φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas
ทวีต
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
เขียนเมื่อ 2014/09/27 23:38
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#อาทิตย์ 14 ก.ย. 2014
ในที่สุดก็มีโอกาสไปเที่ยวถึงเกาหลีเหนือมา เป็นประสบการณ์ที่ดีน่าเล่าทีเดียว แม้จะไปมาแค่แนวชายแดนเท่านั้น
แผนนี้จริงๆเคยวางไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้ไปจริงๆ
เมืองตานตง (丹东市)
ตั้งอยู่ใน
มณฑลเหลียวหนิง (辽宁省)
ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริม
แม่น้ำยาลู่ (鸭绿江
, ตัว 绿 ปกติจะอ่านว่า "ลวี่" แต่ในชื่อแม่น้ำนี้อ่านแบบพิเศษเป็น "ลู่"
)
แม่น้ำยาลู่นี้ในภาษาเกาหลีเรียกว่า
แม่น้ำอัมนก (압록강)
เป็นแม่น้ำที่กั้นเขตแดนระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ เมืองตานตงนี้ถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดน มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะเป็นจุดเชื่อมต่อกับเกาหลีเหนือ
เมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตานตงคือเมือง
ซีนึยจู (신의주)
หรือในภาษาจีนเรียกว่า
ซินอี้โจว (新义州)
เป็นเมืองเล็กๆริมชายแดน อยู่ใน
เขตการปกครองพิเศษซีนึยจู (신의주특별행정구, 新义州特别行政区)
ใน
จังหวัดพย็องอันเหนือ (평안북도, 平安北道)
ของเกาหลีเหนือ
การเที่ยวเมืองตานตงนี้โดยๆหลักๆแล้วก็คือการส่องมองเกาหลีเหนือผ่านแม่น้ำ และการแล่นเรือบนแม่น้ำยาลู่เพื่อเข้าไปชมการใช้ชีวิตของคนเกาหลีเหนือที่อยู่ฟากโน้นอย่างใกล้ชิด
และสิ่งที่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะได้ทำก็คือ การแล่นเรือเข้าไปยังเขตแดนเกาหลีเหนือ และได้ติดต่อซื้อของกับคนเกาหลีเหนือ แม้ว่าจะไปได้แค่ช่วงสั้นๆก็ตาม
อย่างที่รู้กันว่าเกาหลีเหนือเป้นประเทศปิด การเข้าไปในประเทศนี้ไม่สามารถทำได้โดยอิสระ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแล้วสามารถซื้อทัวร์เพื่อเข้าไปเที่ยวในเกาหลีเหนือได้ แต่ว่าก็แพงมากและไม่ได้มีอะไรให้ดูมากขนาดนั้น เคยอ่านที่คนเล่ามาเหมือนกัน ที่จริงก็สนใจแต่ยังไงก็ตามครั้งนี้ของชมแค่บริเวณชายแดนดีกว่า เพียงเท่านี้ก็เพียงพอ
ตานตงเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเพราะมีคนไม่น้อยที่อยากมาเห็นว่าเกาหลีเหนือเป็นยังไง จากที่นี่สามารถมองข้ามไปเห็นเกาหลีเหนือได้ชัด
การเดินทางจากปักกิ่งถึงเมืองตานตงนั้นไปโดยรถไฟเที่ยวกลางคืน ออกเดินทางตอนเย็น ไปถึงตอนเช้า และใช้เวลาเที่ยวในนั้น ๒ วัน ค้าง ๑ คืน จากนั้นขากลับก็นั่งรถไฟเที่ยวกลางคืน รวมแล้วก็เป็นการเที่ยว ๓ วัน ๒ คืน
ครั้งนี้ได้ไปกับมิตรสหายท่านหนึ่งที่มาทำงานในจีน เป็นคนชอบการเมืองอยู่แล้ว การได้ไปเที่ยวเกาหลีเหนือแบบนี้จึงดูเหมือนจะถูกใจพอสมควรทีเดียว
ในการเที่ยวครั้งนี้ออกเดินทางคืนวันเสาร์ที่ 13 ก.ย. และไปถึงที่หมายในวันอาทิตย์ 14 ตอนเช้า โดยออกจากสถานีปักกิ่งกลาง เดินทางไปสะดวก
เดิมทีกะว่าจะซื้อตั๋วตู้นอนเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างสบายๆ แต่วางแผนกระชั้นชิดไปหน่อยตั๋วนอนขายหมดแล้ว ดังนั้นเลยได้แต่ซื้อตั๋วนั่ง ข้อดีคือประหยัดตังค์ได้มาก ตั๋วนั่งราคา ๑๔๑.๕ หยวน ตั๋วนอนราคา ๒๖๘ หยวน ต่างกันเกือบ ๒ เท่า ดังนั้นเราประหยัดเงินไปได้ ๒๕๓ หยวน แลกกับความลำบากในการเดินทาง
รถไฟที่จะขึ้นนี้เป็นขบวนที่มีปลายทางไปถึงเปียงยางเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ แต่เราจะลงแค่ที่ชายแดนเท่านั้น
เมื่อขึ้นรถไฟแล้วก็ได้เวลาแห่งความทรมานเพราะต้องนั่งบนรถไฟตลอดทั้งคืน ไม่ใช่ตู้นอน จะหลับก็ได้ไม่เต็มที่เพราะไม่มีที่นอนและเปิดไฟตลอดคืน ถึงอย่างนั้นก็ทำแบบนี้มาแล้วหลายรอบ ดังนั้นก็ชินแล้ว แม้จะหลับไม่เต็มที่แต่สุดท้ายก็ผ่านคืนนี้มาได้
ใครที่ไม่คิดมากเรื่องค่าใช้จ่ายและสามารถจองตู้นอนได้ทันยังไงก็แนะนำตู้นอนดีกว่าเพราะนั่งตลอดคืนนี่ลำบากจริงๆ
หลังจากหลับๆตื่นๆมาเรื่อยๆตลอดคืนในที่สุดฟ้าก็สว่าง เราตื่นขึ้นมาชมทิวทัศน์ข้างทาง ธรรมชาติข้างทางสวยงาม น่าเสียดายที่ไม่อาจถ่ายรูปสวยๆมาได้เนื่องจากหมอกหนา
ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านต่างๆเห็นบ้านเมืองประปราย แม้จะเป็นแค่บ้านระหว่างทางแต่ก็เต็มไปด้วยอาคารหลายชั้นไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านนอกเลยสักนิด
ตรงนี้ใกล้กับตำบลจินซาน (金山) แถวสถานีฮาหมาถาง (蛤蟆塘站) ซึ่งรถไฟมาจอดนิ่งอยู่ระยะหนึ่งแต่ไม่ได้ให้ใครลง
แล้วก็มาถึงสถานีตานตงเวลา 7:15
ทางเข้าสำหรับในประเทศ เท่าที่เห็นก็ลงจากรถมาเข้าทางนี้กันทุกคน คงน้อยคนที่จะนั่งรถไฟต่อข้ามชายแดนต่อไปยังเปียงยาง
อาคารสถานีรถไฟตานตง ถ่ายจากด้านหน้า ตอนที่มาถึงหมอกบางลงกว่าระหว่างทางมากจนทำให้โล่งใจ แต่ก็ยังเห็นหมอกอยู่บางๆ
รูปปั้นประธานเหมาเจ๋อตงตั้งโดดเด่นอยู่หน้าสถานี
และน้ำพุที่ตรงกลางมีดอกโบตั๋นก็ดูสวยดี
เป้าหมายแรกทันทีที่มาถึงก็คือต้องไปโรงแรมที่จองไว้เพื่อเอาของไปวางในห้องก่อนแล้วจึงออกไปเที่ยว โดยตั้งใจจะไป
กำแพงเมืองจีนด่านหู่ซาน (虎山长城)
ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งที่สามารถส่องเกาหลีเหนือได้อย่างใกล้ชิด
โรงแรมอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ในเวลา ๑๕-๒๐ นาที ผังเมืองนี้ก็ค่อนข้างง่ายเดินไม่ยาก แต่ก่อนที่จะเดินไปโรงแรมเราถามคนแถวนั้นก่อนว่าจะไปกำแพงเมืองจีนด่านหู่ซานไปยังไงดี จังหวะนั้นก็ไปเจอคนขับรถรับจ้างคนหนึ่งมาเสนอว่าจะไปส่งให้ด้วยราคาคนละ ๑๐ หยวน แต่เราบอกเขาว่าเราจะไปโรงแรมก่อนยังไม่ไปทันทีเขาก็เลยเสนอว่าจะไปส่งให้ถึงโรงแรมแล้วรอเราจากนั้นค่อยไปส่ง เราเห็นว่าแบบนี้ฟังดูน่าสนใจดี แค่ ๑๐ หยวนไม่ได้แพงกว่านั่งรถเมล์ไปเองมากจึงตกลงทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก
ครั้งนี้เราใช้บริการโรงแรมหรูเจีย (如家酒店) ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีหลากหลายสาขาอยู่ทั่วประเทศ ไปเที่ยวที่ไหนก็มักจะจองโรงแรมนี้ตลอดเพราะราคาถูกและไว้ใจได้ โรงแรมหรูเจียของเมืองนี้มีหลายสาขาแต่ไม่มีที่อยู่ติดสถานีรถไฟเลย มีสาขานี้ใกล้ที่สุดแม้ไม่ได้ติดแต่ก็อยู่ในระยะที่เดินไปได้ไม่ยาก
เรารีบเข้าไปวางของที่ห้อง ค่าห้องเตียงคู่ธรรมดาคือ ๑๘๐ หยวนแต่เรามีบัตรสมาชิกก็ลดเหลือ ๑๗๔ หยวน ใช้เวลาในการลงทะเบียนเข้าพักนานจนคนขับรถเขาเข้ามาตามเราจึงมีเวลาวางของในห้องแค่แป๊บเดียวแล้วก็ต้องรีบลงมา
นอกจากเราสองคนแล้วก็ยังมีคนจีนชายหญิงคู่หนึ่งนั่งโดยสารมาด้วยรวมเป็น ๔ คน เขาบอกว่าเรียนหนังสืออยู่ที่ฮาร์บินแล้วมาเที่ยวที่นี่เสาร์อาทิตย์ เขาคุยดีทีเดียว ส่วนคนขับรถเองก็คุยเก่ง แนะนำอะไรมากมาย
ก่อนอื่นคงต้องขอเกริ่นก่อนว่าที่จริงแล้วกำแพงเมืองจีนด่านหู่ซานที่จะไปนี้เป็นด่านที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่ของเก่าอะไรเลย กำแพงนี้สร้างขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งที่มีทับของเก่าที่สร้างสมัยราชวงศ์หมิงซึ่งเพิ่งมีการค้นพบร่องรอยเมื่อไม่นาน ทำให้เข้าใจว่าที่นี่คือกำแพงด่านที่อยู่ตะวันออกสุดที่แท้จริง ไม่ใช่ซานไห่กวาน (山海关) อย่างที่เคยเข้าใจ อย่างไรก็ตามก็เห็นคนถกเถียงเรื่องนี้กันอยู่มากมาย
คนขับรถแนะนำว่าที่นี่ไม่จำเป็นต้องไปปีนก็ได้เพราะไม่ได้สวยเท่าที่อื่น ยังไงก็มีแต่ของสร้างใหม่ และค่าเข้าก็แพงด้วย ที่คนมาที่นี่ก็เพราะแค่ต้องการดูชายแดนเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดเท่านั้น ซึ่งแค่นี้ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปบนกำแพงก็ได้ และเขาก็เสนอว่ามีอยู่จุดหนึ่งที่สามารถนั่งเรือข้ามไปยังเกาหลีเหนือได้ และสามารถติดต่อกับคนเกาหลีเหนือที่มาขายของได้ เพียงแต่ว่าไม่สามารถลงจากเรือได้เท่านั้น ราคาค่าเรือคือ ๑๐๐ หยวน ตรงนี้เป็นส่วนที่ไม่ได้หาข้อมูลเจอมาก่อน ทีแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะจริงหรือเปล่า แต่ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย
ดังนั้นสรุปแล้วก็คือในการเที่ยวครั้งนี้เราไม่ไปปีนกำแพงเมืองจีนแล้ว เปลี่ยนเป็นไปนั่งเรือเขาสู่แผ่นดินเกาหลีเหนือแทน ซึ่งก็น่าสนใจว่าอยู่แล้ว
ทิวทัศน์ในเมืองระหว่างทางที่จะไป เมืองนี้ไม่ใช่เมืองเล็กๆเลย นั่งรถผ่านไปเรื่อยๆกว่าจะออกนอกเมืองก็ใช้เวลาสักพัก
ภาพนี้ไม่แน่ใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ถ้ามองข้ามแม่น้ำไปก็จะเห็นบ้านเรือนเมืองซีนึยจูของเกาหลีเหนือ
เริ่มออกนอกเขตเมืองแล้ว มองออกไปฝั่งตรงข้ามแม่น้ำก็คือแผ่นดินเกาหลีเหนือ ระหว่างทางเห็นคนขับจักรยานผ่านไปประปรายด้วย
แม้น้ำบริเวณนี้บางบริเวณก็แคบ บางบริเวณก็กว้าง
คนขับรถพาเรามาลงตรงจุดหนึ่งซึ่งมีก้อนหินเขียนว่า
一步跨
แปลว่า "ก้าวเดียวข้าม" หมายถีงว่าอีกก้าวเดียวก็จะข้ามไปถึงเกาหลีเหนือแล้วเพราะเป็นบริเวณที่แม่น้ำแคบมากจนเหมือนจะข้ามไปได้สบาย แผ่นดินที่เห็นอยู่ด้านหลังก้อนหินและรั้วนี้คือเกาหลีเหนือทั้งหมด อย่างไรก็ตามนั่นก็เป็นแค่เกาะกลางแม่น้ำยาลู่เท่านั้น ไม่ใช่แผ่นดินหลัก
นี่คือนักท่องเที่ยวคนจีนที่มาด้วยกันกับเรา เขาก็ขอถ่ายรูปกับก้อนหินนี่ด้วยสักที
จากตรงนี้มองข้ามไปเห็นบ้านของเกาหลีเหนือด้วย หลังจากหยุดถ่ายรูปกันสักพักเราก็ขึ้นรถแล้วไปต่อ
แล้วเขาพาเรามาส่งที่ท่าเรือซึ่งจะขึ้นเรือข้ามไปยังเกาหลีเหนือ คนขับดูบริการดีมากช่วยติดตอกับคนขับเรือให้ด้วย เห็นแล้วก็มั่นใจได้ว่าเขาน่าจะได้ค่านายหน้าจากที่นี่ไป เพราะเขาคิดเราแค่คนละ ๑๐ หยวนค่าเดินทางมาจากเมืองดูยังไงก็ถูกเกินคาดไปหน่อย พอเขามาส่งเราลงที่นี่เราก็จ่ายเงินให้เขาแล้วเขาก็ขับรถจากไป ไม่ได้รอรับเรากลับ
นี่คือเรือที่เราจะนั่ง ที่ขึ้นไปนั่งบนเรือก่อนแล้วคือนักท่องเที่ยวจีนสองคนที่มาด้วยกัน
หลังจากนั้นเราก็นั่งรออยู่บนเรือประมาณ ๑๕ นาที ไม่รู้ว่าทำไมต้องรอนานเหมือนกัน ในที่สุดคนขับเรือก็มาแล้วก็ออกเรือได้
นอกจากเรือเล็กที่เขาแนะนำให้เรานั่งแล้วก็ยังมีเรือใหญ่ซึ่งต้องนั่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆด้วย ราคาจะถูกกว่าคือ ๗๐ หยวน แต่จะช้ากว่าและต้องรอคนจำนวนมากกว่าจะได้ออกไป ที่จริงตอนที่เรามาถึงก็มีเรือใหญ่ออกไปพอดี ไม่งั้นเราก็คงจะขึ้นเรือใหญ่ไปเหมือนกัน ไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ต้องรอให้คนเยอะถึงจะออก
มุ่งสู่น่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตอนนี้เราอยู่ในเขตแดนเกาหลีเหนือแล้ว สองข้างฝั่งทางล้วนเป็นแผ่นเดินเกาหลีเหนือ บริเวณนี้อยู่นอกเขตเมืองซีนึยจูแต่ก็ยังอยู่ในส่วนของเขตการปกครองพิเศษซีนึยจู โดยที่ทางซ้ายเป็นแผ่นดินใหญ่แต่ทางขวาเป็นเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำซึ่งถือครองโดยเกาหลีเหนือ
ที่จริงแล้วแม่น้ำยาลู่นี้ถือเป็นน่านน้ำสาธารณะ สองประเทศนี้มีสิทธิ์ใช้แม่น้ำร่วมกัน สามารถติดต่อกันได้โดยทางเรือ ดังนั้นแม้เราจะเข้ามาในเขตแดนที่ล้อมไปด้วยแผ่นดินเกาหลีเหนือก็ไม่เป็นไรขอแค่ไม่เหยียบแผ่นดิน อย่างไรก็ตามแค่นี้ก็เท่ากับว่าได้เข้ามายังเขตแดนเกาหลีเหนือแล้ว
เห็นคนเกาหลีเหนือเดินอยู่ประปรายบนเกาะกลางแม่น้ำ
ไม่รู้ว่าเขางมหาอะไรในแม่น้ำ
หากมองข้ามเกาะกลางนี้ไปก็จะเห็นแผ่นดินจีนอยู่เบื้องหลัง นั่นคือเขาที่มีกำแพงเมืองจีนด่านหู่ซานนั่นเอง
บนเกาะกลางนี้ยังเห็นพวกบ้านของเกาหลีเหนืออีกมากมาย เป็นอันเดียวกับที่เห็นตั้งแต่อยู่ทางฝั่งจีน คนขับเรือบอกว่าพวกนี้เป็นบ้านพักของพวกทหาร แล้วก็มีการเพาะปลูกด้วย
รถบรรทุก
คราวนี้ลองมองไปที่ฝั่งแผ่นดินใหญ่เกาหลีเหนือ
ตรงนี้เขาบอกว่าเป็นท่าเรือที่พวกญี่ปุ่นมาสร้างไว้ตั้งแต่สมัยก่อน
สิ่งก่อสร้างหน้าตาประหลาดดี
ระหว่างทางก็วิ่งสวนกับเรือนักท่องเที่ยวจีนมากมาย เท่าที่เห็นเรือที่วิ่งในน่านน้ำนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเรือท่องเที่ยวจีนทั้งนั้น แทบไม่มีเรือของเกาหลีเหนือ
แล้วก็มีเรือเล็กของเกาหลีเหนือแล่นมาประกบกับเรือของจีน ภายในเรือบรรทุกของมาขาย คุณลุงบนเรือเล็กนี้เป็นคนเกาหลีเหนือ เรือลำเล็กที่เรานั่งก็วิ่งเข้ามาประกบเรือของเขาอีกที นักท่องเที่ยวจีนที่มากับเราซื้อของกับเขาด้วยแต่เราไม่ได้ซื้อ
การเที่ยวโดยเรือในแดนเกาหลีเหนือก็จบเท่านี้ ที่จริงแล้วตอนแรกเราเข้าใจว่าที่เขาบอกว่าเข้าไปในเขตแดนเกาหลีเหนือและติดต่อซื้อของได้นี่คือน่าจะได้ไปเหยียบแผ่นดินเกาหลีเหนือด้วย แต่ความจริงแล้วก็คือแค่เข้าเขตน่านน้ำเกาหลีเหนือและติดต่อซื้อขายกันบนเรือแค่นั้น ซึ่งความจริงมันก็ควรจะได้แค่นี้แหละตราบใดที่ไม่ทำวีซา ที่จริงแล้วมีทริปแบบที่ข้ามไปเที่ยวฝั่งนั้นหนึ่งวันด้วยแต่ต้องทำวีซาและราคาก็แพงโหดไปยังไงเราไม่ได้กะจะข้ามไปอยู่แล้วแต่แรก
เสร็จแล้วกลับเข้าฝั่งมาแถวนั้นมีพวกของขาย
ตรงนี้ขายพวกของที่ระลึก
เจอเงินเกาหลีเหนือซึ่งขายอยู่ในราคา ๓๕ หยวน แต่ต่อเหลือ ๓๐ หยวนได้อย่างง่ายดาย มีธนบัตรชนิดต่างๆตั้งแต่ ๕๐๐๐ วอนลงมาและมีเหรียญด้วย ตอนแรกก็ลังเลสงสัยว่าจะเป็นของปลอมหรือเปล่าแต่ดูแล้วมีลายน้ำและแต่ละใบก็เลขไม่ซ้ำกันเลยคิดว่าน่าจะของแท้ ซื้อไปเป็นที่ระลึกก็น่าจะดี ที่จริงหลังจากซื้อตรงนี้เสร็จไปก็เห็นที่อื่นมีขายอีกหลายที่เลย แต่ราคาก็ประมาณ ๓๐ เหมือนกัน ไม่น่าต่างกันมากมาย
หลังจากเสร็จจากตรงนี้แล้วเราก็หารถเพื่อจะกลับเข้าไปในเมือง แต่เราบอกคนขับว่าขอให้เขาแวะจอดตรงทางเข้ากำแพงเมืองจีนด่านหู่ซานด้วยจะลงไปถ่ายรูปสักหน่อย ไหนๆก็มาถึงแล้ว ต่อให้ไม่คิดจะปีนก็ตาม
หน้าทางเข้า
จากตรงนี้ก็เห็นตัวป้อมกำแพงอยู่ไกลๆด้านบนเล็กน้อย ถ้าไม่เข้าไปปีนก็คงจะไม่ได้เห็นมากกว่านี้
ตอนนั้นที่จริงยังลังเลอยู่ว่าจะไม่ไปปีนดีแล้วหรือ แต่พอคิดว่าพรุ่งนี้ยังมีแผนจะปีนเขาอยู่อีกอาจจะเหนื่อยเลยคิดว่าน่าจะเก็บแรงไว้ดีกว่า และปีนตรงนี้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกลัวจะมีเวลาเดินในเมืองไม่พอก็เลยตัดสินใจไม่ไปก็ได้
หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับตัวเมืองเพื่อไปเที่ยวในเมืองต่อ ในเมืองยังมีที่เที่ยวอีกไม่น้อยก็จริงแต่ใช้เวลาไม่ได้มากอย่างที่คิดไว้ ความจริงแล้วหลังจากที่เที่ยวในเมืองจนทั่วแล้วพบว่าเหลือเวลาว่างก็เกิดความรู้สึกเสียดายขึ้นมาเหมือนกันที่ไม่ได้ขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร
ตอนต่อไปจะไปปีนเขาเพื่อชมทิวทัศน์จากมุมสูงบ้าง
https://phyblas.hinaboshi.com/20140929
{{s.chue}}
〇
✖
ทวีต
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
ดูสถิติของหน้านี้
หมวดหมู่
--
ประเทศจีน
>>
จีนแผ่นดินใหญ่
>>
เหลียวหนิง
--
ท่องเที่ยว
>>
เรือ
ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ
三
~ เกี่ยวกับเรา ~
สารบัญ
รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
ภาษา python
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib
-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ
บทความแบ่งตามหมวด
==เลือกหมวด==
ดาราศาสตร์
คณิตศาสตร์
-ความน่าจะเป็น
คอมพิวเตอร์
-เขียนโปรแกรม
--python
---numpy
---scipy
---matplotlib
---pandas
---manim
---pyqt
---sklearn
---pytorch
---mayapython
--ruby
--javascript
--dart
--MATLAB
--SQL
--regex
--opencv
-shell
-3D
--maya
--MMD
-microsoft_office
-pdf
-ปัญญาประดิษฐ์
--โครงข่ายประสาทเทียม
--สเตเบิลดิฟฟิวชัน
---comfyui
-การสุ่ม
ภาษาศาสตร์
-ตัวอักษร
-เรียนภาษา
-หลักเกณฑ์การทับศัพท์
-ภาษาจีน
--ภาษาจีนกลาง
-ภาษาญี่ปุ่น
-ภาษามองโกล
-ภาษาลาว
-ภาษาเขมร
ประวัติศาสตร์
-ประวัติศาสตร์จีน
-ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ปรัชญา
ประเทศจีน
-จีนแผ่นดินใหญ่
--ปักกิ่ง
--เทียนจิน
--เหลียวหนิง
--เหอเป่ย์
--เหอหนาน
--ซานตง
--ซานซี
--อานฮุย
--เจ้อเจียง
--หูเป่ย์
--หูหนาน
--ฝูเจี้ยน
--กวางตุ้ง
---แต้จิ๋ว
--ยูนนาน
--ซินเจียง
-ฮ่องกง
-มาเก๊า
-ไต้หวัน
--ไทเป
--จีหลง
--เถาหยวน
--ซินจู๋
--เหมียวลี่
--ไถจง
--จางฮว่า
--หยวินหลิน
--เจียอี้
--ไถหนาน
--เกาสยง
--ผิงตง
--อี๋หลาน
ประเทศญี่ปุ่น
-ฮกไกโด
-อาโอโมริ
-อิวาเตะ
-มิยางิ
-อากิตะ
-ยามางาตะ
-ฟุกุชิมะ
-อิบารากิ
-โทจิงิ
-กุมมะ
-ไซตามะ
-จิบะ
-โตเกียว
-คานางาวะ
-นีงาตะ
-โทยามะ
-อิชิกาวะ
-ฟุกุอิ
-ยามานาชิ
-นางาโนะ
-กิฟุ
-ชิซึโอกะ
-ไอจิ
-มิเอะ
-ชิงะ
-เกียวโต
-โอซากะ
-เฮียวโงะ
-นาระ
-วากายามะ
-โอกายามะ
-ฮิโรชิมะ
-ยามางุจิ
-ฟุกุโอกะ
-ซางะ
-นางาซากิ
-คุมาโมโตะ
-โออิตะ
ต่างแดน
-อุษาคเนย์
--กัมพูชา
--พม่า
--สิงคโปร์
-ยุโรป
--สวีเดน
--เดนมาร์ก
--ฟินแลนด์
-ออสเตรเลีย
ท่องเที่ยว
-มหาวิทยาลัย
-พิพิธภัณฑ์
--พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
--หอศิลป์
-สวนสัตว์
--พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
-ท้องฟ้าจำลอง
-ตึกระฟ้า
-ปราสาท☑
--ปราสาทญี่ปุ่น
--ปราสาทขอม
--ปราสาทยุโรป
-ศาสนสถาน
--วัด
--ศาลเจ้า
--โบสถ์
--มัสยิด
-สุสาน
-มรดกโลก
-ทะเล
-ทะเลสาบ
-ภูเขา
-หิมะ
-ดอกซากุระ
-แมว
-รถไฟ
-เรือ
-ตลาดกลางคืน
-งานเทศกาล
-ที่ระลึกภัยพิบัติ
-ตามรอย
บันเทิง
-เกม
--อาเตอลีเย
--โปเกมอน
--caligula
--vn
-อนิเมะ
-มังงะ
-นิยาย
-เพลง
--เพลงอนิเมะ
--เพลงเกม
เรื่องแต่ง
บันทึก
ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ
ค้นหาบทความ
บทความล่าสุด
เดินเล่นริมฝั่งทะเลเบปปุยามเช้า มีหาดทรายนิดหน่อย
ปราสาทคิฟุเนะ จุดชมทิวทัศน์ยุเกมุริ เบปปุทาวเวอร์
เบปปุจิโงกุเมงุริ เที่ยวชมอนเซงบ่อนรกที่มีสีสันสวยงามแปลกตาทั้ง ๗ แห่งในเบปปุ
ขึ้นรถกระเช้าเบปปุไปยังยอดเขาทสึรุมิสูง ๑๓๗๕ เมตร มองเห็นเมืองเบปปุริมฝั่งทะเลจากมุมสูง
เดินไปตามถนนยุโนะทสึโบะ ชมยุฟุอิงฟลอรัลวิลเลจ แวะกินตามข้างทางไปเรื่อย
บทความแนะนำ
ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ
บทความแต่ละเดือน
2024年
1月
2月
3月
4月
5月
6月
7月
8月
9月
10月
11月
12月
2023年
1月
2月
3月
4月
5月
6月
7月
8月
9月
10月
11月
12月
2022年
1月
2月
3月
4月
5月
6月
7月
8月
9月
10月
11月
12月
2021年
1月
2月
3月
4月
5月
6月
7月
8月
9月
10月
11月
12月
2020年
1月
2月
3月
4月
5月
6月
7月
8月
9月
10月
11月
12月
ค้นบทความเก่ากว่านั้น
ไทย
日本語
中文