงอยู่ ตอนที่ไปถึงนั้นก็ใกล้เวลาแสดงพอดีจึงเห็นมีคนมานั่งรออยู่บนอัฒจันทร์แล้ว
แต่เราตัดสินใจไม่ชมการแสดงโลมา แล้วเดินออกมาทางนี้เพื่อไปยังส่วนที่น่าสนใจที่สุดจริงๆของที่นี่ นั่นคือสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ต้องเดินออกมาทางนี้
จากนั้นก็ต้องเดินลงไป ระหว่างทางก็เห็นทิวทัศน์ริมทะเลสวยงาม
สิ่งก่อสร้างที่เห็นทั้งหมดนี้อยู่ในบริเวณของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แต่ว่าที่เห็นอยู่ไกลออกไปด้านบนนั้นเป็นคนละส่วนกัน จากตรงน้ไม่สามารถเดินขึ้นเขาไปได้
ที่ตั้งเด่นอยู่ด้านบนนั้นคือประภาคารฮิโยริยามะ (日和山灯台) ตั้งเด่นอยู่บนหน้าผาปลายแหลม จริงๆแล้วตอนแรกก็กะว่าอยากจะแวะไปที่ประภาคารนั้นด้วย แต่ดูจากอากาศแล้วไม่ไปดีกว่า แค่ได้มองจากตรงนี้ก็พอ
แล้วก็เดินลงมาถึงด้านล่าง ทะเลก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว แต่จากสภาพอากาศตอนนี้ทั้งหิมะตกและลมพัดแรง ทะเลก็ครวญคลั่ง ทำให้ไม่สามารถเดินอยู่ตรงนี้ได้นานนัก รีบชมให้เสร็จแล้วจะได้กลับเข้าอาคารอุ่นๆ
ตรงนี้เป็นส่วนแสดงเพนกวินและแมวน้ำ
ขณะที่ไปนั้นไม่ใช่เวลาแสดง แต่ก็เห็นแมวน้ำอยู่
ส่วนตรงนี้เป็นเพนกวิน
ข้างๆกันนั้นก็ยังมีบ่อเพนกวินเล็กๆอีก
ถัดมามีบ่อเล็กๆที่ให้เอามือจุ่มลงไปจับข้างในได้ด้วย
แล้วก็มาชมส่วนที่เป็นจุดเด่นจริงๆ นั่นก็คือส่วนที่เลี้ยงสิงโตทะเลอยู่ริมชายฝั่ง
จะเห็นว่าบริเวณนี้คือทะเลจริงๆ แค่มีรั้วกั้นจากทะเลภายนอก
ภายในนี้มีสิงโตทะเลว่ายอยู่เต็มไปหมด
แต่ละตัวมีชื่ออยู่ด้วย มีติดป้ายบอก ดูชื่อแล้วก็ไม่ได้ต่างจากชื่อคนญี่ปุ่นเลย
ป้ายนี้มีบอกว่ามีสิงโตทะเลที่สามารถยืนกลับหัวได้ด้วย
ส่วนอาคารตรงนี้มีแมวน้ำอยู่
เข้าชมอยู่ในนี้ไม่นานก็เดินกลับขึ้นไป โดยขาขึ้นมีบันไดเลื่อนทำไว้ให้ ทำให้ไม่ต้องปีนเขา สบายหน่อย
การเที่ยวที่นี่ก็จบแค่นี้ จากนั้นก็เดินออกไปจากทางออกตรงนี้
ขณะนั้นหิมะตกโปรยปรายลงมาหนักกว่าเดิม แม้ว่าจะยังคงไม่ทับถม ทำให้สภาพพื้นดูแล้วไม่ต่างอะไรกับเวลาฝนตกหนัก เรารีบกลับไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทางไปยังที่เที่ยวต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20231206
ต่อจากตอนที่แล้วที่กลับจากโยอิจิมายังโอตารุแวะร้านซูชิชื่อดังแต่ว่าอดกิน https://phyblas.hinaboshi.com/20231204
ต่อมาเราจึงเดินทางมายังเป้าหมายต่อไปที่จะเที่ยวครั้งนี้ นั่นคือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (おたる水族館) ตั้งอยู่บนแหลมทางเหนือของเมืองโอตารุ ริมชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น
พื้นที่มีทั้งส่วนที่อยู่ในตัวอาคาร ซึ่งจัดแสดงสัตว์น้ำในตู้เหมือนกับพวกพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไปในเมือง และยังมีส่วนที่เป็นกลางแจ้ง เรียกว่าสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล (海獣公園) ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นที่แท้จริงของที่นีเลย เพราะเลี้ยงสัตว์จำพวกสัตว์ตีนครีบเอาไว้ในน้ำทะเลจริงริมชายฝั่ง โดยบ่อเลี้ยงมีแค่กรงกั้นที่กั้นระหว่างทะเลภายนอก
ภายในยังมีร้านอาหารอยู่ด้วย สำหรับคนที่เข้าชมด้านใน ถ้าจะมาเพื่อแวะกินอาหารอย่างเดียวไม่ได้
ค่าเข้าเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ตอนที่ไปนั้นค่าเข้า ๑๘๐๐ เยน ซึ่งรวมทั้งส่วนในอาคารและส่วนสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลแล้ว แต่พอเข้าช่วงกลางฤดูหนาวแล้วตรงส่วนสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลจะปิด ทำให้ค่าเข้าถูกลง
ที่นี่ปิดตอนช่วง 27 พฤศจิกายนถึง 15 ธันวาคม ช่วงที่ไปนั้นเป็นช่วงก่อนที่จะปิดปรับปรุงก่อนหน้าหนาวพอดี ถ้าไปช้ากว่านั้นหน่อยก็คงไม่ได้เข้า
หลังจากออกจากร้านนิชิซึกะมาเราก็มุ่งหน้ามายังส่วนปลายแหลม เริ่มเห็นทะเล ระหว่างนั้นหิมะก็ตกลงมาเรื่อยๆทำให้ในรถก็ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝน อยู่ในนี้มองแล้วดูเผินๆเหมือนเป็นฝนตก แต่จริงๆเป็นหิมะทั้งนั้น
รถมาจอดในลานจอดรถของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งดูโล่งๆ
จากนั้นเดินขึ้นไปตรงนี้ จากตรงนี้มองเห็นชิงช้าสวรรค์ข้างๆ ตรงนั้นเป็นสวนสนุกชุกุตสึมารินแลนด์ (祝津マリンランド) ซึ่งก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนี้ แต่ว่าเปิดแค่ช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ตอนนี้ไม่ได้เปิดอยู่
เมื่อขึ้นมาถึงด้านหน้าอาคาร มองลงไปยังที่จอดรถ และไกลออกไปเห็นทะเล
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซื้อตั๋วเข้าชมตรงนี้แล้วจึงเข้าไปด้านใน
เข้ามาถึงด้านในก่อนอื่นเจอร้านขายของเล็กๆ
แล้วก็บ่อที่เลี้ยงเต่าตัวใหญ่
จากนั้นเดินเข้าชมด้านใน ภายในส่วนชั้น ๑
บันไดขึั้นไปยังชั้น ๒
ที่ชั้น ๒ นี้มีร้านอาหารอยู่ ซึ่งเราก็ตั้งใจจะมากินที่นี่อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ภายในร้าน
ทิวทัศน์ที่มองจากหน้าต่างในร้านนี้ มองออกไปเห็นสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ซึ่งอยู่ด้านนอกอาคารแต่ถือเป็นภายในบริเวณของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไม่สามารถเข้าจากด้านนอกได้โดยไม่ซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เดี๋ยวกินเสร็จเราก็จะแวะลงไปชมตรงนั้น
ภาพแสดงเมนูของที่นี่
การสั่งอาหารทำโดยใช้เครื่องขายอัตโนมัติ ทั้งหมดเป็นแบบบริการตัวเอง
ที่เราสั่งไปเป็นโอตารุอังกาเกะยากิโซบะ (小樽あんかけ焼そば) ของขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ เต็มไปด้วยอาหารทะเล อร่อยดี
ข้างๆร้านอาหารก็มีร้านขายพวกของที่ระลึก
จากนั้นไปชมส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำที่ชั้น ๒ ซึ่งก็มีอะไรอยู่อีกพอสมควร โดยส่วนใหญ่จะเป็นพวกของเล็กๆ ต่างจากชั้น ๑ ที่เป็นพวกของใหญ่ๆ
ส่วนภายในอาคารหลักก็หมดเท่านี้ จากนั้นจากชั้น ๒ นี้มีทางเชื่อมไปสู่อีกอาคาร คือส่วนแสดงโลมา
ในนี้จัดแสดงโลมาตามเวลา โดยมีรอบแสดงอยู่ ตอนที่ไปถึงนั้นก็ใกล้เวลาแสดงพอดีจึงเห็นมีคนมานั่งรออยู่บนอัฒจันทร์แล้ว
แต่เราตัดสินใจไม่ชมการแสดงโลมา แล้วเดินออกมาทางนี้เพื่อไปยังส่วนที่น่าสนใจที่สุดจริงๆของที่นี่ นั่นคือสวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ต้องเดินออกมาทางนี้
จากนั้นก็ต้องเดินลงไป ระหว่างทางก็เห็นทิวทัศน์ริมทะเลสวยงาม
สิ่งก่อสร้างที่เห็นทั้งหมดนี้อยู่ในบริเวณของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แต่ว่าที่เห็นอยู่ไกลออกไปด้านบนนั้นเป็นคนละส่วนกัน จากตรงน้ไม่สามารถเดินขึ้นเขาไปได้
ที่ตั้งเด่นอยู่ด้านบนนั้นคือประภาคารฮิโยริยามะ (日和山灯台) ตั้งเด่นอยู่บนหน้าผาปลายแหลม จริงๆแล้วตอนแรกก็กะว่าอยากจะแวะไปที่ประภาคารนั้นด้วย แต่ดูจากอากาศแล้วไม่ไปดีกว่า แค่ได้มองจากตรงนี้ก็พอ
แล้วก็เดินลงมาถึงด้านล่าง ทะเลก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว แต่จากสภาพอากาศตอนนี้ทั้งหิมะตกและลมพัดแรง ทะเลก็ครวญคลั่ง ทำให้ไม่สามารถเดินอยู่ตรงนี้ได้นานนัก รีบชมให้เสร็จแล้วจะได้กลับเข้าอาคารอุ่นๆ
ตรงนี้เป็นส่วนแสดงเพนกวินและแมวน้ำ
ขณะที่ไปนั้นไม่ใช่เวลาแสดง แต่ก็เห็นแมวน้ำอยู่
ส่วนตรงนี้เป็นเพนกวิน
ข้างๆกันนั้นก็ยังมีบ่อเพนกวินเล็กๆอีก
ถัดมามีบ่อเล็กๆที่ให้เอามือจุ่มลงไปจับข้างในได้ด้วย
แล้วก็มาชมส่วนที่เป็นจุดเด่นจริงๆ นั่นก็คือส่วนที่เลี้ยงสิงโตทะเลอยู่ริมชายฝั่ง
จะเห็นว่าบริเวณนี้คือทะเลจริงๆ แค่มีรั้วกั้นจากทะเลภายนอก
ภายในนี้มีสิงโตทะเลว่ายอยู่เต็มไปหมด
แต่ละตัวมีชื่ออยู่ด้วย มีติดป้ายบอก ดูชื่อแล้วก็ไม่ได้ต่างจากชื่อคนญี่ปุ่นเลย
ป้ายนี้มีบอกว่ามีสิงโตทะเลที่สามารถยืนกลับหัวได้ด้วย
ส่วนอาคารตรงนี้มีแมวน้ำอยู่
เข้าชมอยู่ในนี้ไม่นานก็เดินกลับขึ้นไป โดยขาขึ้นมีบันไดเลื่อนทำไว้ให้ ทำให้ไม่ต้องปีนเขา สบายหน่อย
การเที่ยวที่นี่ก็จบแค่นี้ จากนั้นก็เดินออกไปจากทางออกตรงนี้
ขณะนั้นหิมะตกโปรยปรายลงมาหนักกว่าเดิม แม้ว่าจะยังคงไม่ทับถม ทำให้สภาพพื้นดูแล้วไม่ต่างอะไรกับเวลาฝนตกหนัก เรารีบกลับไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทางไปยังที่เที่ยวต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20231206
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
หมวดหมู่
-- ท่องเที่ยว >> สวนสัตว์ >> พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ-- ประเทศญี่ปุ่น >> ฮกไกโด
-- ท่องเที่ยว >> ทะเล
-- ท่องเที่ยว >> หิมะ