มาเยี่ยมเพื่อนที่เมืองลินเชอปิง ชมมหาวิทยาลัย
เขียนเมื่อ 2014/07/09 21:10
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#เสาร์ 10 พ.ค. 2014
หลังจากที่เที่ยวสถานที่ต่างๆหลายแห่งภายในเมืองสตอกโฮล์มมาแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20140707
วันนี้เป็นวันที่ต้องแยกเดินทางกับคนในครอบครัว เนื่องจากเรามีแผนจะไปเยี่ยมเพื่อนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยต่อจึงต้องอยู่ต่อ ส่วนคนอื่นไม่มีธุระอะไรต่อแล้วจึงจะกลับวันนี้เลย
เพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยลินเชอปิง (Linköpings universitet) ซึ่งอยู่ที่เมืองลินเชอปิง (Linköping) ห่างจากสตอกโฮล์มไปทางใต้ ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณสองชั่วโมงถึง
ลินเชอปิงเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ ๗ ของสวีเดน และเป็นเมืองหลักของจังหวัดเอิสเตอร์เยิตลันด์ (Östergötland)
ตอนเช้าทุกคนเก็บข้าวของและออกไปยังรถไฟฟ้าพร้อมกัน และก็แยกกันตรงนั้น เรารีบไปที่สถานีรถไฟเพื่อจะซื้อตั๋วรถไฟไปยังลินเชอปิง ตารางรถไฟนั้นตรวจสอบมาอย่างดีแล้ว รถไฟแต่ละรอบราคาไม่เท่ากันจึงพยายามเลือกรอบที่ถูกและไม่ต้องเปลี่ยนรถ รถไฟมีทั้งแบบธรรมดาและแบบความเร็วสูง แบบเร็วสูงนั้นแพงมากและก็ไม่ได้ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แบบถูกๆมีประมาณ ๒ ชั่วโมงต่อขบวนจึงต้องไปให้ตรงเวลาไม่งั้นถ้าสายก็คงต้องเปลี่ยนเป็นรถแบบแพงแทน
รถไฟที่เรานั่งนั้นออกจากสตอกโฮล์มเวลา 10:51 และไปถึงลินเชอปิงเวลา 12:41 ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๕๐ นาที เรานัดให้เพื่อนมารับที่สถานีรถไฟตรงเวลา
สถานีรถไฟลินเชอปิง
เพื่อนมารับที่สถานีรถไฟและเราก็นั่งรถเมล์ไปยังหอพักของเพื่อนซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัย
หอพักของเพื่อนหน้าตาแบบนี้
เมื่อมาถึงเพื่อนก็ทำอาหารให้ทานด้วย ได้ยินว่าอยู่ที่นี่ถ้าทำอาหารเองไม่ได้จะลำบากเพราะออกไปซื้อกินจะแพงกว่ามาก
ตอนที่เราอยู่บนรถไฟอยู่ดีๆก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวมากโดยไม่ทราบสาเหตุ ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาเรื่องเมารถเพราะเพิ่งเป็นวันนี้ทั้งๆที่วันอื่นก็นั่งรถไฟแทบทุกวัน
เรานอนพักอยู่ในหอเพื่อนสักพักกินยาแล้วก็ยังรู้สึกว่าอาการก็ยังไม่ดีขึ้นนักสุดท้ายจึงตัดสินใจออกไปเดินเที่ยวเลยดีกว่า ปกติแล้วอาการแบบนี้ออกไปเดินตากลมอาจจะดีกว่าแค่นอนพักอยู่เฉยๆ
เพื่อนพาเดินไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากในบริเวณมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ค่อนไปทางตะวันตกของเมือง แต่เริ่มแรกจะยังไม่ได้ดูในมหาวิทยาลัยอย่างละเอียดเพราะจะไปเดินในใจกลางเมืองก่อน
ระหว่างทางเดินผ่านคอกม้า
ได้เข้าไปดูข้างในด้วย
ตรงนี้เห็นมีพิพิธภัณฑ์อะไรหลายแห่งด้วย แต่ตอนที่ไปมันไม่ได้เปิดอยู่
แถวนี้บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติสวยดี ถ้าได้มาอยู่ในที่แบบนี้นานๆก็คงจะดี
เห็นบ้านหน้าตาแบบนี้ประปรายตามทาง
เริ่มเข้าสู่ย่านเมืองเก่า
แถวนี้เป็นย่านที่เต็มไปด้วยตึกเล็กๆสวยๆและพื้นก็ปูด้วยหินเป็นก้อนๆทำให้เดินแล้วเจ็บเท้า
ผ่านย่านเมืองเก่ามาก็จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆเงียบๆ
แล้วก็มีผ่านสุสานด้วย เราก็เข้าไปเดินเล่นสักหน่อย
เริ่มเข้าใกล้ใจกลางเมืองแล้ว
จากตรงนี้จะเห็นมหาวิหารลินเชอปิง (Linköpings domkyrka) สูงเด่นมาแต่ไกล
มหาวิหารนี้ถือว่าสวยมากทีเดียว ตัวอาคารมีความยาว ๑๑๐ เมตร และหอคอยสูง ๑๐๗ เมตร เท่าที่ดูในเมืองนี้ไม่มีสิ่งก่อสร้างที่สูงกว่านี้
เข้าไปเดินชมภายในมาด้วย
เดินเข้าใจกลางเมืองต่อ
ลานกว้างใหญ่ (Stora torget) ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง
รอบๆนั้นก็เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านต่างๆมากมาย
H&M นี่มีทุกที่อยู่แล้วไปเมืองไหนก็เจอ
ลานกว้างอีกแห่ง
โบสถ์เล็กๆอีกแห่ง
เจอร้านไทยอยู่ตรงนี้ด้วย
รถตำรวจสวยดีนะ
เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับแม่น้ำสายหลักที่ลากผ่านเมือง
ทิวทัศน์ริมน้ำสวยดี
เลยจากแม่น้ำนี้ไปก็จะไกลเกินไปแล้ว เราจึงหยุดกันแค่นี้แล้วเดินกลับมหาวิทยาลัย ตอนนี้หลังจากที่ได้เดินเล่นชมเมืองมาเป็นชั่วโมงอาหารเวียนหัวก็ได้หายไปแล้ว
หลังจากกลับไปถึงมหาวิทยาลัยก็เข้าไปพักผ่อนในหอพักเพื่อนสักพัก ระหว่างนั้นก็นัดเจอรุ่นพี่อีกคนที่รู้จักซึ่งเรียนอยู่ที่นี่ด้วย นัดเจอกันในมหาวิทยาลัยตอนเย็นๆ
ออกมาเดินชมภายในมหาวิทยาลัย ตรงนี้คือถนนหลักซึ่งมีวาดตราสัญลักษณ์ของคณะต่างๆไว้เต็มไปหมดตามทาง เห็นว่ามีการวาดใหม่อยู่ทุกปีด้วย
หอพักที่เพื่อนอยู่เมื่อมองจากถนนหลัก
นี่เป็นนาฬิกาแดด แต่มีคนเอาเสื้อไปวางทับก็เลยดูแล้วอย่างกับหุ่นไร่กาเลย
เพื่อนพาแนะนำอาคารต่างๆมากมาย แต่ตอนนี้จำอะไรไม่ค่อยได้แล้วก็ขอลงภาพอย่างเดียวโดยไม่ต้องอธิบายมากละกัน เอาเป็นว่าโดยรวมแล้วเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยน่าอยู่ดี
ระหว่างทางเห็นคนแต่งชุดพื้นเมืองด้วย เห็นเขาว่าวันนี้มีงานอะไรบางอย่าง
เพื่อนมีพามาชมอาคารของขณะวิทยาศาสตร์
ภายในนี้มีการตั้งชื่อห้องชื่อบริเวณตามชื่อนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังด้วย อย่างตรงส่วนนี้เป็นไอน์สไตน์
ภายในมีห้องสำหรับพักผ่อนอยู่ด้วย มีทั้งเครื่องดนตรีและกีฬาอยู่ด้วย
อันนี้เห็นแปะอยู่รู้สึกว่าจะเป็นเฉลยการบ้านหรือไม่ก็ข้อสอบ
หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ตามมาเจอ เรากลับไปเจอเขาที่หน้าหอพักเพื่อนอีกที จากนั้นจึงเดินกลับมายังอาคารคณะวิทยาศาสตร์อีก แล้วก็นั่งคุยกันในนั้นยาวเลย คือพี่เขาเป็นคนคุยเก่งมากจริงๆ
ภายในนี้มีตู้ให้กดโกโก้ดื่มได้ฟรี
แล้วเราก็นั่งคุยกันยาวสองชั่วโมง คุยกันสารพัดเรื่องตั้งแต่เรื่องใช้ชีวิตในสวีเดนสบายดีมั้ย การศึกษาในสวีเดนเทียบกับการศึกษาของไทยเป็นยังไง อยากทำอะไรในอนาคต แล้วก็ลากยาวไปถึงเรื่องอนิเมะ มังงะ นิยาย ฯลฯ พอรู้ตัวอีกทีก็สามทุ่มกว่าแล้วซึ่งก็ถึงแก่เวลาอันควรที่จะแยกย้ายกันกลับ
ภาพภายในมหาวิทยาลัยลินเชอปิงยามสนธยา เห็นฟ้าแบบนี้จริงๆเกือบสี่ทุ่มแล้ว
แล้วก็จบวันนี้ลงแต่เพียงเท่านี้ เป็นวันที่ไม่ได้เหนื่อยมาก เพราะช่วงเช้าไม่ได้ทำอะไร แค่มาขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางมาลินเชอปิง มีออกแรงอยู่แค่ตอนที่ไปเดินเที่ยวในเมืองประมาณสองชั่วโมงกว่า แล้วก็เดินชมมหาวิทยาลัยอีกนิดหน่อย จากนั้นก็นั่งคุยยาวอย่างเดียว
เมืองนี้เรามาค้างแค่คืนเดียวเท่านั้น วันรุ่งขึ้นก็จะไปเที่ยวฟินแลนด์ต่อแล้ว ได้เวลาจากลาสวีเดนไป https://phyblas.hinaboshi.com/20140711
หลังจากที่เที่ยวสถานที่ต่างๆหลายแห่งภายในเมืองสตอกโฮล์มมาแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20140707
วันนี้เป็นวันที่ต้องแยกเดินทางกับคนในครอบครัว เนื่องจากเรามีแผนจะไปเยี่ยมเพื่อนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยต่อจึงต้องอยู่ต่อ ส่วนคนอื่นไม่มีธุระอะไรต่อแล้วจึงจะกลับวันนี้เลย
เพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยลินเชอปิง (Linköpings universitet) ซึ่งอยู่ที่เมืองลินเชอปิง (Linköping) ห่างจากสตอกโฮล์มไปทางใต้ ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณสองชั่วโมงถึง
ลินเชอปิงเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ ๗ ของสวีเดน และเป็นเมืองหลักของจังหวัดเอิสเตอร์เยิตลันด์ (Östergötland)
ตอนเช้าทุกคนเก็บข้าวของและออกไปยังรถไฟฟ้าพร้อมกัน และก็แยกกันตรงนั้น เรารีบไปที่สถานีรถไฟเพื่อจะซื้อตั๋วรถไฟไปยังลินเชอปิง ตารางรถไฟนั้นตรวจสอบมาอย่างดีแล้ว รถไฟแต่ละรอบราคาไม่เท่ากันจึงพยายามเลือกรอบที่ถูกและไม่ต้องเปลี่ยนรถ รถไฟมีทั้งแบบธรรมดาและแบบความเร็วสูง แบบเร็วสูงนั้นแพงมากและก็ไม่ได้ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แบบถูกๆมีประมาณ ๒ ชั่วโมงต่อขบวนจึงต้องไปให้ตรงเวลาไม่งั้นถ้าสายก็คงต้องเปลี่ยนเป็นรถแบบแพงแทน
รถไฟที่เรานั่งนั้นออกจากสตอกโฮล์มเวลา 10:51 และไปถึงลินเชอปิงเวลา 12:41 ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๕๐ นาที เรานัดให้เพื่อนมารับที่สถานีรถไฟตรงเวลา
สถานีรถไฟลินเชอปิง
เพื่อนมารับที่สถานีรถไฟและเราก็นั่งรถเมล์ไปยังหอพักของเพื่อนซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัย
หอพักของเพื่อนหน้าตาแบบนี้
เมื่อมาถึงเพื่อนก็ทำอาหารให้ทานด้วย ได้ยินว่าอยู่ที่นี่ถ้าทำอาหารเองไม่ได้จะลำบากเพราะออกไปซื้อกินจะแพงกว่ามาก
ตอนที่เราอยู่บนรถไฟอยู่ดีๆก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวมากโดยไม่ทราบสาเหตุ ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาเรื่องเมารถเพราะเพิ่งเป็นวันนี้ทั้งๆที่วันอื่นก็นั่งรถไฟแทบทุกวัน
เรานอนพักอยู่ในหอเพื่อนสักพักกินยาแล้วก็ยังรู้สึกว่าอาการก็ยังไม่ดีขึ้นนักสุดท้ายจึงตัดสินใจออกไปเดินเที่ยวเลยดีกว่า ปกติแล้วอาการแบบนี้ออกไปเดินตากลมอาจจะดีกว่าแค่นอนพักอยู่เฉยๆ
เพื่อนพาเดินไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากในบริเวณมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ค่อนไปทางตะวันตกของเมือง แต่เริ่มแรกจะยังไม่ได้ดูในมหาวิทยาลัยอย่างละเอียดเพราะจะไปเดินในใจกลางเมืองก่อน
ระหว่างทางเดินผ่านคอกม้า
ได้เข้าไปดูข้างในด้วย
ตรงนี้เห็นมีพิพิธภัณฑ์อะไรหลายแห่งด้วย แต่ตอนที่ไปมันไม่ได้เปิดอยู่
แถวนี้บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติสวยดี ถ้าได้มาอยู่ในที่แบบนี้นานๆก็คงจะดี
เห็นบ้านหน้าตาแบบนี้ประปรายตามทาง
เริ่มเข้าสู่ย่านเมืองเก่า
แถวนี้เป็นย่านที่เต็มไปด้วยตึกเล็กๆสวยๆและพื้นก็ปูด้วยหินเป็นก้อนๆทำให้เดินแล้วเจ็บเท้า
ผ่านย่านเมืองเก่ามาก็จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆเงียบๆ
แล้วก็มีผ่านสุสานด้วย เราก็เข้าไปเดินเล่นสักหน่อย
เริ่มเข้าใกล้ใจกลางเมืองแล้ว
จากตรงนี้จะเห็นมหาวิหารลินเชอปิง (Linköpings domkyrka) สูงเด่นมาแต่ไกล
มหาวิหารนี้ถือว่าสวยมากทีเดียว ตัวอาคารมีความยาว ๑๑๐ เมตร และหอคอยสูง ๑๐๗ เมตร เท่าที่ดูในเมืองนี้ไม่มีสิ่งก่อสร้างที่สูงกว่านี้
เข้าไปเดินชมภายในมาด้วย
เดินเข้าใจกลางเมืองต่อ
ลานกว้างใหญ่ (Stora torget) ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง
รอบๆนั้นก็เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านต่างๆมากมาย
H&M นี่มีทุกที่อยู่แล้วไปเมืองไหนก็เจอ
ลานกว้างอีกแห่ง
โบสถ์เล็กๆอีกแห่ง
เจอร้านไทยอยู่ตรงนี้ด้วย
รถตำรวจสวยดีนะ
เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับแม่น้ำสายหลักที่ลากผ่านเมือง
ทิวทัศน์ริมน้ำสวยดี
เลยจากแม่น้ำนี้ไปก็จะไกลเกินไปแล้ว เราจึงหยุดกันแค่นี้แล้วเดินกลับมหาวิทยาลัย ตอนนี้หลังจากที่ได้เดินเล่นชมเมืองมาเป็นชั่วโมงอาหารเวียนหัวก็ได้หายไปแล้ว
หลังจากกลับไปถึงมหาวิทยาลัยก็เข้าไปพักผ่อนในหอพักเพื่อนสักพัก ระหว่างนั้นก็นัดเจอรุ่นพี่อีกคนที่รู้จักซึ่งเรียนอยู่ที่นี่ด้วย นัดเจอกันในมหาวิทยาลัยตอนเย็นๆ
ออกมาเดินชมภายในมหาวิทยาลัย ตรงนี้คือถนนหลักซึ่งมีวาดตราสัญลักษณ์ของคณะต่างๆไว้เต็มไปหมดตามทาง เห็นว่ามีการวาดใหม่อยู่ทุกปีด้วย
หอพักที่เพื่อนอยู่เมื่อมองจากถนนหลัก
นี่เป็นนาฬิกาแดด แต่มีคนเอาเสื้อไปวางทับก็เลยดูแล้วอย่างกับหุ่นไร่กาเลย
เพื่อนพาแนะนำอาคารต่างๆมากมาย แต่ตอนนี้จำอะไรไม่ค่อยได้แล้วก็ขอลงภาพอย่างเดียวโดยไม่ต้องอธิบายมากละกัน เอาเป็นว่าโดยรวมแล้วเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยน่าอยู่ดี
ระหว่างทางเห็นคนแต่งชุดพื้นเมืองด้วย เห็นเขาว่าวันนี้มีงานอะไรบางอย่าง
เพื่อนมีพามาชมอาคารของขณะวิทยาศาสตร์
ภายในนี้มีการตั้งชื่อห้องชื่อบริเวณตามชื่อนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังด้วย อย่างตรงส่วนนี้เป็นไอน์สไตน์
ภายในมีห้องสำหรับพักผ่อนอยู่ด้วย มีทั้งเครื่องดนตรีและกีฬาอยู่ด้วย
อันนี้เห็นแปะอยู่รู้สึกว่าจะเป็นเฉลยการบ้านหรือไม่ก็ข้อสอบ
หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ตามมาเจอ เรากลับไปเจอเขาที่หน้าหอพักเพื่อนอีกที จากนั้นจึงเดินกลับมายังอาคารคณะวิทยาศาสตร์อีก แล้วก็นั่งคุยกันในนั้นยาวเลย คือพี่เขาเป็นคนคุยเก่งมากจริงๆ
ภายในนี้มีตู้ให้กดโกโก้ดื่มได้ฟรี
แล้วเราก็นั่งคุยกันยาวสองชั่วโมง คุยกันสารพัดเรื่องตั้งแต่เรื่องใช้ชีวิตในสวีเดนสบายดีมั้ย การศึกษาในสวีเดนเทียบกับการศึกษาของไทยเป็นยังไง อยากทำอะไรในอนาคต แล้วก็ลากยาวไปถึงเรื่องอนิเมะ มังงะ นิยาย ฯลฯ พอรู้ตัวอีกทีก็สามทุ่มกว่าแล้วซึ่งก็ถึงแก่เวลาอันควรที่จะแยกย้ายกันกลับ
ภาพภายในมหาวิทยาลัยลินเชอปิงยามสนธยา เห็นฟ้าแบบนี้จริงๆเกือบสี่ทุ่มแล้ว
แล้วก็จบวันนี้ลงแต่เพียงเท่านี้ เป็นวันที่ไม่ได้เหนื่อยมาก เพราะช่วงเช้าไม่ได้ทำอะไร แค่มาขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางมาลินเชอปิง มีออกแรงอยู่แค่ตอนที่ไปเดินเที่ยวในเมืองประมาณสองชั่วโมงกว่า แล้วก็เดินชมมหาวิทยาลัยอีกนิดหน่อย จากนั้นก็นั่งคุยยาวอย่างเดียว
เมืองนี้เรามาค้างแค่คืนเดียวเท่านั้น วันรุ่งขึ้นก็จะไปเที่ยวฟินแลนด์ต่อแล้ว ได้เวลาจากลาสวีเดนไป https://phyblas.hinaboshi.com/20140711