φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ออกเดินทางจากพุกามสู่มัณฑะเลย์ เดินเล่นในห้าง และชมการแสดงหุ่นกระบอก
เขียนเมื่อ 2015/09/16 20:01
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# เสาร์ 1 ส.ค. 2015

ย่างเข้าสู่วันที่ ๘ ของการเที่ยวแล้ว หลังจากที่เมื่อวานเที่ยวแบบสบายๆในพุกามเป็นวันสุดท้าย https://phyblas.hinaboshi.com/20150914

ตื่นเช้ามาตอนตีห้า เตรียมตัวจัดข้าวของให้เรียบร้อยแล้วพอหกโมงโรงอาหารของโรงแรมเปิดก็ไปทานข้าวเช้า เสร็จแล้วก็รีบกลับห้องมานั่งพักสักครู่

ระหว่างรอก็หยิบเกมอาเตอลีเยของอาช่ามาต่ออีกหน่อย ไปจนถึงที่อาช่าเจอคีธกริฟอีกครั้งที่หมู่บ้านร้าง https://phyblas.hinaboshi.com/20150817



แล้วพอเจ็ดโมงเราก็ออกมายังล็อบบีของโรงแรมเพื่อรอรถบัสที่จะไปยังมัณฑะเลย์ รถบัสมารับถึงโรงแรม ค่ารถบัสคนละ ๙๐๐๐ จ๊าด จ่ายล่วงหน้าไปก่อนแล้ว



ระหว่างรอเห็นมีเวลาก็เลยลองเดินเข้าไปด้านในด้านหลังของโรงแรมส่วนที่เรายังไม่ได้ลองเดินไปเพราะไม่ได้พักตรงนั้น ก็พบว่าตรงนี้สวยเหมือนกัน



ระหว่างที่กำลังรอนั้นเราเห็นฝรั่งสองคนกำลังรอรถอยู่เช่นกัน พอถามจึงรู้ว่าพวกเขากำลังจะไปเที่ยวทะเลสาบอินเลกันต่อ ซึ่งเป็นคนละเป้าหมายกับเรา เขาบอกว่ารถต้องนั่ง ๘ ชั่วโมงจึงจะไปถึง


รถของพวกเขามาถึงก่อนพวกเรา นี่คือรถที่พวกเขานั่งไปยังทะเลสาบอินเล



ไม่นานต่อจากนั้นก่อนแปดโมงรถที่มารับเราก็มาถึง แต่นี่ไม่ใช่รถที่จะไปส่งเราถึงมัณฑะเลย์ เป็นแค่รถที่จะพาเราไปยังท่ารถเพื่อจะนั่งรถไปมัณฑะเลย์ต่ออีกที ในรถคันนั้นตอนนี้มีฝรั่งสองคนอยู่ ลองชวนคุยดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนฮอลันดา



แล้วรถก็มาส่งที่ท่ารถ ซึ่งก็อยู่ฝั่งตรงข้ามเจดีย์ชเวซีโกนที่เพิ่งมาเที่ยวไปเมื่อวานนี่เอง ตอนนั้นก็ผ่านที่นี่และสังเกตเห็นไปแล้วด้วยเหมือนกัน



ตามกำหนดแล้วรถต้องออกแปดโมง แต่เอาเข้าจริงเรารอจนประมาณแปดโมงสิบห้ารถจึงจะมา จากนั้นก็ขนสัมภาระขึ้นรถแล้วรถก็ออก ภายในรถมีคนอยู่เต็ม ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติทั้งนั้น




ระหว่างทางรถมาจอดแวะให้เข้าห้องน้ำแถวเมืองมยีนจาน (
မြင်းခြံmyingyan)



จอดแค่แป๊บเดียว พอทุกคนเข้าห้องน้ำเสร็จรถก็ออกต่อ



ระหว่างทางเราเล่นอาช่าต่อ ไปจนถึงตอนที่เจอกับนานาคาอีกครั้งที่ทุ่งหญ้า



แล้วรถก็มาแวะจอดอีกครั้งระหว่างทางตอนช่วงก่อนถึงจุดที่กำลังจะเข้าสู่ทางด่วนระหว่างมัณฑะเลย์ถึงเนปยีดอซึ่งเราเคยวิ่งจากมัณฑะเลย์ถึงเนปยีดอมาแล้ว สำหรับคราวนี้ซึ่งมาจากพุกามเราวิ่งมาจากถนนด้านตะวันตกของเส้นนี้แล้วค่อยมาขึ้นทางด่วนไปสู่มัณฑะเลย์อีกที



คราวนี้พัก ๓๐ นาที ลงไปเข้าห้องน้ำแล้วก็นั่งพักข้างนอก

วันนี้เป็นวันแรกของการเที่ยวครั้งนี้ที่ไม่มีฝนตกเลยหลังจากที่มันตกต่อเนื่องมาถึง ๗ วัน แต่วันนี้กลับเป็นวันที่เราเดินทางและไม่มีแผนไปเที่ยวไหนมากมาย




ระหว่างนั่งเล่นรอก็เล่นอาช่าต่ออีกหน่อย ถึงตอนที่เออร์นีมาไหว้วานขอให้อาช่าช่วยปรุงยาให้ https://phyblas.hinaboshi.com/20150819





แล้วก็เดินทางเข้าถึงเมืองมัณฑะเลย์ตอนประมาณเที่ยงครึ่ง รถมาส่งให้ถึงที่ถึงโรงแรมที่เราพักอยู่ Golden City Light Hotel ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เราพักตอนที่อยู่มัณฑะเลย์ครั้งแรกสุด ตอนนั้นเราพักแค่ ๒ คืน แต่ครั้งนี้เราจะพัก ๓ คืน


เราเข้าไปเช็คอิน พนักงานโรงแรมจำเราได้ ห้องที่เราพักคราวนี้อยู่ชั้น ๓ ซึ่งต่างจากทีแรกที่อยู่ชั้น ๑ ห้องชั้น ๓ นี้ดูจะกว้างขวางกว่า แต่ในแง่ความสะดวกก็ไม่ดีเท่าชั้น ๑ ตรงที่ว่าต้องขึ้นลิฟต์มาจึงจะถึง

เราเข้าไปนั่งพักชิวๆในห้องจนถึงสี่โมงครึ่งจึงออกมาข้างนอก

เราเดินไปยังห้าง Yadanarpon Diamond Plaza ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม ที่นี่คือศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในมัณฑะเลย์




ชั้น ๒ มีขายของอยู่พอสมควร




อย่างไรก็ตามชั้น ๓ ขึ้นไปมันร้าง ไม่มีอะไรอยู่เลย บันไดเลื่อนก็ปิดด้วย





เรามีโอกาสได้ขึ้นไปสำรวจชั้นบนที่ร้างอยู่ด้วย ที่จริงการสำรวจนั้นทำในอีก ๒ วันให้หลังตอนที่กลับมาจากเที่ยวมิงกุน แต่ว่าเพื่อความต่อเนื่องขอลงรูปตรงนี้เลย



ภาพจากชั้น ๔ เห็นได้ว่ากระจกบันไดเลื่อนแตกเละดูแล้วน่ากลัว



มีสำนักงานตั้งอยู่บนชั้น ๕ ท่ามกลางความเงียบเหงา




ขาลงใช้ลิฟต์ แม้บันไดเลื่อนจะปิดแต่ลิฟต์ยังใช้ได้อยู่ อย่างไรก็ตาม สภาพมันดูน่ากลัวมาก



ส่วนชั้น ๑ นั้นเชื่อมต่อกับตลาดยะดะนาโบน (
ရတနာပုံစျေးyadanarbon zyi) ตรงนี้เราก็แวะไปเดินหลังจากที่สำรวจห้างร้างเสร็จ




พอเดินไปก็มาโผล่อีกด้านของห้าง




แต่ห้างไม่ได้จบเพียงแค่นี้ ความจริงแล้วห้างนี้ประกอบขึ้นจากสองห้าง ฝั่งที่อยู่หัวมุมซึ่งเราเข้าไปตอนแรกนั้นคือห้าง Skywalk ส่วนห้างอีกฝั่งคือ Diamond Plaza สองห้างนี้เชื่อมกันอยู่ด้วยสะพานที่ชั้น ๒



ซึ่งฝั่งนี้พอเข้ามาแล้วก็พบว่ามันครึกครื้นดี มีร้านอะไรอยู่มากมายเต็มไปหมดตั้งแต่ชั้น ๑ ถึงชั้น ๖ คนก็เยอะด้วย







ชั้น ๔ มีร้านอาหาร



เราแวะทานที่ร้านอาหารไต้หวัน คนในร้านนี้ดูเหมือนจะพูดได้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ



เมนูอาหารมี ๓ ภาษา



เราสั่งข้างแกงกะหรี่ทะเล (海鮮咖哩飯hǎi xiāng gā lǐ fàn) ราคา ๔๐๐๐ จ๊าด



ทานเสร็จแล้วก็สำรวจชั้น ๕ และ ๖ ต่อ เห็นมีร้านซูชิด้วย



แล้วก็มีร้านเกม



ชั้นบนหมดแค่นี้แล้ว จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างสุดเลย ชั้นใต้ดินเป็นซูเปอร์ขนาดใหญ่ Ocean



เราแวะตรงนี้เพื่อซื้อขนมไว้กินเป็นของรองท้องเผื่อเวลาหิวสักหน่อย วันก่อนซื้อขนมที่เนปยีดอซะเยอะแต่ว่ามันเป็นขนมกรอบๆ สภาพฟันตอนนี้ไม่อยากทานพวกนี้สักเท่าไหร่เลยเลือกซื้อของนิ่มๆ ก็เจอเค้กแบบอันตรงกลางนี้ อันนี้ราคา ๑๒๐๐ มี ๕ ชิ้น



นอกจากนี้ก็แวะซื้อใบชาพม่ากลับไปฝากที่บ้านด้วย ราคา ๒๗๕๐





หลังจากนั้นก็กลับมายังโรงแรมอีกที นั่งชิวไปอักสักพักจนถึงทุ่มครึ่งก็นั่งรถแท็กซีเพื่อไปชมการแสดงเชิดหุ่นที่โรงละครที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคูเมือง ซึ่งก็ไม่ไกลจากย่านที่เราอยู่มากนัก แต่เนื่องจากเราจ้างแท็กซีตอนกลางคืนแบบนั้นอีกทั้งยังจะให้เขารอเราจนการแสดงจบค่าจ้างก็เลยค่อนข้างแพง เขาคิด ๑๘๐๐๐ จ๊าด

มาถึงโรงละคร ที่นี่มีขนาดไม่ใหญ่นัก เป็นโรงละครเล็กๆดูไม่ได้สะดุดตาอะไร ค่าเข้าชมราคา ๑๐๐๐๐ จ๊าด การแสดงจัดขึ้นทุกวันตอนเวลา 20:30 - 21:30



บรรยากาศในโรงละครขณะยังไม่เริ่ม ยังไม่มีใครมานั่งรอ



บัตรเข้าชม การแสดงจะเริ่มตอนสองทุ่มครึ่ง



เรามาก่อนเวลานานไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง เราเลยเอาเกมมาเล่นระหว่างรอ ตอนนี้อาช่าเล่นไปถึงตอนที่อาช่าทำของตามตำราที่วิลเบลให้แล้วยังอยากได้หนังสืออ่านเพิ่มเติมอีกจึงปรึกษาวิลเบล



แล้วพอถึงเวลาที่กำหนดการแสดงหุ่นก็เริ่มต้นขึ้น ไฟในห้องถูกปิดลง เริ่มจากกล่าวนำ



หุ่นกระบอกออกมาแล้ว



มีคนทำท่าเป็นหุ่นกระบอกที่ถูกเชิดอยู่ด้วย ถือ่วาแปลกดี



คนทางซ้ายสุดพูดคำว่า "ขอโทษครับ" ออกมาเป็นหลายภาษามาก มีภาษาไทยด้วย



แล้วการแสดงก็จบลงตอนสามทุ่มครึ่งตรงเวลา คนแสดงมาขอจับมือกับผู้ชมทุกคน
บางคนก็ถือโอกาสถ่ายรูปคู่กับนักแสดงด้วย



เสร็จแล้วเราก็กลับไปขึ้นรถแท็กซีคันเดิมที่เขารอเราอยู่เพื่อกลับโรงแรม

คืนนี้เราอยู่ดึกจนเที่ยงคืนจึงนอน ระหว่างนั้นก็เล่นอาช่าต่อ ไปจนถึงตอนที่อาช่าเข้าไปหามาริออนที่สำนักงานแล้วมาริออนก็เล่าถึงเรืองบ้านเกิดของตัวเองให้ฟัง



แล้วก็จบไปอีกวัน นอนพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสักวันต่อไปซึ่งจะเป็นอีกวันที่เที่ยวหนักอีกวัน https://phyblas.hinaboshi.com/20150918



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ต่างแดน >> อุษาคเนย์ >> พม่า

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文