φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



ทำไมถึงอยากมาเรียนต่อนอก
เขียนเมื่อ 2012/06/22 00:43
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42


ตอนนี้ในที่สุดมาเรียนเมืองนอกได้จบครบปีการศึกษานึงเรียบร้อยแล้ว มีประสบการณ์เล่ามากมายเลยทีเดียว ส่วนใหญ่เจอแต่เรื่องดีๆมากมาย ครั้งนี้อยากมาเล่าความรู้สึกตัวเองหลังจากที่ผ่านมาถึงปีแล้ว

การออกมาเรียนต่อเมืองนอกเนี่ยเป็นความฝันของใครหลายๆคน อย่างเราฝันอยากเรียนนอกมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว พอได้มาเรียนนอกจริงๆก็เหมือนกับเป็นฝันที่เป็นจริง รู้สึกตื่นเต้นมากๆเลย

แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่รู้สึกกลัว รู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อมที่จะออกนอกประเทศมาเรียนหนังสือมาใช้ชีวิตอยู่ในที่ไม่คุ้นเคยเป็นระยะเวลานาน



ก่อนที่จะไปเรียนเมืองนอกได้นั้นก็มีความกลัวและกังวลที่เราจะต้องผ่านด่านไปก่อนนั้นมีมากมาย เช่น

1. กลัวความเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเผชิญ ต้องมาใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคยอยู่มาก่อนปรับตัวยาก

หากกลัวความเปลี่ยนแแปลง ชีวิตคนเราก็จะก้าวต่อไปไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เราไม่สามารถอยู่ที่เดิมตลอดได้ บ้านที่เราอยู่ยังไงสักวันหนึ่งอาจต้องย้าย ต่อให้ไม่ได้ย้ายไปไกลถึงนอกประเทศ แต่ก็ย่อมเจอกับความเปลี่ยนแปลง ไม่มีใครอาจอยู่แบบเดิมได้ตลอดไป

หรือวันดีคืนดีเจอภัยพิบัติอะไรก็ทำให้เราต้องพลิกวิถีชีวิตไปได้เลย นั่นยิ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบไม่คาดคิดเลย การได้ไปเรียนต่อเมืองนอกนั้นเป็นการฝึกการปรับตัวให้ใช้ชีวิตแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปได้ ต่อให้อยู่ดีๆเราต้องมาเจอการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดเราก็คงทำใจและรับมือมันได้ง่ายขึ้น


ไม่มีตู้เย็นเราก็ใช้แอร์กับแผนที่มาประยุกต์!



2. เรียนต่างแดนภาษาเป็นอุปสรรค สื่อสารไม่รู้เรื่องคงอดตาย

เรื่องภาษาก็เป็นปัญหาของใครหลายคนจริงๆ เพราะอย่างภาษาอังกฤษเรียนมาแต่เด็กก็ยังพูดไม่ค่อยได้กัน นี่ไปนอกจะต้องเรียนภาษาที่ ๓ เพิ่มอีก ก็คงรู้สึกลำบากใจ

แต่จะบอกว่าการได้ไปเมืองนอกเรียนรู้ภาษานั้นจากการสัมผัสใช้จริงโดยตรงกับการเรียนในห้องอยู่ในไทยนั้นประสิทธิภาพเทียบกันไม่ได้เลย พอได้ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้นประจำแล้วความสามารถจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากอย่างที่รู้สึกได้ว่าเรียนในห้องมาตั้งแต่เด็กก็ไม่อาจมีผลเท่า

อีกอย่างอาจคิดได้ว่านี่เป็นโอกาสฝึกให้รู้เพิ่มอีกภาษา เป็นผลพลอยได้ไปด้วย การรู้ภาษาเพิ่มนั้นเป็นประโยชน์มาก ถ้าเรารู้แค่ภาษาไทยโลกเราก็จะแคบอยู่แต่ในประเทศ แต่ถ้าเรารู้ภาษาของประเทศไหนเพิ่มเติมเราก็จะอยู่ประเทศนั้นได้อย่างสบาย โดยเฉพาะภาษาจีน มีประโยชน์มากใช้ได้ทั่วโลก



3. ที่นั่นรอบตัวไม่มีญาติมิตร เราจะไว้ใจคนอื่นได้ยังไง

การที่อยู่ดีๆจะไม่ได้เจอคนที่คยเจอประจำแล้วนั้นอาจน่าเศร้า แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ยังไงคนเราสักวันหนึ่งก็ต้องลาจากกันอยู่ดี ต่อให้ไม่ใช่เพราะจากไปไกลอยู่ต่างแดนไกลก็ยังต้อง... (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)

มันจะรู้สึกโดดเดี่ยวเหงาเปล่าเปลี่ยวมาก แต่ว่าสมัยนี้ก็ยังดีใช้อินเทอร์เน็ตสื่อสารได้สบาย มี facebook msn skype ฯลฯ ดังนั้นน่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

อีกอย่างคือสถานการณ์แบบนี้ล่ะที่จะทำให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆในต่างแดน ฝึกปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นแม้จะไม่คุ้นเคย เป็นการเปิดโลกให้กว้างขึ้นด้วย เพื่อนสามารถหาได้ใหม่ตลอดชีวิต และไม่ใช่แค่จำกัดว่าต้องเป็นคนชาติเดียวกันด้วย


คริสต์มาสปาร์ตี้กับเพื่อนต่างชาติ



4. ต้องห่างไกลครอบครัวหรือคนรัก รู้สึกเป็นห่วง

บางคนมีห่วงเพราะว่าไม่อยากจากคนในครอบครัวไปไกล หรือบางคนมีแฟนก็ไม่อยากจากแฟนเพราะกลัวไกลกันแล้วใจแปรเปลี่ยนไปเหมือนกังหันต้องลม

เรื่องนี้ก็เรียกว่าเป็นอะไรที่ต้องยอมเพื่ออนาคตจริงๆ ถ้าหากมั่นใจว่าใจเราแน่วแน่ก็ไม่ต้องกังวล เรียนจบแล้วต้องกลับมาได้เจอกัน เห็นเพื่อนบางคนที่เรียนอยู่แฟนมาเยี่ยมบ่อยๆ พาแฟนเที่ยวสบายเลย ดีออก

และบางคนก็เห็นแต่งงานกันก่อนแล้วย้ายตามกันมาอยู่ด้วยกันทั้งครอบครัวเลย ก็เป็นการแก้ปัญหาอย่างหนึ่ง



5. เรียนนอกการแข่งขันสูง คงกดดันตายเลย

การแข่งขันสูงสิยิ่งผลักดันให้เราก้าวหน้า เพราะต้องพยายามไม่เช่นนั้นก็แย่ ดังนั้นจะถูกบีบให้ทำอะไรได้มากขึ้นเรื่อยๆ คนที่มาเรียนนอกส่วนใหญ่ก็ต้องการความก้าวหน้าอยู่แล้ว ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปดีกว่า

แต่ถ้ากลัวการแข่งขันมากจริงๆก็ไม่ต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ดังมากก็ได้ อย่าคิดว่าเรียนนอกแล้วต้องเข้ามหาวิทยาลัยดังเสมอไปถึงจะคุ้ม เพราะการได้อยู่นอกแค่นั้นก็ถือว่าได้ประสบการณ์คุ้มแล้ว



6. เรียนนอกค่าใช้จ่ายไม่ใช่เล่นๆ เงินหมดขึ้นมาทำยังไง

ปกติแล้วคนที่จะไปเรียนนอกส่วนใหญ่คือหาทุนไปทั้งนั้นเลย ซึ่งทุนก็มักจะให้มาเพียงพอต่อการอยู่ ถ้าหากไม่ฟุ่มเฟือยเกินไป จะได้ฝึกเรื่องการบริหารจัดการเงินไปด้วย

สำหรับคนที่ไม่ได้มีเงินมากมายและก็ไม่สามารถสอบทุนได้ หรือสอบได้ทุนแบบบางส่วนเท่านั้น ก็อาจจะลำบากหน่อย แต่ถ้าคิดว่าคุ้มที่จะลงทุนเงินเพื่อไปเรียนนอกละก็อาจลองดูได้ เพราะดีกรีจบนอกนั้นหางานทำได้ง่ายและเงินเดือนสูงกว่า ยังไงก็คุ้มค่าหากมองอนาคต (แต่ไปเรียนแล้วต้องจบให้ได้นะ)



7. ถ้าเรียนๆอยู่เกิดปัญหาการเมือหรือปัญหาระหว่างประเทศแล้วโดนไล่กลับประเทศจะทำไง (แบบที่เกิดที่ลิเบียเมื่อเร็วๆนี้)

อันนั้นคงไม่ใช่อะไรที่เกิดบ่อยๆ ใครเจอก็โชคร้ายไป แต่คงไม่ต้องกังวลจนเป็นปัญหาให้ไม่อยากไป อันที่จริงการเมืองไทยตอนนี้เผลอๆน่าเป็นห่วงกว่าอีก



เมื่อผ่านด่านความกังวลเหล่านี้ออกไปได้แล้วก็จะพบว่าการเรียนต่อนอกนั้นมีประโยชน์มากมาย เช่น ได้เจอกับโลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตอนอยู่ในประเทศ

ได้เห็นฤดูกาลที่แปลผันไป ๔ ฤดู

ฤดูใบไม้ร่วง สีเหลืองสวย


ฤดูใบไม้ร่วงในสวนสาธารณะเถาหรันถิง (陶然亭公园) ในปักกิ่ง

ฤดูหนาว หิมะขาวโพลน


จุดชมวิวถ้ำซวางหลง (双龙洞风景区) ในเมืองจินหัว (金华市) มณฑลเจ้อเจียง

ฤดุใบไม้ผลิ ดอกไม้บานสะพรั่ง


ฤดูใบไม้ผลิในเมืองโบราณผิงเหยา (平遥古城) ในมณฑลซานซี

ได้มาเห็นสภาพบ้านเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นั่นซึ่งต่างจากในไทย


ย่านโบราณรอบทะเลสาบซีไห่ (西海) ในปักกิ่ง

ภูมิทัศน์ธรรมชาติสวยงามแปลกตามีเอกลักษณ์


แหลมเหยหลิ่ว (野柳) ชายฝั่งเหนือจังหวัดไทเป (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองซินเป่ย์ (新北市)) ไต้หวัน

ได้เห็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปกว่าที่ประเทศเราเป็นอยู่ตอนนี้


รถไฟความเร็วสูงหัวจรวดของจีน

ได้เห็นสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่อลังการ


หอคอยเทียนถ่า (天塔) แห่งเมืองเทียนจิน

ได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวสิ่งมหัศจรรย์แบบที่ไม่อาจเห็นได้ในไทย


กำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่ (慕田峪长城) ชานเมืองปักกิ่ง



ถ้าถามถึงเหตุผลว่าทำไมอยากไปเรียนต่อเมืองนอกละก็

1. สาขาที่จะเรียนต่อนั้นในไทยยังไม่ก้าวหน้า อยากไปเรียนรู้จากประเทศที่ก้าวหน้าเพื่อจะได้กลับมาพัฒนาในไทยต่อไป

2. เพราะรู้สึกว่าถ้าเรียนอยู่แต่ที่เดิมๆเราก็จะไม่ได้อะไรใหม่ๆ อยากลองได้ไปอยู่หลายๆที่ เปลี่ยนบรรยากาศ และช่วยให้เรียนรู้อะไรได้มากด้วย

3. อยากได้ประสบการณ์การใช้ชีวิต ได้ลองอยู่ลำพัง ได้ฝึกปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ จะได้เคยชินกับความเปลี่ยนแปลง

4. การได้ไปอยู่ต่างประเทศนั้นเป็นผลดีต่อการฝึกภาษามาก

5. จะได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนชาวต่างชาติ เปิดสังคมให้กว้างขึ้นได้มาก

6. จะได้ถือโอกาสไปเที่ยวอย่างสบายๆไปในตัว

7. รู้สึกว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในชีวิต ราวกับการออกผจญภัยเลยก็ว่าได้



สมัยนี้ถือว่าดีจริงๆ คนเราติดต่ออะไรกันง่ายดาย การลาจากกันก็เลยไม่ใช่อะไรที่ตัดใจได้ยากนัก จากประสบการณ์เราตอนนี้ เพื่อนที่เคยคุยกันสมัยอยู่ไทยก็ยังคงคุยกันได้อยู่เรื่อยๆผ่านทาง facebook หรือทางอื่นๆ

เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครต้องแยกจากใครแล้ว แค่ไม่ได้เจอหน้ากันเท่านั้น แต่แค่คุยได้ก็เพียงพอแล้ว และยิ่งใช้ skype ก็ยิ่งกลายเป็นแทบไม่ต่างจากไปเจอหน้ากันจริงๆเลย แค่สัมผัสตัวกันไม่ได้เท่านั้นเอง

และพอรู้จักเพื่อนต่างชาติใหม่ที่นี่เราก็สามารถแลก facebook หรือ skype ไว้ใช้ติดต่อกันหลังจากแยกย้ายกันกลับประเทศแล้ว เรียกได้ว่าเจอกันทีเดียวก็กลายเป็นเพือนกันตลอดไป ตอนนี้ facebook เรามีเพื่อนชาวต่างชาติอยู่เยอะทีเดียว เวลาไปเที่ยวที่ประเทศเขาก็จะมีคนนำเที่ยวหรือให้คำปรึกษาได้สบาย

ประสบการณ์ต่างๆก็ได้มาเยอะ จากตอนแรกไม่เคยอยู่คนเดียวเลย หลายอย่างก็ไม่เคยทำคนเดียว ตอนนี้ทำอะไรก็ได้หมดแล้ว เป็นเรื่องดี ส่วนเรื่องภาษาก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จากตอนแรกพูดไม่ค่อยได้ก็กลายเป็นใช้ชีวิตได้สบายแล้ว



เมื่อมีประสบการณ์ดีๆมากมายขนาดนี้แล้ว เราจึงรู้สึกสนับสนุนเรื่องการไปเรียนต่อนอกเต็มที่เหมือนกัน อยากให้คนอื่นๆได้ประสบการณ์เช่นเดียวกันนี้

จริงอยู่ว่าเคยมีคนที่ไปเรียนต่อนอกแล้วพบกับความผิดหวัง ล้มเหลวกลับมาอย่างหมดหวัง แต่นั่นก็ไม่ใช่ส่วนมากที่เป็นแบบนั้น เราก็ไม่อาจรับรองได้ว่าทุกคนที่ไปจะสามารถสมหวังกลับมา

สิ่งสำคัญคงเป็นความกล้าที่จะมาเผชิญประสบการณ์ใหม่ๆนี้ กล้าที่จะท้าทายกับอุปสรรคต่างๆที่อาจพบเจอ ไม่ท้อถอยแม้จะเจอกับปัญหามากมาย

แล้วจะพบว่าสิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมานั้นคุ้มค่าแค่ไหน


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ