φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



เที่ยวในเมืองโยโกฮามะยามค่ำคืน
เขียนเมื่อ 2013/12/17 21:04
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#อาทิตย์ 10 พ.ย. 2013

ตอนที่แล้วเดินทางมาจนถึงที่พักใน JAXA วิทยาเขตซางามิฮาระประมาณห้าโมงครึ่ง https://phyblas.hinaboshi.com/20131209

แต่เนื่องจากมีนัดเพื่อนไว้ที่โยโกฮามะจึงต้องออกเดินทางต่อทันทีโดยแทบไม่มีเวลาพัก

เพื่อนที่ไปหานั้นที่จริงแล้วเป็นเพื่อนของเพื่อน เขามาเที่ยวเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อนจึงได้พาเขาเที่ยว หลังจากเขากลับไปก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกัน แต่ก็ยังมีคุยกันทางเฟสบุ๊กอยู่บ้าง

ตอนนี้เขาย้ายมาอาศัยอยู่ในเมืองโยโกฮามะ พอครั้งนี้เรารู้ว่าจะได้มาญี่ปุ่นครั้งนี้จึงนึกถึงเขา อยากจะนัดเจอ เลยลองทักไปหลังจากที่ไม่ได้คุยกันตั้งนานแล้ว ก็ปรากฏว่าเขาบอกว่าอยากเจอ ก็เลยนัดเจอกัน

เนื่องจากวันธรรมดาเขาทำงานยุ่งอยู่ตลอดแทบจะไม่มีเวลาเลย ก็เลยนัดเจอกันวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่มาถึงทันที ซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะ เพราะวันอื่นบางวันเราเลิกดึกกว่า แต่ถ้าเป็นวันนี้เราไม่มีกำหนดการณ์อะไร แค่เดินทางมาถึงที่เหลือก็เป็นเวลาอิสระแล้ว

เดิมทีนัดเขาไว้เจอกันที่โยโกฮามะตอน 18:45 น. แต่การที่เราเดินทางมาถึงวิทยาเขตซางามิฮาระค่อนข้างช้าก็เลยทำให้ไม่สามารถไปถึงโยโกฮามะได้ทันเวลา แต่คุยกับเขาแล้วเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ถึงช้าก็จะรออยู่ ถึงเมื่อไหร่ก็เจอกันเมื่อนั้น ไม่ต้องรีบ

สถานีเป้าหมายที่นัดคือสถานีคันไน (関内駅) เป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับย่านคนจีนในเมืองโยโกฮามะ

หลังจากจัดการวางข้าวของอะไรเรียบร้อยก็รีบออกมาทันที และวิ่งไปยังสถานีฟุจิโนเบะ คราวนี้ไปได้โดยไม่หลงทางเพราะรู้จักเส้นทางดีแล้ว

ทิวทัศน์ระหว่างทาง ดูเงียบๆสงบดี แสงสีไม่ได้เยอะมาก





แล้วก็ถึงสถานี ใช้เวลาไม่ถึง ๒๐ นาทีได้ขึ้นรถรอบ 18:05 ซึ่งจะทำให้ไปถึงที่หมายได้ตอน  18:59 โดยต้องมีการต่อรถที่สถานีฮิงาชิคานางาวะ (東神奈川駅) แต่ถ้าจังหวะดีละก็บางครั้งมีรถที่ไปถึงโดยตรงอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะต้องต่อ



แต่พอขึ้นจริงๆก็กลับพบว่ารถไฟเจอปัญหาทำให้ล่าช้าออกไปอีกนิดหน่อย แถมทำให้พลาดรถที่จะไปถึงสถานีคันไนโดยตรง ต้องไปต่อที่สถานีซากุรางิโจว (桜木町駅) อีกต่อ


สถานีฮิงาชิคานางาวะ เป็นสถานีจุดเปลี่ยนรถที่สำคัญแห่งหนึ่ง




สถานีซากุรางิโจว เป็นสถานีปลายทางของรถไฟหลายขบวนที่มาจากสายโยโกฮามะ



กว่าจะถึงก็ทุ่มกว่าหน่อยๆ ในที่สุดก็ถึงสถานีคันไน ที่จริงแล้วก็อยู่ถัดจากสถานีซากุรางิโจวไปแค่สถานีเดียว



เมื่อออกมาก็เห็นเพื่อนซึ่งรออยู่แล้วในทันที

เดินออกมานอกสถานี แถวนี้เป็นย่านใจกลางเมืองที่คนพลุกพล่านดี



ก่อนอื่นเพื่อนพาไปกินอาหารมื้อเย็นที่ร้านทงคัตสึชื่อดังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ชื่อร้านคัตสึเรตสึอัน (勝烈庵)



ภายในร้าน



ชั้นสองเป็นที่นั่งแบบญี่ปุ่น เรานั่งกินตรงนี้



มีทงคัตสึแบบต่างๆให้เลือก ราคาก็เป็นพันเยนทั้งนั้น ถือว่าปกติเพราะที่อื่นก็แพงแบบนี้ ทงคัตสึถือเป็นอาหารแพงอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ที่เราเลือกคืออันนี้ เป็นแบบที่มีต้นหอมอยู่ด้านใน ก็อร่อยดีแต่ก็คิดว่าชอบแบบธรรมดาที่ไม่มีต้นหอมมากกว่าอยู่



จำไม่ได้ว่าทั้งหมดจ่ายเท่าไหร่ เพราะงานนี้เพื่อนออกเงินเลี้ยงให้ เป็นการตอบแทนที่เคยพาเที่ยวตอนที่เขาไปไทย

ทานเสร็จเขาก็พาเดินในเมืองต่อ เป้าหมายคือไปเดินเล่นริมทะเลซึ่งมีทิวทัศน์สวย



มองไปทางด้านโน้นเห็นย่านที่เรียกว่ามินาโตะมิไร 21 (みなとみらい21)



ที่อยู่ทางซ้ายคือตึกโยโกฮามะแลนด์มาร์กทาวเวอร์ (横浜ランドマークタワー) เป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นตอนนี้ สูง ๒๙๓ เมตร แต่อีกไม่นานจะมีตึกสูงกว่าที่กำลังสร้างอยู่สร้างขึ้นมาทำลายสถิติด้วยความสูงกว่า ๓๐๐ เมตรอยู่ที่โอซากะ



ตรงกลางจะเห็นชิงช้าสวรรค์คอสโมคล็อก 21 (コスモクロック21) ซึ่งอยู่ในสวนสนุกโยโกฮามะคอสโมเวิลด์ (よこはまコスモワールド) สูง ๑๑๒.๕ เมตร สูงเด่นมาก

ส่วนทางขวาที่เป็นรูปโค้งสวยคือตึกโยโกฮามะแกรนด์อินเทอร์คอนทิเนนทัลโฮเทล (ヨコハマグランドインターコンチネンタルホテル) สูง ๑๔๐ เมตร

เรามาถึงทะเลแล้ว ตรงนี้เป็นอ่าวเล็กๆ ข้างหน้าเป็นท่าเรือ



เดินต่อริมทะเลไปเรื่อยๆไปทางขวาแล้วมองย้อนกลับไปฝั่งโน้นอีกที



ตึกท่าเรือ ที่นี่เป็นท่าเรือใหญ่ที่สามารถนั่งระหว่างประเทศได้ด้วย และก็สามารถนั่งไปพวกหมู่เกาะต่างๆหลายแห่งในญี่ปุ่นที่อยู่ห่างไกลออกไปจากเกาะหลัก



เข้าไปเดินเล่นดูด้านใน



มีแบบจำลองเรือสมัยก่อนตั้งแสดงอยู่ด้วย



ออกมาด้านนอกท่าเรือมองกลับไปที่เดิมอีกคราวนี้มองเห็นตึกสำคัญอีกตึกเพิ่มเข้ามาด้านหน้าสุด นั่นคือโกดังอิฐแดงโยโกฮามะ (横浜赤レンガ倉庫, โยโกฮามะอากาเรงงะโซวโกะ) เป็นโกดังเก่าแก่ที่สวยงาม มีสองอาคาร อาคารสองถูกสร้างตั้งแต่ปี 1911 และอาคารหนึ่งสร้างปี 1913 ถูกใช้งานจนถึงปี 1989 หลังจากนั้นก็ได้ถูกดัดแปลงไปทำอย่างอื่น โดยอาคารหนึ่งกลายเป็นสถานที่สำหรับจัดงานต่างๆ และอาคารสองกลายเป็นอาคารห้างร้านไป ปัจจุบันนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของย่านนี้ด้วยตัวอาคารที่ดูสวยโดดเด่น



เดินต่อมาจะเจอเรือฮิกาวามารุ (氷川丸) ซึ่งจอดนิ่งอยู่ตรงนี้ เรือนี้เป็นเรือบรรทุกสินค้าและผู้โดยสารที่เคยใช้ในอดีต สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1930 ใช้งานมาจนถึงปี 1960 ปัจจุบันจอดอยู่เฉยๆตรงนี้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าไปชมกัน



ภายในหน้าตาแบบนี้ แต่เสียดายว่าเวลาเปิดคือ 10:00 - 17:00 แต่ตอนที่ไปนี่สามทุ่มแล้ว ยังไงก็เข้าไม่ได้ ค่าเข้าชมก็ไม่แพง แค่ ๒๐๐ เยนเท่านั้นเอง ถ้ามีโอกาสมาอีกรอบตอนกลางวันก็คงจะดี



จากนั้นเราไปขึ้นหอคอยโยโกฮามะมารีนทาวเวอร์ (横浜マリンタワー)



หอคอยนี้สมัยก่อนเป็นประภาคาร สร้างขึ้นเมื่อปี 1959 สูง ๑๐๖ เมตร ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของท่าเรือโยโกฮามะ ด้านบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถขึ้นไปได้



ทิวทัศน์ที่มองจากด้านบนก็เป็นแบบนี้





ฝั่งนี้มองเห็นย่านมินาโตะมิไรชัดเจน เห็นเส้นทางที่เราเดินมาและเห็นเรือฮิกาวามารุด้วย



ตรงนี้จะเห็นสะพานโยโกฮามะเบย์บริดจ์ (横浜ベイブリッジ) สะพานยาวนี้พาดข้ามเกาะต่างๆในอ่าวโตเกียว ข้ามผ่านเมืองคาวาซากิ แล้วก็ทะลุอุโมงไปถึงสนามบินฮาเนดะที่โตเกียวเลย



หลังจากเสร็จแล้วต่อมาก็ไปเที่ยวย่านคนจีนต่อ ในญี่ปุ่นมีย่านคนจีนที่สำคัญอยู่ ๓ แห่ง คือที่โยโกฮามะ ที่โควเบะ และที่นางาซากิ โดยที่ของโยโกฮามะนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุด



แต่มาตอนดึกแบบนี้ก็ค่อนข้างเงียบเหงา ร้านค้าปิดไปเยอะแล้ว






ชอบประตูแพนด้า



บรรยากาศที่นี่จีนดี ไม่เลวเลย มีได้ยินคนพูดภาษาจีนอยู่ประปรายด้วย







สุดแค่นี้แล้ว ที่จริงกว้างพอสมควรถ้าจะให้เดินทั่วย่านจริงๆก็คงต้องใช้เวลา แต่เพราะมันดึกแล้ว แล้วเราก็เดินมาไกลพอสมควร เมื่อยคนแทบจะเดินไม่ไหวแล้ว จึงได้เวลาต้องกลับ



ว่าแต่มาเดินโยโกฮามะแบบนี้แล้วนึกถึงเพลงโจ๊กอาม่าที่เคยฟังเมื่อก่อน ฮาดี... (แล้วมันเกี่ยวอะไรกันมั้ยเนี่ย)

ขากลับขึ้นรถไฟจากสถานีอิชิกาวะโจว (石川町駅) ซึ่งอยู่ใกล้กับตรงที่เราเดินมาถึงมากที่สุด สถานีนี้อยู่ถัดจากสถานีคันไนที่เราลงตอนขามานั่นเอง ดูแล้วก็เหมือนว่าเราจะไม่ได้เดินไปไหนไกลนัก แค่เดินจากสถานีไปถึงริมทะเลแล้วก็ย้อนกลับเข้ามาขึ้นสถานีข้างๆ



เพื่อนเองก็มาขึ้นรถไฟด้วยพร้อมกัน บ้านเขาอยู่ที่สถานีโยโกฮามะ ซึ่งเราต้องผ่านอยู่แล้ว ก็เลยมารอรถพร้อมกัน



แล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับ
การเดินเที่ยวในโยโกฮามะก็จบลงเท่านี้ ใช้เวลามาเดินตั้งแต่สองทุ่มถึงสี่ทุ่มหลังกินข้าว รวมแล้วสองชั่วโมง พอขึ้นรถแล้วก็ต้องใช้เวลาประมาณชั่วโมงจึงไปถึงที่พักตอนประมาณห้าทุ่มกว่า เป็นเที่ยวที่เหนื่อยมาก แต่เที่ยวคุ้ม


กลับมาถึงก็ต้องรีบพักผ่อนเพราะวันรุ่งขี้นจะเริ่มค่ายอบรมแล้ว ดีที่ว่ากว่าจะเริ่มก็คือสิบโมง จึงนอนดึกได้ไม่เป็นไร เวลาพักผ่อนมีเหลือเฟือ

ตอนต่อไปจะเขียนถึงค่ายอบรมวันแรก ในที่สุดก็จะเข้าสู่เรื่องวิชาการแล้ว หลังจากที่ผ่านมาหลายตอนเหมือนจะมีแต่เรื่องของการเดินทางซะมากกว่า

https://phyblas.hinaboshi.com/20140122



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> คานางาวะ
-- ท่องเที่ยว >> ทะเล
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ