φυβλαςのβλογ
phyblas的博客

#จันทร์ 28 ม.ค. 2013

เข้าสู่เช้าวันที่ ๑๒ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวญี่ปุ่น คิดแล้วก็น่าใจหาย แต่อีกใจก็ดีใจที่จะได้กลับบ้านแล้วหลังจากเหนื่อยเที่ยวติดต่อกันมาหลายวัน

หลังจากที่เมื่อคืนเราเที่ยวนาโงยะทั้งวันและสุดท้ายก็มาค้างคืนบ้านเพื่อนคนญี่ปุ่นที่เมืองอันโจว https://phyblas.hinaboshi.com/20130719

ตอนเช้าตื่นมาเราลองเดินออกไปนอกระเบียง



เป็นระเบียงเล็กๆที่อยู่ชั้นสาม



หลังคาบ้านข้างๆ




มองออกไปไกลๆก็พอจะเห็นทิวทัศน์ยามเช้าของเมืองนี้ได้





หลังจากนั้นก็ลงไปทานมื้อเช้า แม่เพื่อนทำขนมปังง่ายๆให้ทาน ระหว่างนั้นก็เห็นเปิดทีวีมีข่าวว่าแถวโตเกียวมีหิมะตกหนัก เครื่องบินจากนาริตะไม่สามารถออกบินได้ จนเราเป็นห่วงว่าแบบนี้แล้วเราจะได้ขึ้นเครื่องมั้ย แต่มองดูฟ้าแม้จะไม่ได้สดใสนักแต่ก็ไม่ได้มีฝนหรือหิมะตก ไม่น่ามีปัญหา โชคดีที่เราไม่ได้จะกลับจากทางโตเกียว

หลังจากนั้นสักประมาณแปดโมงกว่าเราก็ได้เวลาออกเดินทาง วันนี้เพื่อนเราจะเป็นคนขับรถพาเราเที่ยวเอง เราเก็บข้าวของเข้าไปในรถตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะเที่ยวเสร็จจะเลยไปสนามบินเลยไม่ได้กลับมาแล้ว



เป้าหมายการเที่ยวของวันนี้อยู่ที่เมืองโอกาซากิ (岡崎市) เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันออกของเมืองอันโจว ที่เลือกมาเที่ยวเมืองนี้เพราะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้จะได้ไม่ต้องลำบากเพื่อนมาก เสียดายที่เมืองอันโจวที่เพื่อนอยู่นั้นเป็นเมืองที่ไม่มีอะไรเที่ยวเลยก็เลยมาเที่ยวเมืองนี้

แผนที่จังหวัดไอจิ แสดงตำแหน่งเมืองโอกาซากิสีชมพูเข้ม




เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของโทกุงาวะ อิเอยาสึ (徳川家康) วีรบรุษคนสำคัญแห่งยุคเซงโงกุ (1493–1590) ผู้เริ่มต้นยุคเอโดะ (1603–1868)

โทกุงาวะ อิเอยาสึเกิดในปี 1543 ในปราสาทโอกาซากิ (岡崎城) เมืองโอกาซากิ ซึ่งสมัยนั้นอยู่ในแคว้นมิกาวะ (三河国) ซึ่งเป็นแคว้นที่มีอาณาเขตอยู่ในบริเวณที่เป็นฝั่งตะวันออกของจังหวัดไอจิในปัจจุบัน ในขณะที่ฝั่งตะวันตกของจังหวัดไอจิเป็นแคว้นโอวาริ (尾張国) ซึ่งปกครองโดยตระกูลโอดะ (織田氏) ของโอดะ โนบุนางะ (織田信長)

อิเอยาสึเกิดในตระกูลมัตสึไดระ (松平氏) ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจในแคว้นมิกาวะ แต่ก็ถือว่าไม่ได้มีอำนาจอะไรมากเมื่อเทียบกับตระกูลอิมากาวะ (今川氏) ซึ่งมีอำนาจอยู่ในแคว้นสึรุงะ (駿河国) และแคว้นโทโตวมิ (遠江国) ซึ่งขณะนั้นกำลังพยายามตั้งตัวเป็นใหญ่แข่งกับตระกูลโอดะของโอดะโนบุนางะ

พ่อของอิเอยาสึซึ่งเป็นผู้นำตระกูลในขณะนั้นได้ตัดสินใจเข้ากับฝ่ายอิมากาวะ โดยส่งตัวอิเอยาสึซึ่งเป็นเด็กอยู่ไปเป็นตัวประกัน ทำให้ตระกูลอิมากาวะได้มาเป็นใหญ่ในแคว้นมิกาวะด้วย

หลังจากนั้นพอตระกูลอิมากาวะแพ้ให้กับโนบุนางะในศึกโอเกฮาซามะ (桶狭間の戦い) ปี 1560 ทำให้อำนาจของตระกูลอิมากาวะหมดลง อิเอยาสึได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโนบุนางะ

ปี 1567 อิเอยาสึได้เปลี่ยนชื่อสกุลของตัวเองจากมัตสึไดระเป็นโทกุงาวะ

ในปี 1582 โนบุนางะถูกสังหารลง และโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (豊臣秀吉) ขึ้นมาเป็นผู้นำแทน และเขาสามารถรวมประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ

ปี 1598 ฮิเดโยชิได้แก่ตายลง ลูกชายของเขาคือโทโยโตมิ ฮิเดโยริ (豊臣秀頼) ขึ้นมาปกครองแทน แต่เนื่องจากยังอายุน้อยอยู่จึงไม่มีอำนาจนัก เปิดช่องให้อิเอยาสึซึ่งในตอนนั้นเป็นไดเมียวที่มีอำนาจสูงสุดคิดที่จะยึดอำนาจ

อิเอยาสึต้องต่อสู้กับอิชิดะ มิตสึนาริ (石田三成) ไดเมียวผู้จงรักภักดีต่อตระกูลโทโยโตมิ สุดท้ายแล้วในปี 1600 อิเอยาสึก็ชนะอย่างเด็ดขาดในศึกเซกิงาฮาระ (関が原の戦い) จึงยึดอำนาจมาได้ทั้งหมด ได้ปกครองประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด แล้วญี่ปุ่นก็เข้าสู่ยุคเอโดะ อิเอยาสึเป็นโชกุนคนแรกในตระกูลโทกุงาวะ (徳川氏) ซึ่งปกครองแผ่นดินญี่ปุ่นยาวนานถึงสองร้อยกว่าปี

ช่วงนั้นเพิ่งดูอนิเมะเรื่อง oda nobuna no yabou (織田信奈の野望) จบไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สร้างโดยอิงประวัติศาสตร์สมัยเซงโงกุ มีอิเอยาสึปรากฎในเรื่องด้วย แต่เรื่องนี้พวกตัวละครส่วนใหญ่ที่มีต้นแบบมาจากบุคคลจริงจะถูกเปลี่ยนเป็นสาวโมเอะทั้งหมด

ภาพโทกุงาวะ อิเอยาสึจากอนิเมะเรื่องนี้เป็นสาวแว่นโมเอะ





ที่หมายแรกของเราคือปราสาทโอกาซากิ สถานที่เกิดของโทกุงาวะ อิเอยาสึนั่นเอง

ปราสาทโอกาซากิถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1452 โดยตระกูลไซโงว (西郷氏) ต่อมาในปี 1531 ตระกูลมัตสึไดระได้กลายมาเป็นผู้ครองปราสาท และอิเอยาสึเกิดที่ปราสาทนี้ในปี 1542 แต่เมื่อตระกูลอิมากาวะมามีอำนาจในแคว้นมิกาวะปราสาทนี้จึงตกเป็นของตระกูลอิมากาวะ จนกระทั่งจบศึกโอเกฮาซามะในปี 1560 ตระกูลมัตสึไดระจึงได้กลับมาครองปราสาท

ในปี 1873 ปราสาทนี้ได้ถูกทำลายลงเนื่องจากคำสั่งทำลายปราสาทของยุคเมย์จิ เช่นเดียวกับปราสาทอีกมากมายหลายแห่ง จากนั้นในปี 1959 จึงมีการสร้างของใหม่ขึ้นมาทดแทนโดยให้ภายนอกดูเหมือนเดิมแต่สร้างโดยใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก

ปัจจุบันปราสาทโอกาซากิและสวนในบริเวณรอบๆเรียกว่าสวนสาธารณะโอกาซากิ (岡崎公園)



เรามาถึงปราสาทตอนประมาณเก้าโมงเช้า เพื่อนขับรถเข้ามาจอดในที่จอดรถของสวนสาธารณะ

ที่ด้านหน้าตรงทางเข้าสวนสาธารณะ ประตูใหญ่ของปราสาทซึ่งเรียกว่าโอเตะมง (大手門) แต่ไม่ได้เป็นประตูที่เปิดให้ผ่านได้ ปัจจุบันเป็นแค่ตั้งๆไว้เฉยๆเป็นของประดับ ประตูนี้เองก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากของเดิมที่ถูกทำลายไปพร้อมกับอาคารหลักของปราสาท



แผนที่ทางเดินในบริเวณสวนสาธารณะ อยู่ในใบปลิวที่ได้ตอนเข้าปราสาท



แต่ดูแผนที่ในเว็บของที่นี่จะชัดกว่า http://okazakipark.com/map/map.htm

ในบริเวณก็มีอะไรหลายอย่าง อย่างเช่นตรงนี้เป็นเวทีแสดงละครโนวนิโนะมารุ (二の丸能楽堂) เป็นสถานที่ที่เปิดให้เช่ายืมสถานที่ไปใช้งานได้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครใช้ก็ปิดอยู่



เวทีด้านใน แต่เข้าไปไม่ได้



ทางเดินไปสู่ตัวปราสาท




ด้านหน้าปราสาทมีตำหนักทัตสึมิ (巽閣) ก็เป็นอาคารสำหรับให้คนมาเช่าใช้สถานที่เหมือนกัน



และข้างๆนั้นเป็นศาลเจ้าทัตสึกิ (龍城神社)



หน้าศาลเจ้ามีรูปปั้นม้า



เพราะเป็นศาลเจ้าก็เลยต้องมีน้ำให้ล้างมือก่อนเข้าตามระเบียบ



แล้วก็มีแผ่นป้ายเขียนคำอธิษฐานด้วย ไปที่ไหนก็เจอ แต่เราก็ไม่เคยเขียนเลย เพราะคิดว่าแค่ได้มาเห็นก็พอ ไม่จำเป็นจะต้องมีส่วนร่วมไปทุกอย่างก็ได้



จากตรงหน้าศาลเจ้า มองไปเห็นปราสาทโอกาซากิแล้ว



ทางเข้าปราสาทอยู่ตรงหน้านี้แล้ว



ช่วงที่เราไปนั้นปราสาทโอกาซากิกำลังจัดนิทรรศการเอวานเกเลียนและดาบญี่ปุ่นอยู่



เราเห็นทีแรกก็งงว่าเอวานเกเลียนมีอะไรเกี่ยวข้องกับปราสาทโอกาซากิหรือเปล่านะ ถามเพื่อนดูเขาก็ไม่รู้เพราะว่าไม่เคยดูเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยว แค่เขายืมสถานที่มาจัดงานเฉยๆ ซึ่งลองไปค้นข้อมูลดูทีหลังก็รู้ว่าไม่ใช่จริงๆ เพราะนิทรรศการนี้เปลี่ยนที่จัดงานไปเรื่อยๆ

อีกอย่างที่สงสัยเอวานเกเลียนเกี่ยวอะไรกับดาบญี่ปุ่น? ถึงเราจะไม่เคยดูเรื่องนี้แต่ก็รู้ว่ามันเป็นแนวขับหุ่น เลยเผลอคิดไปว่าที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ได้ขับหุ่น เราเข้าใจผิด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สู้กันด้วยดาบนั่นเอง!

แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่เราจะเขียนบล็อกหน้านี้ขึ้น ก็ได้ไปลองขุดหาอนิเมะเอวานเกเลียนมาดูเพื่อจะมาเป็นข้อมูลในการเขียน ก็พบว่าเรื่องนี้ก็สนุกดีสมกับเป็นตำนาน ที่ญี่ปุ่นเรื่องถือว่าดังมากถึงขั้นเป็นตำนาน ในไทยเองก็ดูเหมือนจะกระแสแรงไม่น้อยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับดาบญี่ปุ่นอย่างที่คิดเลย เพียงแต่ว่าในฉบับที่เพิ่งฉายเมื่อปี 2012 ซึ่งชือว่าเอวานเกเลียนฉบับภาพยนตร์สร้างใหม่ : Q (ヱヴァンゲリヲン新劇場版:Q ) หุ่นมีการใช้ดาบและหอกเป็นอาวุธด้วย แต่ยังไงก็ไม่ใช่ดาบญี่ปุ่นอยู่ดี

นิทรรศการนี้จัดขึ้นทั่วประเทศตลอดปีโดยย้ายสถานที่ไปเรื่อยๆ โดยที่ตอนที่เราไปนั้นอยู่ที่ปราสาทโอกาซากิแห่งนี้แล้วก็เวียนไปตามภูมิภาคต่างๆ
 
1 ธ.ค. 2012 ~ 17 ก.พ. 2013 จัดที่ปราสาทโอกาซากิ เมืองโอกาซากิ จังหวัดไอจิ
27 ก.พ. 2013 ~ 30 มี.ค. 2013 จัดที่พิพิธภัณฑ์ยามาโตะ (大和ミュージアム) เมืองคุเระ จังหวัดฮิโรชิมะ
5 เม.ย. 2013 ~ 17 พ.ค. 2013 จัดที่ซัปโปโระแฟ็กทอรี (サッポロファクトリー) เมืองซัปโปโระ จังหวัดฮกไกโด
24 พ.ค. 2013 ~ 23 มิ.ย. 2013 จัดที่โซราเลียสเตจ (ソラリアステージ) เมืองฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ
3 ก.ค. 2013 ~ 16 ก.ย. 2013 จัดที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซากะ (大阪歴史博物館) เมืองโอซากะ จังหวัดโอซากะ
21 ก.ย. 2013 ~ 11 พ.ย. 2013 จัดที่พิพิธภัณฑ์งานตีดาบเซกิ (関鍛冶伝承館) เมืองเซกิ จังหวัดกิฟุ
23 พ.ย. 2013 ~ 23 ธ.ค. 2013 จัดที่โตเกียว

จะเห็นว่าแต่ละที่เป็นลักษณะพิพิทธภัณฑ์ โดยเฉพาะบางที่มีความเกี่ยวข้องกับดาบโดยตรงด้วย โดยไม่ได้เน้นจัดในเมืองใหญ่ๆ

ใครสนใจก็ยังสามารถไปได้อยู่ แต่ต้องดูให้ดีว่าช่วงไหนจัดที่ไหน



สถานที่จัดงานแบ่งออกเป็นสองส่วนคือในอาคารปราสาทโอกาซากิ และในพิพิธภัณฑ์อิเอยาสึและนักรบแห่งมิกาวะ (三河武士のやかた家康館) ซึ่งก็อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะโอกาซากิข้างๆกัน

ค่าเข้าปราสาทคือ ๒๐๐ เยน ส่วนค่าเข้าพิพิธภัณฑ์อิเอยาสึ ๓๕๐ เยน ถ้าซื้อตั๋วสำหรับเข้ารวมกันทั้งสองอันก็จะเป็น ๕๐๐ เยน ประหยัดไปได้ ๕๐ เยน เราตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าชมทั้งสองอย่างพร้อมกัน

ตั๋วสำหรับเข้าชมซื้อได้ที่ชั้นหนึ่งของปราสาท ตรงนี้ยังสามารถ่ายรูปได้ แต่ว่าพอขึ้นไปแล้วจะถ่ายรูปไม่ได้เลย เลยไม่ได้ถ่ายอะไรมา แต่ภายในก็มีแสดงพวกของโบราณเช่นเดียวกับปราสาทแห่งอื่นๆที่เคยไปมา



เส้นทางการเดินที่นี่ออกจะแปลกหน่อยคือพอถึงชั้น ๓ ให้เดินข้ามไปชั้น ๕ เลย แล้วค่อยเดินกลับลงมาชั้น ๔ โดยที่ชั้น ๕ เท่านั้นที่ถ่ายรูปได้เพราะเป็นชั้นสูงสุด เป็นจุดชมทิวทัศน์



นี่คือชั้น ๕ เราได้เจอกับเด็กผู้ขับหุ่นทั้งหลาย



ทางนี้มีอาสึกะกับเรย์ยืนอยู่ด้านหน้ารูปถ่ายปราสาท



สามารถออกไปด้านนอกระเบียงซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ มีกล้องส่องด้วย



ทิวทัศน์ที่มองจากด้านบนปราสาท






ตอนที่เราอยู่ข้างบนแล้วมองลงมาสังเกตได้ว่าผู้คนมากมายกำลังทยอยหลั่งไหลกันเดินเข้ามาที่ปราสาท คงมากันเป็นกลุ่มใหญ่ เราจึงรีบออกจากปราสาทไปก่อนที่คนจะเยอะจนแน่น

หลังลงมาเห็นคนแน่นเต็มไปหมดทั้งๆที่ตอนเริ่มมายังเงียบๆอยู่เลย



ถัดจากปราสาทไปมีสะพานให้ข้ามไปต่อ สะพานนี้เรียกว่าสะพานพระเจ้า (神橋) แต่เราไม่ได้ข้ามไปต่อเพราะดูจากแผนที่แล้วทางฝั่งโน้นไม่มีอะไร



แล้วเราก็ออกจากบริเวณปราสาทเพื่อไปยังพิพิธภัณฑ์อิเอยาสึ

ภาพถ่ายปราสาทอีกรูปจากมุมไกล ถ่ายระหว่างทางเดิน



แล้วก็มาถึงพิพิธภัณฑ์อิเอยาสึ



ด้านหน้ามีรูปปั้นของฮนดะ ทาดาคัตสึ (本多忠勝) ซึ่งเป็นนักรบแห่งมิกาวะ เขาเป็นแม่ทัพคนสำคัญของอิเอยาสึ



ด้านหน้าทางเข้าอาคารตอนนี้เต็มไปด้วยเอวานเกเลียน



ชั้นหนึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับดาบญี่ปุ่นและเอวานเกเลียน






ทางลงไปชั้นใต้ดิน ที่นี่มีอยู่แค่สองชั้นคือชั้นหนึ่งกับชั้นใต้ดิน




ชั้นใต้ดิน



ตรงนี้ก็มีแสดงดาบญี่ปุ่น



แล้วก็การยิงปืนและขี่ม้า



ส่วนนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของอิเอยาสึ




ทางนี้มีตั้งร้านขายของที่เกี่ยวข้องกับเอวานเกเลียน





ภายในอาคารก็มีอยู่แค่นี้ เล็กกว่าที่คิด นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้เหมือนกัน

ออกมาด้านนอกเจอรูปปั้นโทกุงาวะ อิเอยาสึ บุคคลสำคัญของปราสาทแห่งนี้



ส่วนนี่คือหอนาฬิกากลไก (からくり時計塔)



นาฬิกานี้จะดังทุกครึ่งชั่วโมงเมื่อเวลาลงท้ายด้วยตัวเลข 00 หรือ 30 ตลอดช่วงเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น เมื่อมันดังขึ้นกล่องก็จะเปิดออกและตุ๊กตาที่อยู่ข้างในก็จะเต้น



ดูคลิปภาพเคลื่อนไหวได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=d_tUtkgzBBY

ตอนนั้นเป็นเวลาสิบโมงเช้าพอดี เลยได้เห็นตอนมันดัง เข้ามาตอนประมาณเก้าโมง เท่ากับเราใช้เวลาราวๆหนึ่งชั่วโมงที่นี่



เสร็จแล้วก็กลับไปที่รถเพื่อนเพื่อจะนั่งไปเที่ยวที่ต่อไป ตอนที่ออกต้องเสียค่าจอดรถด้วย อัตรค่าจอดที่นี่คือ ๑๐๐ เยน ต่อครึ่งชั่วโมง จอดอยู่หนึ่งชั่วโมงเลยต้องจ่ายไป ๒๐๐ เยน

ต่อไปจะเป็นสถานที่เที่ยวสุดท้ายแล้ว ในที่สุดการเที่ยวในญี่ปุ่นครั้งนี้ก็กำลังจะจบลง https://phyblas.hinaboshi.com/20130725

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ