สวนชนเผ่าแห่งจีน ฝั่งเหนือ
เขียนเมื่อ 2015/06/06 02:21
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#จันทร์ 4 พ.ค. 2015
เที่ยวสวนชนเผ่าแห่งจีนต่อ หลังจากที่ตอนที่แล้วเดินเที่ยวฝั่งใต้เสร็จ https://phyblas.hinaboshi.com/20150604
คราวนี้เดินข้ามสะพานลอยมาเพื่อมาต่อบริเวณฝั่งเหนือ พอข้ามมาแล้วสิ่งที่พบอย่างแรกก็คือสิ่งก่อสร้างของชาวทิเบต
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan01.jpg)
ชาวทิเบตนั้นในภาษาทิเบตเรียกว่า เผ่อปา (བོད་པ་, Pöba) หรือในภาษาจีนเรียกว่าชาวจ้าง (藏族) เป็นชนชาติที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองทิเบต และยังอาศัยอยู่ในเขตที่ราบสูงของมณฑลกานซู่, เสฉวน และยูนนานอีกเป็นจำนวนมาก ประชากรรวมแล้วประมาณ ๕ ล้านกว่าคน ส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนานิกายวัชรยาน
ชาวทิเบตมีภาษาเป็นของตัวเองคือภาษาทิเบต ซึ่งเขียนโดยอักษรทิเบต เป็นอักษรแทนเสียง มีหน้าตาสวยงามและมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน
นี่คือบ้านที่อยู่ในเขตคั่ม (ཁམས་, Kam) หรือเรียกว่าคาง (康) ในภาษาจีน เป็นย่านชาวทิเบตในบริเวณทางตะวันตกของมณฑลเสฉวน
อาคารนี้มีชื่อเรียกในภาษาสันสกฤตว่ากาลจักรวัชรมณฑล อาจแปลตรงๆว่าวงกลมเพชรกงล้อเวลา คำว่า มณฑล นั้นมีความหมายเดิมว่าวงกลม แต่ในทางนิกายวัชรยานใช้เรียกแท่นบูชาหรือวงเวทย์ที่ใช้ประกอบพิธี ในนี้สามารถเข้าไปชมได้โดยเก็บค่าเข้าเพิ่มเติม ๒ หยวน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan02.jpg)
ตรงนี้เป็นทางลงไปข้างล่าง หากลงไปก็จะไปโผล่หน้าประตูทางเข้าของสวนฝั่งเหนือ แต่เรายังไม่ลงไปตอนนี้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan04.jpg)
อาคารนี้จำลองมาจากวัดโฉ่คัง (ཇོ་ཁང་, Qokang) หรือเรียกว่าต้าเจา (大昭寺) ในภาษาจีน เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเมืองลาซ่า ข้างในเข้าไปชมได้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan05.jpg)
ที่อยู่ด้านนอกอาคารนี้คือสิ่งที่เรียกว่า "หม่านี" (མ་ནི།, mani) ในภาษาทิเบต ในภาษาจีนเรียกว่า "จว่านจิงถ่ง" (转经筒) เป็นกงล้อที่มีเขียนบทสวดเอาไว้แล้วพอหมุนก็เหมือนกับเป็นการอ่านบทสวด มีตั้งแต่ขนาดเล็กสามารถถือได้ ไปจนถึงขนาดใหญ่อย่างที่เห็น
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan06.jpg)
เข้ามาชมภายในวัดโจคัง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan07.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan08.jpg)
จากชั้น ๒ มองออกไปทางโน้น เป็นบริเวณที่จำลองย่านเมืองเก่าในลาซ่า ชื่อว่าผ่าร์โกร์ (བར་སྐོར་, Pargor) ในภาษาจีนเรียกว่าปาคั่ว (八廓) เป็นย่านรอบๆวัดโจคัง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan09.jpg)
ลงมาเดินตรงนี้สักหน่อย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan10.jpg)
แต่ละอาคารตรงนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งต่างๆเกี่ยวกับชาวทิเบต
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan11.jpg)
จากนั้นเดินต่อมาผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยกงล้อมานี ทางซ้ายนี้เป็นอาคารของชาวลั่วปา (珞巴族) ชนกลุ่มน้อยกลุ่มเล็กๆในทิเบต มีชื่อเรียกในภาษาทิเบตว่าโฮลปา (ལྷོ་པ་, Lhoba) ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดียซึ่งเป็นแดนพิพาท จีนถือว่าเป็นดินแดนในครองครองของตัวเอง เรียกว่าทิเบตใต้ (藏南, จ้างหนาน) หากไม่นับชาวลั่วปาที่อยู่ในบริเวณนี้แล้วชาวลั่วปาถือเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีจำนวนน้อยที่สุดในจีน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan12.jpg)
และเดินถัดมาก็เจอกับอาคารของชาวเหมินปา (门巴族) ชนกลุ่มน้อยกลุ่มเล็กๆอีกกลุ่มที่อยู่ในทิเบต มีชื่อเรียกในภาษาทิเบตว่า เหมิ่นปา (མོན་པ་, Mönba) ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในรัฐอรุณาจัลประเทศเช่นกัน มีที่อยู่ในดินแดนปกครองจริงๆของจีนไม่มาก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan13.jpg)
ต่อมาเป็นส่วนของชาวเชียง (羌族) ชนกลุ่มน้อยในมณฑลเสฉวน มีประชากรประมาณ ๒ แสนกว่าคน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan14.jpg)
ชาวเชียงนั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมาก ในช่วงยุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น (五胡十六国, ปี 304 - 439) ชาวเชียงเป็น ๑ใน ๕ ชนเผ่าที่ได้ตั้งอาณาจักรปกครองจีนตอนเหนือ อีก ๔ ชนเผ่าคือชาวเซียงหนู (匈奴族), ชาวเจี๋ย (羯族), ชาวเซียนเปย์ (鮮卑族) และ ชาวตี (氐族) ชาวเชียงเป็นเผ่าเดียวที่ยังเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันแม้ว่าชาวเชียงในปัจจุบันนี้จะหลงเหลืออยู่แค่เพียงกลุ่มย่อยของชาวเชียงโบราณที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกก็ตาม
อาคารนี้สร้างตามลักษณะสิ่งก่อสร้างพื้นเมืองของชาวเชียงในอำเภอเม่าเซี่ยน (茂县) ในมณฑลเสฉวน ภายในใหญ่พอสมควร มีจัดแสดงเกี่ยวกับชาวเชียง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan15.jpg)
ในนี้ยังมีพูดถึงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มณฑลเสฉวนเมื่อปี 2008 ซึ่งบริเวณที่อยู่อาศัยของเผ่าเชียงนั้นอยู่ใกล้ศูนย์กลางและได้รับความเสียหายมากมาย สิ่งก่อสร้างโบราณของชาวเชียงถูกทำลายย่อยยับต้องทำการฟื้นฟูเป็นการใหญ่
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan16.jpg)
เดินออกมาอีกด้านของอาคาร
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan17.jpg)
จากตรงนี้สามารถมองข้ามไปเห็นสิ่งก่อสร้างของชาวถู่ (土族) เป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในอำเภอปกครองตนเองฮู่จู้ (互助) ของเผ่าถู่ซึ่งอยู่ในมณฑลชิงไห่
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan18.jpg)
ข้ามมาเดินในนี้ดู
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan19.jpg)
ภายในอาคาร
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan20.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan21.jpg)
ขึ้นมาชั้นสองแล้วมองย้อนกลับไปเห็นอาคารของชาวเชียงอยู่ทางโน้นไกลๆ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan22.jpg)
ถัดมาทางนี้เดินย้อนมาหน่อยจะเป็นส่วนของชนชาติที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นคือชาวไท หรือในภาษาจีนเรียกว่าชาวไต่ (傣族)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan23.jpg)
ที่เรียกว่าชาวไทนั้น เป็นชื่อเรียกรวมๆของกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ลาว รัฐฉ่านของพม่า แล้วก็ตอนใต้ของมณฑลยูนนานในจีน ชาวไทพูดภาษาในตระกูลภาษาไท ซึ่งเป็นตระกูลย่อยของภาษาตระกูลไท-กะได
ชาวไทเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยและลาว และในรัฐฉานของพม่า สำหรับชาวไทในรัฐฉานนั้นส่วนใหญ่คือชาวไทใหญ่ ปัจจุบันเริ่มจะถูกวัฒนธรรมของพม่ากลืนไปแล้ว
ส่วนชาวไทที่อยู่ในจีนนั้นมีอยู่หลายกลุ่ม กระจายอยู่ตอนใต้ของมณฑลยูนนาน แต่ที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคือชาวไทลื้อ หรือเรียกในภาษาจีนว่าไต่เล่อ (傣仂) ซึ่งอยู่ที่จังหวัดปกครองตัวเองสิบสองปันนา (西双版纳, ซือซวางป่านน่า) นอกจากนี้ก็ยังมีไทไต้คง เรียกในภาษาจีนว่าไต่น่า (傣那) อยู่ในจังหวัดปกครองตนเองเต๋อหง (德宏)
ที่นี่ได้จำลองสถานที่ท่องเที่ยวจากสิบสองปันนามาไว้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเหมือนกัน คนที่นั่นพูดภาษาไทลื้อ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับภาษาไทยมาก พอสื่อสารกันรู้เรื่อง ประเพณีก็คล้ายๆกัน มีเทศกาลสงกรานต์ สาดน้ำเล่นกัน
ตรงนี้มีให้เช่าอุปกรณ์และชุดสำหรับเล่นสาดน้ำ เทศกาลสงกรานต์เรียกในภาษาจีนว่าพัวสุ่ยเจี๋ย (泼水节) แปลว่าเทศกาลสาดน้ำ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan24.jpg)
ตรงนี้เป็นลานกว้างสำหรับสาดน้ำเล่น มีถังน้ำตั้งอยู่ แต่วันนี้เงียบเหงาไม่เห็นมีใครมาเล่นเลย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan25.jpg)
ศาลาแปดเหลี่ยมจิ่งเจิน (景真八角亭) ในอำเภอเมืองฮาย (勐海, เหมิงไห่) ในสิบสองปันนา
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan26.jpg)
วัดไท
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan27.jpg)
เจดีย์ม่านเฟย์หลง (曼飞龙塔) ในเมืองเชียงรุ่ง (景洪, จิ่งหง) เมืองเอกของสิบสองปันนา
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan28.jpg)
บ่อน้ำรูปช้างที่มีเจดีย์อยู่ด้านบน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan29.jpg)
ร้านขายของ สามารถมาซื้อปืนฉีดน้ำหรือถาดน้ำสำหรับมาเล่นสาดน้ำตรงนี้ได้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan30.jpg)
หัวสะพานถูกประดับเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan31.jpg)
จากนั้นเมื่อข้ามสะพานมาก็จะเป็นอาคารของชาวซาลา (撒拉族) ชนเผ่าในมณฑลชิงไห่ มีประชากรประมาณแสนกว่าคน นับถือศาสนาอิสลาม ใช้ภาษาซาลาซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาอัลไตอิก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan32.jpg)
นี่เป็นสิ่งก่อสร้างในแบบของชาวซาลา เรียกว่าหลีปาโหลว (篱笆楼)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan33.jpg)
หอคอยสุเหร่า
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan34.jpg)
ถัดมาเป็นส่วนของชาวเกาซาน (高山族) ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมๆชนเผ่าพื้นเมืองที่อยู่ในเกาะไต้หวันแม้ว่าภายในกลุ่มนี้จะมีความแตกต่างยิบย่อยลงไปอีกมากมายทั้งในทางภาษาและวัฒนธรรม แต่ว่าทั้งหมดล้วนพูดภาษาในตระกูลภาษาออสโตร-เอเชียติก เมื่อก่อนเกาะไต้หวันมีคนจีนฮั่นอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าดั้งเดิม แต่เมื่อขึ้นสมัยราชวงศ์ชิงได้มีการอพยพครั้งใหญ่ของคนจีนไปยังเกาะไต้หวัน หลังจากนั้นชนพื้นเมืองก็ค่อยๆถูกกลืนไปทีละนิด ปัจจุบันมีประชากรอยู่ประมาณ ๔ แสนกว่าคน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan35.jpg)
เดินขึ้นมาบนเขา บนนี้เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างของชาวเกาซาน คำว่าเกาซาน (高山) นั้นแปลว่าเขาสูง ชาวเกาซานส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนเขา
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan36.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan37.jpg)
ยุ้งฉาง (谷仓)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan38.jpg)
ชั้นวางหัวของชาวเฉา (曹族) ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งในกลุ่มเกาซาน มีวัฒนธรรมการล่าหัวมนุษย์ ใครยิ่งล่าได้มากก็ยิ่งแสดงถึงสถานะที่สูงขึ้นในสังคมของพวกเขา
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan39.jpg)
ป้อมบัญชาการของชาวหลูไข่ (鲁凯族) กลุ่มย่อยอีกกลุ่มของชาวเกาซาน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan40.jpg)
จากนั้นลงเขามาแล้วเดินต่อมาก็เจอส่วนของชาวเกาหลี ซึ่งเรียกในภาษาจีนว่าชาวเฉาเสี่ยน (朝鲜族) ที่อยู่หน้าทางเข้านี่คือเสาไม้เทพารักษ์ มักวางไว้หน้าทางเข้าหมู่บ้านหรือประตูวัด เป็นความเชื่อว่าจะคอยปกป้องคุ้มกัน บนเสาจะเขียนเป็นภาษาเกาหลีโดยใช้อักษรฮันจา (한자, อักษรจีน) ว่าช็อนฮาแดจังกุน (천하대장군, 天下大將軍) แปลว่าแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ใต้สรวงสวรรค์ และ ชีฮายอจังกุน (지하여장군, 地下女將軍) แปลว่าแม่ทัพหญิงใต้ปฐพี
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan41.jpg)
ชาวเกาหลีในจีนมีอยู่ไม่น้อยตามแถบชายแดนเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ก็ยังมีชุมชนคนเกาหลีใต้อยู่หลายแห่งในจีนด้วย เกาหลีก็ถือเป็นอีกชนชาติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในเอเชียตะวันออก มีอยู่หลายช่วงที่ตกเป็นรัฐบรรณาการของจีน สุดท้ายก็ตกเป็นของญี่ปุ่น หลังจากนั้นพอจบสงครามโลกครั้งที่สองก็แตกเป็นเหนือกับใต้อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
เดินเข้ามาชมภายในส่วนของเกาหลี
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan42.jpg)
อาคารนี้มีของจัดแสดง และสามารถเข้าไปเช่าชุดเกาหลี มีคนถ่ายรูปให้ด้วย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan43.jpg)
ส่วนอาคารนี้เป็นภัตตาคาร เป็นร้านอาหารเพียงแห่งเดียวของสวนแห่งนี้ เรามาถึงตรงนี้ในตอนประมาณเที่ยงพอดีได้เวลาอาหารจึงแวะทานเลย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan44.jpg)
อาหารที่ขายก็มีอาหารเกาหลี แต่ก็มีอย่างอื่นอีกหลายอย่าง ส่วนใหญ่ไม่ต่างจากอาหารที่ขายทั่วไป แต่ว่าแพงกว่าเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan45.jpg)
เกี๊ยวจานนี้ ๑๘ หยวน อร่อยธรรมดาเหมือนเกี๊ยวตามร้านข้างทางทั่วไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan46.jpg)
กินเสร็จท้องอิ่มก็มีแรงเดินต่อ ต่อไปเป็นส่วนของชาวซีปั๋ว (锡伯族) ชนกลุ่มน้อยในซินเจียงและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีประชากรประมาณแสนกว่า ใช้ภาษาซีปั๋วซึ่งถือเป็นสำเนียงหนึ่งของภาษาแมนจู
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan47.jpg)
และถัดมาเป็นส่วนของชาวแมนจู หรือเรียกในภาษาจีนว่าชาวหมั่น (满族) เป็นชนชาติที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์จีนอย่างยิ่ง เพราะราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีนนั้นเป็นชาวแมนจู ปกครองจีนมาตั้งแต่ปี 1644 ถึงปี 1911 วัฒนธรรมต่างๆของชาวแมนจูจึงถูกเผยแพร่กลมกลืนไปกับจีนในช่วงนั้น
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan48.jpg)
ชาวแมนจูมีต้นกำเนิดเดิมมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน บริเวณนั้นเรียกว่าแมนจูเรีย หรือหมั่นโจว (满洲) ในภาษาจีน แต่ปัจจุบันบริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยคนจีนฮั่น ชาวแมนจูกลายเป็นประชากรส่วนน้อยไปแล้ว
ชาวแมนจูมีภาษาของตัวเองคือภาษาแมนจู เป็นภาษาในตระกูลอัลไตอิก เคยถูกใช้ทั่วไปในหมู่ชาวแมนจู ในช่วงแรกๆที่ราชวงศ์ชิงปกครองจีนถูกใช้แพร่หลายในหมู่ชนชั้นปกครอง แต่ก็ค่อยๆเริ่มใช้น้อยลงเรื่อยๆเพราะชาวแมนจูเริ่มหันไปใช้ภาษาจีนกันแทนมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันคนที่พูดภาษาแมนจูได้มีไม่ถึงร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นคนแก่แล้วก็นักภาษาศาสตร์จำนวนหนึ่งเท่านั้น ชาวแมนจูในจีนปัจจุบันนี้มีประมาณสิบล้านกว่าคน ถือเป็นชนกลุ่มที่มีจำนวนมาก แต่ว่าทุกคนใช้ภาษาจีนกันหมด
อาคารแมนจูที่สร้างไว้ที่นี่จำลองรูปแบบมาจากวังของราชวงศ์ชิง ชั้นบนเป็นสวน และอาคารชั้นล่างเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับชาวแมนจู
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan49.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan50.jpg)
กษัตริย์แห่งราชวงศ์ชิงแต่ละองค์ เริ่มตั้งแต่ทางขวาสุดตั้งแต่องค์แรกคือหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (努尔哈赤) ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ในปี 1616 (เริ่มแรกใช้ชื่อว่าราชวงศ์โฮ่วจิน (后金)) ไปจนถึงทางซ้ายสุดซึ่งเป็นคนเดียวที่เป็นรูปถ่ายคือผู่อี๋ (溥仪) จักรพรรดิองค์สุดท้ายผู้ต้องถูกจองจำอยู่ในพระราชวังต้องห้ามหลังถูกโค่นล้มราชวงศ์
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan51.jpg)
แบบจำลองมู่หลานชิวเสี่ยน (木兰秋狝) ซึ่งเป็นค่ายฝึกทหารในสมัยต้นราชวงศ์ชิง บริเวณนั้นปัจจุบันตั้งอยู่ในอำเภอปกครองตนเองเหวย์ฉ่าง (围场) ของชาวแมนจูและมองโกล
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan52.jpg)
แบบจำลองสถานที่พักร้อนเฉิงเต๋อ (承德避暑山庄) ซึ่งเป็นผลงานสำคัญอย่างหนึ่งของราชวงศ์ชิง เริ่มสร้างในปี 1703 และค่อยๆสร้างไปเรื่อยๆจนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1792 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan53.jpg)
จากนั้นเดินออกมาฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารของชาวเอ้อหลุนชุน (鄂伦春族) ชนกลุ่มน้อยในมณฑลเฮย์หลงเจียง ใช้ภาษาในตระกูลภาษาอัลไตอิก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan54.jpg)
ใกล้ๆกันนั้นเป็นอาคารของชาวต๋าว่อเอ่อร์ (达斡尔族) เป็นชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตัวเองมองโกเลียใน เชื่อว่าสืบเชื้อสายมาจากชาวชี่ตาน (契丹) ซึ่งเป็นผู้ตั้งราชวงศ์เหลียว (辽朝) ปกครองจีนทางตอนเหนือมาก่อน ใช้ภาษาในตระกูลภาษาอัลไตอิก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan55.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan56.jpg)
ถัดมาเป็นสิ่งก่อสร้างของชาวญวน หรือก็คือชาวเวียดนามนั่นเอง เรียกในภาษาจีนว่าชาวจิง (京族) ในภาษาเวียดนามเรียกว่าชาวกิญ (Kinh) ในจีนมีชาวญวนอยู่เล็กน้อยตามชายแดน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan57.jpg)
ชาวเฮ่อเจ๋อ (赫哲族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในจีนและรัสเซีย ในจีนมีอยู่เพียงเล็กน้อยในมณฑลเฮย์หลงเจียง มีไม่ถึงหมื่นคน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan58.jpg)
และมองข้ามไปทางนั้น อาคารที่เห็นโดดเด่นที่สุดตรงนั้นเป็นของชาวต้ง (侗族) เป็นชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ในมณฑลกุ้ยโจว, หูหนาน และกว่างซี ประชากรประมาณ ๒ ล้านกว่าคน ภาษาต้งจัดอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan59.jpg)
บ้านของชาวต้ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan60.jpg)
หอคอยนี้คือหอกลองของชาวต้ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan61.jpg)
สะพานลมฝน (风雨桥, เฟิงหยวี่เฉียว) เป็นสะพานที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวต้ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan62.jpg)
ถัดมาจะเจอบ้านที่ดูหรูหรา นี่เป็นบ้านของชาวรัสเซีย หรือเรียกในภาษาจีนว่าเอ๋อหลัวซือ (俄罗斯族) บ้านนี้จำลองมาจากที่อยู่อาศัยพื้นเมืองของคนรัสเซียที่อาศัยอยู่ในซินเจียง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan63.jpg)
ถัดมาก็จะเจอกับหมู่อาคารของชาวปู้อี (布依族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในมณฑลกุ้ยโจว พบในมณฑลอื่นอยู่บ้างนิดหน่อย และพบในเวียดนามด้วยเล็กน้อย ประชากรประมาณ ๒ ล้านกว่าคน พูดภาษาปู้อีซึ่งจัดอยู่ในตระกูลภาษาไท-กะได
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan64.jpg)
ที่นี่จำลองมาจากสิ่งก่อสร้างพื้นเมืองของชาวปู้อีในกุ้ยโจว
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan65.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan66.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan67.jpg)
มีอาคารหลายหลังที่เข้าไปได้ ภายในจัดแสดงอะไรต่างๆเกี่ยวกับชาวปู้อี
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan68.jpg)
สุดทางแค่นี้แล้ว ถือว่ากว้างใช้ได้เลย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan69.jpg)
พอเดินมาถึงตรงนี้ก็เป็นส่วนปลายตะวันออกสุดของสวนแห่งนี้แล้ว ตรงนี้เป็นลานกว้างที่เหมือนกับว่ากำลังเตรียมจะสร้างอะไรเพิ่มเติมอยู่
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan70.jpg)
ตรงนี้เป็นอาคารอีกส่วนหนึ่งของชาวต้ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan71.jpg)
ถัดมาเป็นส่วนของชาวอี๋ (彝族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่กระจายอยู่ในตอนใต้ของจีน มีประชากรประมาณ ๙ ล้านกว่าคนในจีนและยังมีบางส่วนอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวอี๋มีภาษาของตัวเองคือภาษาอี๋ซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต มีอักษรเป็นของตัวเอง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan72.jpg)
ข้างในเห็นหมู่อาคารของชาวอี๋เป็นจำนวนมากแต่ว่ากำลังก่อสร้างอยู่จึงไม่ได้เข้าไป จากนั้นจึงเดินมายังบริเวณของชนชาติถัดไปต่อ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan73.jpg)
ตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ตะเกียงพื้นเมืองจีน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan74.jpg)
ข้างในจัดแสดงตะเกียงอยู่มากมาย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan75.jpg)
ถัดมาจะเจออาคารของชาวลาฮู่ (拉祜族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน และยังกระจายอยู่ในประเทศทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย สำหรับในจีนมีอยู่ประมาณ ๘ แสนคน ในภาษาไทยบางทีก็เรียกชาวลาฮู่ว่าชาวมูเซอ ใช้ภาษาลาฮู่ซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan76.jpg)
ข้างๆกันนั้นเป็นอีกชนเผ่าที่คนไทยน่าจะคุ้นชื่อกันอยู่ นั่นคือชาวม้งหรือแม้ว ในภาษาจีนเรียกว่าชาวเหมียว (苗族) เป็นชนชาติหนึ่งที่มีจำนวนมาก โดยกระจายตัวอยู่ในภาคใต้ของจีนและหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในจีนมีอยู่ประมาณ ๙ ล้านคน ชาวม้งพูดภาษาในตระกูลภาษาม้ง-เมี่ยน ชาวม้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นสาขาย่อยหนึ่งของชาวม้งในจีน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan77.jpg)
บ้านของชาวม้ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan78.jpg)
ถัดไปเป็นอาคารของชาวปู้หล่าง (布朗族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในมณฑลยูนนาน ประชากรไม่ถึงแสนคน ใช้ภาษาปู้หล่างซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาออสโตร-เอเชียติก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan79.jpg)
ต่อมาเป็นอาคารของชาวหว่า (佤族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนาน และในพม่า ใช้ภาษาหว่าซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาออสโตร-เอเชียติก ในจีนมีประชากรชาวหว่าประมาณ ๔ แสนกว่าคน แต่ในพม่ามีจำนวนมากกว่านั้น
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan80.jpg)
ตรงนี้มีจัดแสดงเต้นของชาวหว่าด้วย แต่วันนี้วันจันทร์ไม่มีการแสดงอยู่แล้ว
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan81.jpg)
อาคารที่พักของนักแสดง ห้ามเข้า
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan82.jpg)
จากนั้นถัดมาเป็นอาคารของชาวหลี (黎族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีประชากรประมาณล้านกว่า โดยหลักแล้วอาศัยอยู่ในเกาะไหหลำ ชาวหลีมีภาษาหลีเป็นภาษาของตัวเอง เป็นภาษาในตระกูลภาษาไท-กะได
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan83.jpg)
ภายในอาคารนี้จัดแสดงพวกอุปกรณ์เกษตร
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan84.jpg)
อาคารแบบหลังคาเหลี่ยม จำลองมาจากบ้านแบบพื้นเมืองของชาวหลีในเกาะไหหลำ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan85.jpg)
ภายใน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan86.jpg)
อาคารแบบหลังคาโค้ง จำลองมาจากบ้านพื้นเมืองของชาวหลีในเกาะไหหลำเช่นกัน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan87.jpg)
ต่อมาเป็นอาคารของชาวจิ่งพัว (景颇族) ซึ่งเป็นชนชาติที่อาศัยอยู่ในรัฐกะฉิ่นของพม่า สำหรับในจีนมีชาวจิ่งพัวประมาณแสนกว่าคน ภาษาจิ่งพัวจัดอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต ในพม่าเรียกชาวจิ่งพัวว่าชาวกะฉิ่น
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan88.jpg)
ภายในบ้านมีแขวนกระโหลกควายไว้ด้วย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan89.jpg)
เดินลึกเข้ามาอีกก็เจออาคารของชาวฮาหนี (哈尼族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนานของจีน มีประชากรอยู่ประมาณล้านกว่าคน ภาษาฮาหนีจัดอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต นอกจากนี้ชาวอาข่า (阿卡族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในไทยและพม่าก็ถูกจัดว่าเป็นสาขาย่อยของชาวฮาหนี
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan90.jpg)
ถัดจากนั้นเดินต่อมาก็เจออาคารของชาวอาชาง (阿昌族) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในมณฑลยูนนาน มีประชากรประมาณ ๓ หมื่นกว่า และยังมีอยู่ในพม่าด้วย ภาษาอาชางอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan91.jpg)
เท่านี้ก็เดินจนทั่วบริเวณเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นถ้าเดินต่อก็จะย้อนกลับมายังส่วนของชาวถู่ซึ่งผ่านมาแล้ว จากนั้นก็เดินย้อนไปอีกหน่อยผ่านย่านของชาวไทเพื่อมายังประตูทางออก ประตูทางเข้าออกนั้นทำในลักษณะคล้ายกับวัดของชาวไท
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/zhonghuaminzuyuan/beiyuan92.jpg)
เดินออกจากสวนมาอย่างเหนื่อยล้าเต็มที หลังจากที่ใช้เวลาเดินในนี้นานมาก รวมเวลาที่นั่งพักทานข้าวแล้วก็ประมาณ ๕ ชั่วโมงครึ่ง เป็นสถานที่ที่ใช้เวลาเดินมากจริงๆ นี่ขนาดดูแค่สิ่งก่อสร้าง ไม่ได้ชมการแสดงอะไร แถมไม่ได้ตั้งใจดูส่วนจัดแสดงภายในอาคารต่างๆอย่างละเอียดด้วย ถ้าจะเที่ยวละเอียดครบถ้วนจริงๆยังไงก็ต้องมาตั้งแต่เช้าแล้วออกตอนเย็นเลย
อย่างไรก็ตามเที่ยวนี้ถือว่าคุ้มมากสุดๆเลย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชนเผ่าทั้ง ๕๖ ในจีนทั้งหมด เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรู้ ใครสนใจเกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมพื้นเมืองต่างๆละก็ควรค่าแก่การมาอย่างมากเลย
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ