#อาทิตย์ 30 ต.ค. 2022ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเกาะที่ถูกขนาบด้วยทะเล ๒ ฝั่ง ด้านตะวันตกคือทะเลญี่ปุ่น หรือเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า "นิฮงไก" (
日本海) ส่วนด้านตะวันออกคือมหาสมุทรแปซิฟิก หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ไทเฮย์โยว" (
太平洋)
บริเวณส่วนใหญ่บนเกาะของญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยเทือกเขาต่างๆมากมายเรียงรายอยู่ตรงกลาง เช่นสำหรับภูมิภาคโทโฮกุแล้ว มี
เทือกเขาโอวอุ (奥羽山脈) กั้นอยู่ตรงกลาง เทือกเขานี้เป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นระหว่าง
จังหวัดมิยางิ (宮城県) ที่อยู่ฝั่งตะวันออก (ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก) และ
จังหวัดยามางาตะ (山形県) ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตก (ฝั่งทะเลญี่ปุ่น)
หากสายน้ำมีจุดเริ่มต้นจากบนเทือกเขานี้จะแยกไหลออกเป็น ๒ ทาง เป็นแม่น้ำคนละสายที่จะไหลออกไปสู่ทะเลคนละฝั่งกันเลย
ภาพแสดงสันปันน้ำที่ผ่านกลางเกาะญี่ปุ่นเป็นเส้นสีแดง เป็นตัวแบ่งว่าสายน้ำจากตรงไหนจะลงสู่ฝั่งทะเลญี่ปุ่นหรือมหาสมุทรแปซิฟิก
(ที่มาของภาพ http://www.jac.or.jp/info/doukoukai/chiri/bunsuirei/bunsui_teigi.html)บนทางหลวงหมายเลข 47 (
国道47号) ซึ่งเป็นช่องเขาที่เชื่อมตอนเหนือของจังหวัดยามางาตะกับจังหวัดมิยางินั้นมีบริเวณที่มีลำธารสายเล็กที่เห็นทางแยกเป็น ๒ ทางชัดเจน เรียกว่า
ซาไกดะ (堺田) เป็นย่านชนบทเล็กๆ ตั้งอยู่ในฝั่งจังหวัดยามางาตะ ในเขต
เมืองโมงามิ (最上町)แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองโมงามิภายในจังหวัดยามางาตะ เป็นสีเหลืองเข้มด้านขวาบน
ลำธารเล็กๆที่เห็นทางแยกในย่านซาไกดะนี้เรียกว่า "บุนซึยเรย์" (
分水嶺) ซึ่งแปลว่า "
สันปันน้ำ"
สันปันน้ำตรงซาไกดะนี้ถือเป็นสถานที่เที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมาก แค่มาดูลำธารที่แยกสายกันเท่านั้น แต่ก็มีความน่าสนใจพอที่จะแวะมาชม เพราะสายน้ำจากลำธารเล็กๆนี้แยกไปสู่ทะเลคนละฝั่งที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่จึงเป็นทางแยกที่สำคัญมาก
สายน้ำที่แยกทางกันที่นี่นั้นว่าไปแล้วก็ดูคล้ายชีวิตคน คนเราเมื่อมาถึงทางแยกให้ต้องมุ่งไปสักทาง ซึ่งอาจทำให้ชีวิตอาจเปลี่ยนไปคนละเรื่องกันเลย
ที่ซาไกดะนั้นมี
สถานีซาไกดะ (堺田駅) เป็นสถานีรถไฟเล็กๆบนทางรถไฟ
สายริกุอุตะวันออก (陸羽東線) ซึ่งลากผ่านตอนเหนือของจังหวัดยามางาตะและมิยางิ และบุนซึยเรย์ก็อยู่ที่ตรงหน้าสถานีซาไกดะนั้นเลย ดังนั้นหากจะมาชมที่นี่ก็สามารถมาได้ด้วยรถไฟ
อย่างไรก็ตามรถไฟที่มาที่สถานีนี้มีค่อนข้างน้อย ยิ่งถ้าเดินทางมาจากฝั่งเซนไดแล้วรถไฟส่วนใหญ่จะไปสุดสายแค่ที่สถานีนารุโกะอนเซง ดังนั้นจึงอาจไม่ได้สะดวกนักที่จะมา ถ้าหากมีรถขับมาเองได้ก็จะสะดวกกว่ามาก
ครั้งนี้เรานั่งรถมาเที่ยวหุบเขานารุโกะร่วมกับเพื่อนคนญี่ปุ่น แล้วก็เลยถือโอกาสแวะมายังซาไกดะซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
เล่าต่อจากตอนที่แล้วไปเที่ยวนารุโกะอนเซงเกียว
https://phyblas.hinaboshi.com/20221101จากนั้นก็นั่งรถต่อมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 47 ผ่านช่องเขา ข้ามมายังฝั่งจังหวัดยามางาตะ
เมื่อข้ามมาถึงไม่ไกลก็เดินทางมาถึงสถานีซาไกดะอันเป็นเป้าหมาย พวกเราหยุดรถอยู่ที่ตรงข้างหน้าสถานีแล้วก็ไปเดินดูแถวนี้ ตรงป้ายสถานีมีเขียนบอกว่าความสูงจากระดับน้ำทะเลของที่นี่คือ ๓๓๘ เมตร ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นๆในเทือกเขาโอวอุ ดังนั้นตรงบริเวณนี้จึงเป็นช่องทางที่ตัดทั้งถนนและทางรถไฟผ่านเทือกเขา
เข้ามาดูตรงชานชลาตัวสถานี ดูเป็นสถานีเล็กๆเงียบๆที่ไม่ค่อยมีอะไร
ป้ายสถานี
ตัวอาคารสถานี
ตรงนี้มีเขียนว่า
分水嶺が
見える
駅 "สถานีที่เห็นสันปันน้ำ" ซึ่งเป็นจุดขายของสถานีนี้
จากนั้นออกมาดูด้านหน้าสถานี มีอนุสาวรีย์รูปร่างประหลาดนี้ตั้งอยู่
แล้วก็ได้เวลามาดูส่วนสำคัญของที่นี่ นั่นคือบริเวณลำธารที่เห็นสายน้ำแยกเป็น ๒ ทาง ด้านหน้าคือต้นน้ำ ด้านซ้ายคือฝั่งทะเลญี่ปุ่น ส่วนด้านขวาคือฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ตรงนี้มีป้ายเขียนบอกว่าสายน้ำไปทางไหนจะไหลเป็นระยะทางเท่าไหร่ออกสู่ทะเลอะไร
ที่ฝั่งต้นน้ำมีเสาโทริอิเล็กๆเรียงอยู่
ลองเปลี่ยนมาถ่ายจากมุมฝั่งต้นน้ำ
แผ่นป้ายนี้เขียนบอกถึงเส้นทางที่น้ำจากที่นี่จะไหลไป ทั้ง ๒ ฝั่ง
ขยายดูตรงแผนที่นี้ จะเห็นเส้นทางที่สายน้ำไหลจากที่นี่ไปทั้ง ๒ ทาง ออกสู่ทะเลคนละฝั่ง
ข้างๆนั้นมีศาลาที่มีที่นั่งพักอยู่
ภายในศาลา ดูแล้วเหมือนจะเป็นที่จัดกิจกรรมอะไร
ตรงนี้เป็นหินที่ถูกทำสีสวย เห็นเขียนป้ายว่าให้หยิบเอาไปได้ตามสบายเลยถ้าต้องการ
ลองเดินไล่ตามต้นทางสายน้ำไปทางโน้นดู
จากตรงนี้ดูจะยาวต่อไปอีกไกล เราไม่ได้เดินต่อไปแล้ว
บริเวณรอบๆเป็นท้องนา แล้วก็มีบ้านคนอยู่เล็กน้อย ดูเป็นย่านชนบทที่เงียบสงบดี
หลังจากเดินชมแถวนี้อยู่สักพักประมาณครึ่งชั่วโมงจนฟ้าเริ่มมืดค่ำขึ้นมา ตอนนี้ก็ดูจะไม่มีอะไรแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถแล้วเดินทางกลับเซนได เป็นอันจบการเที่ยวในวันนี้