เที่ยวชมเจดีย์ชเวซีโกนในวันสบายๆ
เขียนเมื่อ 2015/09/14 20:56
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# ศุกร์ 31ก.ค. 2015
เข้าสู่วันที่ ๗ แล้ว หลังจากที่เมื่อวานเที่ยวเจดีย์ต่างๆในพุกามมามากมายจนถึงเย็น https://phyblas.hinaboshi.com/20150912
ตื่นเช้ามาตอนหกโมง จากนั้นก็นั่งเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ เปิดคอมเขียนบันทึก ระหว่างนั้นมีอยู่บางช่วงที่ไฟเกิดดับขึ้นมาแต่ก็ไม่มีผลอะไรมาก
ระหว่างนั้นเล่นเกมอาเตอลีเยของอาช่าไปถึงตรงที่เฟรดเริ่มกิจการร้านขนมปัง https://phyblas.hinaboshi.com/20150815
จากนั้นเราก็ไปทานข้าวเช้าที่โรงอาหารของโรงแรมตอนแปดโมงกว่า วันนี้มาทานค่อนข้างสายก็เลยมีคนกำลังทานอยู่เยอะ
เสร็จแล้วก็เดินออกจากโรงแรมไปเพื่อเที่ยวเจดีย์ที่เหลืออยู่ยังไม่ได้ไปเมื่อวานซึ่งก็เหลืออยู่แค่ ๒ แห่ง เป้าหมายแรกคือเจดีย์ชเวซีโกน (ရွှေစည်းခုံဘုရား) เป็นเจดีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่
เจดีย์ชเวซีโกนนั้นวันก่อนเดินผ่านมาแล้ว มันอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเลย สามารถเดินไปได้ง่าย ดังนั้นวันนี้เราจึงไม่ต้องเสียตังค์จ้างรถแท็กซีเลย
ที่สามแยกหน้าทางเข้าวัดมีเจดีย์เล็กๆอยู่หลังหนึ่ง เราก็แวะเข้ามาชมสักหน่อย
ออกลงอีกทาง
พอมาถึงหน้าถนนเส้นทางสู่เจดีย์ก็พบกว่าจังหวะนั้นฝนตกหนักลงมา แต่ตรงนั้นพอดีมีโถงทางเดินยาวในร่มเราจึงตัดสินใจเข้าไปเดินในนั้น
โถงทางเดินตรงนี้เชื่อมยาวไปถึงเจดีย์เลย
ระหว่างทางมีขายของอยู่เยอะ
ตรงนี้ขายหนังสือ เพื่อนผู้ร่วมเดินทางแวะดูตรงนี้แล้วก็ได้ซื้อหนังสือนำเที่ยวพุกามจากตรงนี้ไปด้วย
เจดีย์ชเวดาโกนสีทองอร่ามสวยงาม ยิ่งฝนตกทำให้ยิ่งสวย
เดินชมบริเวณลานรอบเจดีย์
ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติมาก เจอคนชาติต่างๆมากมาย บางคนก็พามัคคุเทศก์มาด้วย แต่บางคนก็ใช้มัคคุเทศก์ท้องถิ่นซึ่งสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ เห็นคนที่พูดภาษาโน้นนี้ได้อยู่ไม่น้อย
อาคารตรงนี้สลักนกยูงซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศพม่า แต่มีนกพิราบมาเกาะเต็มไปหมด
ชมในบริเวณเสร็จก็เดินออกมา ด้านหน้าทางเข้ามีสิงโตหินขนาดใหญ่
ตอนนี้ฝนเริ่มซาแล้วเลยเดินด้านนอก
แถวนั้นมีเจดีย์เล็กๆอยู่ประปราย
เดินมาเรื่อยๆจนออกมาสู่ถนนสายหลักหน้าทางเข้า ยังมองเห็นตัวเจดีย์หลักอยู่ไกลๆทางโน้น นี่เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่จะเดินจากที่นี่ไป
เสร็จแล้วก็แวะมาเดินที่เจดีย์กูบเยาะจี (ဂူပြောက်ကြီး) ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างทางนั้นค่อนข้างเปลี่ยวๆโล่งๆ ที่จริงเราอยากแวะเจดีย์อีกแห่งซึ่งมีเขียนอยู่ในแผนที่ด้วย แต่ลองเดินหาก็ไม่เจอก็เลยปล่อยผ่านไป เจดีย์แห่งนั้นเองก็ดูเหมือนจะเป็นแค่เจดีย์เล็กๆที่ไม่มีอะไรเด่นด้วย ไม่แวะก็ไม่เป็นไร
แล้วก็เดินมาถึง ใช้เวลาไม่นาน
ขณะที่เรามาถึงนั้นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นั่งรถตู้แวะมาและกำลังออกไปพอดี ไม่เช่นนั้นคนคงจะแน่นเพราะเจดีย์เล็กนิดเดียว
เจดีย์นี้สร้างในช่วงศตวรรษที่ 13 โดดเด่นตรงภาพวาดฝนผนังภายใน แต่ว่าน่าเสียดายที่เขาห้ามถ่ายรูปจึงไม่อาจเอาภาพเก็บกลับมาได้ ขณะที่เราเข้าชมนั้นก็มีนักท่องเที่ยวฝรั่งกลุ่มหนึ่งมาพร้อมกับไกด์ท้องถิ่นที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้
จากนั้นเดินกลับ ระหว่างทางเดินผ่านร้านที่ขายร่มพื้นเมือง
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว กลับโรงแรมมาพักผ่อนทำธุระอะไรไปเรื่อยจนถึงเย็นแล้วไปทานข้าวเย็น
มื้อเย็นวันนี้เลือกทานร้านนี้ เป็นแกงแบบพม่าเช่นเดียวกับสองวันที่ผ่านมา แต่ละร้านก็ต่างกันออกไป
สำหรับร้านนี้เราสั่งแกงปลาใส่เนย มีเครื่องเคียงหลายอย่าง ราคา ๔๕๐๐ จ๊าด ปริมาณพอสำหรับกินได้ ๒ คน ภายในชุดมีข้าวแถมมาสำหรับ ๑ คนด้วย เราจึงต้องสั่งข่าวมาเพิ่มอีกชามเพื่อสำหรับทาน ๒ คน ข้าวเปล่าราคา ๔๐๐ จ๊าด รวมแล้วก็เป็น ๔๙๐๐ จ๊าด ตกคนละ ๒๔๕๐ จ๊าด
จากนั้นกลับมานั่งเล่นเน็ตที่ล็อบบี แต่เน็ตก็แทบไม่กระดิกเลย แถมไฟดับบ่อยครั้ง สุดท้ายเราจึงกลับห้องกันตอนประมาณสองทุ่มกว่า
ตอนกลางคืนก็หยิบอาช่ามาเล่นต่อ คราวนี้ไปจนถึงตอนที่เจอกับรานันเป็นครั้งแรก https://phyblas.hinaboshi.com/20150817
เนื่องจากต้องออกเดินทางแต่เช้า คืนนี้นอนเร็ว ห้าทุ่มก็นอนแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้น
วันต่อไปก็ได้เวลาเดินทางกลับสู่มัณฑะเลย์แล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20150916
เข้าสู่วันที่ ๗ แล้ว หลังจากที่เมื่อวานเที่ยวเจดีย์ต่างๆในพุกามมามากมายจนถึงเย็น https://phyblas.hinaboshi.com/20150912
ตื่นเช้ามาตอนหกโมง จากนั้นก็นั่งเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ เปิดคอมเขียนบันทึก ระหว่างนั้นมีอยู่บางช่วงที่ไฟเกิดดับขึ้นมาแต่ก็ไม่มีผลอะไรมาก
ระหว่างนั้นเล่นเกมอาเตอลีเยของอาช่าไปถึงตรงที่เฟรดเริ่มกิจการร้านขนมปัง https://phyblas.hinaboshi.com/20150815
จากนั้นเราก็ไปทานข้าวเช้าที่โรงอาหารของโรงแรมตอนแปดโมงกว่า วันนี้มาทานค่อนข้างสายก็เลยมีคนกำลังทานอยู่เยอะ
เสร็จแล้วก็เดินออกจากโรงแรมไปเพื่อเที่ยวเจดีย์ที่เหลืออยู่ยังไม่ได้ไปเมื่อวานซึ่งก็เหลืออยู่แค่ ๒ แห่ง เป้าหมายแรกคือเจดีย์ชเวซีโกน (ရွှေစည်းခုံဘုရား) เป็นเจดีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่
เจดีย์ชเวซีโกนนั้นวันก่อนเดินผ่านมาแล้ว มันอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเลย สามารถเดินไปได้ง่าย ดังนั้นวันนี้เราจึงไม่ต้องเสียตังค์จ้างรถแท็กซีเลย
ที่สามแยกหน้าทางเข้าวัดมีเจดีย์เล็กๆอยู่หลังหนึ่ง เราก็แวะเข้ามาชมสักหน่อย
ออกลงอีกทาง
พอมาถึงหน้าถนนเส้นทางสู่เจดีย์ก็พบกว่าจังหวะนั้นฝนตกหนักลงมา แต่ตรงนั้นพอดีมีโถงทางเดินยาวในร่มเราจึงตัดสินใจเข้าไปเดินในนั้น
โถงทางเดินตรงนี้เชื่อมยาวไปถึงเจดีย์เลย
ระหว่างทางมีขายของอยู่เยอะ
ตรงนี้ขายหนังสือ เพื่อนผู้ร่วมเดินทางแวะดูตรงนี้แล้วก็ได้ซื้อหนังสือนำเที่ยวพุกามจากตรงนี้ไปด้วย
เจดีย์ชเวดาโกนสีทองอร่ามสวยงาม ยิ่งฝนตกทำให้ยิ่งสวย
เดินชมบริเวณลานรอบเจดีย์
ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติมาก เจอคนชาติต่างๆมากมาย บางคนก็พามัคคุเทศก์มาด้วย แต่บางคนก็ใช้มัคคุเทศก์ท้องถิ่นซึ่งสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ เห็นคนที่พูดภาษาโน้นนี้ได้อยู่ไม่น้อย
อาคารตรงนี้สลักนกยูงซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศพม่า แต่มีนกพิราบมาเกาะเต็มไปหมด
ชมในบริเวณเสร็จก็เดินออกมา ด้านหน้าทางเข้ามีสิงโตหินขนาดใหญ่
ตอนนี้ฝนเริ่มซาแล้วเลยเดินด้านนอก
แถวนั้นมีเจดีย์เล็กๆอยู่ประปราย
เดินมาเรื่อยๆจนออกมาสู่ถนนสายหลักหน้าทางเข้า ยังมองเห็นตัวเจดีย์หลักอยู่ไกลๆทางโน้น นี่เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่จะเดินจากที่นี่ไป
เสร็จแล้วก็แวะมาเดินที่เจดีย์กูบเยาะจี (ဂူပြောက်ကြီး) ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างทางนั้นค่อนข้างเปลี่ยวๆโล่งๆ ที่จริงเราอยากแวะเจดีย์อีกแห่งซึ่งมีเขียนอยู่ในแผนที่ด้วย แต่ลองเดินหาก็ไม่เจอก็เลยปล่อยผ่านไป เจดีย์แห่งนั้นเองก็ดูเหมือนจะเป็นแค่เจดีย์เล็กๆที่ไม่มีอะไรเด่นด้วย ไม่แวะก็ไม่เป็นไร
แล้วก็เดินมาถึง ใช้เวลาไม่นาน
ขณะที่เรามาถึงนั้นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นั่งรถตู้แวะมาและกำลังออกไปพอดี ไม่เช่นนั้นคนคงจะแน่นเพราะเจดีย์เล็กนิดเดียว
เจดีย์นี้สร้างในช่วงศตวรรษที่ 13 โดดเด่นตรงภาพวาดฝนผนังภายใน แต่ว่าน่าเสียดายที่เขาห้ามถ่ายรูปจึงไม่อาจเอาภาพเก็บกลับมาได้ ขณะที่เราเข้าชมนั้นก็มีนักท่องเที่ยวฝรั่งกลุ่มหนึ่งมาพร้อมกับไกด์ท้องถิ่นที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้
จากนั้นเดินกลับ ระหว่างทางเดินผ่านร้านที่ขายร่มพื้นเมือง
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว กลับโรงแรมมาพักผ่อนทำธุระอะไรไปเรื่อยจนถึงเย็นแล้วไปทานข้าวเย็น
มื้อเย็นวันนี้เลือกทานร้านนี้ เป็นแกงแบบพม่าเช่นเดียวกับสองวันที่ผ่านมา แต่ละร้านก็ต่างกันออกไป
สำหรับร้านนี้เราสั่งแกงปลาใส่เนย มีเครื่องเคียงหลายอย่าง ราคา ๔๕๐๐ จ๊าด ปริมาณพอสำหรับกินได้ ๒ คน ภายในชุดมีข้าวแถมมาสำหรับ ๑ คนด้วย เราจึงต้องสั่งข่าวมาเพิ่มอีกชามเพื่อสำหรับทาน ๒ คน ข้าวเปล่าราคา ๔๐๐ จ๊าด รวมแล้วก็เป็น ๔๙๐๐ จ๊าด ตกคนละ ๒๔๕๐ จ๊าด
จากนั้นกลับมานั่งเล่นเน็ตที่ล็อบบี แต่เน็ตก็แทบไม่กระดิกเลย แถมไฟดับบ่อยครั้ง สุดท้ายเราจึงกลับห้องกันตอนประมาณสองทุ่มกว่า
ตอนกลางคืนก็หยิบอาช่ามาเล่นต่อ คราวนี้ไปจนถึงตอนที่เจอกับรานันเป็นครั้งแรก https://phyblas.hinaboshi.com/20150817
เนื่องจากต้องออกเดินทางแต่เช้า คืนนี้นอนเร็ว ห้าทุ่มก็นอนแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้น
วันต่อไปก็ได้เวลาเดินทางกลับสู่มัณฑะเลย์แล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20150916