φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



ef - after story "Angel's holiday"
เขียนเมื่อ 2010/09/22 14:17
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

*หมายเหตุ
1. หน้านี้สปอย ef ภาคหลัก ผู้อ่านควรเล่นภาคหลักหรือดูอนิเมะทั้งสองภาคมาก่อน
2. หน้านี้โหลดโหดมาก เพราะมีภาพอยู่ถึงสี่สิบกว่าภาพ

 

ต่อจากหน้าที่แล้ว ที่พูดถึงไป

ในที่สุด ef ภาคเสริม 天使の日曜日 "Angel's holiday" ก็ออกมาจนได้ และก็ได้นำมาเปิดจนจบภายในหนึ่งวัน พอดีว่าเกมนี้ออกมาช่วงก่อนสอบพอดี แต่ก็ยังดีที่พอมีเวลาเขียน ถือเป็นการผ่อนคลายก่อนสอบไปในตัว

โดยรวมแล้วภาคนี้ทำออกมาได้ดีไม่ผิดหวังเลย ผิดคาดตรงที่พอเล่นแล้วกลับรู้สึกว่าส่วนที่น่าสนใจคือ after story มากกว่าที่จะเป็น another story และตอนจบของภาคเสริมนี้เป็นอะไรที่สร้างความประหลาดใจให้ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป

ที่ไปๆมาๆแล้วชอบ after story มากกว่าอาจเป็นเพราะการวางเรื่องที่ทำไว้ค่อนข้างดี อีกอย่างคือ another story นั้นเป็นเรื่องราวสมมุติที่ดูสดใสราบรื่นจนเกินไป จนแทบไม่มีอะไรให้เล่าเลย (ชอบดรามา ว่างั้นเหอะ)

ขอเริ่มเล่าเรื่องอย่างไม่รอช้า เนื้อเรื่องของภาคนี้ดังที่เคยกล่าวไว้ในหน้าที่แล้วนั่นคือ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน โดยเริ่มจากเนื้อเรื่องช่วงหลังจากเนื้อเรื่องในเรื่องหลัก เป็นเนื้อเรื่องของ มิยาโกะ เคย์ จิฮิโระ มิซึกิ ซึ่งเนื้อเรื่องทั้ง ๔ นี้จะเกิดขึ้นในเวลาซ้อนๆกันและมีการฉายซ้ำเพียงแต่เปลี่ยนมุมมอง

เหตุการณ์ทั้งหมดใน ๔ บทนี้ เกิดขึ้นภายในวันเดียวเท่านั้น เส้นเวลาของแต่ละตัวละครค่อนข้างซ้อนทับกันยุ่ง กว่าจะเรียบเรียงได้ก็เหนือยเหมือนกัน ในที่นี้จะขอเล่าไปพร้อมๆกัน

เรื่องเริ่มขึ้นหลังจากเนื้อเรื่องหลักไม่นาน มิซึกิ จิฮิโระ เรนจิ พร้อมทั้งคุเซะ ได้เดินทางกลับมาญี่ปุ่น เนื่องจากเรนจิต้องการจะสอบเข้าโรงเรียนโอโตวะที่ญี่ปุ่น ส่วนคนอื่นๆเองก็ต้องการกลับมาเยี่ยมบ้านและคนที่รู้จักกันอยู่ที่นั่น

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันหนึ่งซึ่งเป็นวันที่เรนจิต้องไปที่โรงเรียนโอโตวะเพื่อทำข้อสอบเข้า

 

 

ตอนเช้า มิยาโกะเข้ามาหาฮิโระและทำกับข้าวทานด้วยกันก่อนที่จะไปเรียน มิยาโกะบ่นเป็นห่วงที่ฮิโระไม่ค่อยยอมพักผ่อนเลย จึงได้แกล้งใส่ยานอนหลับให้ฮิโระทาน จากนั้นตัวเองก็ไปเรียน ส่วนฮิโระก็ฟุบหลับไป

อีกด้านหนึ่ง นางิ คุเซะ ยู ได้เจอและได้คุยกันที่ร้านอาหารหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน นางิเองก็เพิ่งกลับมาจากอเมริกา

ตอนสายนางิได้มาเยี่ยมฮิโระที่บ้านและได้เข้าไปทักทายอย่างคิดถึง แต่ฮิโระซึ่งโดนยานอนหลับไปก็ยังสะลึมสะลืออยู่

สำหรับเรนจินั้นสอบมาตั้งแต่เช้าช่วงพักเที่ยงระหว่างรอสอบรอบบ่ายต่อจึงเดินมาที่โรงยิม เข้ามาเจอกับมิซึกิกับจิฮิโระซึ่งกำลังดูการแข่งขันบาสเก็ตบอลของเคย์อยู่ สักพักเคียวสึเกะก็เดินเข้ามา จึงได้ทำความรู้จักกับทั้งเรนจิและจิฮิโระ

จิฮิโระได้ฟังเรื่องของเคียวสึเกะมาว่าเป็นสตอล์กเกอร์ที่ตามแอบถ่ายรูปเคย์ จิฮิโระมีท่าทีหวงพี่สาวจนออกนอกหน้าจนออกอาการน่ากลัวอย่างท่ไม่เคยเจอมาก่อน... เคียวสึเกะก็ทำท่าจะแกล้งจีบจิฮิโระเล่น พอดีจังหวะนั้นเคย์เข้าช่วงพักและเดินเข้ามาพอดีจึงเป็นเรื่อง...

สักพักมิยาโกะก็เดินเข้ามาจึงได้แนะนำให้รู้จักกับเรนจิและจิฮิโระอีก หลังจากคุยกันสักพักมิซึกิก็ขอตัวออกไปข้างนอกก่อน จากนั้นมิยาโกะจึงพาจิฮิโระกับเรนจิขึ้นไปที่ดาดฟ้าเพื่อทานปิ่นโต

ทั้งมิยาโกะและเรนจิต่างทำปิ่นโตมา เลยให้จิฮิโระลองตัดสินว่าของใครอร่อยกว่า ซึ่งจิฮิโระก็ตอบว่าของเรนจิอร่อยกว่าอย่างไม่ลังเล... สักพักเรนจิลองทานปิ่นโตของจิฮิโระเข้าและก็แจ็กพ็อตเจอชิ้นที่เป็นกับดักทำให้ถึงขั้นพ่นไฟออกจากปาก


ทางด้านมิซึกิซึ่งออกมาจากโรงเรียนก็ได้รับโทรศัพท์จากคุเซะว่าเขากำลังติดเยี่ยมคนที่บ้านอยู่ มิซึกิจึงออกมาเดินเที่ยวเมืองกับยูและได้พบกับฮิโระเข้าโดยบังเอิญ ฮิโระจึงชวนมาที่บ้านเพื่อทำกับข้าวทานกัน

เมื่อกลับมาถึงนางิก็ไม่อยู่แล้ว มิซึกิกับยูช่วยกันทำกับข้าวทานมื้อเที่ยงพร้อมกับฮิโระ

ทางด้่านเรนจิ หลังจากทานที่ดาดฟ้าเสร็จก็กลับไปห้องสอบ ส่วนจิฮิโระกับมิยาโกะก็กลับมาที่โรงยิม ในตอนนั้นเคย์แข่งเสร็จไปแล้วและกำลังคุยอยู่กับเคียวสึเกะ (สะสางบัญชีเรื่องจิฮิโระเมื่อครู่นี้) จากนั้นเคย์มีธุระต้องไปทำ เลยได้ฝากจิฮิโระไว้กับเคียวสึเกะ เคียวสึเกะพาจิฮิโระเดินเที่ยวในอาคารเรียน

เมื่อคุเซะกลับมาจากเยี่ยมทางบ้านเสร็จ ก็กลับมาเจอกับยูและมิซึกิ ทั้งสามคนเดินกลับไปที่โรงเรียนโอโตวะเพื่อทำธุระของตัวเอง

ยูเดินไปเจอกับเคียวสึเกะซึ่งกำลังพาจิฮิโระเดินเที่ยวในอาคารอยู่จึงได้ทำความรู้จักกัน

ระหว่างรอเรนจิสอบอยู่ มิซึกิกับคุเซะได้พากันเดินในโรงเรียนไปถึงห้องที่เรนจิกำลังสอบอยู่จึงโผล่หน้าเข้าไปดู

ทั้งสองเจอกับมิยาโกะเข้า ทั้งสองฝ่ายแนะนำตัวกัน พอมิยาโกะเจอคุเซะก็นึกได้ว่าคือนักไวโอลินที่ฮิโระชอบพูดถึงให้ฟังว่าเป็นแฟนตัวยง จึงได้คุกเข่าลงขอร้องทันที ให้คุเซะช่วยไปเล่นไวโอลินให้ฮิโระฟัง

ทั้งสองคนเดินขึ้นดาดฟ้า ในตอนนั้นคุเซะจึงได้เล่าความหลังสมัยที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ก่อนที่ตัวเองจะไปเรียนที่เยอรมันให้ฟัง เล่าถึงนางิกับยู และ...

คุเซะเล่าว่ายูเคยคบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อยูโกะ แต่เธอตายไปเพราะช่วยเด็กที่ถูกรถชน พอได้ยินดังนี้มิซึกิก็รู้สึกตกใจมากเนื่องจากเด็กคนที่ยูโกะสละชีวิตเพื่อช่วยไว้ก็คือตัวเธอนั่นเอง เธอทรุดลงไปด้วยโรคความดันต่ำซึ่งกำเริบขึ้นมา คุเซะไม่รู้เรื่องนี้ แต่มิซึกิก็ยังไม่ได้พูดอะไร คุเซะเห็นท่ามิซึกิอาการไม่ดีจึงช่วยพยุงพากลับลงมาในอาคาร

(*เรื่องหลักในเกมต่างจากในอนิเมะตรงที่ว่า ในเกมยูโกะช่วยมิซึกิไว้จึงถูกรถชน แต่ในอนิเมะยูโกะเดินไปเก็บบอลแล้วโดนรถชนเอง)

เคียวสึเกะก็ได้พาจิฮิโระชมโรงเรียน จนไปถึงที่ห้องสมุด ในจังหวะนั้นเคย์ก็ตามเข้ามาพอดี สักพักเรนจิซึ่งเพิ่งจะสอบเสร็จก็ตามเข้ามาเจอด้วย

เคย์บอกเรนจิว่ามีเรื่องจะคุยด้วยตามลำพังจึงชวนไปดาดฟ้า พอเดินไปถึงทางขึ้นดาดฟ้าก็เจอกับคุเซะและมิซึกิซึ่งกำลังเดินกลับลงมาพอดี

เคย์คุยกับเรนจิเรื่องที่เรนจิคบอยู่กับจิฮิโระด้วยความเป็นห่วง เรนจิได้บอกถึงความตั้งใจของตัวเองที่ต่อไปนี้จะอยู่ด้วยกันกับจิฮิโระ และก็บอกกับเคย์ว่าขอฝากตัวจากนี้ไปด้วย

จากนั้นทั้ง ๔ คนเดินกลับออกมาจากโรงเรียนด้วยกันสุดท้ายก็แยกย้ายกันกลับ

อีกด้านหนึ่ง มิซึกิบอกว่าอยากให้คุเซะเล่าเรื่องเกี่ยวกับอดีตที่เมืองโอโตวะแห่งนี้ให้มากขึ้นอีก จึงพากันออกมาเดินรอบๆเมือง ระหว่างนั้นคุเซะเห็นมิซึกิยังคงทำท่าไม่ค่อยดีตั้งแต่ตอนอยู่ดาดฟ้า จึงพยายามถาม แต่มิซึกิก็ไม่ได้ตอบอะไร

คุเซะบอกว่าจะไปเล่นไวโอลินที่หลุมศพให้ยูโกะฟัง แต่มิซึกิไม่ได้ขอตามไปด้วย บอกว่าเวลานี้คุเซะน่าจะต้องการอยู่คนเดียวมากกว่า คุเซะจึงไปเล่นไวโอลินที่หลุมศพคนเดียว จากนั้นก็กลับมาที่โบสถ์

ตอนเย็นมิยาโกะก็พาฮิโระไปที่โบสถ์เพื่อหาคุเซะตามที่นัดเอาไว้ ฮิโระคุยกับคุเซะเรื่องงานวาดการ์ตูนที่ตัวเองทำอยู่ และได้ยื่นต้นฉบับให้ดู ระหว่างนั้นทั้งสองต่างคุยกันนินทาเรื่องนางิด้วยความรู้สึกเกรงกลัว สักพักคุเซะจึงเริ่มบรรเลงดนตรีให้ทั้งคู่ฟัง


ทางด้านมิซึกิก็ได้ไปเดินเล่นในเมืองต่อจนมาถึงริมฝั่งน้ำและได้เจอกับเด็กสาวสวมชุดประหลาดเหมือนแม่มดเข้า เมื่อมิซึกิเข้าไปทักเธอก็ทำท่าแปลกใจว่ามิซึกิมองเห็นเธอด้วยเหรอ เธอแนะนำตัวว่าชื่อคามิชิโระ อลิสและบอกว่าตัวเองเป็นแม่มด และเล่าแต่เรื่องอะไรแปลกๆให้ฟัง บอกว่ามาจากต่างประเทศแต่ตอนนี้อาศัยอยู่ญี่ปุ่น

เธอถามชื่อนามสกุลรวมทั้งตัวสะกดชื่อของมิซึกิ พอมิซึกิบอกไปเธอก็ยิ้มเยอะแล้วบอกว่า ขอเตือนไว้อย่างหนึ่งว่าห้ามบอกชื่อจริงให้กับแม่มดรู้อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งบอกว่าจะมาขอความทรงจำเธอไปล่ะนะ แต่หลังพูดจบก็พบว่าไม่เกิดอะไรขึ้นทำให้เธอแปลกใจและถามว่าชื่อปลอมงั้นหรือ มิซึกิจึงบอกว่าชื่อที่เธอใช้อยู่ตอนนี้ไม่ใช่ชื่อที่เธอใช้มาตั้งแต่เกิด อลิสจึงทำหน้าผิดหวังแล้วบอกว่า เธอพลาดท่าเสียแล้วสิ...

จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันเกี่ยวเรื่องความปรารถนาและความฝัน อลิสถามมิซึกิว่าอยากจะฝันบ้างมั้ย ฝันถึงโลกที่ความปรารถนาของเธอเป็นจริง จากนั้นอลิสก็ยื่นมือเข้ามาปิดตามิซึกิและกล่าว...

“ราตรีสวัสดิ์”

มิซึกิได้ค่อยๆสติเลือนลางลง

เรื่องราวของโลกอีกโลกหนึ่งที่ความฝันเป็นจริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

 

เรื่องราวช่วงนี้จะเข้าสู่ another story ซึ่งอาจจะมองว่าทั้งหมดเป็นเพียงความฝันของมิซึกิก็ว่าได้ แบ่งออกเป็น ๓ ตอนด้วยกัน ซึ่งแต่ละตอนก็ไม่ยาวมาก แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นที่โลกที่มีแต่ความสุขและสมหวังอย่างเต็มที่ สำหรับเนื้อเรื่องช่วงนี้ขอเล่าแต่เพียงคร่าวๆ

 

บทที่ ๑ ยูโกะ - เนื้อเรื่องในบทนี้เป็นโลกที่สมมุติว่าหากยูโกะไม่ได้ตายไปในวันคริสต์มาสเนื่องจากช่วยมิกิจนถูกรถชน เหตุการณ์จะกลายเป็นอย่างไร ในโลกนั้นทั้งยูและยูโกะก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พร้อมกับมิกิ

ไม่นานก็มีข่าวดีว่ามิกิได้มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว และเปลี่ยนชื่อเป็นมิซึกิ แต่ทั้งสามคนก็ยังคงติดต่อกันอยู่เรื่อยๆตลอด มิซึกิได้สนิทกับเด็กสาวฝาแฝดสองคนคือเคย์กับจิฮิโระ และได้พามาเจอยูกับยูโกะด้วยกัน

จนกระทั่งวันหนึ่งยูได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการสร้างเมืองโอโตวะที่ออสเตรเลีย ทั้งยูและยูโกะจึงเดินทางไปออสเตรเลีย เวลาผ่านไปนานจนถึงช่วงเวลาของเนื้อเรื่องปัจจุบัน มิซึกิได้เดินทางมาเยี่ยมยูและยูโกะที่โอโตวะในออสเตรเลีย ได้เจอทั้งสองคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พร้อมลูกสาวคนหนึ่งชื่อว่าเซย์ซึ่งหน้าตาเหมือนยูโกะตอนเด็กๆไม่มีผิด ที่ออสเตรเลียนี้ ทั้งคู่ได้ฉลองคริสต์มาสฤดูร้อนกันอย่างมีความสุขดังที่ยูโกะได้เคยปรารถนาไว้

 

บทที่ ๒ นางิ – ในบทนี้ เป็นโลกที่สมมุติว่าถ้าหากในอุบัติเหตุแผ่นดินไหวคราวนั้นไม่มีใครสูญเสียคนสำคัญไปเลยเรื่องราวจะเป็นยังไง ชะตาชีวิตของแต่ละคนดูจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก แต่ก็ยังมีส่วนที่เวียนกลับมาบรรจบคล้ายกับเนื้อเรื่องหลักอยู่

ยูไม่ได้เสียพ่อแม่และน้องสาว (อากาเนะ)ไปในอุบัติเหตุเลย แต่เนื่องจากทั้งบ้านและงานของครอบครัวทั้งหมดได้สูญไปทำให้ยูกับอากาเนะต้องไปอยู่ในสถานรับเลี้ยง ส่วนพ่อแม่ก็ไปทำงานยังที่ห่างไกล ต่อมาพอเข้าโรงเรียนยูก็แยกกันอยู่กับอากาเนะ (ซึ่งอากาเนะก็ไม่ได้ปรากฏตัวในเรื่องเลย)

ส่วนอามามิยะก็ไม่ได้สูญเสียน้องสาวไป จึงยังมีชีวิตอยู่เคียงข้างเขาต่อไป เธอชื่ออาการิปัจจุบันกำลังเป็นครูสอนดนตรีอยู่ที่โรงเรียนโอโตวะ เช่นเดียวกับตัวอามามิยะเองซึ่งสอนวิชาศิลปะอยู่ ยูโกะเองก็เช่นกัน เธอไม่ได้สูญเสียอะไรและตอนนี้ก็มาอาศัยอยู่กับสองพี่น้องอามามิยะในฐานะน้องสาวของทั้งคู่

เมื่อไม่ได้มีความหลังอะไรขมขื่น ยูกับยูโกะก็ไม่มีโอกาสได้รักกัน ดังนั้นโลกนี้จึงเป็นโลกที่ยูคบกับนางิแทน ยูได้เริ่มเรียนวาดภาพกับนางิ ทั้งสองได้อยู่ใกล้ชิดกันโดยตลอด จนความสัมพันธ์ไปไกลจนกลายเป็นความรักขึ้น

 

บทที่ ๓ มิซึกิ – เป็นโลกที่มิซึกิตัวจริงซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของเรนจิไม่ได้ตายไป และมิกิก็ไม่ได้มาอยู่เป็นตัวแทน

ในเรื่องนี้มิกิเองก็ปรากฏตัวด้วยเช่นกัน นิสัยเธอไม่ได้ต่างจากในเรื่องหลักนัก เพียงแต่ชื่อเธอยังเป็นมิกิอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นมิซึกิ เพราะมิซึกิตัวจริงยังอยู่ โดยเธอเรียนอยู่ชั้นเดียวกันกับมิซึกิและสนิทกันมาก แต่มิกิเรียกมิซึกิว่าฮิเมะ (เนื่องจากคันจิตัวหลังของคำว่ามิซึกิ (姫) สามารถอ่านว่าฮิเมะได้) รวมทั้งตัวละครอื่นอย่างเช่นมิยาโกะก็ปรากฏตัวด้วย

 

หลังจากเรื่องราวในอีกโลกทั้งสามนี้จบลง ก็ตัดเข้ามาที่มิซึกิซึ่งเพิ่งตื่นขึ้นมาจากฝันเมื่อครู่โดยมียูเป็นคนปลุก เมื่อตื่นมาเธอถามยูว่ายูโกะอยู่ไหนไม่ได้มาด้วยกันเหรอ ยูเลยแปลกใจและบอกว่าเธอละเมออยู่ล่ะสิ (เพราะเธอฝันถึงโลกที่ยูโกะยังมีชีวิตอยู่ แต่ในความเป็นจริงยังไงก็คือยูโกะได้ตายไปแล้ว) สักพักมิซึกิก็เริ่มตั้งสติได้ ยูเดาออกว่ามิซึกิคงได้ยินเรื่องยูโกะมาจากคุเซะสินะ

พร้อมกับเพลงจบที่ได้ดังขึ้น ยูเล่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาให้ฟังและยื่นขนนกที่ยูโกะมอบให้เขาเมื่อตอนจบของเนื้อเรื่องหลักให้กับมิซึกิ

หลังจากกลับจากเล่นไวโอลินให้ฮิโระกับมิยาโกะฟังแล้ว พอออกมาจากโบสถ์คุเซะก็เจอกับมิซึกิโดยบังเอิญ ทั้งคู่เดินกลับบ้านด้วยกัน ในระหว่างทางในที่สุดมิซึกิได้ตัดสินใจบอกคุเซะเรื่องที่ว่าเด็กที่ยูโกะช่วยเอาไว้คือเธอเอง เธอเล่าเรื่องราวในอดีตให้คุเซะฟังและบอกว่าตอนนี้เธอคืออนาคต* สำหรับเขา

(*ชื่อเก่าของมิซึกิคือ มิกิ ซึ่งเขียนด้วยอักษรคันจิว่า มิไร (未来) ซึ่งคำว่ามิไรนี้แปลว่าอนาคต)

 

ฉากสุดท้าย อลิสซึ่งนั่งอยู่ริมฝั่งน้ำตามลำพังก็ได้พูดขึ้นว่า “เหลือเวลาอีกนิดหน่อยกว่าเรื่องราวใหม่จะเปิดฉากขึ้น” จากนั้นก็ตัดเข้าสู่เพลงเปิดของอะไรบางอย่าง...

ซึ่งเพลงเปิดนั้นก็คือเพลงเปิดของเกมใหม่ของค่ายมิโนรินั่นเอง

ถึงตอนนี้ก็ตาสว่างขึ้นทันทีว่าแท้จริงแล้วอลิสก็คือตัวละครหลักจากเกมใหม่ล่าสุดของมิโนริ และภาคพิเศษของ ef นี้ก็ถือเป็นการโฆษณาเกมใหม่ไปด้วยส่วนหนึ่ง เรื่องราวแปลกที่อลิสเล่าให้มิซึกิฟังก็เป็นเรื่องราวของเกมใหม่นี้นั่นเอง

เป็นไปได้ว่าปริศนาของ ef ที่ยังไม่เข้าใจอยู่นั้น อาจมีคำตอบปรากฏในเกมใหม่นี้ก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็น่ารอติดตามเกมต่อไปนี้ต่อไป

ที่สำคัญจากที่ดูรูปตัวละครทั้งหมดรวมทั้งอลิสเองแล้ว ถ้าดูไม่ผิดคนวาดก็คือ อ.นารุ ไม่ได้เห็นผลงานของ อ.นารุ มาวาดให้วิชวลโนเวลซะเป็นเวลานานเลย เพราะผลงานเกมที่แล้วของค่ายมิโนริซึ่งก็คือ eden* นั้น อ.นารุ ไม่ได้เป็นคนวาด ดังนั้นจึงเป็นตัวยืนยันความน่าสนใจของเกมที่กำลังจะออกใหม่นี้ยิ่งขึ้นมาก


ตอนนี้ยังไม่รู้รายละเอียดของเกมใหม่นี้มากเนื่องจากเว็บของมิโนริเองก็บล็อกไม่ให้เข้า คงได้แต่รอข่าวกันต่อไป หากมีอะไรก็จะเอามาลงต่อทันที

====================

 

แถมท้าย ตารางสรุปเส้นเวลาของตัวละครทั้งหมด เนื่องจากเหตุการณ์ในเรื่องค่อนข้างเรียงลำดับอย่างงงทำให้เวลาเขียนเรียบเรียงมีปัญหามาก จึงทำตารางนี้ขึ้นเพื่อสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด

A=ฮิโระ, B=มิยาโกะ, C=เคียวสึเกะ, D=เคย์ E=เรนจิ, F=จิฮิโระ, G=คุเซะ, H=มิซึกิ, I=ยู, J=นางิ

  A B C D E F G H I J
บ้านฮิโระ 1 x x                
ร้านอาหาร             x   x x
บ้านฮิโระ 2 x                 x
โรงยิม 1     x   x x   x    
ดาดฟ้า 1   x     x x        
ในเมือง x             x x  
บ้านฮิโระ 3 x             x x  
โรงยิม 2   x x x   x   x    
ในอาคาร     x     x     x  
หน้าบันได 1   x         x x    
ดาดฟ้า 2             x x    
ห้องสมุด     x x x x        
หน้าบันได 2       x x   x x    
ดาดฟ้า 3       x x          
ทางกลับบ้าน     x x x x        
หน้าหลุมศพ             x      
บ้านฮิโระ 4 x x                
โบสถ์ x x         x      
ริมฝั่งน้ำ               x x  


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> vn

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ