# เสาร์ 25 พ.ค. 2019หลังจากที่ตอนที่แล้วได้ไปชมปราสาทวากามัตสึมา
https://phyblas.hinaboshi.com/20190604เวลายังพอเหลือ เขาจึงพาไปเที่ยวสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่ง คือ
สุสานตระกูลมัตสึไดระผู้ครองไอซึฮัง (会津藩主松平家墓所)ไอซึฮัง (会津藩) เป็นเขตการปกครองเทียบเท่าจังหวัดที่ตั้งขึ้นมาตอนเริ่มยุคเอโดะ กินพื้นที่บริเวณทางตะวันตกของจังหวัดฟุกุชิมาไปจนถึงส่วนของจังหวัดนีงาตะและโทจิงิ
แต่ละฮังจะมีผู้ปกครองเป็นไดเมียว (
大名) คือซามุไรผู้ยิ่งใหญ่ของพื้นที่นั้น
ในช่วงต้นยุคเอโดะนั้นไดเมียวผู้ปกครองไอซึฮังเป็นคนจาก
ตระกูลกาโมว (蒲生家) แล้วก็มีการเปลี่ยนตระกูลที่ครองที่นี่มาเรื่อยๆ จนในที่สุดตั้งแต่ปี 1643
ตระกูลมัตสึไดระ (松平家) ได้เข้าปกครองไอซึฮัง ตั้งแต่นั้นก็สืบทอดต่อมาจนถึงรุ่นที่ ๙ จนสิ้นสุดยุคเอโดะในปี 1868 เป็นเวลานานกว่าสองร้อยปี
สุสานแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นเพื่อฝังศพของผู้ครองแคว้นตั้งแต่รุ่นที่ ๒ คือ มัตสึไดระ มาซัตสึเนะ (
松平 正経) จนถึงรุ่นที่ ๙ มัตสึไดระ คาตาโมริ (
松平 容敬)
แผนที่ในบริเวณ มีแจกอยู่ด้านใน
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่นี่นั้นสามารถนั่งรถเมล์สายไฮการะซัง (ハイカラさん) มาได้ ลงที่ป้ายอินไน (
院内) แต่ก็ยังต้องเดินขึ้นไปตามทางเขาต่ออีก ๖๐๐ เมตร
ครั้งนี้เราโชคดีที่เขามีรถขับพามาส่งถึงที่ ทำให้ไม่ต้องเดินไกล
แล้วยิ่งเพราะรอบๆบริเวณเป็นป่าอย่างที่เห็น
ทางเข้าไปยังบริเวณสุสาน
เริ่มต้นเดินเข้ามาจะเจอบริเวณสุสานของผู้ครองไอซึฮังรุ่นที่ ๘ มัตสึไดระ คาตาตากะ (
松平 容敬)
ตัวสถานที่ฝังศพอยู่ด้านบน ต้องขึ้นบันไดไปจึงจะเห็น แต่ว่าเขาห้ามขึ้น ดังนั้นส่วนที่ให้ชมได้หลักๆก็คือส่วนหน้าบันได และเต่าแบกป้ายหินที่เรียกว่า คิฟุซะ (
亀趺坐) หรือที่ในจีนเรียกว่าปี้ซี่ (
贔屓)
ที่ฝังศพของแต่ละคนจะมีเต่าวางอยู่ด้านหน้าแล้วตามด้วยขั้นบันไดแบบนี้เหมือนกันหมด และเต่าแต่ละตัวจะต่างกันไปเล็กน้อยด้วย
ต่อมาเดินลึกเข้าไปก็จะถึงป้ายเต่าของรุ่นที่ ๔ มัตสึไดระ คาตาซาดะ (
松平 容貞) ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าต่างจากป้ายของรุ่นที่ ๘ เล็กน้อยในรายละเอียด
สุสานของรุ่นที่ ๔ นี้ เมื่อมองลึกเข้าไปหน่อยก็จะเห็นตรงส่วนของแผ่นป้ายหน้าหลุมศพ และหลังแผ่นป้ายนั้นคือส่วนที่ฝังศพ ซึ่งจะเห็นทีการตั้งแท่นหิน เรียกว่า ชิซึเมอิชิ (
鎮石)
จากรุ่นที่ ๘ แล้วก็โดดมารุ่นที่ ๔ เลยแบบนี้จะเห็นได้ว่าการจัดเรียงนั้นไม่ได้เป็นไปตามลำดับสักเท่าไหร่
อันนี้เป็นแผนที่ซึ่งวางอยู่หน้าป้ายเต่าของรุ่นที่ ๔ หากเรียงไล่จากนอกสุดไปในสุดจะเรียงได้เป็น 8 > 4 > 3 > 5 > 6 > 7 > 9
ส่วนของรุ่นที่ ๒ นั้นแยกอยู่ไกลหน่อยทางด้านล่าง และเขาก็ไม่ได้พาเราไปชมถึงตรงนั้น ส่วนรุ่นที่ ๑ นั้นไม่ได้ถูกฝังไว้ที่นี่แต่แรกแล้ว
จากป้ายเต่าของรุ่นที่ ๔ เดินถัดลึกเข้ามาก็เจอของรุ่นที่ ๓ มัตสึไดระ มาซากาตะ (
松平 正容)
ส่วนที่ฝังรุ่นที่ ๓ และทางซ้ายถัดไปเป็นของรุ่นที่ ๕ มัตสึไดระ คาตาโนบุ (
松平 容頌)
ป้ายเต่าของรุ่นที่ ๕
มองลึกถัดเข้าไปเป็นป้ายของรุ่นที่ ๖ มัตสึไดระ คาตาโอกิ (
松平 容住) และรุ่นที่ ๗ มัตสึไดระ คาตาฮิโระ (
松平 容衆)
ป้ายเต่าของรุ่นที่ ๖
รุ่นที่ ๗
ถัดจากรุ่นที่ ๗ ต้องเดินลึกเข้าไปหน่อยจึงจะถึงสุสานของรุ่นที่ ๙
แล้วก็เดินมาถึง ที่อยู่ลึกในสุดนี้คือสุสานของรุ่นที่ ๙ มัตสึไดระ คาตาโมริ ผู้ครองแคว้นคนสุดท้าย เขาตายในปี 1893 ซึ่งเป็นช่วงหลังสิ้นยุคเอโดะไปแล้ว
จากนั้นการเที่ยววันนี้ก็สิ้นสุดลงเท่านี้ เสร็จแล้วเขาก็พาเราไปส่งถึงโรงแรม เราถามเขาว่ามีร้านอาหารอะไรแนะนำแถวนั้นบ้าง เขาก็แนะนำว่าแถวนี้มีซาชิมิเนื้อม้าเป็นอาหารขึ้นชื่อ อุมะซาชิ (
馬刺し) เราก็รู้สึกว่าฟังดูน่าสนใจดี เพราะไม่เคยกินเนื้อม้ามาก่อน แต่พอถามถึงราคาแล้วก็ต้องรีบเปลี่ยนใจ เพราะแพงเกิน
เขาก็เลยแนะนำร้านถูกๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม ชื่อร้านอุโอโยชิโชกุโดว (
魚よし
食堂) เป็นร้านเล็กๆที่แค่ข้ามถนนไปปทางตะวันตกก็ถึงแล้ว
แล้วเราก็แยกทางจากเขา ขึ้นไปบนห้อง เมื่อไปถึงพบว่าพนักงานโรงแรมได้เอาของที่เราฝากไว้เมื่อตอนกลางวันไปวางในห้องให้แล้ว
สภาพในห้องเป็นแบบนี้ ไม่กว้างเท่าไหร่ สำหรับการนอน ๒ คนถือว่าอึดอัดอยู่ มีโต๊ะเก้าอี้แค่ตัวเดียว แต่ก็ถือว่าพออยู่ได้ ยังไงที่นี่ก็ราคาถูกกว่าโรงแรมอื่น
เรานั่งพักในห้องแป๊บเดียวก็รีบออกเพราะหิวแล้ว รีบเดินข้ามถนนไปยังร้านอุโอโยชิตามที่เขาแนะนำ
เมนูของร้านติดอยู่ที่ผนัง
สั่งชุดเนื้อย่าง ยากินิกุเทย์โชกุ (
焼き
肉定食) ราคา ๘๕๐ เยน
แต่ว่าที่จริงหลังจากที่สั่งอาหารไปแล้ว พี่คนไทยเขาก็โทรติดต่อมาหาบอกว่าอยากชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน แต่ว่าช้าไปหน่อย เพราะสั่งไปแล้ว และได้ยินเสียงเขาเริ่มผัดแล้ว ก็เลยได้แต่ปฏิเสธไปอย่างน่าเสียดาย
กินเสร็จก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม เรื่องราวของวันนี้ก็จบลงเท่านี้
วันต่อไปยังมีที่เที่ยวรออยู่อีกมาก
https://phyblas.hinaboshi.com/20190607