อาเตอลีเยของโทโทริ ตอนที่ ๒ : การผจญภัยที่แท้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น
เขียนเมื่อ 2014/07/31 10:56
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
>> อ่านตอนแรก
จากตอนที่แล้วหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตนักผจญภัยและได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการแล้วโทโทริก็เดินทางกลับสู่หมู่บ้านอาลันยาโดยรถม้า
เมื่อไปถึงก็พบว่าเซซีกำลังรออยู่อย่างเป็นห่วง พอรู้ว่าโรโรนากลับมาก็ดีใจมาก
เช้าวันต่อมาโทโทริตั้งใจตื่นแต่เช้าจนเซซีก็ยังตกใจ เซซีเองก็ดูมีท่าทีเหมือนรีบเร่งจะออกไปไหนแต่เช้า
ตั้งแต่ตอนนี้ไปจะสามารถกดปุ่ม select เพื่อจะไปที่ไหนก็ได้ภายในหมู่บ้านแล้ว คำสั่งนี้ถ้าเป็นภาคแรกละก็สามารถทำได้ตั้งแต่ต้นเกม แต่ภาคนี้เพิ่งจะมาใช้ได้ตอนนี้
พอมาที่ร้านเหล้าเพื่อหาเกราร์ดก็จะพบว่าช่วงนี้เซซีมาทำงานอยู่ที่ร้านนี้เนื่องจากว่างที่ไม่ต้องคอยดูแลโทโทริแล้ว และเธอก็ได้รับความนิยมมากทีเดียว
จากนั้นพอไปคุยกับแมร์เวียเธอก็จะแสดงความยินดีด้วยที่ได้เป็นนักผจญภัยแล้ว เธอบอกว่าต่อจากนี้ไปก็จะยังคงช่วยร่วมต่อสู้ด้วยอย่างเช่นเคยเพราะว่าเธอเองก็ไม่ค่อยมีกะใจทำอะไรเองอยู่แล้ว ขอช่วยโทโทริดีกว่า
เมื่อออกมาที่ลานกว้างหน้าหมู่บ้านโทโทริจะพบว่ารถม้าไม่อยู่แล้ว เพเตอร์บอกว่ารถม้าถูกโจมตีทำให้สภาพไม่ดีเลยส่งซ่อมอยู่ ถ้าหากจะไปเมืองหลวงอาร์แลนด์ก็มีแต่ต้องเดินไปเองเท่านั้น
การผจญภัยของโทโทริได้เปิดฉากขึ้นแล้ว เมื่อออกมานอกเมืองจะพบว่่าฉากในแผนที่ที่สามารถเดินไปได้นั้นเพิ่มกว้างไกลขึ้นมาก สามารถเลือกไปได้อย่างอิสระ
ระหว่างการออกผจญภัยจีโนได้แสดงความฮีกเหิมให้เห็นอยู่ตลอด
ส่วนแมร์เวียก็บ้าพลังแรงเยอะทั้งๆที่ภายนอกดูเหมือนเด็กผู้หญิงร่างกายบอบบางธรรมดา จนโทโทริทั้งอิจฉาทั้งเกรงกลัว
เมื่อพวกโทโทริออกไปผจญภัยครั้งแรกแล้วกลับมากวีดก็จะเข้ามาบอกว่าช่วงที่โทโทริไม่อยู่นั้นโรโรนาได้มาเยี่ยมด้วย เสียดายที่ไม่ได้เจอกัน และเธอก็ฝากหนังสือคู่มือเอาไว้ให้เล่มหนึ่งด้วย
วันหนึ่งมิมิมาหาที่อาเตอลีเย เธอบอกว่าตัวเองก็ได้ใบอนุญาตนักผจญภัยแล้วเช่นกันก็เลยเอามาอวดและขอทำความรู้จักด้วยเพราะสนใจว่านักเล่นแร่แปรธาตุเป็นคนแบบไหน
ไม่นานหลังจากนั้นมิมิก็มาหาอีกรอบแล้วบอกว่าจะขอตามไปร่วมสู้ด้วย ถ้าต้องการให้ออกไปสู้ด้วยก็ขอให้มาหาได้
พอออกเดินทางไปพร้อมกับมิมิและแมร์เวียก็จะพบว่าแมร์เวียพยายามลวนลามมิมิเพราะเห็นว่าน่ารัก
วันหนึ่งตอนที่โทโทริกำลังปรุงไอเท็มอยู่ในอาเตอลีเยเซซีก็มองพร้อมกับระลึกถึงความหลังตอนที่เจอกับโรโรนาเป็นครั้งแรกเมื่อ ๑ ปีก่อน เริ่มต้นมาเธอมาเป็นลมล้มอยู่หน้าบ้านด้วยความหิว เซซีทำข้าวให้กิน จากนั้นโรโรนาก็เลยจะแสดงวิชาเล่นแร่แปรธาตึให้ดูเป็นการตอบแทน แต่ปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้นมา หลังจากนั้นเธอก็ช่วยสอนวิชาเล่นแล่แปรธาตุให้โทโทริ
หลังจากที่พักอยู่ในหมู่บ้านและสำรวจบริเวณนั้นไปสักพักตอนนี้ได้เวลาที่จะกลับไปยังเมืองหลวงอาร์แลนด์อีกรอบเพื่อไปหาคูเดเรียเพื่อขอเลื่อนขั้น ตอนจะออกจากหมู่บ้านครั้งต่อไปแมร์เวียก็ยังคงพยายามจะลวนลามมิมิอยู่
การไปครั้งนี้ต้องเดินเท้า ซึ่งใช้เวลา ๒๑ วัน แต่เพื่อให้คุ้มกับเวลาที่เสียไปจึงถือโอกาสแวะสู้มอนสเตอร์และเก็บของตามทางไปด้วย
ระหว่างทางผ่านฉากซากโบราณสถานที่ถูกฝัง (埋もれた遺跡) และได้พบกับผู้ชายใส่แว่นท่าทางเพี้ยนๆคนหนึ่งกำลังสำรวจโบราณสถานอยู่อย่างสนใจ เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ พอคุยกับเขาสักพักก็พบว่ามีมอนสเตอร์มาโจมตี แล้วเขาก็หายตัวไปไหนไม่รู้
หลังจากผ่านตรงนั้นไปโทโทริก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงอาร์แลนด์ พอเข้าไปรายงานตัวกับคูเดเรียก็ได้รับการเลื่อนขั้นทันที ตอนนี้โทโทริได้กลายเป็นนักผจญภัยขั้นที่ ๒ แล้ว
เสร็จแล้วคูเดเรียยังแนะนำว่าให้โทโทริไปใช้อาเตอลีเยของโรโรนาได้ เพราะตอนนี้โรโรนาไม่อยู่ยังไงก็ไม่มีคนใช้อยู่แล้ว ทำให้โทโทริไม่ต้องกลับไปถึงหมู่บ้านอาลันยาเวลาที่จะผสมไอเท็ม ทำให้อยู่ที่นี่นานๆโดยไม่ต้องกลับไปได้ เมื่อเข้าไปสำรวจอาเตอลีเยของโรโรนาแล้วโทโทริก็ต้องประหลาดใจว่าข้าวของที่อยู่ในตู้เก็บนั้นเหมือนกับที่อยู่ในอาเตอลีเยของเธอเองทุกอย่างเลย ราวกับว่ามันเป็นมิติที่เชื่อมกัน น่ามหัศจรรย์
คูเดเรียยังได้แนะนำให้รู้จักกับฟิลลี (フィリー, Filly) ซึ่งเป็นคนคอยทำหน้าที่รับข้อเรียกร้องของชาวเมือง เธอเป็นน้องของเอสทีซึ่งเป็นตัวละครจากภาคที่แล้วซึ่งทำหน้าทีเหมือนกันกับเธอตอนนี้ แต่เธอต่างจากพี่สาวมากตรงที่เป็นคนขี้อายไม่ค่อยกล้าคุยกับคนนัก จากนี้ไปเวลาจะรับเควสที่เมืองหลวงอาร์ลันด์ก็สามารถมาคุยกับเธอได้
เมื่อแวะมาที่ร้านอาหารก็จะเจอกับอิกเซล (イクセル, Yksel) ซึ่งเป็นตัวละครจากภาคแรก เขาทำงานเป็นคนทำอาหารในร้านนี้ ในภาคนี้เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
และเมื่อแวะไปที่ร้านขายของชำก็จะเจอกับทีฟานา (ティファナ, Tifana) ซึ่งก็เป็นตัวละครจากภาคแรกเช่นกัน ในภาคนี้เธอดูอายุมากขึ้น
ช่วงนี้โทโทริได้ใช้อาเตอลีเยของโรโรนาเป็นฐานเพื่อออกผจญภัยไปเรื่อยๆโดยมีแมร์เวียกับมิมิคอยช่วยสู้อยู่เคียงข้าง เวลาผ่านไปก็มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นและมีอะไรให้ทำได้มากขึ้น
วันหนึ่งพอไปหาฮาเกลเขาจะบอกว่าเขาสามารถช่วยสร้างอาวุธและเสื้อผ้าให้ได้ แค่รวบรวมวัตถุดิบมาให้ ภาคนี้การสร้างอาวุธและเสื้อผ้าง่ายขึ้นตรงที่ใช้วัตถุดิบแค่ชิ้นเดียวก็สร้างได้แล้ว
เวลาผ่านไปไม่นานโทโทริก็ได้ทำผลงานจนได้เลื่อนเป็นขั้นที่ ๓ แล้ว
แต่หนทางสู่นักผจญภัยที่แท้จริงยังอีกยาวไกล ต่อจากนี้ไปก็ยังต้องพยายามต่อไปเรื่อยๆ
>> อ่านตอนต่อไป
จากตอนที่แล้วหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตนักผจญภัยและได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการแล้วโทโทริก็เดินทางกลับสู่หมู่บ้านอาลันยาโดยรถม้า
เมื่อไปถึงก็พบว่าเซซีกำลังรออยู่อย่างเป็นห่วง พอรู้ว่าโรโรนากลับมาก็ดีใจมาก
เช้าวันต่อมาโทโทริตั้งใจตื่นแต่เช้าจนเซซีก็ยังตกใจ เซซีเองก็ดูมีท่าทีเหมือนรีบเร่งจะออกไปไหนแต่เช้า
ตั้งแต่ตอนนี้ไปจะสามารถกดปุ่ม select เพื่อจะไปที่ไหนก็ได้ภายในหมู่บ้านแล้ว คำสั่งนี้ถ้าเป็นภาคแรกละก็สามารถทำได้ตั้งแต่ต้นเกม แต่ภาคนี้เพิ่งจะมาใช้ได้ตอนนี้
พอมาที่ร้านเหล้าเพื่อหาเกราร์ดก็จะพบว่าช่วงนี้เซซีมาทำงานอยู่ที่ร้านนี้เนื่องจากว่างที่ไม่ต้องคอยดูแลโทโทริแล้ว และเธอก็ได้รับความนิยมมากทีเดียว
จากนั้นพอไปคุยกับแมร์เวียเธอก็จะแสดงความยินดีด้วยที่ได้เป็นนักผจญภัยแล้ว เธอบอกว่าต่อจากนี้ไปก็จะยังคงช่วยร่วมต่อสู้ด้วยอย่างเช่นเคยเพราะว่าเธอเองก็ไม่ค่อยมีกะใจทำอะไรเองอยู่แล้ว ขอช่วยโทโทริดีกว่า
เมื่อออกมาที่ลานกว้างหน้าหมู่บ้านโทโทริจะพบว่ารถม้าไม่อยู่แล้ว เพเตอร์บอกว่ารถม้าถูกโจมตีทำให้สภาพไม่ดีเลยส่งซ่อมอยู่ ถ้าหากจะไปเมืองหลวงอาร์แลนด์ก็มีแต่ต้องเดินไปเองเท่านั้น
การผจญภัยของโทโทริได้เปิดฉากขึ้นแล้ว เมื่อออกมานอกเมืองจะพบว่่าฉากในแผนที่ที่สามารถเดินไปได้นั้นเพิ่มกว้างไกลขึ้นมาก สามารถเลือกไปได้อย่างอิสระ
ระหว่างการออกผจญภัยจีโนได้แสดงความฮีกเหิมให้เห็นอยู่ตลอด
ส่วนแมร์เวียก็บ้าพลังแรงเยอะทั้งๆที่ภายนอกดูเหมือนเด็กผู้หญิงร่างกายบอบบางธรรมดา จนโทโทริทั้งอิจฉาทั้งเกรงกลัว
เมื่อพวกโทโทริออกไปผจญภัยครั้งแรกแล้วกลับมากวีดก็จะเข้ามาบอกว่าช่วงที่โทโทริไม่อยู่นั้นโรโรนาได้มาเยี่ยมด้วย เสียดายที่ไม่ได้เจอกัน และเธอก็ฝากหนังสือคู่มือเอาไว้ให้เล่มหนึ่งด้วย
วันหนึ่งมิมิมาหาที่อาเตอลีเย เธอบอกว่าตัวเองก็ได้ใบอนุญาตนักผจญภัยแล้วเช่นกันก็เลยเอามาอวดและขอทำความรู้จักด้วยเพราะสนใจว่านักเล่นแร่แปรธาตุเป็นคนแบบไหน
ไม่นานหลังจากนั้นมิมิก็มาหาอีกรอบแล้วบอกว่าจะขอตามไปร่วมสู้ด้วย ถ้าต้องการให้ออกไปสู้ด้วยก็ขอให้มาหาได้
พอออกเดินทางไปพร้อมกับมิมิและแมร์เวียก็จะพบว่าแมร์เวียพยายามลวนลามมิมิเพราะเห็นว่าน่ารัก
วันหนึ่งตอนที่โทโทริกำลังปรุงไอเท็มอยู่ในอาเตอลีเยเซซีก็มองพร้อมกับระลึกถึงความหลังตอนที่เจอกับโรโรนาเป็นครั้งแรกเมื่อ ๑ ปีก่อน เริ่มต้นมาเธอมาเป็นลมล้มอยู่หน้าบ้านด้วยความหิว เซซีทำข้าวให้กิน จากนั้นโรโรนาก็เลยจะแสดงวิชาเล่นแร่แปรธาตึให้ดูเป็นการตอบแทน แต่ปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้นมา หลังจากนั้นเธอก็ช่วยสอนวิชาเล่นแล่แปรธาตุให้โทโทริ
หลังจากที่พักอยู่ในหมู่บ้านและสำรวจบริเวณนั้นไปสักพักตอนนี้ได้เวลาที่จะกลับไปยังเมืองหลวงอาร์แลนด์อีกรอบเพื่อไปหาคูเดเรียเพื่อขอเลื่อนขั้น ตอนจะออกจากหมู่บ้านครั้งต่อไปแมร์เวียก็ยังคงพยายามจะลวนลามมิมิอยู่
การไปครั้งนี้ต้องเดินเท้า ซึ่งใช้เวลา ๒๑ วัน แต่เพื่อให้คุ้มกับเวลาที่เสียไปจึงถือโอกาสแวะสู้มอนสเตอร์และเก็บของตามทางไปด้วย
ระหว่างทางผ่านฉากซากโบราณสถานที่ถูกฝัง (埋もれた遺跡) และได้พบกับผู้ชายใส่แว่นท่าทางเพี้ยนๆคนหนึ่งกำลังสำรวจโบราณสถานอยู่อย่างสนใจ เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ พอคุยกับเขาสักพักก็พบว่ามีมอนสเตอร์มาโจมตี แล้วเขาก็หายตัวไปไหนไม่รู้
หลังจากผ่านตรงนั้นไปโทโทริก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงอาร์แลนด์ พอเข้าไปรายงานตัวกับคูเดเรียก็ได้รับการเลื่อนขั้นทันที ตอนนี้โทโทริได้กลายเป็นนักผจญภัยขั้นที่ ๒ แล้ว
เสร็จแล้วคูเดเรียยังแนะนำว่าให้โทโทริไปใช้อาเตอลีเยของโรโรนาได้ เพราะตอนนี้โรโรนาไม่อยู่ยังไงก็ไม่มีคนใช้อยู่แล้ว ทำให้โทโทริไม่ต้องกลับไปถึงหมู่บ้านอาลันยาเวลาที่จะผสมไอเท็ม ทำให้อยู่ที่นี่นานๆโดยไม่ต้องกลับไปได้ เมื่อเข้าไปสำรวจอาเตอลีเยของโรโรนาแล้วโทโทริก็ต้องประหลาดใจว่าข้าวของที่อยู่ในตู้เก็บนั้นเหมือนกับที่อยู่ในอาเตอลีเยของเธอเองทุกอย่างเลย ราวกับว่ามันเป็นมิติที่เชื่อมกัน น่ามหัศจรรย์
คูเดเรียยังได้แนะนำให้รู้จักกับฟิลลี (フィリー, Filly) ซึ่งเป็นคนคอยทำหน้าที่รับข้อเรียกร้องของชาวเมือง เธอเป็นน้องของเอสทีซึ่งเป็นตัวละครจากภาคที่แล้วซึ่งทำหน้าทีเหมือนกันกับเธอตอนนี้ แต่เธอต่างจากพี่สาวมากตรงที่เป็นคนขี้อายไม่ค่อยกล้าคุยกับคนนัก จากนี้ไปเวลาจะรับเควสที่เมืองหลวงอาร์ลันด์ก็สามารถมาคุยกับเธอได้
เมื่อแวะมาที่ร้านอาหารก็จะเจอกับอิกเซล (イクセル, Yksel) ซึ่งเป็นตัวละครจากภาคแรก เขาทำงานเป็นคนทำอาหารในร้านนี้ ในภาคนี้เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
และเมื่อแวะไปที่ร้านขายของชำก็จะเจอกับทีฟานา (ティファナ, Tifana) ซึ่งก็เป็นตัวละครจากภาคแรกเช่นกัน ในภาคนี้เธอดูอายุมากขึ้น
ช่วงนี้โทโทริได้ใช้อาเตอลีเยของโรโรนาเป็นฐานเพื่อออกผจญภัยไปเรื่อยๆโดยมีแมร์เวียกับมิมิคอยช่วยสู้อยู่เคียงข้าง เวลาผ่านไปก็มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นและมีอะไรให้ทำได้มากขึ้น
วันหนึ่งพอไปหาฮาเกลเขาจะบอกว่าเขาสามารถช่วยสร้างอาวุธและเสื้อผ้าให้ได้ แค่รวบรวมวัตถุดิบมาให้ ภาคนี้การสร้างอาวุธและเสื้อผ้าง่ายขึ้นตรงที่ใช้วัตถุดิบแค่ชิ้นเดียวก็สร้างได้แล้ว
เวลาผ่านไปไม่นานโทโทริก็ได้ทำผลงานจนได้เลื่อนเป็นขั้นที่ ๓ แล้ว
แต่หนทางสู่นักผจญภัยที่แท้จริงยังอีกยาวไกล ต่อจากนี้ไปก็ยังต้องพยายามต่อไปเรื่อยๆ
>> อ่านตอนต่อไป