วัดฉงเซิ่ง สามหอคอยเก่าแก่สมัยอาณาจักรน่านเจ้า
เขียนเมื่อ 2018/05/20 11:29
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# จันทร์ 16 เม.ษ. 2018
หลังชมเมืองภาพยนตร์เสร็จ https://phyblas.hinaboshi.com/20180518
เป้าหมายต่อไปคือวัดฉงเซิ่ง (崇圣寺) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่อยู่ใกล้กับย่านเมืองเก่าเหมือนกัน แต่เลยออกไปทางเหนือหน่อย
วัดฉงเซิ่งเป็นสถานที่เที่ยวชื่อดังที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าหลี่ มีสามหอคอยโบราณที่เก่าแก่มากและยังคงตั้งอยู่ยืนยงมาถึงปัจจุบัน
สามหอคอยนี้ประกอบด้วยหอคอยใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดชื่อหอคอยเชียนสวิน (千寻塔) สูง ๕๘ เมตร เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุด สร้างในรัชสมัยของกษัตริย์เชวี่ยนเฟิงโย่ว (劝丰祐, ปี 823 - 859) ของอาณาจักรน่านเจ้า
และหอคอยเล็ก ๒ หอทางตะวันตกเฉียงไปทางเหนือและใต้ เรียกว่าหอคอยเล็ก (小塔) สูง ๔๒ เมตร สร้างขึ้นทีหลัง คือในสมัยอาณาจักรต้าหลี่
ส่วนอาคารอื่นๆในวัดซึ่งสร้างพร้อมกับหอคอยใหญ่ในยุคแรกนั้นไม่ได้เหลืออยู่ถึงปัจจุบันแล้ว แต่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 2005
สำหรับการเดินทางนั้นเนื่องจากเราออกเดินทางไปจากเมืองภาพยนตร์จึงมีความลำบากอยู่เล็กน้อย เพราะเราพยายามใช้ตีตีชูสิงเรียกรถจากเมืองภาพยนตร์ไปยังวัดฉงเซิ่ง แต่ก็เรียกไม่สำเร็จ ไม่มีใครตอบรับ เลยไปหารถรับจ้างที่อยู่แถวนั้น ก็ไปเจอได้ราคา ๑๘ ซึ่งดูแล้วน่าจะแพงกว่าเรียกรถแล้วคิดตามมิเตอร์เล็กน้อย แต่ก็ต่อราคาได้แค่เท่านี้ อีกทั้งรีบเพราะกลัวไม่มีเวลาเที่ยวเลยยอมขึ้นไป
ตอนที่ระหว่างทางใกล้จะถึงก็เห็นตัวหอคอยโดดเด่นมาแต่ไกล
รถมาส่งตรงลานจอดรถหน้าทางเข้าชมวัด
มาซื้อบัตรทางนี้
ค่าเข้าชมภายในบริเวณวัดคือ ๑๒๑ หยวน ถือว่าค่อนข้างแพง ถ้าใครที่แค่อยากเห็นสามหอคอยนี้โดยไม่ได้ตั้งใจจะเที่ยวชมโดยละเอียดจริงๆก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋วเข้าไป เพราะจากด้านนอกก็เห็นหอคอยได้ แม้จะไม่ได้ชัดมากก็ตาม
ภายในบริเวณไม่ได้มีแค่หอคอย ๓ หลังเท่านั้น แต่ยังมีตัววัดด้านในลึกเข้าไปซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร แต่เนื่องจากเป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด จึงไม่ได้มีความสำคัญเท่าตัวหอคอย
ตรงนี้เห็นเขียนว่าห้องน้ำของเพศที่สาม มีแบบนี้ด้วยแปลกดีไม่เคยเห็นที่อื่น
เดินผ่านที่ตรวจตั๋วเข้ามาก็เจอหอคอยอยู่ตรงหน้าแล้ว
หอคอยนี้เมื่อก่อนเราเคยชมของจำลองมาแล้วที่สวนชนเผ่าแห่งจีน (中华民族园) ที่ปักกิ่ง พร้อมกับย่านเมืองเก่าจำลอง ดังนั้นจึงรู้สึกอยากไปเห็นของจริงให้ได้สักวัน ในที่สุดก็ได้มาแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20150604
ด้านหน้าหอคอยมีที่เขียนแผ่นป้ายอธิษฐาน
ขึ้นมาที่ฐานหอคอย
มองลงไปเห็นทิวทัศน์ย่านเมืองเก่าได้แม้จะไม่สูงมาก
ทางเข้าหอคอยถูกปิดตายอยู่ไม่ให้คนเข้าไปได้
หอคอยทั้งสองที่อยู่ด้านข้างนี้จะเห็นว่ามันเอียงเล็กน้อย คล้ายหอเอนปิซา (La Torre di Pisa) ที่อิตาลี เทียบยุคสมัยที่สร้างแล้วอายุก็เก่าแก่พอๆกันด้วย
เข้าไปดูใกล้ๆหอคอยเล็ก
หอคอยกลางจากอีกมุม
เดินต่อเข้าไปด้านใน
ตรงนี้มีจัดแสดงของเก่าที่เจอที่นี่
อาคารหอระฆัง ซึ่งมีระฆังใหญ่อยู่ด้านใน หนานเจ้าเจี้ยนจี๋ต้าจง (南诏建极大钟)
ขึ้นไปด้านบนได้
ระฆังด้านใน
จากตรงนี้สามารถชมทิวทัศน์ได้รอบทิศ
มองกลับไปยังหอคอย
มองดูด้านซ้ายขวา
แล้วก็หนทางที่กำลังจะมุ่งหน้าต่อไป ด้านหน้าที่เห็นเป็นตำหนักเจ้าแม่กวนอิม หยวี่ถงกวานอินเตี้ยน (雨铜观音殿)
เดินลงจากหอระฆังแล้วเดินต่อมาแล้วเข้าไปดูภายในอาคารเข้าแม่กวนอิม
เดินผ่านอาคารออกมา เบื้องหน้าเป็นลานกว้าง
จากตรงนี้เป็นทางเข้าไปยังตัววัดด้านในสุด ประตูทางเข้าชื่อซานเหมิน (山门)
ภายในใหญ่มาก มีอะไรให้เดินมาก แต่ทั้งหมดนี้เป็นของใหม่ที่ถูกสร้างมาแทนของเก่าทั้งหมด อีกทั้งเป็นวัดในลักษณะที่พบได้ทั่วไปในจีนจึงไม่ได้สำคัญเท่าตัวหอคอยที่ผ่านมาแล้ว
อาคารแรกที่เจอคือเทียนหวางเตี้ยน (天王殿)
ต่อมา หมีเล่อเตี้ยน (弥勒殿)
เดินผ่านต่อมาก็เป็นทางให้ขึ้นบนไปอีก
ก็เจอกวานอินเตี้ยน (观音殿) อาคารเจ้าแม่กวนอิม
เดินต่อมาก็เจอต้าสยงเป่าเตี้ยน (大雄宝殿) อาคารใหญ่สุดของที่นี่ ชื่อเหมือนโนบิตะ เพราะคำว่าต้าสยง (大雄) คือชื่อของโนบิตะในภาษาจีน
ที่ประตูแกะสลักไม้สวยงาม
ภายในอาคาร
จากหน้าอาคารมองลงไปทิวทัศน์ก็สวยดี
จากนั้นเดินลึกต่อเข้ามาอีกก็เจออาคารอาฉัวเหยกวานอินเก๋อ (阿嵯耶观音阁)
เข้าไปด้านใน
แล้วขึ้นไปข้างบนได้
ทิวทัศน์จากบนนี้ไม่เลว
มีทางไปต่อข้างหน้าอีก เป็นอาคารด้านในสุด ชื่อว่างไห่โหลว (望海楼) แต่ตอนนี้ปิดอยู่จึงไม่ได้เดินเข้าไป
การชมตัววัดด้านในก็จบเท่านี้ จากจุดนี้มีรถบริการไปส่งถีงหน้าทางเข้าได้
แต่เราดูแผนที่แล้วนึกได้ว่ามีอีกที่ที่น่าสนใจแต่ยังไม่ได้ไป คือสุสานของตว้านกง (段功墓) เขาเป็นทายาติของเชื้อพระวงศ์อาณาจักรต้าหลี่ซึ่งล่มสลายไป ในยุคราชวงศ์หยวนเขารับราชการเป็นผู้ปกครองเขตการปกครองต้าหลี่
ก็เลยให้รถแวะลงตรงลานกว้างหน้าซานเหมิน ซึ่งเป็นจุดนึงที่รถสามารถแวะรับส่งได้ จากนั้นก็เดินย้อนไปอีกหน่อยก็ถึง
ดูเสร็จก็เดินย้อนไป ระหว่างทางบังเอิญเจอมุมถ่ายรูปสวยๆเห็นหอคอยสะท้อนบนผิวน้ำ เลยถือว่าโชคดีที่ได้เดินย้อนกลับมาเอง ไม่งั้นก็คงไม่ได้เห็นหอคอยสวยๆมุมนี้
แล้วเดินย้อนอีกหน่อยก็กลับมาถึงหอคอย
ก็เสร็จเท่านี้ แล้วก็เดินออกไป ตรงทางออกเต็มไปด้วยแผงขายผลไม้
พอเดินด้านในเสร็จก็ออกมาแล้วย้อนมาขึ้นรถเมล์สำหรับกลับไปยังโรงแรม ที่ขึ้นเป็นสายที่เชื่อมสถานีรถไฟกับวัดนี้ โดยที่โรงแรมที่พักนี้อยู่ก่อนถึงสถานีรถไฟ จึงเป็นทางผ่านของสายนี้
ระหว่างทางผ่านประตูตะวันตกของย่านเมืองเก่า ซึ่งเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะแวะไปชมด้านใน
เราไม่ได้ลงที่โรงแรมพอดีแต่ไปลงป้ายก่อนถึงโรงแรมป้ายนึงเพื่อจะเดินหาอะไรกินแถวๆนั้น
ก็มาเจอร้านนี้ ค่อนข้างถูกมากทีเดียว
เลือกสั่งข้าวผัดคนละจาน อันนี้เป็นข้าวผัดเนื้อหมูสด ราคา ๑๐ หยวน
กินเสร็จก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน การท่องเที่ยวจบไปอีกวัน
วันต่อไปจะยังเป็นการเที่ยวในต้าหลี่ต่ออีกทั้งวัน https://phyblas.hinaboshi.com/20180522
หลังชมเมืองภาพยนตร์เสร็จ https://phyblas.hinaboshi.com/20180518
เป้าหมายต่อไปคือวัดฉงเซิ่ง (崇圣寺) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่อยู่ใกล้กับย่านเมืองเก่าเหมือนกัน แต่เลยออกไปทางเหนือหน่อย
วัดฉงเซิ่งเป็นสถานที่เที่ยวชื่อดังที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าหลี่ มีสามหอคอยโบราณที่เก่าแก่มากและยังคงตั้งอยู่ยืนยงมาถึงปัจจุบัน
สามหอคอยนี้ประกอบด้วยหอคอยใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดชื่อหอคอยเชียนสวิน (千寻塔) สูง ๕๘ เมตร เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุด สร้างในรัชสมัยของกษัตริย์เชวี่ยนเฟิงโย่ว (劝丰祐, ปี 823 - 859) ของอาณาจักรน่านเจ้า
และหอคอยเล็ก ๒ หอทางตะวันตกเฉียงไปทางเหนือและใต้ เรียกว่าหอคอยเล็ก (小塔) สูง ๔๒ เมตร สร้างขึ้นทีหลัง คือในสมัยอาณาจักรต้าหลี่
ส่วนอาคารอื่นๆในวัดซึ่งสร้างพร้อมกับหอคอยใหญ่ในยุคแรกนั้นไม่ได้เหลืออยู่ถึงปัจจุบันแล้ว แต่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 2005
สำหรับการเดินทางนั้นเนื่องจากเราออกเดินทางไปจากเมืองภาพยนตร์จึงมีความลำบากอยู่เล็กน้อย เพราะเราพยายามใช้ตีตีชูสิงเรียกรถจากเมืองภาพยนตร์ไปยังวัดฉงเซิ่ง แต่ก็เรียกไม่สำเร็จ ไม่มีใครตอบรับ เลยไปหารถรับจ้างที่อยู่แถวนั้น ก็ไปเจอได้ราคา ๑๘ ซึ่งดูแล้วน่าจะแพงกว่าเรียกรถแล้วคิดตามมิเตอร์เล็กน้อย แต่ก็ต่อราคาได้แค่เท่านี้ อีกทั้งรีบเพราะกลัวไม่มีเวลาเที่ยวเลยยอมขึ้นไป
ตอนที่ระหว่างทางใกล้จะถึงก็เห็นตัวหอคอยโดดเด่นมาแต่ไกล
รถมาส่งตรงลานจอดรถหน้าทางเข้าชมวัด
มาซื้อบัตรทางนี้
ค่าเข้าชมภายในบริเวณวัดคือ ๑๒๑ หยวน ถือว่าค่อนข้างแพง ถ้าใครที่แค่อยากเห็นสามหอคอยนี้โดยไม่ได้ตั้งใจจะเที่ยวชมโดยละเอียดจริงๆก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋วเข้าไป เพราะจากด้านนอกก็เห็นหอคอยได้ แม้จะไม่ได้ชัดมากก็ตาม
ภายในบริเวณไม่ได้มีแค่หอคอย ๓ หลังเท่านั้น แต่ยังมีตัววัดด้านในลึกเข้าไปซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร แต่เนื่องจากเป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด จึงไม่ได้มีความสำคัญเท่าตัวหอคอย
ตรงนี้เห็นเขียนว่าห้องน้ำของเพศที่สาม มีแบบนี้ด้วยแปลกดีไม่เคยเห็นที่อื่น
เดินผ่านที่ตรวจตั๋วเข้ามาก็เจอหอคอยอยู่ตรงหน้าแล้ว
หอคอยนี้เมื่อก่อนเราเคยชมของจำลองมาแล้วที่สวนชนเผ่าแห่งจีน (中华民族园) ที่ปักกิ่ง พร้อมกับย่านเมืองเก่าจำลอง ดังนั้นจึงรู้สึกอยากไปเห็นของจริงให้ได้สักวัน ในที่สุดก็ได้มาแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20150604
ด้านหน้าหอคอยมีที่เขียนแผ่นป้ายอธิษฐาน
ขึ้นมาที่ฐานหอคอย
มองลงไปเห็นทิวทัศน์ย่านเมืองเก่าได้แม้จะไม่สูงมาก
ทางเข้าหอคอยถูกปิดตายอยู่ไม่ให้คนเข้าไปได้
หอคอยทั้งสองที่อยู่ด้านข้างนี้จะเห็นว่ามันเอียงเล็กน้อย คล้ายหอเอนปิซา (La Torre di Pisa) ที่อิตาลี เทียบยุคสมัยที่สร้างแล้วอายุก็เก่าแก่พอๆกันด้วย
เข้าไปดูใกล้ๆหอคอยเล็ก
หอคอยกลางจากอีกมุม
เดินต่อเข้าไปด้านใน
ตรงนี้มีจัดแสดงของเก่าที่เจอที่นี่
อาคารหอระฆัง ซึ่งมีระฆังใหญ่อยู่ด้านใน หนานเจ้าเจี้ยนจี๋ต้าจง (南诏建极大钟)
ขึ้นไปด้านบนได้
ระฆังด้านใน
จากตรงนี้สามารถชมทิวทัศน์ได้รอบทิศ
มองกลับไปยังหอคอย
มองดูด้านซ้ายขวา
แล้วก็หนทางที่กำลังจะมุ่งหน้าต่อไป ด้านหน้าที่เห็นเป็นตำหนักเจ้าแม่กวนอิม หยวี่ถงกวานอินเตี้ยน (雨铜观音殿)
เดินลงจากหอระฆังแล้วเดินต่อมาแล้วเข้าไปดูภายในอาคารเข้าแม่กวนอิม
เดินผ่านอาคารออกมา เบื้องหน้าเป็นลานกว้าง
จากตรงนี้เป็นทางเข้าไปยังตัววัดด้านในสุด ประตูทางเข้าชื่อซานเหมิน (山门)
ภายในใหญ่มาก มีอะไรให้เดินมาก แต่ทั้งหมดนี้เป็นของใหม่ที่ถูกสร้างมาแทนของเก่าทั้งหมด อีกทั้งเป็นวัดในลักษณะที่พบได้ทั่วไปในจีนจึงไม่ได้สำคัญเท่าตัวหอคอยที่ผ่านมาแล้ว
อาคารแรกที่เจอคือเทียนหวางเตี้ยน (天王殿)
ต่อมา หมีเล่อเตี้ยน (弥勒殿)
เดินผ่านต่อมาก็เป็นทางให้ขึ้นบนไปอีก
ก็เจอกวานอินเตี้ยน (观音殿) อาคารเจ้าแม่กวนอิม
เดินต่อมาก็เจอต้าสยงเป่าเตี้ยน (大雄宝殿) อาคารใหญ่สุดของที่นี่ ชื่อเหมือนโนบิตะ เพราะคำว่าต้าสยง (大雄) คือชื่อของโนบิตะในภาษาจีน
ที่ประตูแกะสลักไม้สวยงาม
ภายในอาคาร
จากหน้าอาคารมองลงไปทิวทัศน์ก็สวยดี
จากนั้นเดินลึกต่อเข้ามาอีกก็เจออาคารอาฉัวเหยกวานอินเก๋อ (阿嵯耶观音阁)
เข้าไปด้านใน
แล้วขึ้นไปข้างบนได้
ทิวทัศน์จากบนนี้ไม่เลว
มีทางไปต่อข้างหน้าอีก เป็นอาคารด้านในสุด ชื่อว่างไห่โหลว (望海楼) แต่ตอนนี้ปิดอยู่จึงไม่ได้เดินเข้าไป
การชมตัววัดด้านในก็จบเท่านี้ จากจุดนี้มีรถบริการไปส่งถีงหน้าทางเข้าได้
แต่เราดูแผนที่แล้วนึกได้ว่ามีอีกที่ที่น่าสนใจแต่ยังไม่ได้ไป คือสุสานของตว้านกง (段功墓) เขาเป็นทายาติของเชื้อพระวงศ์อาณาจักรต้าหลี่ซึ่งล่มสลายไป ในยุคราชวงศ์หยวนเขารับราชการเป็นผู้ปกครองเขตการปกครองต้าหลี่
ก็เลยให้รถแวะลงตรงลานกว้างหน้าซานเหมิน ซึ่งเป็นจุดนึงที่รถสามารถแวะรับส่งได้ จากนั้นก็เดินย้อนไปอีกหน่อยก็ถึง
ดูเสร็จก็เดินย้อนไป ระหว่างทางบังเอิญเจอมุมถ่ายรูปสวยๆเห็นหอคอยสะท้อนบนผิวน้ำ เลยถือว่าโชคดีที่ได้เดินย้อนกลับมาเอง ไม่งั้นก็คงไม่ได้เห็นหอคอยสวยๆมุมนี้
แล้วเดินย้อนอีกหน่อยก็กลับมาถึงหอคอย
ก็เสร็จเท่านี้ แล้วก็เดินออกไป ตรงทางออกเต็มไปด้วยแผงขายผลไม้
พอเดินด้านในเสร็จก็ออกมาแล้วย้อนมาขึ้นรถเมล์สำหรับกลับไปยังโรงแรม ที่ขึ้นเป็นสายที่เชื่อมสถานีรถไฟกับวัดนี้ โดยที่โรงแรมที่พักนี้อยู่ก่อนถึงสถานีรถไฟ จึงเป็นทางผ่านของสายนี้
ระหว่างทางผ่านประตูตะวันตกของย่านเมืองเก่า ซึ่งเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะแวะไปชมด้านใน
เราไม่ได้ลงที่โรงแรมพอดีแต่ไปลงป้ายก่อนถึงโรงแรมป้ายนึงเพื่อจะเดินหาอะไรกินแถวๆนั้น
ก็มาเจอร้านนี้ ค่อนข้างถูกมากทีเดียว
เลือกสั่งข้าวผัดคนละจาน อันนี้เป็นข้าวผัดเนื้อหมูสด ราคา ๑๐ หยวน
กินเสร็จก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน การท่องเที่ยวจบไปอีกวัน
วันต่อไปจะยังเป็นการเที่ยวในต้าหลี่ต่ออีกทั้งวัน https://phyblas.hinaboshi.com/20180522