φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



[แนะนำหนัง] 最美麗的第七天 วันที่เจ็ดที่สวยงามที่สุด
เขียนเมื่อ 2012/11/25 07:42
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
วันนี้มาแปลกนิดหน่อย คือจะมาแนะนำหนังฮ่องกงเรื่องนึง ซึ่งใช้ฉากถ่ายทำที่ญี่ปุ่น คือเรื่อง 最美麗的第七天 (อ่านเป็นจีนกลางว่า เจว้ย์เหม่ย์ลี่เตอะตี้ชีเทียน อ่านเป็นกวางตุ้งว่า โจยเหมย์ไหล่ติ๊กไต่ชัดทิ้น) แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า วันที่เจ็ดที่สวยงามที่สุด แต่ชื่อภาษาอังกฤษแปลออกมาสั้นๆง่ายๆว่า The Seventh Day วันที่เจ็ด

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เคยเอามาฉายในไทยหรือเปล่า หาข้อมูลไม่ได้เลย ไม่มีข้อมูลเรื่องชื่อไทยเหมือนกัน

พอดีว่าช่วงนี้เอาหนังฮ่องกงมาดูเพื่อฝึกภาษาจีน

ที่จริงหนังฮ่องกงปกติจะพูดจีนกวางตุ้งกัน ซึ่งเราฟังไม่ออก แต่เขามีพากย์เป็นภาษาจีนกลาง ไม่งั้นก็คงไม่มีโอกาสได้ดู ครั้งนี้เราฟังพากย์จีนกลางล้วนๆ

สำหรับหนังเรื่องนี้ที่เอามาแนะนำเพราะว่าติดใจที่เรื่องนี้ใช้ฉากที่ญี่ปุ่น ซึ่งสวยงามมาก (ไม่งั้นอยู่ดีๆเราจะสนใจหนังฮ่องกงถึงขนาดเอามารีวิวหรือ?)

เรื่องนี้ฉายในปี 2008 ฉากถ่ายทำในฮ่องกงและญี่ปุ่น มีนักแสดงนำดังๆอย่าง เจิ้งเจียอิ่ง (鄭嘉穎, แจ่งก๊าเหว่ง) โจวลี่ฉี (周麗淇, เจ๊าไหล่เข่ย์) ถางซือหย่ง (唐詩詠, ถ่องซี้เหว่ง) หวงจงเจ๋อ (黃宗澤, หว่องจ๊งจาก) ทั้งสี่คนนี้เคยแสดงร่วมกันมาก่อนแล้วในเรื่อง 天幕下的戀人 (เทียนมู่เซี่ยเตอะเลี่ยนเหริน) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Under the Canopy of Love เคยฉายในไทยโดยใช้ชื่อว่า ฝันรักฟ้าเดียวกัน



เพลงเปิดพร้อมคารา ร้องโดยพระเอก เป็นเพลงช้าๆที่ฟังดูเพราะมาก แต่เป็นภาษากวางตุ้ง ฟังไม่ออกหรอกแต่มีเนื้อร้องเป็นอักษรจีนให้ดูก็รู้เรื่องทันที เพราะภาษากวางตุ้งเขียนเหมือนจีนกลางแค่ออกเสียงต่าง



เพลงจบ เป็นเพลงคู่ ร้องโดยพระเอกกับนางเอกนี่เอง เพราะมากเช่นกัน




เรื่องย่อ
เนื้อเรื่องของเรื่องนี้ถูกแบ่งเป็นสองส่วนของพระเอกนางเอกสองคู่ที่แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ในที่นี้จะพูดถึงเนื้อเรื่องทางฝั่งของพระเอกนางเอกคนหลักเท่านั้น
เรื่องราวเกี่ยวกับคนสองคนคือโหยวจื้ออิ่ง (游志穎, เหย่าจีเหว่ง) หนุ่มดีไซเนอร์ กับ หลิงเจียเอิน (凌加恩, เหล่งก๊ายั้น) สาวเจ้าของร้านขายสัตว์เลี้ยง (เป็นอาชีพที่แนวมากๆ แต่มันไม่เห็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องสักนิด)

ทั้งสองได้พบกันและเริ่มคบกันตั้งแต่ต้นเรื่อง จนวันหนึ่งคุณลุงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นและบอกถึงอดีตของโหยวจื้ออิ่งซึ่งเขาปิดบังมาโดยตลอด นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด

คุณลุงคนนี้เขาเล่าว่าเมื่อ ๕ ปีก่อนโหยวจื้ออิ่งเคยคบกับลูกสาวของเขา หร่วนจิ้ง (阮靜, หยวินเจ่ง) แล้ววันหนึ่งทั้งคู่ก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน แต่แล้วโหยวจื้ออิ่งกลับกลับมาเพียงลำพังคนเดียว ไม่นานก็พบว่าหร่วนจิ้งหายสาบสูญไปไม่กลับ

เขาปักใจเชื่อว่าโหยวจื้ออิ่งฆ่าลูกสาวของเขาที่ญี่ปุ่นแล้วอำพรางคดีกลับมาคนเดียว แต่ก็ไม่มีหลักฐาน ทางหลิงเจียเอินพอทราบเรื่องนี้ก็ไม่เชื่อ แต่ก็คลางแคลงสงสัยจนไม่เป็นอันทำอะไร พอถามโหยวจื้ออิ่งบอกให้เล่าความจริงให้ว่าที่ญี่ปุ่นเกิดอะไรขึ้น เขาก็กลับตอบว่าเรื่องนี้เป็นความลับที่เขาสัญญากับเพื่อนสนิทว่าจะปกปิด ยังไงก็เล่าไม่ได้  เขาไม่สนใจว่าใครจะมองเขาว่ายังไง แต่ขอให้เชื่อใจเขาก็พอ

ระหว่างที่เรื่องราวกำลังค้างๆคาๆอยู่นั้น มีวันหนึ่งหลิงเจียเอินไปทำความสะอาดห้องของโหยวจื้ออิ่งแล้วไปเจอจดหมายเก่าของโหยวจื้ออิ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นจดหมายที่เขาคุยกับหร่วนจิ้ง พอเขารู้ตัวเข้าว่าถูกแอบดูจดหมายก็โกรธมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ไม่นานหลิงเจียเอินก็ได้ข่าวว่าโหยวจื้ออิ่งบินไปญี่ปุ่น หลิงเจียเอินรู้สึกว่านี่จะต้องเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ ๕ ปีก่อนที่เขาสงสัยอยู่ จึงตัดสินใจตามไป

เรื่องราวที่ญี่ปุ่นก็เริ่มขึ้นจากตรงนี้ เมื่อ ๕ ปีก่อนเกิดอะไรขึ้น หร่วนจิ้งหายไปไหน โหยวจื้ออิ่งกลับไปญี่ปุ่นอีกรอบทำอะไร ต้องติดตามกันต่อไป (หรืออ่านสปอยด้านล่าง)



ฉากในเรื่อง
ฉากที่ใช้ในเรื่องนี้คือเมืองทากายามะ (高山市) ในจังหวัดกิฟุ (岐阜県) ซึ่งอยู่ในภาคกลางของญี่ปุ่น มีภูมิอากาศหนาวชื้น ฤดูหนาวหิมะตกตลอดจนปกคลุมด้วยหิมะอยู่อย่างเสมอ เนื้อเรื่องเกิดขึ้นตอนฤดูหนาวจึงเห็นแต่ภาพทิวทัศน์สีขาวสวยงาม

ใกล้เขตเมืองทากายามะมีสถานที่แห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมีคนกล่าวถึงกันมากในช่วงหลังๆนี้ นั่นก็คือหมู่บ้านชิราคาวะโงว (白川郷) หมู่บ้านที่เป็นมรดกของโลก คนมักจะเรียกผิดเป็นชิราคาวะโกะ แต่ที่ถูกต้องคือชิราคาวะโงว อารมณ์เดียวกับที่คนชอบเรียกเบ็นโตวผิดเป็นเบ็นโตะ

รายละเอียดเกี่ยวกับหมู่บ้านชิราคาวะโงวมีคนเขียนถึงไว้อย่างดีแล้ว http://cherokee.exteen.com/20110308/shirakawa-go


มาดูรูปฉากในเรื่องกันดีกว่า

เมืองทากายามะ











ศาลเจ้าซากุระยามะฮาจิมัง (櫻山八幡宮) พระเอกนางเอกมาขอพรเทพเจ้าที่นี่




เดินทางสู่ชิราคาวะโงว



บรรยากาศภายในหมู่บ้านที่ปรากฏในเรื่อง








ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่ว่ามองลงมาเห็นทั้งหมู่บ้าน



ข้างในบ้าน




ตอนกลางคืน



นอกจากนี้ยังมีฉากในเมืองคานาซาวะ (金沢市) จังหวัดอิชิกาวะ (石川県) ด้วย ซึ่งปรากฏในเรื่องราวของคู่พระเอกนางเอกอีกคู่หนึ่ง แต่เนื่องจากไม่ได้กล่าวถึงมาแต่ต้นเลยไม่ได้เอามาลงให้ดูด้วย
 

กล่าวมาถึงขนาดนี้หลายคนคงเริ่มรู้สึกอยากหาเรื่องนี้มาดูแล้ว

ปัญหาคือจะหาดูจากไหนดี เท่าที่รู้ยังไม่เห็นมีลงในยูทูบ แต่มีให้ดูในเว็บถู่โต้วของจีน http://so.tudou.com/nisearch/最美麗的第七天

เพียงแต่เป็นภาษาจีนล้วน ถ้าใครฟังภาษาจีนออกก็แนะนำให้ดูในนี้ได้เลย แต่ถ้าไม่ได้ก็หาโหลดบิทเอาเป็นซับอังกฤษก็น่าจะพอหาได้เหมือนกัน ส่วนภาษาไทยนี่ถ้าหากมันไม่ได้เคยถูกนำมาฉายในไทยก็น่าจะไม่มี น่าเสียดายเหมือนกัน



ต่อไปเป็นสปอย เนื้อเรื่องต่อจากด้านบน สำหรับคนที่ไม่คิดจะดูอยู่แล้ว ลากคลุมอ่านได้เลย

หลิงเจียเอินตามโหยวจื้ออิ่งไปญี่ปุ่น เมืองทากายามะ และตามหาเขาจนเจอ ทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างดีใจที่ได้เจอกัน แม้ว่าจะดีใจที่ได้เจอหลิงเจียเอินอีกแต่โหยวจื้ออิ่งก็รู้สึกว่าไม่อยากให้ เธอเข้ามายุ่งเรื่องที่เขาทำที่นี่ และหาทางใช้อุบายล่อให้เธอกลับไป แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเล่าความจริง

ความจริงก็คือเมื่อ ๕ ปีก่อนหน้านี้หร่วนจิ้งได้เลิกกับโหยวจื้ออิ่ง และไม่นานหลังจากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองติดเอดส์ เธอไม่ได้บอกใครนอกจากโหยวจื้ออิ่งคนเดียว เธอชวนเขาไปญี่ปุ่น โหยวจื้ออิ่งคิดว่าหร่วนจิ้งอยากไปเที่ยวพักผ่อนจิตใจให้สบาย แต่ความจริงแล้วเธอไปที่นั่นเพราะอยากฆ่าตัวตาย แต่ขณะที่เธอกำลังจะฆ่าตัวตาย โหยวจื้ออิ่งก็เข้ามาห้ามไว้ทัน และกล่อมจนเธอยอมไม่ฆ่าตัวตาย

สุดท้ายหร่วนจิ้งตัดสินใจพักรักษาตัวอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยปิดเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ โหยวจื้ออิ่งกลับไปฮ่องกงและไม่บอกกับใครทั้งนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าใครจะสงสัยว่าเขาเป็นคนไม่ดีก็ตาม ระหว่างช่วง ๕ ปีทั้งสองคนก็ติดต่อกันมาตลอด

แต่ครั้งนี้เมื่อโหยวจื้ออิ่งกลับมาหาหร่วนจิ้งในโรงพยาบาลที่เมืองทากายามะซึ่งเธอน่าจะอาศัยอยู่ ก็กลับพบกว่าเธอออกไปแล้ว เมื่อถามหาไปมาก็มาเจอกับหลิงเจียเอินซะก่อน หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ช่วยกันตามหาด้วยกันจนได้เบาะแสว่าเธอย้ายไปอยู่ที่ หมู่บ้านชิราคาวะโงว

ทั้งคู่ไปที่ชิราคาวะโงว และในที่สุดก็ตามหาเธอจนเจอ แต่เธอไม่ยอมกลับเพราะบอกว่าอยากใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่ เธอชอบที่นี่มาก

แล้ววันหนึ่งพ่อของหลิงเจียเอินก็มา ตามตัวเธอกลับเพราะผลการตรวจร่างกายของเธอก่อนที่จะเดินทางมาญี่ปุ่นนั้น ตรวจพบกว่าเธอมีเนื้องอกในสมอง ต้องกลับไปรักษาโดยด่วน เธอรีบกลับไปโดยไม่ได้บอกโหยวจื้ออิง

เมื่อกลับไปตรวจโดยละเอียดก็พบว่าเธอ เป็นโรคเดียวกับแม่ของเธอ เป็นโรคทางพันธุกรรมซึ่งทำให้เกิดเนื้องอกในสมองได้ง่ายกว่าปกติ เธอตัดสินใจไม่บอกเรื่องนี้กับโหยวจื้ออิ่งเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง ส่วนโหยวจื้ออิ้งซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรก็ตัดสินใจอยู่ดูแลหร่วนจิ้งที่ชิราคา วะโงวต่อไป

อาการของหร่วนจิ้งแย่ลงทุกวัน ในที่สุดโหยวจื้ออิ่งก็ตัดสินใจบอกพ่อของเธอเรื่องความจริงทั้งหมด เมื่อรู้ความจริงพ่อของเธอขอโทษเขาที่เข้าใจผิดมาโดยตลอด และก็ปรับความเข้าใจกันได้

โหยวจื้ออิ่งกลับมาฮ่องกง ในจังหวะเดียวกันนั้นหลิงเจียเอินก็พบว่าตนเองมีเนื้องอกเกิดขึ้นใหม่อีก เธอรู้สึกเครียดเป็นห่วงอนาคตตัวเองขึ้นมา เธอตัดสินใจบอกเลิกกับโหยวจื้ออิ่งเพราะไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นภาระ

โหยวจื้ออิ่งเมื่อโดนบอกเลิกก็เครียดมาก เพราะเข้าใจว่าเธอบอกเลิกเขาเพราะไม่พอใจที่เขาไปดูแลหร่วนจิ้งอยู่นานกว่าจะกลับ และยังเข้าใจว่าเธอกำลังคบกับหมอชื่อเฉิงอี้หล่าง (程逸朗) ซึ่งความจริงแล้วเขาเป็นแค่หมอประจำที่คอยช่วยรักษาอาการเธออยู่

แต่แทนที่เขาจะรู้สึกหมดหวังในชีวิต ทำตัวเหลวแหลก กินเหล้าเมายา (ถ้าเป็นละครไทยคงเป็นแบบนั้นไปแล้ว) เขากลับทำตรงกันข้าม นั่นคือพยายามตั้งใจทำงาน สร้างฐานะตัวเองให้ดีเพื่อที่เธอกลับมายอมรับเขา

หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปนาน หลิงเจียอันยังคงรักษาเนื้องอกมาเรื่อยมา จนวันหนึ่งเมื่อเธอรู้ว่าจะต้องผ่าตัดเพื่อรักษาเธอจึงรู้สึกหมดหวังบอกว่าจะขอตัดใจไม่ผ่าแล้ว ใครห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ยอม พ่อของเธอจึงตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างกับโหยวจื้ออิ่งเพื่อให้เขามาช่วยกล่อมเธอให้ เมื่อเขารู้ความจริงจึงกลับมาหาเธอและกล่อมจนเธอยอมผ่าตัด

หลังจากผ่าตัดครั้งนี้เสร็จ อาการเธอก็ดูเหมือนจะหายดี ทั้งคู่ตัดสินใจมีลูกด้วยกัน โดยการทำผสมเทียมคัดเลือกพันธุ์เพื่อไม่ให้โลกทางพันธุกรรมของเธอต้องถ่าย ทอดสู่เด็ก แม้โอกาสสำเร็จจะน้อยแต่ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ

แต่ระหว่างตั้งครรภ์อยู่นั้นหลิงเจีย เอินก็เกิดเนื้องอกขึ้นมาอีก หมอแนะนำให้เอาเด็กออกและรีบรับการผ่าตัดไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อชีวิต แต่เธอไม่ยอมจะขอคลอดก่อนค่อยผ่าตัด ในที่สุดเธอก็รอคนคลอดแล้วค่อยเริ่มทำการรักษา ในตอนนั้นอาการของเธอแย่จนเริ่มมีปัญหาเรื่องการพูดแล้ว

หลิงเจียเอินเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ในที่สุดเธอก็รักษาจนหายขาด หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับมาเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อลำลึกความหลังทุกปีในฤดูหนาว

(ฉากก่อนที่หลิงเจียเอินเข้าผ่าตัด เนื้อเรื่องสร้างบรรยากาศอย่างกับว่าเธอกำลังจะตาย มีการสั่งเสียเรียบร้อย ทุกคนร้องไห้ เหมือนกับว่าการผ่าตัดจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน แต่กลับพลิกกลายเป็นสำเร็จไปซะอย่างนั้น แกล้งให้คนดูใจหายเล่นแค่นั้นเอง)


รายละเอียดเพิ่มเติมของเรื่องนี้ http://en.wikipedia.org/wiki/The_Seventh_Day



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ