#เสาร์ 8 ต.ค. 2022หลังจากที่ตอนที่แล้วได้ไปเที่ยวใน
เมืองวากุยะ (涌谷町) เสร็จไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20221009เป้าหมายต่อไปของเราคราวนี้คือ
เมืองมินามิซันริกุ (南三陸町) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดมิยางิ
ตำแหน่งเมืองมินามิซันริกุภายในจังหวัดมิยางิ แสดงเป็นสีเหลืองเข้มด้านขวาบนในแผนที่
เมืองมินามิซันริกุนั้นเป็นเมืองที่เกิดขึ้นใหม่จากการควบรวมระหว่าง
เมืองชิซึงาวะ (志津川町) และ
เมืองอุตัตสึ (歌津町) เมื่อปี 2005 โดยศูนย์กลางเมืองมินามิซันริกุในปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ในส่วนที่เคยเป็นเมืองชิซึงาวะ จึงยังเป็นชื่อสถานที่ต่างๆในเมืองนี้มีชื่อชิซึงาวะติดอยู่ เช่นชื่อสถานี ท่าเรือ และชื่ออ่าว เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่ง
อ่าวชิซึงาวะ (志津川湾)ที่นี่เป็นเมืองที่ประสบภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและคลื่นทสึนามิเมื่อปี 2011 ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางรถไฟซึ่งในอดีตเคยผ่านบริเวณเมืองนี้ก็ถูกทำลายลงสิ้นและไม่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่
รถไฟสายที่เคยลากผ่านเมืองนี้คือ
สายเคเซนนุมะ (気仙沼線) เป็นสายที่แยกออกมาจากสายอิชิโนมากิ โดยแยกที่
สถานีมาเอยาจิ (前谷地駅) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองอิชิโนมากิ เป็นสถานีที่อยู่ถัดจากสถานีวากุยะ
เส้นทางของสายเคเซนนุมะนั้นเชื่อมระหว่างเมืองอิชิโนมากิกับ
เมืองเคเซนนุมะ (気仙沼市) โดยผ่าน
เมืองโทเมะ (登米市) และเมืองมินามิซันริกุ
แต่ว่าพอเจอภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มีนาคมปี 2011 เส้นทางรถไฟสายนี้ได้ถูกทำลายยับ ทำให้ตั้งแต่นั้นมารถไฟสายนี้เหลือแค่ตั้งแต่สถานีมาเอยาจิไปจนถึง
สถานียานาอิซึ (柳津駅) ซึ่งอยู่ในเขตเมืองโทเมะ และตั้งแต่ส่วนของสถานียานาอิซึไปจนถึงเมืองเคเซนนุมะนั้นถูกยกเลิกทั้งหมด
ดังนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงไม่มีรถไฟผ่านเส้นทางนี้ แต่ว่าก็ได้มีการเปิดสายรถบัสขึ้นมาแทน โดยรถบัสจะเชื่อมระหว่างสถานียานาอิซึกับเมืองเคเซนนุมะ แล่นไปตามเส้นทางที่เดิมเคยเป็นทางรถไฟมาก่อน
รถไฟสายเคเซนนุมะที่ไปถึงสถานียานาอิซึนั้นเริ่มต้นที่สถานีโคโงตะ ไปตามทางสายอิชิโนมากิ จนถึงสถานีมาเอยาจิ แล้วจึงแยกขึ้นไปทางเหนือ แล้วไปจบที่สถานียานาอิซึ
สถานีวากุยะก็อยู่บนสายอิชิโนมากิระหว่างสถานีโคโงตะและสถานีมาเอยาจิ จึงเป็นสถานีที่รถไฟนี้ผ่านด้วย ครั้งนี้เราจึงนั่งรถไฟจากสถานีวากุยะไปยังสถานียานาอิซึ แล้วจึงนั่งรถบัสต่อไปยังเมืองมินามิซันริกุที่เป็นเป้าหมาย
แผนที่เส้นทางรถไฟและเครื่องขายตั๋วที่สถานีวากุยะ
เรามาซื้อตั๋วที่นี่ ค่าโดยสารจากสถานีวากุยะไปยังสถานียานาอิซึคือ ๕๑๐ เยน
แล้วเราก็มาขึ้นรถไฟ นั่งต่อไปตามสายอิชิโนมากิ
จนมาถึงสถานีมาเอยาจิ ทางรถไฟมีจุดเปลี่ยนที่สถานีนี้
แล้วรถไฟก็มุ่งหน้าไปทางเหนือ ไปจนถึงสถานียานาอิซึ ซึ่งเป็นสุดปลายทาง
ภายในบริเวณสถานียานาอิซึหลังจากลงรถไฟมา
ภาพตัวอาคารสถานี มองจากด้านหน้า
จากนั้นก็รอต่อรถบัส แต่ว่าก็ต้องรอสักพัก เพราะรถไฟมาถึงสถานียานาอิซึเวลา 11:21 แต่ว่ารถบัสออกเวลา 11:47 มีเวลาว่างเล็กน้อยเลยออกไปเดินเล่นแถวนี้สักหน่อย แต่ว่าแถวนี้ดูแล้วไม่มีอะไรนัก ได้แต่เดินไปถ่ายภาพทิวทัศน์ชนบทและท้องฟ้าสวยๆ
หลังจากเดินเล่นเสร็จ ก็กลับมารอบัส ซึ่งมาถึงตามเวลา
รถบัสนี้สามาถใช้บัตร Suica ในการจ่ายได้ จึงสะดวก ค่าโดยสาร ๓๓๐ เยน
ภายในรถ
ระหว่างทางทิวทัศน์ก็สวยดี
เริ่มเข้าเขตเมืองมินามิซันริกุ และมองออกไปเริ่มเห็นทะเล
แล้วก็มาถึงจุดขึ้นลงรถบัสซึ่งอยู่กลางเมืองมินามิซันริกุ
จุดที่ลงรถบัสนั้นเรียกว่าสถานีชิซึงาวะ (
志津川駅) แต่ว่าที่นี่จริงๆแล้วไม่ใช่สถานีรถไฟ ที่จริงแล้วเป็นแค่ท่ารถบัสเท่านั้น แต่เมื่อก่อนเคยมีสถานีรถไฟชื่อสถานีชิซึงาวะอยู่จริง แต่ก็ปิดไปแล้ว และเป็นคนละที่กับที่นี่ เพียงแต่ว่าที่นี่บริหารโดย JR เช่นเดียวกับทางรถไฟ
ภายในอาคารเดียวกันนี้ยังถูกทำเป็นอนุสรณ์มินามิซันริกุ 311 (
南三陸311メモリアル) เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติเมื่อ 11 มีนาคม 2011 ในฐานะที่เมืองนี้เป็นสถานที่ประสบภัยและมีซากจากความเสียหายครั้งนี้มากมาย ที่นี่เพิ่งจะเปิดไปเมื่อ 1 ตุลาคม 2022 นี้เอง
ตรงนี้เป็นทางเข้าส่วนจัดแสดงภายใน แต่ว่าค่าเข้าชมแพงถึง ๑๐๐๐ เยน และด้านในห้ามถ่ายรูปด้วย จึงตัดสินใจไม่เข้าไป
ที่ตึกนี้ยังมีจุดชมทิวทัศน์อยู่ที่ชั้น ๒ ด้วย ส่วนนี้ขึ้นมาได้ไม่เสียตังค์ แต่ว่านักท่องเที่ยวเบียดเสียดเต็มไปหมดเลย
จากตรงนี้มองเห็นทิวทัศน์รอบๆได้ดี
ที่เห็นสวยๆนี่คือสะพานนากาฮาชิ (
中橋)
มองไปทางใต้เห็นย่านร้านค้ามินามิซันริกุซันซัน (
南三陸さんさん
商店街) และมองไปไกลกว่านั้นก็เป็นทะเลแล้ว ส่วนสะพานทางด้านขวานั้นคือสะพานชิโอมิ (
汐見橋)
หลังจากชมทิวทัศน์เสร็จ เราก็ลงมาแล้วเดินเล่นที่ย่านร้านค้ามินามิซันริกุซันซัน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมดครึกครื้นไม่น้อย
ร้านนี้ขายพุดดิงหมึกยักษ์ (タコぷりん) เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ มีป้ายติดไว้หน้าร้านโดดเด่น
ภายในร้าน
ตรงนี้ขายพุดดิงหมึกยักษ์สำหรับซื้อกลับไปได้
ส่วนตรงนี้มีขายพุดดิลหมึกยักษ์ที่ทำมาใหม่สด ราคาชิ้นละ ๓๐๐ ก็เลยซื้อมากินดูสักหน่อย ก็อร่อยดี
หลังจากแวะดูร้านค้าและกินของขึ้นชื่อของที่นี่เสร็จแล้ว เป้าหมายต่อไปก็คือมุ่งหน้าสู่ทะเล ซึ่งก็แค่เดินต่อไปนิดเดียว
ถึงริมทะเลแล้ว
ส่วนตรงนี้เป็นท่าเรือชิซึงาวะ (
志津川港)
เข้ามาใกล้ๆดูเรือที่จอดอยู่ตรงท่า
มีผู้คนมานั่งตกปลากันอยู่ด้วย
จากนั้นเดินเลียบชายฝั่งต่อไปอีกหน่อย
ก็จะเห็นเกาะเล็กๆกลมๆตั้งเด่นอยู่ใกล้ชายฝั่ง ชื่อว่าเกาะอาเรชิมะ (
荒島) มีสะพานข้ามไปยังเกาะได้
ข้างๆสะพานข้ามเกาะนั้นเป็นหาดทราย เรียกว่าสถานที่เล่นน้ำทะเลซันโอเลโซเดฮามะ (サンオーレそ ではま
海水浴場)
เห็นมีผู้คนมาเดินเล่นอยู่บนชายหาด แต่ว่าไม่ได้ลงไปว่ายน้ำกันเพราะตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ถ้ามาตอนฤดูร้อนคงจะครึกครื้นเห็นคนมาเล่นน้ำกันเต็มไปหมด
เราเดินข้ามสะพานไปยังเกาะ
เสาโทริอินี้เป็นทางเข้าไปสู่ศาลเจ้าอาเรชิมะ (
荒島神社) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเล็กๆบนเกาะนี้
เดินผ่านเสาโทริอิขึ้นมาแล้วมองย้อนกลับไปยังชายฝั่ง ทิวทัศน์สวยดีมาก
จากนั้นก็เดินเข้าไปเพื่อไปยังศาลเจ้าที่อยู่บนเขากลางเกาะ
แล้วก็มาถึง ศาลเจ้านี้ไม่มีอะไรมากนอกจากแค่อาคารเล็กๆนี้
ชมศาลเจ้าเสร็จก็เดินกลับลงมา ออกจากเกาะ
จากนั้นมาเดินเล่นตรงชายหาดสักหน่อย
เราได้หากิ่งไม้มาขีดเขียนทรายเป็นคำว่า "มินามิซันริกุ" ด้วยอักษรไทย แต่ดูเหมือนจะทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขียนไม่ชัด ดูแล้วอ่านยากไปหน่อย
หลังจากนั้นก็รีบเดินกลับมาตามทางเดิม มาที่ท่ารถบัสเพื่อเดินทางกลับ ที่นี่มีรถบัสที่เดินทางกลับเซนไดได้โดยตรง ไม่ต้องไปต่อรถไฟเหมือนกับตอนขามาก็ได้ ค่าโดยสาร ๑๘๐๐ เยน
เพียงแต่ว่าเที่ยวรถค่อนข้างน้อย สำหรับเที่ยวที่เราขึ้นนี้คือเที่ยวเวลา 14:33 เรากลับไปถึงจุดที่ขึ้นรถในเวลาที่เฉียดฉิวพอดี จึงไม่มีเวลาแม้แต่จะถ่ายภาพก่อนขึ้นรถ รีบวิ่งขึ้นรถแล้วรถก็ออกเลย
ระหว่างทางรถบัสแวะพักที่จุดแวะพักยาโมโตะ (
矢本PA) ซึ่งอยู่ในเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (
東松島市) รถจอดเพื่อให้แวะลงไปพักเข้าห้องน้ำ
จากนั้นจึงกลับขึ้นรถมาแล้วมุ่งหน้าสู่เซนไดต่อ
แล้วรถบัสก็มาส่งถึงเซนได ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณชั่วโมงครึ่ง การเที่ยววันนี้ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
สรุปค่าเดินทางในวันนี้ทั้งหมด |
เซนได |
→ |
โคโงตะ |
(รถไฟ) |
770 |
โคโงตะ |
→ |
วากุยะ |
(รถไฟ) |
210 |
วากุยะ |
→ |
ยานาอิซึ |
(รถไฟ) |
510 |
ยานาอิซึ |
→ |
ชิซึงาวะ |
(รถบัส) |
330 |
ชิซึงาวะ |
→ |
เซนได |
(รถบัส) |
1800 |
รวม |
3620 เยน |