เพลงจบของอนิเมะเรื่อง clannad after story
(สำหรับคนที่ยังไม่ดู ไม่ต้องห่วง หน้านี้ไม่เกี่ยวกับอนิเมะเลย)
คลิปฉากเพลงจบอนิเมะ
เมื่อได้เห็นฉากตอนเพลงจบแล้ว มองเห็นผู้คนที่กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า แต่กลับถอยหลังลง
ไม่รู้ว่าฉากในเพลงจบนี้ คนวาดเขาต้องการสื่อถึงอะไร
แต่ว่าดูแล้วก็อาจเป็นความหมายที่รู้สึกหดหู่ใจอยู่เหมือนกัน
พอลองคิดดู มันก็อาจจะเหมือนกับชีวิตคนนะ แม้จะพยายามก้าวเดินไปข้างหน้าอยู่ตลอด แต่ก็กลับถอยลงเรื่อยๆ
ราวกับว่าทุกสิ่งที่เห็นนั้นไม่มีอะไรยั่งยืน เราไม่อาจคาดหวังอะไรให้โลกนี้เป็นไปตามที่ต้องการได้
ในฉากนี้ ผู้คนต่างมุ่งไปข้างหน้าอยู่ตลอด เป็นฉากที่ให้ความรู้สึกดี แสดงถึงว่าคนเราก็ต้องก้าวเดินต่อไป แม้จุดหมายปลายทางอาจยังยาวไกลออกไปก็ตาม เพราะหากไม่ก้าวเดิน ก็จะทำให้ยิ่งไกลออกไปมากขึ้นอีก
แค่ฉากเดียว คิดอะไรซะมากมายเลย
แต่สำหรับเราแล้ว ยังมีอีกความหมายหนึ่งที่รู้สึกได้จากเพลงนี้ นั่นคือเนื้อเพลงท่อนแรกสุด
見つめていた流れる雲を
mitsumeteita nagareru kumo o
感じていた変わる空の色を
kanjiteita kawaru sora no iro o
立ち止まった僕らは気付く
tachidomatta bokura wa kizuku
移ろいゆく世界が紡ぐ唄に
utsuroi yuku sekai ga tsumugu uta ni
伸ばした指で手繰るように
nobashita yubi de taguru you ni
ただ一つ変わらないもの探す
tada hitotsu kawaranai mono sagasu
ตามหาสิ่งที่จะคงไม่เปลี่ยนไปสิ่งหนึ่ง
ราวกับดึงด้วยนิ้วมือที่ยื่นออกไป
ยังบทเพลงที่ถักทอโดยโลกที่เปลี่ยนผันไป
ซึ่งพวกเราที่หยุดยืนอยู่กับที่
ได้รู้สึกถึงสีของท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป
ที่เคยได้สัมผัสถึงเมฆที่เคลื่อนลอยที่เคยได้จ้องมองอยู่
สำหรับคนที่อาจไม่รู้เรื่องภาษาญี่ปุ่นมาก่อนมากนัก ขอแยกองค์ประกอบเป็นศัพท์ทีละคำให้เข้าใจง่าย
見つめていた流れる雲を
(a)見つめる=จ้องมอง, (b)流れる=ไหล, (c)雲=ก้อนเมฆ
感じていた変わる空の色を
(d)感じる=สัมผัส, (e)変わる=เปลี่ยนแปลง, (f)空=ท้องฟ้า, (g)色=สี
立ち止まった僕らは気付く
(h)立ち止まる=หยุดยืนอยู่กับที่, (i)僕ら=พวกเรา
移ろいゆく世界が紡ぐ唄に
(j)移ろう=เปลี่ยนผัน, (k)世界โลก, (l)紡ぐ=ปั่นด้าย, (m)唄=เพลง
伸ばした指で手繰るように
(n)伸ばす=ยื่น, (o)指=นิ้วมือ, (p)手繰る=ดึง
ただ一つ変わらないもの探す
(q)一つ=สิ่งหนึ่ง,อันหนึ่ง (r)変わらない=ไม่เปลี่ยนแปลง, (s)もの=สิ่งของ, (t)探す=ตามหา
เมื่อแปลออกมาก็เป็นแบบนี้
(t)ตามหา(s)สิ่งที่จะคง(r)ไม่เปลี่ยนไป(q)สิ่งหนึ่ง
ราวกับ(p)ดึงด้วย(o)นิ้วมือที่(n)ยื่นออกไป
ยัง(m)บทเพลงที่(l)ถักทอโดย(k)โลกที่(j)เปลี่ยนผันไป
ซึ่ง(i)พวกเราที่(h)หยุดยืนอยู่กับที่
ได้รู้สึกถึง(g)สีของ(f)ท้องฟ้าที่(e)เปลี่ยนแปลงไป
ที่เคยได้(d)สัมผัสถึง(c)เมฆที่(b)เคลื่อนลอยที่เคยได้(a)จ้องมองอยู่
จะสังเกตได้ว่าถ้าเทียบกับเนื้อเพลง คำแปลจะกลับกันหมดเลย ย้อนจากบนไปล่าง จากหน้าไปหลัง
นั่นเพราะในภาษาญี่ปุ่น รูปประโยคจะกลับจากภาษาไทย ทำให้การแปล ต้องพลิกแพลงมหาศาล
ภาษาญี่ปุ่น เอากรรมไว้หน้ากริยา และเอาส่วนขยายไว้หน้าส่วนถูกขยาย ประโยคขยายก็อยู่ข้างหน้าประโยคหลักด้วย
เป็นความรู้สึกที่แปลกดีเหมือนกัน ประมาณว่าประโยคที่พูดทีแรก จะกลายเป็นส่วนขยายของประโยคหลัง ลักษณะแบบนี้จะต้องเจออยู่บ่อยๆ
แกนหลักจริงๆ อยู่ที่คำว่า ตามหา ซึ่งปรากฏที่ท้ายสุดของเนื้อเพลงส่วนนี้
ดังนั้นยิ่งก้าวไปข้างหน้า แต่กลับถอยหลัง อาจเกี่ยวกับความหมายนี้ได้ เพราะยิ่งแปล ก็เหมือนกับมันจะยิ่งย้อนขึ้นไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ที่จะรู้สึกแบบนั้น ก็มีแต่คนไทยเท่านั้น เพราะคนญี่ปุ่นเองเขาก็อ่านได้ตามปกติ เพราะเป็นรูปประโยคตามธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว
ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะมีนักแปลชาวไทย ต้องปวดหัวกับการแปลภาษาญี่ปุ่น
แรกๆก็ไม่ชิน แต่เจอบ่อยๆชักเริ่มชินแล้ว
--------------------------
คล้ายๆกันนี้
มีอนิเมะเรื่องหนึ่งชื่อว่า
空を見上げる少女の瞳に映る世界 (โลกอันสะท้อนผ่านดวงตาของสาวน้อยที่แหงนมองท้องฟ้า)
空=ท้องฟ้า, 見上げる=แหงนมอง, 少女=สาวน้อย, 瞳=ดวงตา, 映る=สะท้อน, 世界=โลก