caligula overdose ตอนที่ ๘: ซุ่มโจมตีที่มิยาบิอนเซงโมโนงาตาริ
เขียนเมื่อ 2020/07/22 11:48
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
>> ตอนที่แล้ว
แผนซุ่มโจมตีอีกครั้ง
หลังจากเสร็จจากการผจญภัยในหอสมุดแล้ว ทุกคนก็เดินออกมา โดยตั้งใจไว้ว่าเป้าหมายต่อไปคือไปที่ซีพาราอีโซตามที่โชวเนนดอลให้เบาะแสไว้
แต่โคโตโนะกลับทำท่ากังวลเหมือนจะไม่อยากไป และชวนให้เปลี่ยนเป็นทำแผนซุ่มโจมตีแทน
ทุกคนกลับมาที่ห้องชมรมเพื่อปรึกษาหารือกันต่อ แล้วก็ตกลงได้ว่าต่อไปจะเป็นการซุ่มโจมตีที่อนเซง โดยนารุโกะช่วยปล่อยข่าวว่าชมรมกลับบ้านจะไปล่าดิจิเฮดที่อนเซง เพื่อล่อให้พวกนักดนตรีไปที่นั่น
เรื่องค้างคาใจสมาชิกชมรมกลับบ้าน
โคโตโนะมาปรึกษาเรื่องที่มีคนส่งจดหมายลึกลับมาหาอีกแล้ว ยังคงไม่รู้ว่ามาจากใคร แต่คุยไปโคโตโนะก็เผลอหลุดบอกเรื่องของตัวเองที่ไม่เคยพูดถึง ว่าเมื่อก่อนที่เธอจะรู้ถึงความผิดปกติของโลกนี้ได้ไปงานเลี้ยงคงเพื่อนต่างๆรู้จักคนมากมาย คนที่ส่งจดหมายมาก็น่าจะเป็นคนหนึ่งที่รู้จักในช่วงนั้น
โชวโงะเริ่มทำงานพิเศษในร้านที่ปาปิโกะเพื่อจะหาเงินมาชนใช้ค่าโทรศัพท์มือถือของจิกะ (千佳) นักเรียนหญิงที่เขาเดินชนจนทำมือถือตกเมื่อครั้งก่อน งานที่ทำคือเป็นพนักงานในร้าน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ถนัดงานนี้ จึงไปได้ไม่ค่อยสวยนัก
เมื่อยังไม่มีเงินจ่าย จิกะจึงบังคับให้โชวโงะคบเธอเป็นแฟนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการชดใช้ค่าเสียหายแทน โชวโงะก็ดูจะไม่เต็มใจแต่ก็ขัดไม่ได้
ส่วนโคตาโรวตอนนี้ได้เริ่มช่วยเหลือผู้คนโดยประกาศในเน็ต โดยใช้นามแฝงว่า lesqu-man ซึ่งจริงๆเขาตั้งใจใช้ชื่อว่า rescue man ที่หมายถึงคนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือ แต่สะกดผิด
แล้วก็มีคนขอความช่วยเหลือเข้ามา เขาใช้นามแฝนว่าสไลม์ (スライム) โคตาโรวไปหาเขาที่หน้าสถานี เมื่อไปถึงสไลม์ก็บอกว่าเพื่อนเขาดูแปลกๆไป อยากให้ช่วย พอได้ฟังแล้วอาเรียก็สงสัยว่าบางทีเพื่อนคนนั้นอาจจะกลายเป็นดิจิเฮด ถ้ารู้ว่าอยู่ตรงไหนให้รีบบอก ต้องรีบไปช่วย
ส่วนนารุโกะได้แอบถ่ายภาพตอนที่โคตาโรวหกล้มอัปลงเน็ตเพื่อเรียกยอดเข้าชม ทำให้เขาโมโหมาก ด่านารุโกะว่าอยากดังในเน็ตจนตัวสั่นแต่ไม่มีปัญญาทำในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งนารุโกะก็แก้ตัวอะไรไม่ขึ้นเพราะครั้งนี้ตัวเองผิดจริงๆ
แต่สิ่งที่โคตาโรวพูดนั้นได้แทงใจดำจนนารุโกะเกิดไฟติดคิดแผนการจะทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
ส่วนเคนสึเกะ หมู่นี้ได้ออกตามล่าดิจิเฮดด้วยตัวคนเดียว เมื่อตามไปเจอเขาก็บอกว่าดิจิเฮดพวกนี้เป็นแฟนเพลงของคางิพี เขาต้องการจะเก็บกวาดพวกนี้ให้หมดเพื่อชดเชยความผิดในฐานะที่ตัวเองเคยเป็นคางิพี
มิฟุเอะยังคงด้อมๆมองๆตามร้านอาหารแถวปาปิโกะอีกเช่นเคย พอเข้าไปหาเธอก็หนีไปเหมือนครั้งก่อน
ต่อมามิฟุเอะจึงยอมเปิดใจว่าที่จริงแล้วที่เธอมีปัญหากับเรื่องคนอ้วนเพราะว่าตัวเธอในโลกจริงนั้นมีแม่ที่เป็นคนอ้วนมากๆ ทำให้โดนเพื่อนล้อจนไม่พอใจที่มีแม่เป็นคนอ้วนแบบนี้และพาลเกลียดคนอ้วน ตัวเองก็อดอาหารจนผอมแห้งเพราะกลัวจะอ้วน แล้วพอมาที่เมอบิอุสนี้ก็กลับได้แม่คนใหม่ที่ใจดี ชอบทำอาหารอร่อยให้กิน
แต่ว่าแม่ในโลกนี้ดูผอมแห้งจนมิฟุเอะเห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วจู่ๆมิวก็ปรากฏตัวขึ้นมา พอปรึกษาเรื่องนี้มิวจึงเปลี่ยนแม่ให้มิฟุเอะใหม่ แต่เธอกลับรู้ถึงความผิดปกติของโลกนี้ขึ้นมาได้จากเหตุคราวนี้ และรู้ว่าทั้งแม่คนเก่าและคนใหม่นี้ก็เป็นแค่ NPC ไม่ใช่แม่จริงๆอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง
ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องการตามหาแม่คนเก่าที่ต้องหายไปเพราะรู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นคนทำให้แม่หายไป แม้จะรู้จริงๆแล้วนั่นเป็นแค่ NPC เป็นแค่ข้อมูลเสมือน ไม่ใช่คนจริงก็ตาม แต่อยากหาให้เจอเพื่อขอโทษ เพื่อที่ว่ากลับไปยังโลกจริงแล้วจะได้กล้าที่จะขอโทษแม่จริงๆของตัวเองได้
สุดท้ายเรากับอาเรียจึงตกลงว่าจะช่วยมิฟุเอะตามหาแม่
ส่วนสึซึโนะมีปัญหาเรื่องที่ไม่อาจเข้ากับเพื่อนคนอื่นได้จนเวลาพักกลางวันต้องไปแอบกินข้าวคนเดียวในห้องน้ำ ดังนั้นจึงชวนสึซึนะว่าครั้งต่อไปไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน
ครั้งต่อมาจึงชวนมิฟุเอะมากินด้วย เธอก็เปิดใจถึงปัญหาของตัวเองมากขึ้นและบอกว่าตั้งใจจะพยายามชวนคนอื่นมากินข้าวด้วยให้มากขึ้น
ไม่ได้มาอนเซงเพื่อถ้ำมองซะหน่อย
ในขณะที่ชมรมกลับบ้านกำลังดำเนินแผนการซุ่มโจมตี ธอร์นเรียกเราให้ไปหาในฐานะ lucid คราวนี้แนะนำให้รู้จักกับโชวเนนดอล พร้อมกับสวีตพีและ stork ทั้ง ๓ คนต่างก็เป็นคนที่สู้แพ้ชมรมกลับบ้านมาทั้งนั้น
สาเหตุที่ถูกเรียกก็เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว เป็นเพราะข่าวปลอมที่นารุโกะปล่อยว่าชมรมกลับบ้านจะไปล่าดิจิเฮดเพื่อทำแผนซุ่มโจมตี โดยคราวนี้เป็นที่อนเซง
ครั้งนี้ธอร์นจึงสั่งให้ lucid ไปพร้อมกับสวีตพี stork และโชวเนนดอล พร้อมกัน ๔ คน
แต่ stork ก็ดูจะยังใจจดใจจ่อกับการถ้ำมอง และชวนโชวเนนดอลให้ไปถ้ำมองด้วยกัน แต่โชวเนนดอลปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นพวกวิตถารไปด้วย โดยเฉพาะสึซึนะซึ่งตัวเองอยากจะสนิทด้วย
แต่พอเข้ามาถึงด้านในตรงที่เป็นอนเซงรวมชายหญิงก็เจอกับสึซึนะ ทำให้โชวเนนดอลตกใจแตกตื่นเพราะกลัวจะเข้าใจว่ามาเพื่อถ้ำมอง
และนารุโกะก็อยู่ด้วย วันก่อนเธอถ่ายภาพในห้องของโชวเนนดอลไปลงในเน็ตจนทำให้โชวเนนดอลรู้สึกโกรธแค้น
คราวนี้เลยต้องมาสู้กับนารุโกะและสึซึนะ โดยมิวช่วยเพิ่มพลังให้ทั้ง ๒ คน
เมื่อชนะได้สึซึนะกับนารุโกะก็หนีไป แต่โชวเนนดอลกลับหดหู่เพราะถูกสึซึโนะเข้าใจผิดว่าเป็นพวกถ้ำมอง กลัวว่าจะไม่ได้กินข้าวด้วยกันอย่างที่สัญญาไว้แล้ว จนสวีตพีต้องเข้าไปช่วยปลอบใจบอกว่าวันหลังเธอจะชวนไปทานราเมงด้วยก็ได้
หลังจากนั้นก็กลับมาที่ฐาน ภารกิจของ lucid ในวันนี้สิ้นสุดลงเท่านี้
ปัญหาคาใจของกลุ่มนักดนตรี
สวีตพีมักจะมาบ่นถึงปัญหาน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองในโลกจริงเป็นลุงอ้วนแต่กลับชอบของน่ารักมุ้งมิ้ง แต่พอแต่งก็กลับถูกคนมองว่าแปลก พอมาที่เมอบิอุสจึงขอเป็นสาวน้อยน่ารักแบบนี้ แต่ก็กลับโดนนารุโกะเปิดโปงจนคนรู้ตัวจริงไปทั่ว สุดท้ายก็เลยโดนรังเกียจอีก
ส่วน stork นั้นช่วงแรกๆมีแต่เรื่องชวนพาไปแอบด้อมมองตามที่ต่างๆ
ส่วนโชวเนนดอลนั้นกลุ้มใจที่ไม่สามารถเข้ากับใครได้ แถมยังถูกสึซึนะเข้าใจผิดว่าไปถ้ำมองอีก จึงตั้งใจว่าจะหาโอกาสไปพบเธอเพื่อแก้ความเข้าใจผิดให้ได้ เพื่อที่เมื่อกลับสู่โลกจริงแล้วจะชวนไปกินข้าวด้วย
มิวเลยบอกว่าจะลองหาเด็กผู้หญิงสวยๆให้ไปกินข้าวแล้วคุยด้วยเพื่อซ้อมให้โชวเนนดอลคุ้นเคยกับผู้หญิง แต่ถึงเวลาคนที่ชวนให้มากินด้วยกันกลับเป็นสวีตพี ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตัวจริงเป็นลุงวิตถาร จึงกลับทำให้โชวเนนดอลไม่พอใจ
ส่วนธอร์นก็ได้ชวน lucid กับมิวไปโรงเรียนด้วยกันบ้าง ชวนไปกินข้าวด้วยบ้าง แล้วพูดอะไรแปลกๆที่ไม่เข้าใจ เหมือนกับพยายามจะแสดงบทเป็นใครบางคนอยู่ แล้วก็ชวนให้ lucid และมิวร่วมมือด้วย ซึ่งทั้ง ๒ ก็ยอมทำตามธอร์นแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรก็ตาม
>> ตอนถัดไป
แผนซุ่มโจมตีอีกครั้ง
หลังจากเสร็จจากการผจญภัยในหอสมุดแล้ว ทุกคนก็เดินออกมา โดยตั้งใจไว้ว่าเป้าหมายต่อไปคือไปที่ซีพาราอีโซตามที่โชวเนนดอลให้เบาะแสไว้
แต่โคโตโนะกลับทำท่ากังวลเหมือนจะไม่อยากไป และชวนให้เปลี่ยนเป็นทำแผนซุ่มโจมตีแทน
ทุกคนกลับมาที่ห้องชมรมเพื่อปรึกษาหารือกันต่อ แล้วก็ตกลงได้ว่าต่อไปจะเป็นการซุ่มโจมตีที่อนเซง โดยนารุโกะช่วยปล่อยข่าวว่าชมรมกลับบ้านจะไปล่าดิจิเฮดที่อนเซง เพื่อล่อให้พวกนักดนตรีไปที่นั่น
เรื่องค้างคาใจสมาชิกชมรมกลับบ้าน
~เนื้อเรื่องเสริมของสมาชิกชมรมกลับบ้าน~
เมื่อจบไปฉากหนึ่งแล้วก็จะเริ่มดำเนินเนื้อเรื่องเสริมของตัวละครในส่วนต่อไปได้ ก่อนที่จะเข้าสู้เนื้อเรื่องในส่วนของแผนซุ่มโจมตี
เนื้อเรื่องบางคนดำเนินต่อจากตอนที่แล้ว บางคนก็เพิ่งเริ่มต้นในครั้งนี้
เมื่อจบไปฉากหนึ่งแล้วก็จะเริ่มดำเนินเนื้อเรื่องเสริมของตัวละครในส่วนต่อไปได้ ก่อนที่จะเข้าสู้เนื้อเรื่องในส่วนของแผนซุ่มโจมตี
เนื้อเรื่องบางคนดำเนินต่อจากตอนที่แล้ว บางคนก็เพิ่งเริ่มต้นในครั้งนี้
โคโตโนะมาปรึกษาเรื่องที่มีคนส่งจดหมายลึกลับมาหาอีกแล้ว ยังคงไม่รู้ว่ามาจากใคร แต่คุยไปโคโตโนะก็เผลอหลุดบอกเรื่องของตัวเองที่ไม่เคยพูดถึง ว่าเมื่อก่อนที่เธอจะรู้ถึงความผิดปกติของโลกนี้ได้ไปงานเลี้ยงคงเพื่อนต่างๆรู้จักคนมากมาย คนที่ส่งจดหมายมาก็น่าจะเป็นคนหนึ่งที่รู้จักในช่วงนั้น
โชวโงะเริ่มทำงานพิเศษในร้านที่ปาปิโกะเพื่อจะหาเงินมาชนใช้ค่าโทรศัพท์มือถือของจิกะ (千佳) นักเรียนหญิงที่เขาเดินชนจนทำมือถือตกเมื่อครั้งก่อน งานที่ทำคือเป็นพนักงานในร้าน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ถนัดงานนี้ จึงไปได้ไม่ค่อยสวยนัก
เมื่อยังไม่มีเงินจ่าย จิกะจึงบังคับให้โชวโงะคบเธอเป็นแฟนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการชดใช้ค่าเสียหายแทน โชวโงะก็ดูจะไม่เต็มใจแต่ก็ขัดไม่ได้
ส่วนโคตาโรวตอนนี้ได้เริ่มช่วยเหลือผู้คนโดยประกาศในเน็ต โดยใช้นามแฝงว่า lesqu-man ซึ่งจริงๆเขาตั้งใจใช้ชื่อว่า rescue man ที่หมายถึงคนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือ แต่สะกดผิด
แล้วก็มีคนขอความช่วยเหลือเข้ามา เขาใช้นามแฝนว่าสไลม์ (スライム) โคตาโรวไปหาเขาที่หน้าสถานี เมื่อไปถึงสไลม์ก็บอกว่าเพื่อนเขาดูแปลกๆไป อยากให้ช่วย พอได้ฟังแล้วอาเรียก็สงสัยว่าบางทีเพื่อนคนนั้นอาจจะกลายเป็นดิจิเฮด ถ้ารู้ว่าอยู่ตรงไหนให้รีบบอก ต้องรีบไปช่วย
ส่วนนารุโกะได้แอบถ่ายภาพตอนที่โคตาโรวหกล้มอัปลงเน็ตเพื่อเรียกยอดเข้าชม ทำให้เขาโมโหมาก ด่านารุโกะว่าอยากดังในเน็ตจนตัวสั่นแต่ไม่มีปัญญาทำในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งนารุโกะก็แก้ตัวอะไรไม่ขึ้นเพราะครั้งนี้ตัวเองผิดจริงๆ
แต่สิ่งที่โคตาโรวพูดนั้นได้แทงใจดำจนนารุโกะเกิดไฟติดคิดแผนการจะทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
ส่วนเคนสึเกะ หมู่นี้ได้ออกตามล่าดิจิเฮดด้วยตัวคนเดียว เมื่อตามไปเจอเขาก็บอกว่าดิจิเฮดพวกนี้เป็นแฟนเพลงของคางิพี เขาต้องการจะเก็บกวาดพวกนี้ให้หมดเพื่อชดเชยความผิดในฐานะที่ตัวเองเคยเป็นคางิพี
มิฟุเอะยังคงด้อมๆมองๆตามร้านอาหารแถวปาปิโกะอีกเช่นเคย พอเข้าไปหาเธอก็หนีไปเหมือนครั้งก่อน
ต่อมามิฟุเอะจึงยอมเปิดใจว่าที่จริงแล้วที่เธอมีปัญหากับเรื่องคนอ้วนเพราะว่าตัวเธอในโลกจริงนั้นมีแม่ที่เป็นคนอ้วนมากๆ ทำให้โดนเพื่อนล้อจนไม่พอใจที่มีแม่เป็นคนอ้วนแบบนี้และพาลเกลียดคนอ้วน ตัวเองก็อดอาหารจนผอมแห้งเพราะกลัวจะอ้วน แล้วพอมาที่เมอบิอุสนี้ก็กลับได้แม่คนใหม่ที่ใจดี ชอบทำอาหารอร่อยให้กิน
แต่ว่าแม่ในโลกนี้ดูผอมแห้งจนมิฟุเอะเห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วจู่ๆมิวก็ปรากฏตัวขึ้นมา พอปรึกษาเรื่องนี้มิวจึงเปลี่ยนแม่ให้มิฟุเอะใหม่ แต่เธอกลับรู้ถึงความผิดปกติของโลกนี้ขึ้นมาได้จากเหตุคราวนี้ และรู้ว่าทั้งแม่คนเก่าและคนใหม่นี้ก็เป็นแค่ NPC ไม่ใช่แม่จริงๆอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง
ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องการตามหาแม่คนเก่าที่ต้องหายไปเพราะรู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นคนทำให้แม่หายไป แม้จะรู้จริงๆแล้วนั่นเป็นแค่ NPC เป็นแค่ข้อมูลเสมือน ไม่ใช่คนจริงก็ตาม แต่อยากหาให้เจอเพื่อขอโทษ เพื่อที่ว่ากลับไปยังโลกจริงแล้วจะได้กล้าที่จะขอโทษแม่จริงๆของตัวเองได้
สุดท้ายเรากับอาเรียจึงตกลงว่าจะช่วยมิฟุเอะตามหาแม่
ส่วนสึซึโนะมีปัญหาเรื่องที่ไม่อาจเข้ากับเพื่อนคนอื่นได้จนเวลาพักกลางวันต้องไปแอบกินข้าวคนเดียวในห้องน้ำ ดังนั้นจึงชวนสึซึนะว่าครั้งต่อไปไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน
ครั้งต่อมาจึงชวนมิฟุเอะมากินด้วย เธอก็เปิดใจถึงปัญหาของตัวเองมากขึ้นและบอกว่าตั้งใจจะพยายามชวนคนอื่นมากินข้าวด้วยให้มากขึ้น
ไม่ได้มาอนเซงเพื่อถ้ำมองซะหน่อย
ในขณะที่ชมรมกลับบ้านกำลังดำเนินแผนการซุ่มโจมตี ธอร์นเรียกเราให้ไปหาในฐานะ lucid คราวนี้แนะนำให้รู้จักกับโชวเนนดอล พร้อมกับสวีตพีและ stork ทั้ง ๓ คนต่างก็เป็นคนที่สู้แพ้ชมรมกลับบ้านมาทั้งนั้น
สาเหตุที่ถูกเรียกก็เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว เป็นเพราะข่าวปลอมที่นารุโกะปล่อยว่าชมรมกลับบ้านจะไปล่าดิจิเฮดเพื่อทำแผนซุ่มโจมตี โดยคราวนี้เป็นที่อนเซง
ครั้งนี้ธอร์นจึงสั่งให้ lucid ไปพร้อมกับสวีตพี stork และโชวเนนดอล พร้อมกัน ๔ คน
แต่ stork ก็ดูจะยังใจจดใจจ่อกับการถ้ำมอง และชวนโชวเนนดอลให้ไปถ้ำมองด้วยกัน แต่โชวเนนดอลปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นพวกวิตถารไปด้วย โดยเฉพาะสึซึนะซึ่งตัวเองอยากจะสนิทด้วย
แต่พอเข้ามาถึงด้านในตรงที่เป็นอนเซงรวมชายหญิงก็เจอกับสึซึนะ ทำให้โชวเนนดอลตกใจแตกตื่นเพราะกลัวจะเข้าใจว่ามาเพื่อถ้ำมอง
และนารุโกะก็อยู่ด้วย วันก่อนเธอถ่ายภาพในห้องของโชวเนนดอลไปลงในเน็ตจนทำให้โชวเนนดอลรู้สึกโกรธแค้น
คราวนี้เลยต้องมาสู้กับนารุโกะและสึซึนะ โดยมิวช่วยเพิ่มพลังให้ทั้ง ๒ คน
เมื่อชนะได้สึซึนะกับนารุโกะก็หนีไป แต่โชวเนนดอลกลับหดหู่เพราะถูกสึซึโนะเข้าใจผิดว่าเป็นพวกถ้ำมอง กลัวว่าจะไม่ได้กินข้าวด้วยกันอย่างที่สัญญาไว้แล้ว จนสวีตพีต้องเข้าไปช่วยปลอบใจบอกว่าวันหลังเธอจะชวนไปทานราเมงด้วยก็ได้
หลังจากนั้นก็กลับมาที่ฐาน ภารกิจของ lucid ในวันนี้สิ้นสุดลงเท่านี้
ปัญหาคาใจของกลุ่มนักดนตรี
~เนื้อเรื่องเสริมของกลุ่มนักดนตรี~
เมื่อผ่านเนื้อเรื่องที่หอสมุดไปแล้วคราวนี้จะเริ่มดำเนินเนื้อเรื่องเสริมของกลุ่มนักดนตรี ๔ คนซึ่งก็คือ ๓ คนที่ล้มไปแล้วกับธอร์นอีกคน
เมื่อผ่านเนื้อเรื่องที่หอสมุดไปแล้วคราวนี้จะเริ่มดำเนินเนื้อเรื่องเสริมของกลุ่มนักดนตรี ๔ คนซึ่งก็คือ ๓ คนที่ล้มไปแล้วกับธอร์นอีกคน
สวีตพีมักจะมาบ่นถึงปัญหาน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองในโลกจริงเป็นลุงอ้วนแต่กลับชอบของน่ารักมุ้งมิ้ง แต่พอแต่งก็กลับถูกคนมองว่าแปลก พอมาที่เมอบิอุสจึงขอเป็นสาวน้อยน่ารักแบบนี้ แต่ก็กลับโดนนารุโกะเปิดโปงจนคนรู้ตัวจริงไปทั่ว สุดท้ายก็เลยโดนรังเกียจอีก
ส่วน stork นั้นช่วงแรกๆมีแต่เรื่องชวนพาไปแอบด้อมมองตามที่ต่างๆ
ส่วนโชวเนนดอลนั้นกลุ้มใจที่ไม่สามารถเข้ากับใครได้ แถมยังถูกสึซึนะเข้าใจผิดว่าไปถ้ำมองอีก จึงตั้งใจว่าจะหาโอกาสไปพบเธอเพื่อแก้ความเข้าใจผิดให้ได้ เพื่อที่เมื่อกลับสู่โลกจริงแล้วจะชวนไปกินข้าวด้วย
มิวเลยบอกว่าจะลองหาเด็กผู้หญิงสวยๆให้ไปกินข้าวแล้วคุยด้วยเพื่อซ้อมให้โชวเนนดอลคุ้นเคยกับผู้หญิง แต่ถึงเวลาคนที่ชวนให้มากินด้วยกันกลับเป็นสวีตพี ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตัวจริงเป็นลุงวิตถาร จึงกลับทำให้โชวเนนดอลไม่พอใจ
ส่วนธอร์นก็ได้ชวน lucid กับมิวไปโรงเรียนด้วยกันบ้าง ชวนไปกินข้าวด้วยบ้าง แล้วพูดอะไรแปลกๆที่ไม่เข้าใจ เหมือนกับพยายามจะแสดงบทเป็นใครบางคนอยู่ แล้วก็ชวนให้ lucid และมิวร่วมมือด้วย ซึ่งทั้ง ๒ ก็ยอมทำตามธอร์นแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรก็ตาม
>> ตอนถัดไป