# อังคาร 5 ส.ค. 2025เมืองชิงงู (
新宮町) เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ทางเหนือของเมืองฟุกุโอกะ ปัจจุบันกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะที่อาศัยของคนที่มาหางานทำในฟุกุโอกะ เพราะมีรถไฟเดินทางสะดวกสามารถเดินทางเข้าถึงย่านใจกลางเมืองฟุกุโอกะได้ภายในประมาณครึ่งชั่วโมง
ตำแหน่งเมืองชิงงูภายในจังหวัดฟุกุโอกะแสดงเป็นสีเหลืองเข้มเล็กๆ เป็นเหมือนส่วนต่อเล็กๆงอกออกมาทางเหนือจากเมืองฟุกุโอกะ (สีม่วงทางซ้าย)


รถไฟสายที่ผ่านเมืองชิงงูมี ๒ สายคือสายหลักคาโงชิมะ (鹿児島本線) ของ JR กับสายไคซึกะ (貝塚線) ของบริษัทรถไฟเอกชน นิชิเทตสึ (西鉄)
สำหรับสายไคซึกะนั้น
สถานีนิชิเทตสึชิงงู (
西鉄新宮駅) ซึ่งอยู่ในเมืองชิงงูนั้นเป็นสถานีปลายทาง
ครั้งนี้เราตัดสินใจไปเดินแถวสุดปลายรถไฟสายนี้สักหน่อย เพราะไม่เคยมีโอกาสได้ไปถึงแถวนั้นเลย
แต่ว่าไม่ได้จะนั่งไปถึงปลายทางโดยตรง แต่เลือกที่จะไปลงที่
สถานีมิโตมะ (
三苫駅) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านมิโตมะทางตอนเหนือสุดของฟุกุโอกะ และเป็นสถานีก่อนสุดท้าย แล้วจึงเดินขึ้นเหนือข้ามไปยังเขตเมืองชิงงู แล้วขากลับค่อยกลับจากสถานีนิชิเทตสึชิงงู
การนั่งรถไฟสายไคซึกะต้องเริ่มจากมาเปลี่ยนรถที่
สถานีไคซึกะ (
貝塚駅) โดยนั่งรถไฟใต้ดินสายฮาโกซากิมาลง

ที่สถานีนี้เห็นมีแผนที่ที่แสดงสถานีทั้งหมดของสายนี้อยู่ มีทั้งหมด ๑๐ สถานีดังนี้

รถไฟที่ขึ้น ปลายทางอยู่ที่ชิงงู

แล้วรถไฟก็ออก มาจอดสถานีแรกคือ
สถานีนาจิมะ (
名島駅)

ต่อมาคือ
สถานีจิฮายะ (
千早駅) นี่เป็นสถานีสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนกับสถานีของ JR ด้วย

ถัดมาเป็น
สถานีคาชีมิยะ (
香椎宮前駅)

ตามด้วย
สถานีนิชิเทตสึคาชี (
西鉄香椎駅) ซึ่งก็เป็นจุดเปลี่ยนรถไฟที่สำคัญที่เชื่อมกับ
สถานีคาชี (
香椎駅) ของ JR เพียงแต่ว่าตั้งห่างกันไปนิดหน่อย ถือเป็นคนละสถานีแยกกัน

ต่อมาคือ
สถานีคาชีคาเองมาเอะ (
香椎花園前駅)

แล้วก็ต่อด้วย
สถานีโทวโนะฮารุ (
唐の
原駅)

ตามด้วย
สถานีวาจิโระ (
和白駅) ซึ่งก็เป็นจุดเปลี่ยนกับรถไฟสาย JR

แล้วจึงเดินทางมาถึงสถานีมิโตมะซึ่งเป็นเป้าหมาย

แตะบัตรออกมา ค่าโดยสารจากสถานีไคซึกะคือแค่ ๒๕๐ เยนเท่านั้น

เริ่มแรกเดินออกมาฝั่งตะวันออกของสถานี

แต่ก็พบว่าออกผิดทาง เป้าหมายเราอยู่ทางตะวันตกเลยเดินกลับเข้ามาเดินออกทางตะวันตก

ถ่ายตัวสถานีจากฝั่งตะวันตก

แล้วเดินไปในย่านทางตะวันตกของสถานี

เจอร้าน
เมนยะซาโดโตโมะ (
麺や
佐渡友) ที่ตั้งใจจะมากิน

ตอนที่มาถึงร้านมีคนเข้าแถวคิวต่อรออยู่พอสมควร จำเป็นต้องลงชื่อแล้วก็รอถึงจะได้เข้า

ระหว่างที่รอเราก็เลยออกมาเดินเที่ยวแถวนี้ไปก่อน ยังไงก็ตั้งใจจะเดินดูแถวชายฝั่งนิดหน่อยอยู่แล้ว ก็เดินผ่านย่านชุมชนตรงนี้เข้าไป





แล้วก็มาถึงบริเวณที่เรียกเป็นพื้นที่ป่าเล็กๆ

มีศาลเจ้าบูชาพระมัญชุศรี (
मञ्जुश्री) หรือเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า
มนจุโบซัตสึ (
文殊菩薩)

ทะลุป่ามาก็มองเห็นทะเลหาดทรายสวย

แต่ว่าไม่มีทางลงไปจากตรงนี้โดยตรง เพราะเป็นหน้าผา เลยได้แต่มองข้างบนนี้ ซึ่งก็สวยดี ไม่จำเป็นต้องลงไปก็ได้ ดูแล้วก็ไม่เห็นใครไปเดินตรงนั้นเลยด้วย


มองไปทางนี้เห็นมีคนมาเดินอยู่เหมือนกัน แต่อยู่ไกลเลยบอกยากว่ามาทำอะไรกัน

แล้วก็เดินต่อในป่าอีกหน่อย


ตรงนี้มีสุสานเล็กๆอยู่

ก็ไม่มีอะไรแล้ว รีบเดินย้อนกลับไปยังร้านราเมงก่อนที่เขาจะเรียกชื่อ

ย่านชุมชนระหว่างทางที่เดินผ่านขากลับ คนละทางกับที่เดินตอนแรก


แล้วก็กลับมาถึงร้านรออีกสักพักเขาก็เรียก โดยรวมแล้วเวลารอคิวคือประมาณ ๑๕ นาที เราใช้เวลาช่วงนั้นในการไปเดินเล่นถึงทะเล ก็กำลังดี

สั่งราเมงโชวยุใส่ซุปอาหารทะเล ๘๘๐ เยน

กินเสร็จก็เดินไปทางเหนือต่อ



ผ่านตรง
โรงเรียนประถมมิโตมะ (
三苫小学校)



เดินต่อมาตามทางเรื่อยๆ



แล้วก็ข้ามมาถึงเขตของเมืองชิงงูแล้ว มีป้ายเขียนบอกให้รู้

ยังคงเดินต่อไป

เลี้ยวซ้ายไปตรงนี้

ตรงนี้มีคิตามุกิจิโซว (
北向地蔵) อยู่


มีป้ายรถเมล์ท้องถิ่น
ชิงงูมาจิคอมมิวนิตีบัส (
新宮町コミュニティバス) ของที่นี่ซึ่งดูต่างไปจากของในเมืองฟุกุโอกะ

ตรงนี้มีทางเดินเข้าไปยัง
ศาลเจ้ามินาโตะวาดัตสึมิ (
湊綿津見神社) ก็เลยเดินเข้าไปดูสักหน่อย




แล้วก็เดินต่อมา

เห็นปาก
แม่น้ำมินาโตะ (
湊川) ที่ไหลออกสู่ทะเล

ตรงนี้มีอาคารหลังเล็กซึ่งเป็นร้านขายอุปกรณ์ตกปลา

แล้วก็มีสะพานให้ข้ามแม่น้ำไปได้


พอเดินข้ามไปก็มีทางเดินเล็กๆเลียบตามชายฝั่ง

จากตรงนี้ก็เดินไปยังทะเลได้

ตรงนี้เป็นหาดทรายเล็กๆ

ไหนๆได้มาหาดทรายของเมืองนี้แล้วก็ขอขีดเขียนชื่อเมือง "ชิงงู" เป็นอักษรไทยไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย

แต่ว่าในตอนนั้นฝนก็ตกลงมา แล้วก็เทกระหน่ำด้วย จึงต้องรีบหาที่หลบฝนโดยด่วน แต่แถวนั้นไม่มีอาคารอะไรเลย ทำให้ต้องวิ่งข้ามสะพานย้อนกลับไป

แล้วก็มาหลบฝนอยู่ตรงอาคารร้านขายอุปกรณ์ตกปลาที่เพิ่งผ่านมา

ก็รออยู่สักพักจนฝนพอจะเริ่มซาลงบ้างก็ไปต่อ ข้ามสะพานไปอีกรอบ

ทางเดินจากตรงนี้ไปสภาพกลายเป็นแบบนี้ไปเพราะฝน ทำให้เดินยาก

เดินเลียบชายฝั่งต่อมาเรื่อยๆ

แล้วก็ออกห่างจากชายฝั่ง

เข้าสู่ย่านชุมชน

ตรงนี้มี
วัดไซเนง (
西念寺)


เดินผ่านไปก็เจอแต่พวกบ้านคน ระหว่างทางก็มีช่วงที่ฝนตกหนักขึ้นมาทำให้ต้องมาหลบฝนตามหลังคาบ้านคนรอสักพักให้ฝนซาลงไปบ้าง


ตรงนี้มีศาลเจ้าอีกแห่ง ชื่อ
ศาลเจ้าอิโซซากิ (
磯崎神社)




เดินต่อไปยังสถานี


ตรงนี้ต้องผ่านรางรถไฟ



แล้วก็มาถึงสถานีนิชิเทนตสึชิงงู


แตะบัตรเข้าสถานี

รถไฟที่จะขึ้นมารออยู่แล้ว

ก็ได้เวลาขึ้นรถไฟเดินทางกลับ

มาลงที่สถานีไคซึกะเพื่อเปลี่ยนรถไปยังรถไฟใต้ดิน

เรามาลงที่
สถานีโกฟุกุมาจิ (
呉服町駅)

มานั่งดื่มกาแฟเล่นในร้านโดตอร์ (ドトール)


จนเวลาผ่านไปถึงช่วงใกล้เย็นก็ออกจากร้านมาหาอะไรกิน

ก็มาแวะที่ร้าน
ซายุริบาบะเตย์ (さゆりばぁば
亭) เป็นร้านจัมปงและคาราอาเงะ

ร้านเล็กมีแต่ที่นั่งเคาน์เตอร์แบบนี้


เราสั่งยากิจัมปง ๙๐๐ เยน

กินเสร็จก็เดินทางกลับ ก็เป็นอันจบการเที่ยววันนี้ลง