φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ

#อาทิตย์ 22 ม.ค. 2012

เมื่อตอนที่ยังอยู่หางโจวเราได้เล่าทีไปเที่ยวถ้ำซวางหลง (双龙洞) มา https://phyblas.hinaboshi.com/20120123

และก็เดินเที่ยวท่อมกลางหิมะบนเขารอบๆนั้น https://phyblas.hinaboshi.com/20120125

แล้วก็ไปเดินเล่นในมหาวิทยาลัยครูเจ้อเจียง (浙江师范大学) ยามร้าง https://phyblas.hinaboshi.com/20120203

ทั้งหมดนี้อยู่ในบริเวณเมืองจินหัว (金华) แต่เรากลับยังไม่ได้เขียนอะไรถึงตัวเมืองจินหัวเลย ดังนั้นจะมาเขียนถึงในหน้านี้

เมืองจินหัว ห่างจากเมืองหางโจวไปประมาณ ๑๘๐ กิโลเมตร นั่งรถไฟหัวจรวดไปก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกับ ๔๐ นาที สามารถไปเที่ยวแบบวันเดียวกลับได้

ในวันนั้นเรานั่งรถไฟหัวจรวดออกจากหางโจวตอน 8.16 น. และถึงตอนประมาณสิบโมง แล้วก็นั่งรอบ 17.01 กลับ ไม่ถึงทุ่มก็กลับถึงหางโจว โดยรวมแล้วใช้เวลาอยู่ในจินหัวทั้งวัน ๗ ชั่วโมง

เมื่อเรามาถึงสถานีก็ได้นั่งรถเมล์ต่อไปยังถ้ำซวางหลงทันที ดังที่ได้เล่าไป และเราก็เดินชมหิมะอยู่ในนั้นนานทีเดียว กลับมาถึงตัวเมืองก็ราวๆบ่ายสองโมงเข้าไปแล้ว เหลือเวลา ๓ ชั่วโมงในการเที่ยวในเมือง ก่อนที่รถไฟจะมา

เราได้ไปเที่ยวต่างๆตามสถานที่ที่หนังสือท่องเที่ยวแนะนำ ซึ่งได้ไปมาสามที่ แต่น่าเสียดายว่าสองในสามนั้นปิดเนื่องจากเป็นวันก่อนตรุษจีน (除夕, ฉูซี) แต่หลังจากนั้นเราก็ได้ตัดสินใจที่จะไปเที่ยวชมมหาวิทยาลัยครูเจ้อเจียง ซึ่งได้เขียนเล่าไปแล้ว และกลับไปที่สถานีรถไฟทันเวลา

วันก่อนตรุษจีนนั้นสำหรับชาวจีนแล้วเป็นวันที่สำคัญมาก แทบไม่มีใครอยากทำงานเลยเพราะต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้าน บางสถานที่ก็ทำงานแค่ช่วงเช้าแล้วบ่ายหรือเย็นก็รีบปิด ดังนั้นสภาพเมืองที่เราเห็นในครั้งนี้จึงให้บรรยากาศราวกับเมืองร้าง แต่ก็ดูเงียบสงบไปอีกแบบ

วันนั้นบังเอิญประจวบเหมาะว่าเป็นวันที่หิมะโปรยปรายไม่หยุด น่าเสียดายแต่เพียงว่าในตัวเมืองอุณหภูมิไม่ต่ำพอ หิมะจึงละลายทันทีที่ตกลงมา ต้องขึ้นไปบนเขาบริเวณถ้ำซวางหลงถึงจะเห็นทิวทัศน์หิมะสวยงาม



ภาพที่สถานีรถไฟหางโจว ห้องรอผู้โดยสารขณะกำลังรอรถไฟ คนมารอเยอะมากมาย



ระหว่างทางก็เห็นหิมะตกโปรยปรายลงมา เราจึงรีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายทันที ภาพนี้ถ่ายขณะผ่านแถวเมืองอี้อู (义乌) เป็นเมืองชื่อดังอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดจินหัว วันนี้เราแค่ผ่านทางมันเฉยๆ แต่วันอื่นเราค่อยกลับแวะมาเที่ยวเมืองนี้ภายหลัง



ถึงสถานีรถไฟจินหัวแล้ว เราก็ลงเดินออกมา



หน้าสถานีรถไฟตะวันตกจินหัว (金华西站) พื้นเปียกแฉะไปหมดเพราะหิมะที่ตกลงมาแล้วละลายทันที



หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถเมล์ขึ้นไปยังถ้ำซวางหลง

<><><><><><><><><><><><><><><><><><>

สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านขอให้ไปอ่านหน้า https://phyblas.hinaboshi.com/20120123
และตามด้วย https://phyblas.hinaboshi.com/20120125 เพื่อความต่อเนื่อง

<><><><><><><><><><><><><><><><><><>

หลังลงจากเขามาแล้วเราก็กลับมาหน้าสถานีรถไฟอีกครั้ง แต่ก็พบว่าหารถเมล์ที่จะไปไม่ใช่ง่ายๆเลย เพราะเขาใกล้จะปิดทำการหมดแล้ว ได้ยินว่าหลัง ๓ โมงรถเมล์ทั้งหมดจะหยุดทำการ และตอนนั้นก็สองโมงกว่าเข้าไปแล้ว

เมื่อไม่มีทางเลือกเราจึงใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างนั่งไปยังสถานที่ท่องเที่ยว

ที่ที่เรามาถึงที่แรกก็คือ อาคารปาหย่ง (八咏楼) เป็นอาคารเก่าแก่ สร้างขึ้นในปี 479 สมัยราชวงศ์เหนือใต้ โดยเดิมชื่อว่าเสวียนช่าง (玄畅楼) และได้รับการปรับปรุงหลายครั้ง  ตัวอาคารตั้งอยู่บนฐานอิฐ ทางเข้าหันออกสู่แม่น้ำอู้เจียง (婺江)

ตัวอาคารเมื่อมองจากด้านล่างฐานอิฐ



เมื่อขึ้นมาด้านบนฐานอิฐ



หน้าอาคารมีรูปปั้น จำไม่ได้แล้วว่ารุปปั้นใคร



จากหน้าตึกนี้มองออกไปเห็นสวนสาธารณะริมน้ำ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน



เมื่อเข้ามาข้างในก็มีจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของหอนี้และบุคคลที่เกี่ยวข้อง



ในอาคารมีช่องเปิดที่ไม่มีเพดานอยู่ตรงกลาง ฝั่งตรงข้ามนั้นเห็นรูปปั้นของผู้หญิงคนหนึ่งวางอยู่เด่น



เขาคือหลี่ชิงเจ้า (李清照) เป็นนักกวีหญิงชื่อดังในยุคราชวงศ์ซ่ง เขาได้เขียนบทกวีเกี่ยวกับอาคารปาหย่งนี้เอาไว้



ในนี้ก็มีแสดงเกี่ยวกับประวัติของหลี่ชิงเจ้าด้วย



ขึ้นต่อมายังชั้นบน



มองทิวทัศน์จากบนนี้



เห็นช่องหลังคาส่วนที่เปิดด้วย



บริเวณรอบตัวอาคารเป็นสวนที่ขึ้นอยู่บนพื้นหิน



บริเวณรอบๆนี้เป็นบ้านแบบโบราณทั้งนั้น เดี๋ยวจะลงไปเดินข้างล่าง




เราลงจากอาคารมาเดินเล่นต่อแถวย่านเมืองเก่า



สภาพที่เห็นต้องเรียกว่าแทบจะเป็นเมืองร้างเลย ไม่มีใครเลย





ป้อมประตูเมืองเก่า



ผ่านเข้าไปในป้อมประตูเพื่อจะไปยังสถานที่เที่ยวต่อไป



เป็นซอยเล็กๆที่เงียบเหงามากจริงๆ





แล้วเราก็มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมาย ไท่ผิงเทียนกั๋วซื่อหวางฝู่ (太平天国侍王府) แต่ว่ามันปิดอยู่!



แล้วเราก็เลยเดินกลับออกมาจากซอยนั้นแล้วก็ข้ามถนนไปสวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม






สวนสาธารณะนี้อยู่ริมน้ำ สวยดี






อาคารรูปร่างประหลาด ดูแล้วนึกถึงโรงละครโอเปราซิดนีย์เลย




เราเดินภายในบริเวณสวนสาธารณะ เลียบริมน้ำไปเรื่อยๆ







แล้วก็มาถึงสถานที่ที่ตั้งใจมาเที่ยวอีกแห่ง คือวัดเทียนหนิง (天宁寺) แต่ว่ามันก็ปิดอยู่อีกเช่นเคย




ก็ได้แต่เซ็งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากนั้นก็เดินริมน้ำชมบรรยากาศต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างทางแทบไม่เจอรถบนถนนเลยจริงๆ







แล้วก็มาถึง ในรูปนี้เป็นสะพานที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง สะพานจินหัวทงจี้ (金华通济桥) สร้างขึ้นทีแรกตั้งแต่ปีปี 1334 และถูกทำลายทิ้งและสร้างใหม่ซำแล้วซ้ำเล่า อันปัจจุบันที่เห็นอยู่นี้ถูกสร้างในปี 1809




มองใกล้ๆ



ด้านบนสะพาน




<><><><><><><><><><><><><><><><><><>

จากนั้นเราก็เรียกรถแท็กซีจากแถวนี้เพื่อไปเดินในมหาวิทยาลัยครูเจ้อเจียงดังที่เล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20120203

<><><><><><><><><><><><><><><><><><>

แล้วก็กลับมาถึงสถานีรถไฟตอนสี่โมงกว่าๆ ทันขึ้นรถไฟรอบห้าโมงสบายๆ



ห้องรอรถไฟ



ระหว่างรอก็ซื้อมาม่าถ้วยมากินรอ



ในที่สุดรถไฟก็มา หลังจากนั้นเราก็นั่งกลับหางโจว



ตั๋วที่ระลึก



โดยสรุปแล้วเที่ยวนี้เรารู้สึกว่าคุ้มค่ามากทีเดียว แม้ว่าจะเจอปัญหาติดขัดอะไรหลายอย่างเนื่องจากเป็นวันก่อนตรุษจีน แต่ก็ได้มาเดินเล่นท่ามกลางหิมะ เป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษ

วันนั้นแถวหางโจวมีหิมะตกแทบทุกเมือง แต่เพื่อนบอกว่าที่หางโจวนั้นหิมะตกเบามาก ที่ตกหนักสุดก็คือเมืองจินหัวนี้เอง และเราก็บังเอิญเลือกมาเที่ยวในวันนั้นพอดี ต้องเรียกว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่น่ายินดีมาก

เพราะฉะนั้นจึงไม่ผิดหวังเลยแม้ว่าจะมาถึงแล้วต้องเจอแต่สถานที่ที่ปิดอยู่กับเมืองอันแสนร้างก็ตาม

สำหรับในหางโจวแม้ว่าหิมะจะตกไม่มาก แต่วันต่อมาเราได้ไปเที่ยวหมู่บ้านหลงจิ่ง (龙井村) ซึ่งตั้งอยู่บนเขาก็พบว่าหิมะที่ตกไว้วันก่อนนั้นหลงเหลืออยู่ไม่น้อย https://phyblas.hinaboshi.com/20120217

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ