φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas

#อาทิตย์ 22 ม.ค. 2012

หลังจากที่ย้ายมาหางโจวก็ไม่ได้เห็นหิมะอีกเลย จนในที่สุดเมื่อวานนี้ก็ได้เห็นหิมะอีกครั้ง หิมะตกลงมาแล้ว! เพียงแต่ไม่ใช่ที่หางโจวแต่เป็นที่เมืองจินหัว (金华市) เมืองซึ่งอยู่ข้างๆหางโจว เป็นความบังเอิญที่ได้ไปเที่ยวที่นั่นในวันนั้นพอดี ในขณะที่หางโจวกลับยังไม่มีหิมะตกเลย

แต่แม้จะบอกว่าหิมะตก แต่อุณหภูมิก็ไม่ได้ต่ำพอที่จะเห็นทิวทัศน์สวยงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และก็บังเอิญพอดีว่าสถานที่ที่เราวางแผนเที่ยวครั้งนี้อยู่บนเขา เมื่อขึ้นมาบนเขาอากาศก็เย็นขึ้น ทิวทัศน์จึงปกคลุมไปด้วยหิมะเต็ม

สถานที่ที่เรามาเที่ยวครั้งนี้เรียกว่าจุดชมวิวรอบถ้ำซวางหลง (双龙风景区) อยู่บนเขาระดัยความสูงจากระดับน้ำทะเล ๕๒๐ เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองจินหัวแค่ ๘ กิโลเมตร สามารถนั่งรถเมล์มาจากตัวเมืองแป๊บเดียวก็ถึง

คำว่าซวางหลงนั้นแปลว่ามังกรคู่ เกิดจากการที่มีหินย้อยในถ้ำคู่หนึ่งหน้าตาเหมือนมังกรสองตัวมาก ถ้ำนี้ก็เลยได้ชื่อตามนี้

เกี่ยวกับมังกรคู่นี้มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อก่อนแถวนี้เกิดทุพิกภัยแห้งแล้งอย่างหนัก มีมังกรสองตัวคือมังกรเขียวกับมังกรเหลืองได้ช่วยขโมยน้ำจากสวรรค์มาเพื่อช่วยปราชาชน เมื่อนางฟ้าบนสวรรค์รู้เข้าจึงลงโทษโดยการล่ามติดกับหินแล้วขังไว้ในถ้ำ

จุดชมวิวรอบถ้ำซวางหลงนั้นไม่ได้มีแค่ถ้ำซวางหลงแต่ยังมีสถานที่อื่นๆที่อยู่รอบๆซึ่งต้องเดินลึกเข้าไป โดยปกติเวลาจ่ายค่าเข้าชมต้องจ่ายรวมทั้งหมด ไม่สามารถจ่ายเพื่อเข้าชมแค่ถ้ำซวางหลงได้ ซึ่งบัตรรวมนี้ราคาแพงมากถึง ๙๐ หยวน ดังนั้นถ้าจะมาก็ต้องวางแผนให้ดีเพราะเที่ยวทั้งหมดนี่น่าจะใช้เวลาหลายชั่วโมงมาก โดยเฉพาะถ้าเดินเอา สถานที่แต่ละแห่งก็อยู่ห่างกันมากๆเลยด้วย

สถานที่ในบริเวณนั้นได้แก่ ถ้ำซวางหลง (双龙洞), ถ้ำปิงหู (冰壶洞), ถ้ำเอ้อร์เซียน (二仙洞), ถ้ำเถาหยวน (桃源洞), ถ้ำเฉาเจิน (朝真洞), ถ้ำเซียนพู่ (仙瀑洞), วัดหวงต้าเซียน (黄大仙祖宫), ปราสาทเก่าซวางหลง (双龙古堡)

จะเห็นว่าส่วนใหญ่มีแต่ถ้ำเต็มไปหมด เพราะจุดขายของพื้นที่จุดชมวิวบริเวณนี้คือถ้ำจำนวนมากมาย ในถ้ำแต่ละแห่งนั้นเส้นทางเที่ยวค่อนข้างอันตราย ต้องมีคนนำเที่ยวช่วยไม่เช่นนั้นอาจไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงเข้าใจว่าทำไมค่าเที่ยวที่นี่ถึงได้แพงนัก

บังเอิญโชคดีในการเที่ยวครั้งนี้ได้เจอกับคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งซึ่งมาเที่ยวพร้อมกันพอดี เขาดูใจดีเป็นมิตรดีเข้ามาชวนเราคุย เขาบอกว่ามาเที่ยวกันสองคน โดยตะลุยไล่เที่ยวไปตามเมืองต่างๆโดยนั่งรถไฟเที่ยวไปทีละเมือง โดยเริ่มจากเมืองฝูโจว (福州市) ในมณฑลฝูเจี้ยน (福建省) ซึ่งอยู่ทางใต้ลงไป แล้วก็เดินทางขึ้นเหนือมาเรื่อยๆ จนมาถึงเมืองนี้ เป้าหมายต่อไปก็จะไปหางโจวด้วย ดูเหมือนเขาจะชอบเที่ยวธรรมชาติเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงตรุษจีนพอดี คนก็เลยน้อยมาก เห็นเขาบอกว่า ๒ โมงก็จะปิดแล้ว (จากที่ปกติจะปิด ๔ โมงครึ่ง) แต่เราไปถึงที่นั่นก็ ๑๐ โมงครึ่งเข้าไปแล้ว จึงมีเวลาน้อยเต็มที่

และซ้ำร้ายกว่านั้นคือเส้นทางทั้งหมดต้องเดินไกลมาก ถ้าเป็นช่วงปกติที่คนเยอะน่าจะหารถบริการถูกๆง่ายๆได้ แต่ช่วงนี้แทบหาเงาคนอื่นไม่เจอเลย ต้องเดินเอาอย่างเดียว

ที่ได้ไปมาก็มีแค่ถ้ำซวางหลง ถ้ำปิงหู แล้วก็วัดหวงต้าเซียน แล้วก็มีไปที่ถ้ำน้ำตกเซียน แต่ว่าตอนที่ไปถึงเขาปิดก่อน ทั้งๆที่เพิ่งบ่ายโมง เศร้าเลยทีเดียว เพราะกว่าจะมาถึงนี่ได้ต้องปีนเขาขึ้นมาไกล ไม่คิดว่าเขาจะปิดเร็วกว่ากำหนด (แค่ตามกำหนดคือ ๒ โมงนี่ก็ถือว่าเร็วมากแล้วด้วย)

แค่คิดว่าได้ไปเท่านี้ก็คุ้มแล้ว เพราะที่เหลือก็คือเป็นถ้ำต่างๆอีกหลายแห่ง เราได้ไปถ้ำซวางหลงกับถ้ำปิงหูเท่านี้ก็คิดว่าน่าจะพอ แม้จะเสียดายค่าบัตรผ่านที่จ่ายไปถึง ๙๐ หยวนแต่ใช้ไม่คุ้มก็ตาม แต่ถ้าเดินเที่ยวครบทุกถ้ำนี่อาจต้องเดินทั้งวันจริงๆ และเราจะไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวที่อื่นในเมือง แถมไหนๆหิมะก็ตกแบบนี้เดินเที่ยวข้างนอกน่าจะคุ้มกว่า

หน้ำทางเข้าของจุดชมวิวรอบถ้ำซวางหลง



แผนที่ มองแล้วรู้สึกได้เลยว่าบริเวณมันกว้างมากจริงๆ



ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วตรงนี้ สองคนในภาพนี้คือคุณลุงกับคุณป้าที่มาเที่ยวด้วยกัน



ได้เวลาเดินเข้า ทิวทัศน์รอบข้างตอนนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะเต็ม ทำให้อดใจไม่ได้ที่จะถ่ายภาพเก็บมามากมาย




น้ำตกที่ไหลออกมาจากถ้ำ เนื่องจากช่วงนี้อุณหภูมิในถ้ำสูงกว่าภายนอกทำให้น้ำที่ออกมาอุ่นกว่า เลยเห็นเป็นไอน้ำขึ้นเต็มไปหมดเหมือนบ่อน้ำร้อนเลย



เดินไม่นานก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำซวางหลง



ข้างในมีคนคอยเก็บบัตรอยู่



ทางเข้าถ้ำนั้นต้องลอดผ่านช่องซึ่งเตี้ยมากๆ จะเข้าต้องนอนหงายบนเรือแล้วเขาจะปล่อยให้เรือแล่นผ่านช่องแคบนี่ ระหว่างทางถ้าใครเผลอลุกขึ้นมาอาจหน้าแหกได้



เข้ามาถึงภายในถ้ำแล้ว ในนี้เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยมากมายสวยงาม ยิ่งเขาเปิดไฟเล่นแสงสียิ่งดูสวยงาม แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกว่าการใช้ไฟประดับแบบนี้มันไม่ใช่ความงามของธรรมชาติที่แท้จริงเลยไม่รู้สึกชื่นชมเต็มที่นัก




ข้างในมีไกด์คอยนำทางและบรรยาย ในถ้ำนี้ปล่อยให้เดินเองอาจอันตรายได้ต้องมีคนนำ



เสียดายว่าภาพที่ถ่ายในถ้ำนั้นถ่ายติดออกมาได้ไม่มากเท่าที่ควรเพราะข้อจำกัดเรื่องแสง กล้องที่ใช้เป็นแค่กล้องราคาถูกๆถ้าไม่ตั้งใจมือนิ่งๆถ่ายจะได้ภาพที่ไม่ชัดเลย เลยมีภาพชัดๆมาให้ดูน้อย



จากตรงนี้จะเข้าสู่บริเวณต่อไปคือถ้ำปิงหู คำว่าปิงหูมีความหมายว่าไหน้ำแข็ง แต่ไม่ได้มีน้ำแข็งอยู่จริงๆ แค่มีส่วนที่คล้ายๆเท่านั้น




เขามีชี้ให้ดูว่ามีเต่าอยู่ด้วย แต่ว่าเสียดายที่ถ่ายไม่ได้มืดเกิน



มาถึงน้ำตกในถ้ำ จุดนี้ก็มีคนคอยปริการถ่ายรูปให้ด้วย




เดินขึ้นไปแล้วถ่ายจากด้านบน




เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆทางก็สูงขึ้น ระหว่างทางก็มีน้ำตกให้ชมอยู่ตลอด






และแล้วหลังจากเดินในถ้ำมานานเกือบครึ่งชั่วโมง ก็เจอแสงสว่างออกสู่โลกภายนอก



ทางขึ้นออกสู่ข้างนอก



แล้วก็ออกมาข้างนอก ตอนที่เข้ามานี่ทางเข้าเป็นปากถ้ำใหญ่โต คิดไม่ถึงว่าทางออกจะมาโผล่ข้างในบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง



ป้ายถ้ำปิงหู (冰壶洞) ที่ด้านนอกทางออก



การเที่ยวเล่นในถ้ำก็จบแต่เพียงเท่านี้ น่าจะถือว่าเป็นถ้ำที่สั้นและธรรมดามาก ไม่ได้มีอะไรให้รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ แถมเรารู้สึกว่าไหนๆข้างนอกก็หิมะตกออกจะสวย จะมัวแต่เที่ยวในถ้ำก็ยังไงอยู่ อยากรีบออกไปชมทิวทัศน์ภายนอกเร็วๆ

ตอนต่อไปจะพาไปชมบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนในบริเวณนี้ รวมถึงวัดหวงต้าเซียน สำหรับคนที่มาจากบ้านเมืองเขตร้อนอย่างเรา ทิวทัศน์แบบนี้น่าจะดูมีความหมายกว่ามากมาย

อ่านต่อ https://phyblas.hinaboshi.com/20120125

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ