φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ



ปราสาทเซนได ศาลเจ้าโกโกกุจังหวัดมิยางิ รูปปั้นขี่ม้าของดาเตะ มาซามุเนะ
เขียนเมื่อ 2023/11/06 21:02
แก้ไขล่าสุด 2023/11/07 06:10
# เสาร์ 4 พ.ย. 2023

เมืองเซนไดนั้นเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคเอโดะ (ปี 1603-1868) แล้ว โดยผู้ปกครองคือตระกูลดาเตะ (伊達だて) ซึ่งนำโดยผู้นำคนสำคัญคือ ดาเตะ มาซามุเนะ (伊達だて 政宗まさむね)

ศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ปราสาทเซนได (仙台城せんだいじょう) หรือเรียกอีกชือว่า ปราสาทอาโอบะ (青葉城あおばじょう) โดยถูกสร้างในปี 1601 แต่ว่าน่าเสียดายที่ถูกรื้อทิ้งในปี 1871 ช่วงยุคเมย์จิเนื่องจากการเลิกลมระบบศักดินา ทำให้ปัจจุบันเหลือแต่เพียงซาก

ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเซนไดที่ถ้าใครมาเที่ยวก็มักจะแวะมาชม ในบริเวณนอกจากมีซากปราสาทส่วนที่เหลืออยู่แล้วก็ยังมีศาลเจ้าแล้วก็รูปปั้นขี่ม้าของดาเตะ มาซามุเนะ

สถานที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง จึงเดินทางมาได้โดยง่าย และจากที่ที่เราพักอยู่ก็สามารถเดินมาเที่ยวที่นี่ได้โดยไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์เลย แต่ว่าก็ยังไม่มีโอกาสได้แวะมาเที่ยวที่นี่สักที

จนในที่สุดครั้งนี้ก็มีโอกาสแวะไปเที่ยวมาจนได้ โดยที่จริงก็เพราะว่าได้แวะไปเที่ยว สะพานยางิยามะ (八木山橋やぎやまばし) ดังที่เล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20231105

เมื่อข้ามสะพานมาก็ถึงทางเข้าฝั่งใต้ของตัวปราสาทแล้ว ก็เลยถือโอกาสแวะมาเที่ยวด้วยเลย ฤดูกาลก็เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสวยด้วย

ประตูทางเข้าปราสาทจากฝั่งใต้ ส่วนใหญ่ที่มาเข้าทางนี้จะเป็นรถ



เข้ามาถึงก่อนอื่นก็จะเจอส่วนที่เป็นร้านอาหารและร้านขายของฝาก







เดินถัดเข้ามาเป็นศาลเจ้าเล็กๆชื่อ ศาลเจ้าโกโกกุจังหวัดมิยางิ (宮城縣護國神社みやぎけんごこくじんじゃ) เป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคเมย์จิ ภายในบริเวณปราสาทเซนได







เดินผ่านศาลเจ้าเข้ามา



แล้วก็มาถึงบริเวณซากปราสาท บริเวณนี้เป็นส่วนที่เดิมเป็นฮมมารุ (本丸ほんまる) คือตัวอาคารหลัก ปัจจุบันเหลือแค่ฐานหินให้มาเดินชมเล่น ไม่ได้มีการสร้างตัวปราสาทจำลองขึ้นมาใหม่แทน




แผนที่บริเวณปราสาทในสมัยนั้น



ข้างๆนั้นเป็นที่ตั้งของรูปปั้นดาเตะ เมาซามุเนะขี่ม้า ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของที่นี่




ส่วนข้างๆนั้นเป็นอนุสาวรีย์ โชวจูฮิ (昭忠碑しょうちゅうひ) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1902 เพื่อบูชาวีรบุรุษที่เสียสละชีวิตในสงคราม





จากตรงนี้มองไปเห็นทิวทัศน์เมืองเซนไดได้สวยงาม




ส่วนข้างๆซากฮมมารุยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์เล็กๆชื่อว่า เคมบุงกัง (見聞館けんぶんかん)



ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับปราสาทเซนได





หลังจากชมภายในบริเวณส่วนหลักของปราสาทเสร็จก็เดินลงออกมาทางด้านเหนือ





ระหว่างเดินลงไปตามทางลาดก็ชมส่วนฐานหินของปราสาท






จากตรงนี้มีทางแยกไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองเซนได (仙台市博物館せんだいしはくぶつかん) ซึ่งก็เป็นสถานที่เที่ยวอีกแห่งที่ถ้ามาเที่ยวปราสาทเซนไดก็น่าแวะมาชมด้วย ที่นี่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เดิมเป็นส่วนซังโนะมารุ (さんまる) ของปราสาทเซนได



แต่น่าเสียดายที่ช่วงที่มานั้นพิพิธภัณฑ์นี้ปิดปรับปรุงอยู่ กว่าจะเปิดอีกทีก็ปีหน้าเลย ดังนั้นจึงได้แค่มาชมบริเวณรอบๆ




ตรงนี้เป็นแผ่นป้ายที่ระลึกของฮาเซกุระ ทสึเนนางะ (支倉はせくら 常長つねなが, ปี 1571-1622) เป็นซามุไรคนสำคัญของเซนได ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปยุโรปเพื่อเจริญสัมพันธ์และเป็นที่รู้จักมากมาย



ใกล้ๆกันนั้นมีอนุสาวรีย์ของ หลู่ซวิ่น (魯迅ろじん, ปี 1881-1936) นักเขียนชื่อดังชาวจีน เขาได้มาเรียนแพทย์ที่เซนไดในช่วงปี 1904 แต่ก็ตัดสินใจเลิกเรียนเพราะพบว่าตัวเองต้องการเป็นนักเขียน จึงได้เปลี่ยนเส้นทางชีวิต ดังนั้นเซนไดจึงเป็นสถานที่สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของเขา จึงได้มีการสร้างอนุสรณ์ที่ระลึกให้เข้าไว้ที่นี่



ป้ายอธิบายเกี่ยวกับที่นี่และหลู่ซวิ่น



ข้างๆยังมีรูปปั้นของหลู่ซวิ่น



ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปได้



จากนั้นก็เดินลงออกมาทางตะวันออก



คลองทางตะวันออกของซังโนะมารุ



เดินถัดมาเป็นศูนย์นานาชาติเซนได (仙台国際せんだいこくさいセンター) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าที่สำคัญที่เป็นสถานีหลักที่คนที่จะมาเที่ยวปราสาทเซนไดมักจะต้องมาแวะลง นั่นคือสถานีศูนย์นานาชาติ (国際こくさいセンターえき)



การเที่ยวในวันนี้ก็จบลงเท่านี้ ได้เวลาเดินทางกลับ โดยจากตรงนี้ก็เดินต่อไปทางตะวันออก



ข้ามสะพานโอฮาชิ (大橋おおはし) ข้ามแม่น้ำฮิโรเสะ (広瀬川ひろせがわ)



ทิวทัศน์จากบนสะพาน




เมื่อข้ามมาแล้วถ้าเดินต่อไปจากตรงนี้ก็จะไปถึงสถานีโอมาจินิชิโควเอง (大町西公園駅おおまちにしこうえんえき) ซึ่งก็เป็นอีกสถานีที่อาจแวะมาลงได้เพื่อมาเที่ยวปราสาทเซนได



จากตรงนี้เราเดินเลี้ยวขวาลงไปทางใต้ เพราะมีร้านอาหารที่เคยแวะมากินอยู่ ตอนนี้เป็นเวลามื้อเที่ยง ตั้งใจจะแวะกินก่อนกลับ



ร้านนั้นชื่อร้านคัตสึดงโนะคัตสึดงยะ (かつどんのかつどん)



เมนู



สั่งอาหารชุดคัตสึดง (かつどん定食ていしょく) ราคา ๗๘๐ เยน



หลังจากกินเสร็จระหว่างทางยังเดินผ่านเซนไดไดจิงงู (仙臺大神宮せんだいだいじんぐう) ซึ่งก็เป็นแค่ศาลเจ้าเล็กๆที่ไม่ได้มีอะไรมาก ไม่ได้ใหญ่เหมือนอย่างชื่อ





หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับที่พัก เป็นอันสิ้นสุดการเที่ยวในวันนี้



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> มิยางิ
-- ท่องเที่ยว >> ปราสาท☑ >> ปราสาทญี่ปุ่น
-- ท่องเที่ยว >> ศาสนสถาน >> ศาลเจ้า
-- ท่องเที่ยว >> พิพิธภัณฑ์

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目次

日本による名言集
モジュール
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
機械学習
-- ニューラル
     ネットワーク
javascript
モンゴル語
言語学
maya
確率論
日本での日記
中国での日記
-- 北京での日記
-- 香港での日記
-- 澳門での日記
台灣での日記
北欧での日記
他の国での日記
qiita
その他の記事

記事の類別



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  記事を検索

  おすすめの記事

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文