φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



caligula overdose ตอนที่ ๒: เดินทั่วโรงเรียนเพื่อตามหาหนุ่มแว่น
เขียนเมื่อ 2020/07/22 11:23
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
>> ตอนที่แล้ว

ชมรมกลับบ้านเริ่มปฏิบัติการ

หลังจากที่ตัดสินในจะเผชิญหน้ากับนักดนตรีออสตินาโตเพื่อตามหามิวแล้ว สมาชิกชมรมกลับบ้านทั้ง ๖ คนก็ออกมาจากห้อง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเพลงดังขึ้น



เพลงนั้นคือเพลง ปีเตอร์แพนซินโดรม (ピーターパンシンドロームpeter pan syndrome) แต่งโดยนักดนตรีออสตินาโตคนหนึ่งชื่อคางิพี (カギP)

เนื้อเพลงได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่อยากเป็นเด็กอยู่ไปตลอด กลัวการที่จะต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องมาใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองไม่ต้องการ อยากเป็นเด็กอยู่ตลอดมีความใฝ่ฝันอยู่ได้เรื่อยไป สามารถเชื่อนมั่นในความเป็นไปได้ในอนาคตของตัวเอง อยากให้คนยอมรับตัวเองในแบบที่เป็นอยู่นี้

♫ ฟังเพลงนี้ใน youtube

การที่จู่ๆเพลงนี้ดังขึ้นมาทำให้รู้ว่าคางิพีน่าจะอยู่ในโรงเรียนนี้ ซึ่งถือเป็นจังหวะเหมาะ ดังนั้นภารกิจแรกจึงเป็นการตามหาตัวคางิพี

※ ภายในเกมนักดนตรีออสตินาโตแต่ละคนจะมีเพลงของตัวเองอยู่ ซึ่งจะปรากฏเป็นเพลงฉากหลังในด่านที่นักดนตรีคนนั้นเป็นบอสอยู่

ตามเนื้อเรื่องแล้วเพลงเหล่านี้ตัวละครแต่ละคนเป็นคนแต่งให้มิวร้อง โดยเนื้อหาจะสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องของตัวละครนั้น เพราะเพลงเหล่านี้ถ่ายทอดความรู้สักของคนแต่งออกมา

ส่วนในความเป็นจริงแต่ละเพลงก็ถูกแต่งโดยนักแต่งเพลงหลายคนที่ใช้โปรแกรมสังเคราะห์เสียงร้องเพลง VOCALOID เพื่อแต่งเพลงและมีผลงานอยู่ในเน็ตมาก่อนจริงๆ

เช่นเพลงปีเตอร์แพนซินโดรมซึ่งในเรื่องเป็นเพลงของคางิพี ผู้แต่งจริงชื่อว่า 40 เมตรพี (40mP) ซึ่งมีผลงานเพลงที่แต่งให้ VOCALOID ฮัตสึเนะ มิกุ (初音 ミク) ร้อง

ในเกมเพลงจะปรากฏมาแค่ทำนองขณะที่เดินอยู่ในฉาก แต่เมื่อเริ่มเข้าฉากต่อสู้จึงจะมีเนื้อร้องดังขึ้นมา พอสู้จบก็กลับมาเหลือแต่ทำนองเพลง


ครั้งนี้สมาชิกชมรมกลับบ้านทั้ง ๖ คนได้แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน โดยตัวเราไปกับโชวโงะและโคโตโนะ โดยจะเดินตามหาที่ชั้น ๒ ส่วนโคตาโรว มิฟุเอะ สึซึนะ แยกไปอีกกลุ่ม



การเดินสำรวจโรงเรียนจึงเริ่มขึ้น โดยรวมแล้วมีนักเรียนประมาณ ๕๐๐ คน แต่ละคนจะมีชื่อและเลเวล ตอนหลังสามารถชวนเข้ามาร่วมสู้ได้ แต่บางคนก็อาจกลายเป็นดิจิเฮดแล้วโจมตีใส่ก็ต้องสู้แล้วล้มเพื่อให้เขาคืนสติกลับมา ส่วนกรอบสีเหลืองแสดงถึงความสนิท ถ้า 0 คือไม่รู้จัก ถ้า 3 คือเป็นเพื่อนกัน



นักเรียนแต่ละคนก็มีเรื่องกลุ้มใจเป็นของตัวเองอยู่เหมือนกันจึงได้มาอยู่ที่โลกเมอบิอุสแห่งนี้ สามารถตรวจดูข้อมูลของนักเรียนแต่ละคนได้ แต่ข้อมูลจะขึ้นแค่บางส่วน จนกว่าจะสนิทกันมากขึ้นหรือช่วยแก้ปัญหาในใจของเขาได้



ระหว่างทางก็เจอนักเรียนมากมายซึ่งเราได้เข้าไปคุยแต่ก็ไม่ได้เจอข้อมูลอะไรเพิ่มเติม และนักเรียนบางคนฟังเพลงของมิวแล้วกลายเป็นดิจิเฮด เมื่อเดินไปเจอเข้าก็ต้องต่อสู้



โดยตอนนี้คนที่สู้ได้ยังมีเพียงตัวเราคนเดียว จึงต้องสู้คนเดียวไปก่อน



ระหว่างทางเจอวัตถุส่องแสงสีฟ้าที่เรียกว่า "สติกมา" (スティグマstigma) อาเรียก็อธิบายให้รู้ว่านี่เป็นเศษซากของวิญญาณของผู้คนที่อยู่ที่เมอบิอุสแห่งนี้ ถ้าเก็บไปก็จะเป็นพลังในการต่อสู้ได้



※ ที่จริงแล้วสติกมาก็คือไอเท็มภายในเกมนี้นั่นเอง ตลอดเกมจะเจอสติกมาเต็มไปหมดให้เก็บตามทาง

แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่อง แค่เป็นพวกไอเท็มที่เอาไว้สวมใส่เสริมพลังโจมตีหรือป้องกันให้ผู้เล่นใช้ในการต่อสู้




สาวแว่นช่วยตามหาหนุ่มแว่น

หลังจากเดินวนอยู่ในชั้น ๒ จนดูแล้วท่าจะไม่ได้เรื่องอะไรเพิ่มเติม ก็ตัดสินใจกลับไปรวมตัวกับอีก ๓ คนเพื่อรวบรวมข้อมูล

สุดท้ายทั้ง ๖ คนก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งโดยที่ยังไม่มีใครได้เรื่องอะไรคืบหน้า



ในขณะที่ทุกคนกำลังลังเลว่าควรทำยังไงต่อดี ก็มีสาวแว่นคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอคือโมริตะ นารุโกะ (守田 鳴子もりた なるこ) อยู่ชั้น ม.๕ เช่นเดียวกับตัวเราแต่อยู่คนละห้อง



จู่ๆเธอก็เข้ามาถามเรื่องชมรมกลับบ้าน เพราะได้ข่าวลือมาว่าเป็นชมรมกลับบ้านเป็นองค์กรลับที่เข้าถึงความลับของโลกนี้ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นสมาชิกบ้างและอยู่ที่ไหน เธอต้องการหาข้อมูลเพื่อไปโพสต์ในอินเทอร์เน็ตให้คนมาตามอ่านเรียกยอดเข้าชม

ตอนแรกโคโตโนะพยายามจะไม่ยอมบอกว่าจริงๆชมรมกลับบ้านก็คือพวกเรานั่นเอง เพราะนี่เป็นความลับถ้าถูกพวกศัตรูรู้เข้าก็จะลำบากได้

แต่โคตาโรวก็เผลอหลุดปากบอกออกมาให้นารุโกะรู้จนได้ แต่พวกโชวโงะก็พยายามช่วยกลบเกลื่อนว่าชมรมกลับบ้านก็แค่กลุ่มคนที่สนิทกันมารวมตัวกัน ไม่ได้มีความลับอะไร แล้วเปลี่ยนเรื่องไปถามถึงคางิพี เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล ปรากฏว่านารุโกะมีข้อมูลเรื่องนี้อยู่ โดยได้ข่าวว่าคางิพีเป็นนักเรียนห้อง ๖/๔



ทุกคนจึงตัดสินใจขึ้นไปห้อง ๖/๔ ซึ่งอยู่ชั้น ๓ โดยนารุโกะก็ขอตามไปด้วย ระหว่างกำลังเดินขึ้นบันไดไปก็เจอเพื่อนห้องเดียวกับนารุโกะ ชื่อมิซึงุจิ มาริเอะ (水口 茉莉絵みずぐち まりえ)







มาริเอะ

※ ส่วนนี้ต่างจากในอนิเมะ: โดยในอนิเมะนั้นมาริเอะจะรู้จักและสนิทสนมกับตัวเอกและปรากฏตัวบ่อยด้วย

แต่ในเกมจะรู้จักมาริเอะผ่านนารุโกะอีกที และไม่ได้มีบทเด่นมาก แต่ก็ถือเป็นตัวละครสำคัญคนหนึ่งที่จะมีบทในตอนหลัง

เรื่องราวของมาริเอะได้ถูกเขียนเป็นนิยายแยกต่างหากด้วย カリギュラ EPISODE水口茉莉絵~彼女の見た世界~

นิยายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในเกมโดยผ่านมุมมองของมาริเอะ แล้วจะเห็นว่าเธอมีบทบาทมากกว่าแค่ที่เห็นจากในเกม มีความใกล้ชิดกับตัวละครในชมรมหลายคน ไม่ใช่แค่นารุโกะ

อย่างไรก็ตาม นิยายนี้เหมาะสำหรับคนที่เล่นเกมจบแล้วค่อยมาอ่านเพราะต้องรู้ตอนจบมาแล้วจึงจะอ่านได้เข้าใจ




เมื่อขึ้นไปชั้น ๓ จู่ๆก็มีดิจิเฮดเข้ามาจับตัวโคโตโนะลากเข้าห้องเรียนห้องหนึ่งไป





เมื่อเข้าไปช่วย โชวโงะก็เริ่มใช้คาธาร์สิสขึ้นมาได้อีกคน



ครั้งนี้จึงร่วมมือกัน ๒ คนช่วยกันสู้กับดิจิเฮด ช่วยโคโตโนะได้สำเร็จ



โคโตโนะเห็นทั้ง ๒ คนต่อสู้ก็ถามว่าทำยังไงถึงจะได้พลังแบบนี้บ้าง อาเรียจึงบอกว่าถ้ามีเรื่องที่อัดอั้นในใจก็จะระเบิดออกมาเป็นพลังแบบนี้ได้ โคโตโนะเลยลองนึกถึงเรื่องที่อัดอั้นอยู่ภายในใจขึ้นมาดูปรากฏว่าจู่ๆก็สามารถเรียกใช้พลังขึ้นมาได้อย่างง่ายดายจนแม้แต่อาเรียก็ยังตกใจ





ส่วนนารุโกะซึ่งยังไม่ได้รู้สึกตัวถึงความจริงของโลกนี้ก็จะมองไม่เห็นคาธาร์สิสหรือดิจิเฮด แต่จะเห็นเหมือนกับว่ากำลังต่อสู้ตบตีกันธรรมดา มองแล้วก็ได้แต่สงสัยว่าชมรมกลับบ้านคงไปก่อเรื่องอะไรบางอย่างไว้แน่ถึงได้อยู่ดีๆถูกเล่นงาน





จากนั้นเดินออกจากห้องเพื่อมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อ ระหว่างทางก็ยังเจอพวกดิจิเฮด แต่ตอนนี้สู้ได้ ๓​ คนจึงสบายขึ้นมาก



ระหว่างทางก็เดินชนเข้ากับนักเรียนหญิงคนหนึ่ง แต่พอเห็นเราเธอก็โจมตีใส่แล้วก็หนีไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร



แล้วก็เดินมาจนถึงห้อง ๖/๔ แต่ปรากฏว่าไม่มีคนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคางิพีอยู่ นารุโกะก็บอกว่าสงสัยข้อมูลที่ได้มาจะผิดพลาดไป



ระหว่างที่กำลังไม่รู้จะทำยังไงก็มีนักเรียนอีกคนเข้ามาทัก เขาคือบิวาซากะ เอย์จิ (琵琶坂 永至びわさか えいじ) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของโชวโงะและโคโตโนะ เป็นคนที่ดูหัวดีมีผลการเรียนดีเยี่ยม แต่ดูเหมือนโชวโงะจะไม่ค่อยชอบหน้าเขานัก




เอย์จิ

※ ตัวละครใหม่ในภาค overdose: ตรงส่วนนี้เป็นเนื้อเรื่องที่ถูกเพิ่มเข้ามา เอย์จิเป็นตัวละครที่ไม่มีปรากฏในเกมภาคเก่า และก็ไม่ได้ปรากฏในอนิเมะด้วย ดังนั้นจึงอาจเป็นตัวละครที่คนที่ดูไม่คุ้นเคย สำหรับคนที่ดูอนิเมะมาก่อน

แม้จะเป็นตัวละครที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ แต่เรื่องราวต่างๆที่เพิ่มเข้ามาในภาคใหม่นี้มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้องพัวพันกับเขา ถือเป็นตัวละครที่เด่นมากคนหนึ่ง


เมื่อลองถามข้อมูลเกี่ยวกับคางิพีดูเขาก็ให้ข้อมูลว่าคนนั้นก็คือฮิบิกิ เคนสึเกะ (響 鍵介ひびき けんすけ) คนที่เป็นตัวแทนนักเรียนใหม่ ตอนนี้อยู่ชั้น ม.๔



เอย์จิเองก็มีท่าทีเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของโลกนี้แล้วเช่นกัน อาเรียจึงบอกให้ลองชวนเขาเข้าชมรมด้วย แต่โชวโงะปฏิเสธเพราะรู้สึกว่าไม่น่าไว้ใจ

แล้วอาเรียก็บอกว่าดูเหมือนนารุโกะจะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของโลกนี้ขึ้นมาทีละนิดแล้วจึงทำให้เริ่มเกิดความสับสนในข้อมูลที่ได้





พวกเราเดินลงไปชั้น ๑ ซึ่งเป็นชั้นของนักเรียน ม.๔ เพื่อตามหาคางิพี แต่ระหว่างทางก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนแอบถ่ายรูปพวกเราอยู่ ซึ่งจริงๆก็คือนารุโกะ เธอแอบถ่ายรูปชมรมกลับบ้านเพื่อไปโพสต์ในเน็ตเรียกยอดเข้าชม



เมื่อเข้าไปในห้องว่างๆห้องหนึ่งจู่ๆมิวก็ปรากฏตัว แต่อาเรียบอกว่ามิวที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงแค่ภาพเงาที่เกิดจากความทรงจำในอดีตเท่านั้น ไม่ใช่ตัวมิวจริงๆในตอนนี้ และที่อื่นๆในเมืองนี้ก็มีภาพเงาของมิวแบบนี้อีกเช่นกัน ซึ่งถ้าหาเจอก็จะได้รู้เรื่องของมิวมากขึ้นมาอีก



แล้วในที่สุดก็เดินมาถึงห้อง ๔/๑ ซึ่งเคนสึเกะอยู่ พวกมิฟุเอะก็ตามมาสมทบด้วย



แต่พอเข้ามาก็ไม่เจอตัว



สักพักจู่ๆก็มีเสียงประกาศจากห้องวิทยุกระจายเสียงดังขึ้น เจ้าของเสียงก็คือเคนสึเกะนั่นเอง เขาประกาศว่าให้ช่วยตามจับตัวพวกชมรมกลับบ้านซึ่งตอนนี้ได้ข่าวว่าอยู่ที่ห้อง ๔/๑



พวกโชวโงะจึงตกใจว่าทำไมศัตรูถึงรู้ได้ แล้วจึงรู้ว่านารุโกะเป็นคนแอบถ่ายภาพพวกเราไปโพสต์ลงเน็ตนั่นเอง



พวกดิจิเฮดจำนวนมากจึงบุกเข้ามาในห้องและต้องต่อสู้ด้วย



ครั้งนี้คาธาร์สิสของโคตาโรวก็ได้ตื่นขึ้น จึงได้ร่วมสู้พร้อมกัน ๔ คน จนสามารถจัดการดิจิเฮดที่บุกเข้ามาได้ทั้งหมด





เมื่อสู้จบนารุโกะเองซึ่งมองเห็นเหตุการณ์ก็กลับเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของโลกนี้ขึ้นมาจนได้ และเริ่มมองเห็นคาธาร์สิสและดิจิเฮดขึ้นมาและตกใจกับสิ่งที่เห็น



โคโตโนะจึงสั่งให้โคตาโรวพานารุโกะไปหลบในที่ปลอดภัย





ระหว่างทางบังเอิญเจอกับหนุ่มหล่อชื่อ มิเนซาวะ อิซึรุ (峯沢 維弦みねざわ いづる) นักเรียนชั้น ม.๕




อิซึรุ


โชวโงะรู้จักเขาและรู้ว่าเขาเป็นอีกคนที่รู้ถึงความผิดปกติของโลกนี้ จึงชวนเข้าชมรมกลับบ้านด้วย แต่ถูกปฏิเสธ เพราะอิซึรุชอบอยู่คนเดียวไม่ชอบรวมฝูงกับใคร



ครั้งนี้โชวโงะได้ลองชวนเขาอีกครั้งโดยบอกว่าเริ่มได้เบาะแสแล้วและมีหวังที่จะได้กลับ แต่ก็ยังคงถูกปฏิเสธ แล้วเขาก็เดินจากไป

โคตาโรวหลังจากที่พานารุโกะไปซ่อนในที่ปลอดภัยแล้วก็กลับมารวมตัวกันอีก



หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังห้องวิทยุกระจายเสียงเพื่อตามหาเคนสึเกะต่อ หนทางไม่ได้เรียบง่ายนัก ระหว่างทางต้องสู้กับดิจิเฮดมากมายเพื่อเปิดทางไปเรื่อยๆ





เผชิญหน้ากับหนุ่มแว่น

หลังจากที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมากมายในที่สุดก็มาจนถึงห้องวิทยุกระจายเสียง



เมื่อมาถึงก็พบกับเคนสึเกะ



เคนสึเกะได้เล่าระบายความในใจว่าเขาต้องการจะอยู่ในโลกเมอบิอุสแห่งนี้ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้ความฝันตัวเองเป็นจริง อยู่ที่นี่เขาได้เป็นเด็กมัธยมปลายไปตลอดกาลไม่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ ได้เป็นคางิพี นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงมีคนฟังไปทั่ว ซึ่งเป็นความฝันที่ตัวเองยังทำไม่ได้ในโลกความเป็นจริง จึงต้องการจะอยู่ที่นี่ต่อไป กลัวการที่จะต้องกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นก็แค่คนธรรมดา ต้องใช้ชีวิตไปวันๆในแบบที่ตัวเองไม่ได้ต้องการเลย ไม่อาจไล่ตามความฝันอะไรได้เลย



ส่วนฝั่งชมรมรมกลับบ้านเองก็มีเหตุผลที่ต้องการจะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ความเห็นจึงไม่ลงรอยกัน สุดท้ายก็ต้องตัดสินกันด้วยการต่อสู้



เคนสึเกะเลเวล ๑๓ แข็งแกร่งทีเดียว แต่ก็เป็นการสู้แบบ ๔ รุม ๑ จึงชนะได้ไม่ยาก



เมื่อเคนสึเกะสู้แพ้เขาจึงเริ่มใจอ่อนลง เริ่มเข้าใจถึงความรู้สึกที่อยากกลับบ้านของทุกคน เริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ แม้จะยังไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่อยากกลับก็ตาม และเกิดความรู้สึกสนใจชมรมกลับบ้านขึ้นมาแล้วขอเข้าชมรมด้วย



เคนสึเกะได้บอกข้อมูลของฝั่งนักดนตรีซึ่งตัวเองพอจะรู้ แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรมาก เพราะจริงๆแล้วเขาก็เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ และยังรู้จักคนอื่นไม่หมด

คุยกันไม่ทันไรก็มีดิจิเฮดบุกเข้ามาโจมตี



ครั้งนี้เคนสึเกะจึงร่วมสู้ด้วย โดยอาเรียก็ได้ช่วยมอบพลังให้ใช้คาธาร์สิสได้ในฐานะสมาชิกของชมรมกลับบ้าน จึงได้เคนสึเกะมาเป็นผู้ร่วมสู้ได้อีกคน



เสร็จแล้วทุกคนก็กลับไปยังห้องชมรมเพื่อเตรียมแผนว่าจะทำยังไงกันต่อไป

※ ส่วนแตกต่างจากในอนิเมะ: ในอนิเมะกว่าเคนสึเกะจะย้ายมาเข้ากลุ่มชมรมกลับบ้านก็เป็นช่วงครึ่งหลังของเรื่อง เป็นคนท้ายสุด ช่วงแรกยังอยู่กับฝ่ายนักดนตรีมาโดยตลอด

แต่ในเกมเป็นสมาชิกคนที่ ๗ และเป็นคนที่ ๕ ที่สามารถใช้คาธาร์สิสเพื่อต่อสู้ได้ (ตอนนี้มิฟุเอะกับสึซึนะยังใช้คาธาร์สิสไม่ได้)

ในอนิเมะเคนสึเกะมีนิสัยค่อนข้างโผงผางกว่าในเกม เขาแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมาชัดเจน รู้สึกสนใจว่าแต่ละคนทำไมถึงมาที่เมอบิอุสและทำไมอยากกลับไป

>>
ตอนถัดไป


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> caligula

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ