ทั้งหมดนี้เป็นบทที่แปลออกมาจากเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งของเกม ef:a fairy tale of the two - the latter tale
『行ってきます』
"ไปล่ะนะคะ"
お気に入りの白い帽子と水着の入った鞄を持って、私は家を飛び出した。
ฉันหยิบกระเป๋าที่ใส่ชุดว่ายน้ำและหมวกสีขาวตัวโปรดแล้ววิ่งออกจากบ้าน
たくさんの蝉の声。
หริ่งระงมเสียงจักจั่น
夏の音。
เสียงของหน้าร้อน
白い世界。
โลกสีขาว
ぶわっと熱くて少し重たい風が頬をなでる。
สายลมแรงอ่อนที่พัดไปมาอยู่ข้างหู
すぐに汗が出てきたけれど、これから海に行くことを考えたら余計に嬉しくなった。
เหงื่อไหลซึมมาตลอดทาง แต่เมื่อคิดว่าจะได้เห็นทะเลแล้วก็กลับรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
『はぁはぁ……』
"แฮ่ก แฮ่ก"
飼育委員会の用事で遅くなってしまった。
เพราะมีธุระกับสมาคมเลี้ยงสัตว์ทำให้ต้องมาสาย
お姉ちゃんと紘お兄さんは、先に海で泳いでるはずだ。
ป่านนี้พี่คงกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่กับพี่ฮิโระที่ทะเลอยู่ก่อนแล้ว
その光景を考えると、うらやましくなる。
เมื่อคิดถึงภาพเหล่านั้น ก็กลับรู้สึกอิจฉาขึ้นมาอยู่เหมือนกัน
だから、細い路地を縫うように走る。
ดังนั้น ฉันจึงรีบวิ่งตรงผ่านซอยแคบไป
チリン
กริ๊ง
教会の前にさしかかったところで、頭の上から涼しげな音がした。
ยินเสียงเย็นสบายดังออกมาจากข้างบน ตรงโบสถ์ที่เพิ่งวิ่งผ่านมา
風鈴の音。
เสียงของกระดิ่งลม
澄んだ音。
เสียงอันสงบนิ่ง
どこか街の雰囲気とはあってなくて。
ช่างแตกต่างไปจากบรรยากาศที่พบทั่วไปในเมือง
それでも、綺麗な音を見つけたくて顔をあげてしまう。
ถึงอย่างนั้น ฉันได้แหงนหน้าไปมองด้วยความอยากฟังเสียงอันไพเราะนั้น
イルカを模したガラス細工の風鈴が、そばにあった家の二階の窓につり下げられていた。
กระดิ่งลมที่ทำจากแก้วประดับที่ทำเป็นรูปปลาโลมา ห้อยลงมาจากชั้นสองของบ้านที่อยู่ข้างๆ
路地に切り取られた青い空も見えた。
เห็นท้องฟ้าสีครามลอดผ่านซอยออกมา
いい天気。
อากาศสดใส
チリン
กริ๊ง
もう一度。
ดังขึ้นอีกครั้ง
きれいな音に混じって。
มีเสียงสูงแหลมดังแทรกขึ้นกลบเสียงอันไพเราะนั้น
甲高い自動車のブレーキの音がした。
เสียงเบรกของรถยนต์
『っ!?』
"อ๊ะ!?"
目を閉じて身体を縮こませようとしたところで、ふっ、と逆に目が覚めた。
ฉันหลับตาลงแล้วกอดร่างกายไว้แน่น เมื่อตื่นขึ้นมากลับรู้สึกว่าอยู่ในที่ที่แปลกออกไป
「はぁはぁ……はぁはぁ……っ……」
"แฮ่ก แฮ่ก.....แฮ่ก แฮ่ก
自分の部屋のベッドに寝ていた。
นอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง
いつの間に戻ってきたのだろう。
ฉันกลับมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
家の中には誰もいないのか、静かで、心臓のドキドキする音がすごく聞こえる。
ในบ้านไม่ีมีใครอยู่ ช่างเงียบสงบ ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นระรัวอยู่
「っ……お姉ちゃん」
"พี่"
ベッドから降りて、いつも一緒にいてくれる姉に呼びかけた。
ฉันลุกออกจากเตียง ตะโกนเรียกหาพี่ซึ่งมักจะอยู่ด้วยกันเป็นประจำ
返事はなかった。
ไม่มีเสียงตอบกลับมา
「どこに行っちゃったんだろう……?」
"ไปอยู่ไหนกันนะ"
歩こうとしてバランスを崩した。
พอเริ่มก้าวเท้าออกก็กลับเสียการทรงตัว
慌てて机に手をついて倒れることだけは防ぐ。
จึงรีบเอามือจับโต๊ะไว้เพื่อไม้ให้ล้ม
「あれ?」
"เอ๋?"
なにかがおかしかった。
มีะไรบางอย่างแปลกไป
色々なものが、なにかズレている。
ของทั้งหลายดูแปลกไปจากเดิม
遠近感がないのだ。
สัมผัสแยกแยะระยะภาพก็หายไป
そこで、ようやく感じた顔の違和感に手をあてた。
จึงได้เอามือสัมผัสดูใบหน้าซึ่งมีความรู้สึกแปลกๆ
左目にガーゼのようなものが当てられていた。
รู้สึกเหมือนมีผ้าปิดอยู่ที่ตาข้างซ้าย
その奥の感触が……。
ความรู้สึกส่วนลึกในตอนนั้น
「……お姉ちゃん?」
"พี่คะ?"
部屋を見渡すとお姉ちゃんの荷物がない。
พอมองไปรอบห้องก็พบว่าข้าวของของพี่นั้นไม่อยู่แล้ว
そこで、さらに変なことに気づいた。
ในเวลานั้นก็รู้สึกอะไรแปลกๆขึ้นมาอีกอย่าง
台の上に乗っているように視線が高いのだ。
มุมมองสายตากลับดูสูงขึ้นเหมือนกับยืนอยู่บนอะไรสักอย่าง
驚いて自分の腕や足を見る。
ฉันตกใจรีบมองดูที่แขนและเท้าของตัวเอง
長い。
ยาว
変だ。
แปลก
これは私じゃない。
นี่มันไม่ใช่ตัวฉัน
「なんで?」
"อะไรกันน่ะ?"
「どうして?」
"ทำไมกัน?"
「なんでこんなに寒いの!?」
"ทำไมถึงรู้สึกหนาวแบบนี้นะ!?"
おかしい。
แปลก
わからない。
ไม่เข้าใจเลย
なにこれ。
นี่มันอะไรกัน
なんでお姉ちゃんの荷物がないの?
ทำไมข้าวของของพี่ถึงได้หายไปหมด?
「お姉ちゃんどこっ!?」
"พี่คะ อยู่ไหนกันน่ะ!?"
「お姉ちゃん!!」
"พี่คะ!!"
どうしていないの。
ทำไมถึงไม่อยู่นะ
誰か。
ใครกัน
「レンジくん!」
"เรนจิคุง!"
男の子の名前を叫んで。
ชื่อของเด็กผู้ชายได้ถูกเรียกออกไป
「……っあ」
"อ๊ะ"
私は思わず、自分の口を押さえて呻いてしまった。
โดยไม่ทันได้คิดอะไร ฉันรีบปิดปากตัวเองแล้วร้องครวญครางออกมา
気持ちが悪い。
รู้สึกไม่ดีเลย
声すらも自分のものではなかった。
แม้แต่เสียงก็ไม่ใช่ของตัวเอง
夕「千尋?」
ยู"จิฮิโระ?"
「っ!?」
"..!?"
突然、部屋の扉が開いて男の人が入ってきた。
ทันใดนั้น ประตูห้องได้เปิดขึ้นชายคนหนึ่งได้เข้ามา
どうして知らない人が家の中にいるのか。
ทำไมคนที่ไมรู้จักถึงเข้ามาในนี้ได้
その人が手を伸ばしてくる。
เขาได้ยื่นมือเข้ามา
「やだっ……!」
"อย่านะ...!"
逃げようとするけれど、身体が思うように動かなかった。
ทั้งที่พยายามจะหนี แต่ร่างกายกลับดูจะขยับไม่ได้ดังใจเลย
男の人は私の様子に顔をしかめて、伸ばしかけていた腕を止める。
เขาดูตกใจกับท่าทีของฉัน จึงหยุดแขนที่ยื่นออกมา
そして口元にだけ笑みを浮かべた。
จากนั้นเขาจึงยิ้มออกมา
夕「千尋、俺は、火村のお兄ちゃんだよ」
ยู : "จิฮิโระ ฉันเอง พี่ฮิมุระไง"
「ぇ……火村……?」
"ฮะ...ฮิมุระ...?"
「あ」
"อ๊ะ"
そこで、本当に目が覚めた。
ในตอนนั้น ฉันเริ่มรู้สึกตัวขึ้น
「…………」
頭を叩かれたようにズレそのものが治まった。
ฉันเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวแปลกๆทั้งหลายนั้นขึ้นมาได้
「……そう……か」
"...งั้น...เหรอ"
今は冬なのだ。
ตอนนี้เป็นหน้าหนาว
私はもう一度自分の腕を見る。
ฉันมองที่มือและแขนของตัวเองอีกครั้ง
指先の1本1本が、血が巡ったように、今度は思うように動いてくれた。
ที่ปลายนิ้วแต่ละนิ้วนั้น คราวนี้กลับเริ่มเคลื่อนไหวได้ดังใจ ราวกับมีเลือดไหลเวียนอยู่ทั่ว
夕「昨日の夜から熱にうなされて寝てたから」
ยู:"เพราะเป็นไข้มาตั้งแต่เมื่อคืนก็เลยนอนฝันร้ายสินะ"
火村さんが時計に目をやってつぶやいた。
"ฮิมุระซังมองไปที่นาฬิกาแล้วบ่นออกมา
午前10時。
๑๐โมงเช้า
夕「12時間か……あと1時間起きなかったら危なかったな。全部やり直さなくちゃいけなかった」
ยู:"๑๒ชั่วโมงเหรอ...ถ้าอีก๑ชั่วโมงยังไม่ตื่นละก็คงจะแย่เหมือนกันนะ คงต้องเริ่มกันใหม่ทั้งหมด"
「私……確か風邪をひいて……」
"ฉัน....หรือว่ากำลังเป็นหวัดอยู่...."
夕「まだちょっと熱があるのかも知れないね」
"ดูเหมือนจะยังมีไข้อยู่นิดหน่อยนะ"
「あの、取り乱してしまってすみません……」
"เอ่อ ตะกี้แสดงท่าทีไม่เหมาะสมออกไปต้องขอโทษด้วยนะคะ"
かすかに残った“昨日”のことを思い出した。
เริ่มรู้สึกได้ถึงความทรงจำของ"เมื่อวาน"ที่ยังคงหลงเหลืออยู่
自分の状況と立場を思い出した。
เริ่มนึกเรื่องของตัวเองออกแล้ว
夕「いいんだ……ちょっとだけ、こういうの慣れてるしね」
ยู:"ไม่เป็นไรหรอก...ฉันเองก็ชินกับเรื่องแบบนี้แล้วล่ะ"
「慣れてる?」
"ชินแล้ว?"
夕「昔の話だ。とにかく、もう少し寝てるほうがいいよ。すぐにお粥かなにか持ってくるから」
ยู:"เรื่องมันนานมาแล้วน่ะ ยังไงก็ตาม จะนอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวฉันไปจะเอาข้าวต้มมาให้ทาน"
「あの、火村さん……」
"เอ่อ ฮิมุระซัง..."
手を添えられてベッドへと向いながら、私は小首を傾げた。
ฉันถามขึ้นขณะที่กำลังเดินกลับไปที่เตียง
「私はどうして風邪をひいたんですか?」
"ทำไมฉันถึงเป็นหวัดได้ล่ะคะ"
「それと……」
"แล้ว..."
「さっき私が叫んだレンジくんって誰ですか?」
"เรนจิคุงที่ฉันเรียกอยู่เมื่อตะกี้คือใครกันคะ?"
ᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳ
......อธิบายเรื่องเพิ่มเติม สำหรับคนที่ไม่ได้ดูอนิเมะ หรืออ่านจากเกมมาก่อน
โรคที่จิฮิโระเป็นอยู่นั้น เป็นโรคประหลาดที่ทำให้ไม่สามารถจำอะไรได้นานเกิน ๑๓ ชั่วโมง นั่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ ๑๓ ชั่วโมงที่แล้วนั้นจะลืมไปหมด
สาเหตุก็เกิดจากอุบัติเหตุรถชนในครั้งนี้นั่นเอง ซึ่งทำให้ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา จิฮิโระจะคิดว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานตลอด
ในวันนี้จิฮิโระตื่นขึ้นมาหลังจากนอนไปนาน ๑๒ ชั่วโมง ดังนั้นความจำปัจจุบันจึงเหลือแค่ของตอนก่อนนอน ๑ ชั่วโมงเท่านั้น จึงทำให้เกือบจะจำ ฮิมุระ ยู ซึ่งเป็นผู้ที่คอยดูแลอยู่ตลอดเวลาไม่ได้