ชมซากุระบานในสวนสาธารณะไมซึรุรอบปราสาทฟุกุโอกะแล้วแวะกินราเมงแถวย่านรปปมมัตสึ
เขียนเมื่อ 2025/04/08 05:42
# พฤหัส 3 เม.ษ. 2025
วันก่อนได้แวะไปสวนสาธารณะนิชิ (西公園) ซึ่งเป็นสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อที่สุดของฟุกุโอกะมาแล้ว เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20250407
แต่ว่านอกจากนี้แล้วแถวสวนสาธารณะไมซึรุ (舞鶴公園) รอบปราสาทฟุกุโอกะ (福岡城) ซึ่งอยู่ใกล้กันนั้นก็ถือเป็นจุดชมซากุระที่โดดเด่นแห่งหนึ่งเช่นกัน
ที่นี่เราเคยแวะไปมาแล้ว เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20241110
แต่ว่าตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ร่วง จึงไม่มีซากุระบาน และพอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิซากุระก็เริ่มผลิบาน อีกทั้งยังมีจัดกิจกรรมชมซากุระด้วย ทำให้ดูแปลกตาไปมากราวกับเป็นคนละที่ จึงทำให้อยากแวะมา แม้ว่าจะเป็นที่ที่เคยมาแล้วก็ตาม
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากสถานีฮากาตะ มาได้ง่ายโดยนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีอากาซากะ (赤坂駅) ซึ่งก็เป็นสถานีก่อนสถานีโอโฮริโควเองที่มาลงเพื่อไปสวนสาธารณะนิชิวันก่อน
ที่จริงในวันเดียวจะแวะชม ๒ ที่พร้อมกันเลยก็ได้ถ้ามีเวลา แต่เราเลือกที่จะแยกเป็น ๒ วันเพราะมีเวลาแค่หลังเลิกงานเป็นหลัก และยังไงก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีฮากาตะ สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาได้ทันที
ตอนเช้าก็เดินผ่านสวนสาธารณะมิโนชิมะ (美野島公園) ซึ่งก็ยังคงมีซากุระบานสวยอยู่ตลอดจนอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปมาอีกเช่นเคย
ตอนเย็นหลังเลิกงานก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีอากาซากะ
จากสถานีเดินมาทางตะวันตก
ผ่านถนนริมสวนสาธารณะซึ่งก็เต็มไปด้วยซากุระบานสวยอยู่ และฝูงชนมากมาย
มาเดินริมน้ำตรงนี้ทิวทัศน์สวยดี
ซากุระบานเต็มริมน้ำ ฉากหลังเป็นท้องฟ้ายามพลบค่ำ สวยงามมาก
เดินเข้าบริเวณสวนสาธารณะ เห็นทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยกำแพงปราสาทและซากุระ
ผู้คนต่างมาชมซากุระกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
พื้นที่ลานกว้างกลางขนาดใหญ่กลางสวนสาธารณะก็มีคนมานั่งเล่นกัน
หอจัดแสดงซากโควโระกัง (鴻臚館) อยู่ตรงมุมนึงของลานกว้างนี้ แต่ว่าดูเงียบเหงาไม่โดดเด่น และเวลานี้ก็ปิดไปแล้วด้วย
เดินต่อลึกเข้าไปด้านใน
มองไปส่วนใจกลางเห็นอาคารหอหลักของปราสาท ซึ่งที่จริงเดิมทีไม่น่าจะมีอยู่ เพราะปราสาทฟุกุโอกะยังไม่เคยมีการสร้างจำลองหอหลักขึ้นมาใหม่
ลองมองเข้าไปดูจึงรู้ว่าอาคารหอปราสาทที่เห็นอยู่นั้นเป็นแค่โครงสร้างแบบง่ายๆที่สร้างมาชั่วคราวเพื่อเป็นจุดสนใจในช่วงนี้ และมีการประดับไฟด้วย ดูไม่ได้สวยนัก แต่ถ้ามาตอนกลางคืนฟ้ามืดน่าจะสวยกว่านี้
การจะเข้าชมด้านในจำเป็นต้อนจ่ายค่าเข้าชม ๖๐๐ เยน นอกจากนี้ภายในบริเวณนี้ยังมีที่อื่นที่ต้องจ่ายเงินเข้าชมด้วย รวมแล้ว ๓ จุด แต่ละที่ต้องจ่าย ๖๐๐ เยน แต่ถ้าจ่ายรวม ๓ ที่ก็จะเป็น ๑๕๐๐ เยน
จุดตรวจตั๋วเข้าชม จากตรงนี้ถ้าไม่จ่ายเงินก็เข้าไม่ได้
เราตัดสินใจไม่เข้าไปชม ดูแค่ด้านนอกก็พอแล้ว ซากุระส่วนใหญ่ก็อยู่ในบริเวณรอบนอก
ส่วนตรงนี้เป็นอาคารทามงยางุระ (多聞櫓) ซึ่งปกติแล้วก็เปิดให้เข้าได้ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ว่าเวลานี้ต้องเสีย ๖๐๐ เยน จึงไม่ได้เข้าไป
จุดขายบัตรเข้าชมอีกจุด
เมื่อไม่ได้จ่ายเงินเข้าชมการเที่ยวที่นี่ก็จบลงแค่นี้ ซึ่งก็คิดว่าแค่นี้เพียงพอแล้ว ยังไงก็เป็นเวลาเย็นแล้วก็อยากรีบไปหาอะไรกินแล้วกลับมากกว่า
จากตรงนี้เดินออกจากบริเวณสวนไปทางตะวันตกเฉียงใต้
มองกลับขึ้นไปยังเห็นส่วนของทามงยางุระ
คูบัวรอบบริเวณปราสาท
จากนั้นข้ามฝั่งถนนไปยังศาลเจ้าโกโกกุจังหวัดฟุกุโอกะ (福岡縣護國神社) ซึ่งครั้งก่อนก็เคยแวะมาชมแล้วเช่นกัน
ภายในบริเวณนี้ไม่มีต้นซากุระ เลยดูเงียบเหงา ไม่ได้ต่างจากครั้งที่แล้วที่มานัก แต่ก็บรรยากาศดีน่าเดินอยู่
ครั้งนี้เราเดินออกมาฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของศาลเจ้า ไม่ได้กลับไปยังทางสวนสาธารณะไมซึรุแล้ว
หันกลับมาถ่ายเสาโทริอิทางเข้าหลังออกมา
อีกด้านของศาลเจ้านี้เมื่อออกมาเป็นย่านที่เรียกว่า รปปมมัตสึ (六本松) ย่านนี้มีสถานีรปปมมัตสึ (六本松駅) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินในสายนานากุมะ เราตั้งใจจะมากลับจากสถานีนี้ แต่ก่อนอื่นก็แวะหาอะไรกินเป็นมื้อเย็นก่อน
ลองค้นดูในกูเกิลแมปแล้วพบว่าแถวนี้มีร้านเกี๊ยวซ่าอิตเตตสึ (餃子一鉄) ซึ่งก็ดูน่ากิน เห็นชื่อแบบนี้แต่ก็ไม่ได้มีแต่เกี๊ยวซ่า ยังมีราเมงด้วย ตอนแรกก็ตั้งใจจะมากินร้านี้ แต่พอมาถึงก็ไม่รู้ว่าทำไมร้านปิดอยู่ ลองดูป้ายหน้าร้านแล้วก็มีบอกว่าเมื่อวานขอหยุดร้าน ดูท่าแล้วสงสัยจะมีเหตุอะไรทำให้ต้องหยุดเพิ่มอีกวัน
หลังจากนั้นเลยเดินหาร้านต่อแถวนั้น
ก็มาเจอร้านราเมง คารากิยะ (唐木屋) ซึ่งก็เป็นราเมงกระดูกหมูแบบที่พบได้ทั่วไปในฟุกุโอกะ ร้านนี้มีหลายสาขา ที่นี่เป็นสาขารปปมมัตสึ
ซื้อตั๋วที่เครื่อง จะเห็นว่าราเมงพื้นฐานที่สุดของร้านนี้ราคาแค่ ๔๕๐ เยน ถือว่าเป็นร้านที่ถูกที่สุดร้านนึงในฟุกุโอกะ แต่ว่าราเมงถูกสุดมีแค่หมูนิดหน่อยเท่านั้น เราจึงตัดสินใจสั่งแบบจาชูเมง (チャーシュー麺) ซึ่งใส่เนื้อหมูแบบจัดเต็ม ราคา ๗๒๐ ก็ถือว่าถูกอยู่ดี
ภายในร้าน
แล้วราเมงที่สั่งก็มา
ร้านนี้มีให้ใส่ขิงดองเบนิโชวงะและเมล็ดงาได้ไม่อั้นด้วย ก็เลยขอจัดเต็ม เพื่อสุขภาพ
กินเสร็จก็เดินไปยังสถานีรปปมมัตสึเพื่อเดินทางกลับ ระหว่างทางมองดูย่านในเมืองแถวๆนี้ ก็รายล้อมไปด้วยตึกสูง ไม่ต่างจากย่านฮากาตะนัก แถวนี้เองก็ยังถือว่าอยู่ในย่านใจกลางเมืองฟุกุโอกะ
ถึงสถานีแล้วก็ลงไปนั่งรถไฟใต้ดินเดินทางกลับ
ก็เป็นอีกวันที่ได้ชมซากุระสวย แม้จะเป็นสถานที่ซึ่งเคยไปมาแล้ว แต่พอกลับมาอีกทีในฤดูกาลที่ต่างไปก็ได้สนุกในแบบที่ต่างออกไป
วันก่อนได้แวะไปสวนสาธารณะนิชิ (西公園) ซึ่งเป็นสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อที่สุดของฟุกุโอกะมาแล้ว เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20250407
แต่ว่านอกจากนี้แล้วแถวสวนสาธารณะไมซึรุ (舞鶴公園) รอบปราสาทฟุกุโอกะ (福岡城) ซึ่งอยู่ใกล้กันนั้นก็ถือเป็นจุดชมซากุระที่โดดเด่นแห่งหนึ่งเช่นกัน
ที่นี่เราเคยแวะไปมาแล้ว เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20241110
แต่ว่าตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ร่วง จึงไม่มีซากุระบาน และพอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิซากุระก็เริ่มผลิบาน อีกทั้งยังมีจัดกิจกรรมชมซากุระด้วย ทำให้ดูแปลกตาไปมากราวกับเป็นคนละที่ จึงทำให้อยากแวะมา แม้ว่าจะเป็นที่ที่เคยมาแล้วก็ตาม
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากสถานีฮากาตะ มาได้ง่ายโดยนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีอากาซากะ (赤坂駅) ซึ่งก็เป็นสถานีก่อนสถานีโอโฮริโควเองที่มาลงเพื่อไปสวนสาธารณะนิชิวันก่อน
ที่จริงในวันเดียวจะแวะชม ๒ ที่พร้อมกันเลยก็ได้ถ้ามีเวลา แต่เราเลือกที่จะแยกเป็น ๒ วันเพราะมีเวลาแค่หลังเลิกงานเป็นหลัก และยังไงก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีฮากาตะ สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาได้ทันที
ตอนเช้าก็เดินผ่านสวนสาธารณะมิโนชิมะ (美野島公園) ซึ่งก็ยังคงมีซากุระบานสวยอยู่ตลอดจนอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปมาอีกเช่นเคย
ตอนเย็นหลังเลิกงานก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีอากาซากะ
จากสถานีเดินมาทางตะวันตก
ผ่านถนนริมสวนสาธารณะซึ่งก็เต็มไปด้วยซากุระบานสวยอยู่ และฝูงชนมากมาย
มาเดินริมน้ำตรงนี้ทิวทัศน์สวยดี
ซากุระบานเต็มริมน้ำ ฉากหลังเป็นท้องฟ้ายามพลบค่ำ สวยงามมาก
เดินเข้าบริเวณสวนสาธารณะ เห็นทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยกำแพงปราสาทและซากุระ
ผู้คนต่างมาชมซากุระกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
พื้นที่ลานกว้างกลางขนาดใหญ่กลางสวนสาธารณะก็มีคนมานั่งเล่นกัน
หอจัดแสดงซากโควโระกัง (鴻臚館) อยู่ตรงมุมนึงของลานกว้างนี้ แต่ว่าดูเงียบเหงาไม่โดดเด่น และเวลานี้ก็ปิดไปแล้วด้วย
เดินต่อลึกเข้าไปด้านใน
มองไปส่วนใจกลางเห็นอาคารหอหลักของปราสาท ซึ่งที่จริงเดิมทีไม่น่าจะมีอยู่ เพราะปราสาทฟุกุโอกะยังไม่เคยมีการสร้างจำลองหอหลักขึ้นมาใหม่
ลองมองเข้าไปดูจึงรู้ว่าอาคารหอปราสาทที่เห็นอยู่นั้นเป็นแค่โครงสร้างแบบง่ายๆที่สร้างมาชั่วคราวเพื่อเป็นจุดสนใจในช่วงนี้ และมีการประดับไฟด้วย ดูไม่ได้สวยนัก แต่ถ้ามาตอนกลางคืนฟ้ามืดน่าจะสวยกว่านี้
การจะเข้าชมด้านในจำเป็นต้อนจ่ายค่าเข้าชม ๖๐๐ เยน นอกจากนี้ภายในบริเวณนี้ยังมีที่อื่นที่ต้องจ่ายเงินเข้าชมด้วย รวมแล้ว ๓ จุด แต่ละที่ต้องจ่าย ๖๐๐ เยน แต่ถ้าจ่ายรวม ๓ ที่ก็จะเป็น ๑๕๐๐ เยน
จุดตรวจตั๋วเข้าชม จากตรงนี้ถ้าไม่จ่ายเงินก็เข้าไม่ได้
เราตัดสินใจไม่เข้าไปชม ดูแค่ด้านนอกก็พอแล้ว ซากุระส่วนใหญ่ก็อยู่ในบริเวณรอบนอก
ส่วนตรงนี้เป็นอาคารทามงยางุระ (多聞櫓) ซึ่งปกติแล้วก็เปิดให้เข้าได้ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ว่าเวลานี้ต้องเสีย ๖๐๐ เยน จึงไม่ได้เข้าไป
จุดขายบัตรเข้าชมอีกจุด
เมื่อไม่ได้จ่ายเงินเข้าชมการเที่ยวที่นี่ก็จบลงแค่นี้ ซึ่งก็คิดว่าแค่นี้เพียงพอแล้ว ยังไงก็เป็นเวลาเย็นแล้วก็อยากรีบไปหาอะไรกินแล้วกลับมากกว่า
จากตรงนี้เดินออกจากบริเวณสวนไปทางตะวันตกเฉียงใต้
มองกลับขึ้นไปยังเห็นส่วนของทามงยางุระ
คูบัวรอบบริเวณปราสาท
จากนั้นข้ามฝั่งถนนไปยังศาลเจ้าโกโกกุจังหวัดฟุกุโอกะ (福岡縣護國神社) ซึ่งครั้งก่อนก็เคยแวะมาชมแล้วเช่นกัน
ภายในบริเวณนี้ไม่มีต้นซากุระ เลยดูเงียบเหงา ไม่ได้ต่างจากครั้งที่แล้วที่มานัก แต่ก็บรรยากาศดีน่าเดินอยู่
ครั้งนี้เราเดินออกมาฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของศาลเจ้า ไม่ได้กลับไปยังทางสวนสาธารณะไมซึรุแล้ว
หันกลับมาถ่ายเสาโทริอิทางเข้าหลังออกมา
อีกด้านของศาลเจ้านี้เมื่อออกมาเป็นย่านที่เรียกว่า รปปมมัตสึ (六本松) ย่านนี้มีสถานีรปปมมัตสึ (六本松駅) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินในสายนานากุมะ เราตั้งใจจะมากลับจากสถานีนี้ แต่ก่อนอื่นก็แวะหาอะไรกินเป็นมื้อเย็นก่อน
ลองค้นดูในกูเกิลแมปแล้วพบว่าแถวนี้มีร้านเกี๊ยวซ่าอิตเตตสึ (餃子一鉄) ซึ่งก็ดูน่ากิน เห็นชื่อแบบนี้แต่ก็ไม่ได้มีแต่เกี๊ยวซ่า ยังมีราเมงด้วย ตอนแรกก็ตั้งใจจะมากินร้านี้ แต่พอมาถึงก็ไม่รู้ว่าทำไมร้านปิดอยู่ ลองดูป้ายหน้าร้านแล้วก็มีบอกว่าเมื่อวานขอหยุดร้าน ดูท่าแล้วสงสัยจะมีเหตุอะไรทำให้ต้องหยุดเพิ่มอีกวัน
หลังจากนั้นเลยเดินหาร้านต่อแถวนั้น
ก็มาเจอร้านราเมง คารากิยะ (唐木屋) ซึ่งก็เป็นราเมงกระดูกหมูแบบที่พบได้ทั่วไปในฟุกุโอกะ ร้านนี้มีหลายสาขา ที่นี่เป็นสาขารปปมมัตสึ
ซื้อตั๋วที่เครื่อง จะเห็นว่าราเมงพื้นฐานที่สุดของร้านนี้ราคาแค่ ๔๕๐ เยน ถือว่าเป็นร้านที่ถูกที่สุดร้านนึงในฟุกุโอกะ แต่ว่าราเมงถูกสุดมีแค่หมูนิดหน่อยเท่านั้น เราจึงตัดสินใจสั่งแบบจาชูเมง (チャーシュー麺) ซึ่งใส่เนื้อหมูแบบจัดเต็ม ราคา ๗๒๐ ก็ถือว่าถูกอยู่ดี
ภายในร้าน
แล้วราเมงที่สั่งก็มา
ร้านนี้มีให้ใส่ขิงดองเบนิโชวงะและเมล็ดงาได้ไม่อั้นด้วย ก็เลยขอจัดเต็ม เพื่อสุขภาพ
กินเสร็จก็เดินไปยังสถานีรปปมมัตสึเพื่อเดินทางกลับ ระหว่างทางมองดูย่านในเมืองแถวๆนี้ ก็รายล้อมไปด้วยตึกสูง ไม่ต่างจากย่านฮากาตะนัก แถวนี้เองก็ยังถือว่าอยู่ในย่านใจกลางเมืองฟุกุโอกะ
ถึงสถานีแล้วก็ลงไปนั่งรถไฟใต้ดินเดินทางกลับ
ก็เป็นอีกวันที่ได้ชมซากุระสวย แม้จะเป็นสถานที่ซึ่งเคยไปมาแล้ว แต่พอกลับมาอีกทีในฤดูกาลที่ต่างไปก็ได้สนุกในแบบที่ต่างออกไป
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
หมวดหมู่
-- ประเทศญี่ปุ่น >> ฟุกุโอกะ-- ท่องเที่ยว >> ราเมง
-- ท่องเที่ยว >> ดอกซากุระ
-- ท่องเที่ยว >> ปราสาท☑ >> ปราสาทญี่ปุ่น