# อาทิตย์ 23 ก.พ. 2025วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ เป็น
วันเกิดจักรพรรดิ (
天皇誕生日) ซึ่งถือเป็นวันหยุดราชการวันหนึ่งของญี่ปุ่น แต่ก็เป็นวันอาทิตย์อยู่แล้ว ทำให้พรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันจันทร์กลายเป็นวันหยุดชดเชยแทน
แม้จะเป็นวันหยุดยาว ๓ วัน แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษหรอก ถึงอย่างนั้นพอตอนเที่ยงก็ขอไปเดินเล่นในย่านที่ยังไม่เคยไปสักหน่อย โดยครั้งนี้ที่เลือกไปก็คือแถวย่าน
ทสึรุตะ (
鶴田) และ
โรวจิ (
老司) ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของเขตมินามิของเมืองฟุกุโอกะ และข้ามเขตเมืองไปยัง
เมืองนากางาวะ (
那珂川市) ที่อยู่ข้างๆด้วย
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองนากางาวะในจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นสีชมพูเข้ม อยู่ติดกับสีม่วงทางซ้ายคือเมืองฟุกุโอกะ


ถ้าไม่นับรวมพื้นที่ภูเขาแล้ว ย่านทสึรุตะถือเป็นย่านที่อยู่ทางใต้ที่สุดของเขตมินามิของฟุกุโอกะ แค่เดินๆไปเรื่อยๆก็ข้ามไปถึงเมืองนากางาวะได้โดยไม่รู้ตัวแล้ว ที่จริงเมืองนากางาวะก็ถือเป็นเมืองบริวารของเมืองฟุกุโอกะ ที่เขตเมืองติดกันเป็นเนื้อเดียวแทบแยกไม่ออก เช่นเดียวกับ
เมืองคาสึงะ (
春日市) หรือ
เมืองโอโนโจว (
大野城市)
ก่อนหน้านี้เราได้เล่าเรื่องที่ไปเดินแถวเขตแดนระหว่างเมืองฟุกุโอกะกับเมืองคาสึงะและเมืองโอโนโจวมาแล้ว ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20241221ดังนั้นครั้งนี้ก็อยากไปเดินเล่นแถวเขตแดนระหว่างเมืองอีก จึงได้เลือกมาที่ย่านทสึรุตะ แถวนี้ไม่ใช่ว่ามีสถานที่เที่ยวอะไร ดังนั้นนักท่องเที่ยวปกติคงจะไม่อุตส่าห์มาเดิน แต่ว่าเป้าหมายหลักจริงๆของเราครั้งนี้ที่จริงแล้วก็คือของกิน ที่นี่มีร้าน
ฟูอุมมารุ (
風雲丸) ซึ่งเป็นร้านทสึเกเมง นอกจากนี้ก็มีราเมงและมาเซโซบะด้วย ที่จริงแล้วร้านนี้มีสาขาหลักอยู่ที่ฮิโรชิมะ แต่มีเปิดสาขาอีกหลายแห่งในญี่ปุ่น และสาขาที่เราไปครั้งนี้เรียกว่า
สาขาฟุกุโอกะทสึรุตะ (
福岡鶴田店) เป็นสาขาเดียวของร้านนี้ในเกาะคิวชู
ตำแหน่งของร้านถือได้ว่าอยู่ในเขตเมืองฟุกุโอกะแบบเฉียดฉิวมาก ถ้าตั้งถัดไปทางใต้อีกนิดเดียวก็ไม่ใช่เมืองฟุกุโอกะแต่เป็นเมืองนากางาวะแล้ว ด้วยตำแหน่งที่อยู่สุดขอบเมืองแบบนี้ทำให้การเดินทางมาที่นี่จากย่านใจกลางเมืองฟุกุโอกะไม่ได้สะดวกนัก ที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากรถไฟ ทำให้ต้องนั่งรถเมล์มาเท่านั้น
จากสถานีฮากาตะมีรถเมล์สาย 66 มาที่นี่ได้ แต่ก็มีแค่สายเดียว เที่ยวรถไม่เยอะ อาจไม่สะดวกนัก ถ้าเดินทางจากย่านเทนจิงจะมีรถเมล์สาย 61 และ 68 ซึ่งมีเที่ยวรถเยอะกว่า
ป้ายที่อยู่ใกล้ร้านที่สุดคือป้ายหน้า
โรงเรียนมัธยมปลายหญิงไคเซย์ (
海星女子学院高等学校) ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมปลายหญิงล้วนที่อยู่ในย่านโรวจิซึ่งอยู่ถัดไปทางตะวันออกของย่านทสึรุตะ แต่ว่าตัวป้ายรถเมล์นี้ตั้งอยู่ในย่านทสึรุตะ ห่างไปจากตัวโรงเรียนอีกเล็กน้อย ร้านฟูอุมมารุที่เราจะไปกินยังอยู่ใกล้ป้ายนี้มากกว่าอีก
สำหรับวันที่ออกเดินทางนั้นมีหิมะตกปรอยๆ แต่ก็แค่เล็กน้อย และด้วยอุณหภูมิที่เลยเลขศูนย์มาเยอะจึงละลายทันที ที่จริงคือส่วนใหญ่เป็นฝนมากกว่า มีแค่นิดเดียวที่เห็นเป็นก้อนหิมะ ถ่ายภาพไปก็ไม่เห็นอะไร ขอลงแค่ภาพพยากรณ์อากาศในมือถือที่เปิดดูขณะนั้นให้ดูนิดหน่อย

ครั้งนี้เราเดินทางโดยนั่งรถเมล์สาย 61 ระหว่างทางผ่านย่าน
นากาโอะ (
中尾) ซึ่งมีร้านปาจิงโกะ
ทามายะ (
玉屋) ซึ่งเป็นร้านปาจิงโกะท้องถิ่นที่มีหลายสาขาในจังหวัดฟุกุโอกะ อาคารร้านดูแล้วภายนอกตกแต่งสีสันสดสวยดี และที่สำคัญคือในร้านทามายะสาขานี้มีร้านราเมงเจ้าอร่อยชื่อว่า
เมนยะไทโฮวรากุ (
麺屋大豊楽) ซึ่งเราเคยแวะมากินแล้วติดใจเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีโอกาสเขียนบันทึกเล่าถึง ครั้งนี้แค่นั่งรถเมล์ผ่านก็เลยขอเก็บภาพมาเล่าถึงสักหน่อย ข้างนอกฝนตกอยู่ทำให้หน้าต่างรถเมล์ติดหยดน้ำนิดหน่อย

แล้วก็มาถึงป้ายรถเมล์ที่เป็นเป้าหมาย ลงรถตรงนี้

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน
มารุโชกุ (マルショク) สาขาทสึรุตะ นี่เป็นซูเปอร์มาร์เกตแฟรนไชส์ที่มีต้นกำเนิดจากจังหวัดโออิตะ มีหลายสาขาในจังหวัดฟุกุโอกะ

จากนั้นก็เดินลงมาทางใต้นิดหน่อย

แล้วก็เห็นร้าฟูอุมมารุอยู่ฝั่งตรงข้าม

ภาพถ่ายระหว่างกำลังรอไฟจราจรข้ามไป

เข้ามาในร้าน เรามาคนเดียวจึงนั่งตรงที่นั่งเคาน์เตอร์ ภาพถ่ายบรรยากาศในร้านจากตรงที่นั่ง

น้ำเย็นวางอยู่บนโต๊ะพร้อมเครื่องปรุง ให้เติมบริการตัวเอง

เล่มเมนู มีทสึเกเมงแบบต่างๆให้เลือก นอกจากนี้ก็มีราเมงธรรมดา แล้วก็มาเซโซบะด้วย ข้าวผัดก็มี แต่ละอย่างดูแล้วน่าอร่อยทั้งนั้น แต่ยังไงเมนูหลักก็คือทสึเกเมง

ด้านหลังมีตารางบอกว่าเมนูไหนมีส่วนผสมอะไรที่อาจเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ด้วย มีการเขียนขนาดนี้เลย ถือว่าดีสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้อาหารบางอย่างมาก

วันที่ไปนั้นพอดีมีเมนูเฉพาะฤดู คือทสึเกเมงใส่เมนไตโกะ (
明太子) ก็เลยเลือกอันนี้ ราคารวมภาษีแล้วเป็น ๑๐๓๔ ค่อนข้างแพงอยู่

หลังจากสั่งไปก็นั่งรอ ระหว่างนั้นก็อ่านเกี่ยวกับวิธีกินซึ่งติดอยู่ที่ผนังโต๊ะที่นั่ง

แล้วทสึเกเมงที่สั่งก็มา ซุปสำหรับจิ้มถูกใส่อยู่ในชามหินเดือดปุดๆอยู่ ร้อนมาก ต้องระวังอย่าไปจับโดนเด็ดขาด

รสชาติถือว่าอร่อยมากกว่าทสึเกเมงร้านอื่นที่เคยกินมาจนถึงตอนนี้เลย โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าอร่อยกว่าร้านดังอย่างเมนยะคาเนโตระ ซึ่งเคยเล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20250103ดังนั้นแล้วเราแนะนำร้านนี้มากกว่า ไม่ต้องไปเข้าแถวคิวยาวด้วย เพราะว่าร้านใหญ่พอสมควร คนไม่แน่นร้าน เพียงแต่ว่าไม่มีรถไฟมาและต้องนั่งรถเมล์มาไกลเกือบสุดของเมือง ดังนั้นคงไม่มีนักท่องเที่ยวที่อุตส่าห์แวะมาถึงนี่เพื่อกินโดยเฉพาะ อีกทั้งร้านนี้ไม่ใช่ของเฉพาะเมืองฟุกุโอกะอยู่แล้ว สาขาหลักอยู่ที่เมืองฮิโรชิมะ ดังนั้นคนที่จะมากินสาขาที่นี่ก็คงมีแค่คนที่อาศัยอยู่ในฟุกุโอกะอยู่แล้วเท่านั้น
กินเสร็จก็เอาใบนี้ไปที่เคาน์เตอร์คิดตังค์

หลังกินเสร็จออกมานอกร้าน ฝนและหิมะหยุดแล้ว ฟ้ายังไม่เปิดซะทีเดียวแต่ว่าแดดเริ่มส่อง ดูสดใสขึ้นมา บรรยากาศเหมาะกับการเดินเล่นชมเมืองต่อจากนี้ไป

เดินไปทางตะวันออก มุ่งสู่ย่านโรวจิ


แล้วก็มาถึงหน้าทางเข้าโรงเรียนมัธยมหญิงไคเซย์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อป้ายรถเมล์ที่เรามาลง

ที่นี่เป็นโรงเรียน ดังนั้นแน่นอนว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าได้

จากตรงนี้เดินต่อไป ข้างๆนั้นเป็นสวนสาธารณะเล็กๆ


ตรงนี้เป็น
บ่อน้ำใหญ่โรวจิ (
老司大池) แหล่งน้ำเล็กๆกลางย่านนี้

ในนี้มีเป็ดว่ายอยู่ด้วย

ป้ายชื่อสวนสาธารณะนี้
สวนสาธารณะโรวจิโออิเกะ (
老司大池公園) ตั้งชื่อตามชื่อบ่อน้ำ

บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมีต้นไม้ตกแต่งสวยงามมาก

เดินเลียบริมฝั่งทะเลสาบต่อไปทาตะวันออก ส่วนริมทะเลสาบนั้นมีรั้วกั้นตลอดไม่ให้ใครลงได้ และมีเขียนตัวโตว่าห้ามตกปลาด้วย




เดินมาจนสุดทางก็เลี้ยวขวา เข้าไปเดินผ่านทางแคบๆ

ป้ายชื่อบ่อน้ำแล้วเขียนบอกว่าอันตรายห้ามลงไป

ส่วนฝั่งซ้ายเต็มไปด้วยบ้านที่อยู่อาศัยในย่านโรวจิ

เดินมาสุดปลายทางใต้บ่อน้ำมีตะกอนโสโครก

เดินลงมาตรงนี้แล้วเดินผ่านย่านที่อยู่อาศัย

แล้วก็มาถึงตรงจุดที่เป็นเขตแบ่งระหว่างเมืองฟุกุโอกะกับเมืองนากางาวะ ตรงนี้ทางซ้ายเป็นย่าน
คาตานาวะคิตะ (
片縄北) ของเมืองนากางาวะ มองป้ายเขียนที่อยู่ตรงหน้าบ้านก็เห็นได้

ในขณะที่ฝั่งขวามีป้ายที่อยู่ที่เขียนว่าโรวจิ ซึ่งเป็นย่านในเขตเขตมินามิของเมืองฟุกุโอกะ

แล้วก็เดินต่อไปภายในเมืองนากางาวะ บริเวณนี้ส่วนใหญ่ดูจะเป็นที่อยู่อาศัย แต่ก็มีอย่างอื่นด้วย



ตรงนี้เป็น
สวนสาธารณะอิมาอิเกะ (
今池公園) มีป้ายรถเมล์ด้วย

ที่ป้ายนี้มีเขียนแผนผังรถเมล์ภายในเมืองนากางาวะด้วย ทำออกมาดีมาก ดูแล้วรู้ว่าต้องขึ้นสายไหนไปต่อรถที่ไหน เพียงแต่ว่ารถเมล์ที่มาจอดที่ป้ายนี้มีไม่มากนัก

เดินต่อไป



ตรงนี้มีสำนักคาราเต้อยู่ด้วย


แล้วก็กลับออกมาสู่ถนนใหญ่สายเดียวกับที่รถเมล์ที่เรามาลงตอนแรกวิ่งผ่าน แต่ว่าอยู่ทางใต้กว่า และตรงนี้ยังเป็นเขตเมืองนากางาวะอยู่ แต่ถ้าเดินไปทางเหนือก็จะกลับสู่เมืองฟุกุโอกะ

หลังจากเลี้ยวขวาออกมาสู่ถนนใหญ่ก็เจอร้าน
มัตสึยะ (
松屋) สาขานากางาวะ

ฝั่งตรงข้ามมีร้านไดโซด้วย นอกจากนี้ก็เห็นพวกร้านต่างๆหลายอย่าง

เดินย้อนมานิดหน่อยก็ถึงรอยต่อระหว่างเมืองแล้ว มองไปตรงโน้นเห็นป้ายที่เขียนว่าเมืองฟุกุโอกะ แสดงว่าเลยจากนี้ไปก็กลับสู่เมืองฟุกุโอกะแล้ว

แล้วพอเดินเลยมาแล้วมองหันกลับไปก็เห็นป้ายที่เขียนว่าเมืองนากางาวะ แสดงให้เห็นว่าตรงนี้เป็นเขตรอยต่อระหว่างเมือง


หลังเดินกลับมาถึงเขตเมืองฟุกุโอกะเดินต่อมานิดหน่อยก็เจอป้ายรถเมล์ทสึรุตะ เป็นป้ายที่อยู่ใต้สุดในเขตเมืองฟุกุโอกะ อยู่ถัดจากป้ายที่เราลงตอนแรกมาป้ายนึง

ฝั่งตรงข้ามป้ายมีร้านอาหารไต้หวัน
รากุโกวเอง (
楽香園) ไว้ถ้ามีโอกาสแวะย่านนี้อีกก็คิดว่าอยากมากินร้านนี้อยู่เหมือนกัน

เดินต่อไปอีกหน่อยก็กลับมาถึงร้านฟูอุมมารุ

จากนั้นก็เดินย้อนต่อมาก็ถึงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนมัธยมหญิงไคเซย์ที่เรามาลงตอนแรก แต่ว่าเป็นฝั่งตรงกันข้าม

ที่ป้ายมีแสดงสายรถเมล์ที่จอด มีเยอะทีเดียว แต่จะเห็นว่าส่วนใหญ่ไปที่ย่านเทนจิง

รถเมล์ที่ผ่านตรงนี้มีไม่ได้ถี่นัก และจังหวะที่เรามาถึงป้ายนั้นยังต้องรออีกประมาณสิบกว่านาทีก็เลยไปเดินในร้านมารุโชกุซื้อของสักหน่อย

แล้วพอใกล้เวลารถเมล์มาก็กลับมารอที่ป้าย แล้วรถเมล์สาย 68 ก็มาตามเวลา

จากนั้นก็เดินทางกลับ จบการเดินเล่นวันนี้