# อาทิตย์ 18 พ.ค. 2025วันนี้ได้แวะไปหาร้านราเมงกินแถวย่านเบฟุ เป้าหมายอยู่ที่ร้านเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ
โคมุงิ (コムギ) อยู่ในย่าน
เบฟุ (
別府) ใน
เขตโจวนัง (
城南区) ของฟุกุโอกะ
ชื่อเบฟุนี้เขียนเป็นคันจิเหมือนกับชื่อ
เมืองเบปปุ (
別府市) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดโออิตะข้างๆ แต่ว่าอ่านต่างกัน และไม่มีความเกี่ยวข้องกัน (เกี่ยวกับเรื่องเบปปุเราเคยไปเที่ยวมาแล้ว เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20241117)
การเดินทางมานั้นก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่
สถานีเบฟุ (
別府駅)


จากนั้นก็เดินไปทางตะวันตก


เดินผ่านตรงนี้เป็น
มหาวิทยาลัยนากามุระงากุเอง (
中村学園大学) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดเล็ก


ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย

เดินต่อมา

แล้วก็มาถึงอาคารที่ร้านโคมุงิตั้งอยู่

แต่พอมาก็พบว่าร้านกำลังปิดอยู่

หน้าร้านมีเขียนปฏิทินบอกว่าวันไหนเปิดร้าน วันไหนหยุด ซึ่งก็เห็นได้ว่าหยุดไม่เป็นเวลา ถ้ามาโดยไม่รู้ก็ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะปิดเมื่อไหร่ แต่ว่ากำหนดการได้เขียนไว้แน่ชัด โดยลงใน facebook ด้วย
https://www.facebook.com/profile.php?id=100063481601282 ดังนั้นต้องตรวจดูให้แน่ก่อนมา แต่ครั้งนี้เรามาโดยไม่รู้ก็เลยเสียเที่ยวเลย

เมื่อไม่ได้กินร้านที่ตั้งใจไว้ตอนแรกก็เลยต้องเดินหาร้านอื่นต่อไป โดยตัดสินใจเดินต่อไปทางตะวันตก เข้าสู่ย่าน
อาราเอะ (
荒江)





ผ่านมาจนถึงจุดตัดกับถนน
ซาวาระไคโดว (
早良街道) ซึ่งเป็นถนนที่แบ่งเขตระหว่างเขตโจวนังกับเขตซาวาระ โดยทางตะวันออก (ฝั่งซ้าย) เป็นส่วนของเขตโจวนัง ในขณะที่ทางตะวันตก (ฝั่งขวา) เป็นส่วนของเขตซาวาระ

แล้วเดินต่อมาก็เจอร้าน
นางาซากิจัมปงเทนริว (
長崎ちゃんぽん
天龍) ซึ่งที่จริงแล้วเคยแวะมากินครั้งนึง แต่ว่าวันนี้ร้านปิดอยู่

เดินย้อนกลับมาแล้วเดินลงไปทางใต้ไปตามถนนซาวาระไคโดว แถวนี้เรียกว่าเป็นย่าน
อีกุระ (
飯倉)

ก็เจอร้านราเมงอีกร้าน ชื่อว่าร้าน
ฮากาตะราเมงฮามุตะ (
博多ラーメンはむ
太) ดูจะเป็นร้านเล็กๆแต่เป็นที่นิยมอยู่ มีคนมารอต่อแถวคิวหน้าร้าน ถ้าจะกินก็คงต้องรอสักพัก

และเดินถัดมาอีกหน่อยก็มีร้านราเมงอีกร้าน ชื่อ
จูกะเมงคิจจิงมากุริ (
中華麺キッチンまくり)

แล้วตรงกันข้ามนั้นเป็นร้าน
ยุเมะมิเตะนัมโบะ (
夢みてなんぼ) เป็นร้านราเมงแบบ
จิโรวเกย์ (
二郎系) เช่นเดียวกับร้านที่เคยเล่าถึงไปก่อนหน้านี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20241226
ภายในร้าน ที่นี่มีแต่ที่นั่งเคาน์เตอร์ ร้านเล็กๆที่นั่งมีแค่นี้

เมื่อเข้าร้านก็เริ่มจากจ่ายเงินที่เครื่องขาย เลือกปริมาณได้ ราคาต่างไปตามปริมาณเส้นและจำนวนชิ้นหมู เราเลือกขนาดเล็กและใส่หมู ๒ ชิ้น ราคา ๑๓๐๐ เยน ก็ถือว่าค่อนข้างแพง แต่ว่าราเมงจิโรวเกย์ส่วนใหญ่ก็ราคาค่อนข้างแพงแบบนี้อยู่แล้ว

มานั่งตรงที่นั่งเคาน์เตอร์ซ้ายสุด

รอสักพักแล้วเขาก็จะถามว่าจะเอากระเทียมมั้ย แล้วจึงจัดราเมงใส่ชามแล้วเอามาส่งให้ หลังจากนั้นเราจึงมารู้สึกตัวขึ้นได้ว่ามันไม่มีผักเลย มีแต่ถั่วงอกแค่นิดเดียว พอถามเขาว่าเติมผักได้มั้ยเขาก็กลับตอบว่าถ้าจะให้เติมผักต้องบอกตั้งแต่ตอนที่ถามว่าเอากระเทียมมั้ย นี่เป็นกฎของร้านนี้ ซึ่งเขาก็มีติดป้ายเขียนไว้ในร้าน แต่ก็ไม่ได้บอกสักคำ แล้วถ้าคนไม่รู้ทำยังไงล่ะ ที่จริงแล้วร้านราเมงแบบจิโรวเกย์ก็มักจะมีกฎยุ่งยากเฉพาะของร้านอยู่ซึ่งคนมากินก็จำเป็นต้องรู้กัน คนไม่รู้จะบ่นอะไรก็ไม่ได้ ร้านแบบนี้มักหากินกับลูกค้าขาประจำที่กินแล้วมาอีกบ่อย และไม่ได้ง้อลูกค้า ถ้าใครไม่พอใจก็ไม่ต้องมากิน ฉะนั้นร้านพวกนี้อาจไม่เหมาะกับคนต่างชาตินัก แต่ว่าร้านอาหารที่ญี่ปุ่นมักถือว่าเจ้าของร้านเป็นใหญ่แบบนี้แหละ

โดยรวมแล้วราเมงชามนี้ก็อร่อยดี และเพราะสั่งแบบขนาดเล็กก็เลยสามารถกินหมดได้ไม่ลำบากนัก ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าร้านจิโรวเกย์บางร้านที่ต่อให้สั่งขนาดเล็กก็ยังใหญ่เกินจนกินหมดไม่ได้ เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้ใส่ผักเลย ทำให้รู้สึกขาดอะไรไป น่าเสียดายเหมือนกัน คราวหลังถ้าจะกินร้านราเมงจิโรวเกย์อีกคงต้องรอบคอบกว่านี้
หลังกินเสร็จออกมาก็พบว่ามีคนมาต่อคิวรอหน้าร้านด้วย ตอนที่เราเข้ามายังไม่มีคิว เข้าได้สบายอยู่เลย

หลังจากนั้นก็เดินย้อนกลับไปตามทางที่มา


แล้วก็มาขึ้นรถเมล์เพื่อเดินทางกลับ

ที่จริงตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องมาเล่า แต่พอพลาดร้านราเมงที่ตั้งใจมากินตอนแรกแล้วไปเจอร้านอื่นอีกหลายร้านจนได้เข้าร้านจิโรวเกย์แทนก็เลยมีเรื่องมาให้เขียน