ห่างหายจากการทำซับไปนานกว่าเดือนครึ่ง เนื่องจากติดสอบ พอปิดเทอมมาก็เลยต้องมานั่งไล่ทำตอนที่เหลือต่อ ตั้งใจว่าจะให้เสร็จทั้งหมดภายในช่วงนี้
ในตอนที่ ๕ นี้ จะเป็นตอนของชาร์ลี
ก่อนอื่นต้องพูดถึงบุคคลต้นแบบของชาร์ลีในเรื่องก่อน ซึ่งก็คือ ชัค เยเกอร์(チャック・イェーガー,Chuck Yeager) ทหารชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งทำความเร็วเหนือเสียงได้เป็นครั้งแรกของโลกในปี 1953
http://en.wikipedia.org/wiki/Chuck_Yeager
ในเรื่องนี้ ชาร์ลีเองก็ทำความเร็วเหนือเสียงได้เป็นคนแรกเช่นกัน แต่เร็วกว่าความเป็นจริงไปถึง 9 ปีทีเดียว
ชัค เยเกอร์เข้าร่วมกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในปี ๑๙๔๑ ขณะอายุแค่ ๑๘ ปี และมีบทบาทเด่น โดยกลายเป็นเอซ(ยิงเครื่องบินตก ๕ ลำ) ได้ภายในวันเดียว
ในเรื่อง จะเห็นชาร์ลีพูดถึุง เครื่องยนต์ที่ชื่อว่า เมอร์ลิน ซึ่งเครื่องยนต์ที่ว่านี้ก็คือ Rolls-Royce Merlin(ロールス・ロイス マーリン) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เครื่องบินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
http://en.wikipedia.org/wiki/Rolls-Royce_Merlin
อย่างไรก็ตาม ด้วยเครื่องยนต์นี้ ไม่สามารถทำความเร็วได้ถึงความเร็วเสียงได้แน่นอน
ความเร็วเสียงในอากาศนั้น โดยเฉลี่ยมีค่า ๑๒๒๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกว่าความเร็ว ๑ มัค ปัจจุบัน ความเร็วสูงสุดในอากาศอยู่ที่ ๙.๖ มัค โดยยานไร้คนขับ ชื่อ Boeing X-43A ของ NASA
http://en.wikipedia.org/wiki/Mach_number
http://en.wikipedia.org/wiki/Boeing_X-43
ปกติแล้ว เครื่องบินที่ทำความเร็วได้สูงกว่า ๑ มัค จะเกิดคลื่นกระแทก(shock wave) และ โซนิกบูม(ソニックブーム,sonic boom) ขึ้น
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=12588
ชาร์ลีมีพูดถึง บอนเนวิลล์ ซอลต์ แฟลตส์(Bonneville Salt flats) ซึ่งอยู่ที่มลรัฐยูทาห์ของสหรัฐอเมริกา ที่นั่นเป็นก้นของทะเลสาบน้ำเค็มที่แห้งแล้ว พื้นจึงมีเกลือตกตะกอนอยู่มาก ทำให้พื้นทั้งหมดเป็นเกลือแข็งเรียบ
http://en.wikipedia.org/wiki/Bonneville_Salt_Flats
เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของการแข่งขันเรื่องทำสถิติความเร็วทางบก โดยมีสถิติความเร็วหลายครั้งที่ถูกทำลายที่นี่
ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ