φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ

#ศุกร์ 27 เม.ษ. 2012

ต่อจากที่ไปเที่ยวอาณาจักรกายกรรมอู๋เฉียว (吴桥杂技大世界, อู๋เฉียวจ๋าจี้ต้าซื่อเจี้ย) กันมา https://phyblas.hinaboshi.com/20120501

เราก็นั่งรถต่อมายังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งถัดไปนั่นคือหุบเขาแสงอาทิตย์ (中国太阳谷, จงกั๋วไท่หยางกู่) ซึ่งอยู่ในเมืองเต๋อโจว (德州) มณฑลซานตง (山东) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอู๋เฉียวมากนัก แต่ถือเป็นคนละมณฑลกัน เนื่องจากทั้งสองที่นี้ถือว่าอยู่ที่ขอบมณฑลทั้งคู่

เมืองเต๋อโจวนั้นอยู่บนเส้นทางทางผ่านระหว่างเดินทางจากปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้ รถไฟความเร็วสูงแล่นผ่านเมืองนี้ด้วย โดยสามารถนั่งจากปักกิ่งมาใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

หุบเขาแสงอาทิตย์นั้นเป็นสถานที่วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีอาคารต่างๆมากมายที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก มีการใช้พื้นที่มากมายเพื่อทดลองเกี่ยวกับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์

ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเข้าชมได้ สามารถชมบริเวณต่างๆ เช่นบ้านที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เช่นเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สำคัญคืออาคารพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่จัดแสดงข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นสถานที่ที่เหมาะจะพาผู้สนใจมาดูงาน

เมื่อมาชมที่นี่เราจะได้รู้ว่าเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์นั้นใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง มีวิวัฒนาการมายังไง ปัจจุบันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว นอกจากนี้ยังได้ความรู้และภูมิปัญญาที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแสงอาทิตย์ทั้งจากอดีตจนถึงปัจจุบันด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่นี่ก็มีโรงแรมให้พักอย่างดีเลย ดูแล้วถ้าคิดค่าพักน่าจะแพงอยู่ แต่พวกเราเป็นนักศึกษาที่มาพร้อมกับมหาวิทยาลัยดังนั้นมหาวิทยาลัยก็จัดการให้หมด และยังมีอาหารบริการให้ในแต่ละมื้อด้วย

เป็นที่น่าเสียดายว่าเขาพาเราเข้าชมแค่บางส่วนเท่านั้นเอง คงเพราะเวลาจำกัด ส่วนใหญ่จะเดินดูงานอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์มากกว่าที่จะได้ออกไปดูอะไรๆของจริง



ภาพแรกเมื่อมาถึงที่ อาคารใหญ่ที่เห็นนี้ใหญ่มาก แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ เป็นทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ที่จัดนิทรรศการ ด้านบนจะเห็นว่ามีเซลล์สุริยะขนาดใหญ่ อาคารนี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก
พวกเรามาถึงสถานที่ประมาณหกโมงครึ่ง มาถึงก็เข้าทานอาหารกันก่อนเลย



บรรยากาศภายในห้องทานอาหาร




ลงมือทานกัน



บรรยากาศตอนกลางคืน แต่เราไม่ได้ออกไปเดินข้างนอกมากเพราะมันมืดแล้ว ได้แต่รอเช้าวันรุ่งขึ้น



ห้องพักที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ น่าอยู่มาก



ห้องน้ำเป็นแบบโปร่งใสนะ แต่มีม่านกั้นไม่ต้องห่วง



ทางเดินในอาคารที่พัก



เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนที่เขาจะนัดรวมตัวกันเราก็มาเดินเล่นบริเวณรอบๆที่พักก็พบว่าตึกแถวนี้ด้านบนติดเซลล์สุริยะหมด ใช้พลังงานธรรมชาติกันดีจริงๆ นั่นทำให้ที่นี่ดูไม่เหมือนใคร




ข้างๆที่พักมีสวนสวยๆด้วย ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้หลายชนิด เช่นดอกท้อก็มี



ดอกยวนเหว่ย์ (鸢尾) เป็นสายพันธุ์หนึ่งของดอกที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า iris



มอร์นิงกลอรี ภาษาจีนเรียกว่าดอกเชียนหนิว (牵牛) แปลตรงๆแปลว่าจูงวัว



และดอกนี้เรียกว่าซานจา (山楂) ดอกสวยมาก




โคลเวอร์ ภาษาจีนเรียกว่า ไป๋ซานเย่ (白三叶) แปลว่าสามใบขาว ปกติใบโคลเวอร์จะมีสามใบ แต่เราก็พบสี่กลีบอยู่ประปรายนะ มีความเชื่อว่าถ้าเจอโคลเวอร์สี่กลีบจะอธิษฐานขอพรได้



นอกจากนี้ก็เห็นดอกอะไรอีกหลายอย่างที่เคยเจอในปักกิ่งแต่ตอนนี้มันร่วงไปหมดแล้วเลยไม่ได้ถ่ายมาด้วย

หลังจากนั้นเขาก็นัดรวมตัวกันแล้วก็เดินไปเป็นกลุ่ม โดยจะมีไกด์คอยนำทางและอธิบายอะไรต่างๆ
คนถือธงสีเหลืองคนนี้ล่ะคือไกด์



เริ่มจากพาชมบ้านพลังงานแสงอาทิตย์และสวนรอบๆ



อาคารนี้มีชื่อว่าบ้านพักตากอากาศดักลาส (道格拉斯别墅)




ข้างๆเป็นโบสถ์พลังงานแสงอาทิตย์



มองไปทางโน้นก็เจออาคารต่างๆที่ล้วนใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อาคารเหลานี้ตั้งชื่อตามดาวเคราะห์ต่างๆด้วย อย่างตึกนี้คือตึกดาวพุธ




ตึกดาวศุกร์




ตึกดาวอังคาร



ตึกดาวเสาร์



ตึกดาวเนปจูน




บรรยากาศในสวนบริเวณรอบๆ







ตัวอาคารหลัก มองจากด้านนี้เห็นชัดเจนสวยงาม



ได้เวลาเดินกลับไปเพื่อเข้าไปยังอาคารนั้น



ที่ด้านหน้าอาคารนั้นมีตั้งอุปกรณ์น่าสนใจอยู่นั่นคือเตาอบพลังแสงอาทิตย์ ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการอบอาหาร





เขาใช้เตาอบนี้อบของกินแล้วก็ขายตรงนั้นเลย



ภายในเครื่อง



เมนูอาหาร





ได้เวลาเข้าไปยังบริเวณจัดแสดงในตัวอาคาร



แบบจำลองของสถานที่นี้ทั้งหมดทั้งบริเวณ ดูแล้วรู้สึกว่ากว้างมากเลย แต่ว่าเขาให้เราเดินแค่บริเวณเล็กๆ





แบบจำลองพวกบ้านพักตากอากาศและโรงแรมที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์




อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์



ตรงนี้คงเป็นห้องสำหรับจัดงานประชุมใหญ่ ด้านบนมีแขวนธงชาติต่างๆด้วย



เดินๆไปเจอห้องที่มีนักวิจัยกำลังทำงานอยู่ด้วย



ส่วนบริเวณนี้มีจัดแสดงความรู้ต่างๆ



ถ้ามีเวลามากก็คงไปเดินไล่อ่านได้ความรู้ไม่น้อย แต่ตอนนี้ทำได้แต่เดินผ่านๆไปเรื่อยเพราะเขาให้เดินตามไปเรื่อยๆ





อันนี้เป็นรูปอาคารต่างๆที่ถูกออกแบบสร้างขึ้นให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์






ตรงส่วนนี้จะเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความเชื่อต่างๆเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ตั้งแต่สมัยโบราณ





รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆเกี่ยวกับดวงอาทิตย์






ระบบสุริยะของเรา



แล้วเราก็ออกมานอกตัวอาคารจัดแสดง เป็นอันจบการชมเพียงเท่านี้ หลังจากนั้นก็ไปทานมื้อเที่ยงกันและขึ้นรถเดินทางกลับ



ระหว่างทางตอนนั่งรถเรามองออกไปก็เห็นตัวอาคารบางส่วนที่ไม่มีโอกาสได้ไปเดิน ตอนนี้ได้แค่เพียงมองจากบนรถ







จากนั้นเราก็เดินทางเป็นระยะทางไกลเพื่อกลับมายังปักกิ่ง

ระหว่างรถอยู่ในตัวเมืองปักกิ่งแล้ว พอดีขับผ่านอาคาร CCTV อาคารนี้มีชื่อเสียงมากด้วยรูปทรงที่แปลกประหลาดถูกออกแบบมาอย่างดี



แอบแปลกใจที่พอขับรถผ่านก็มีหลายคนบนรถรีบคว้ากล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายราวกับมาเที่ยวต่างเมืองแล้วเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกทั้งๆที่ทุกคนก็อยู่ในปักกิ่งกันอยู่แล้ว อยากมาที่เมื่อไหร่ก็มาได้ คงเพราะมันอยู่ในบริเวณที่ไม่ได้ผ่านกันบ่อยๆ เราเองก็อดไม่ได้คว้ากล้องมาถ่ายสักใบ

ดูๆไปแล้วมันก็มีส่วนคล้ายกับพวกอาคารพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหลายที่เราได้ไปชมกันมา

จากนั้นรถก็กลับถึงตัวมหาวิทยาลัยราวๆห้าโมงครึ่ง เป็นอันจบการเที่ยวครั้งนี้ลง

รู้สึกว่าเสียดายที่ได้เที่ยวที่นั่นแค่ครึ่งวันเองเลยได้ดูอะไรแค่นิดเดียว อะไรๆมันดูเร่งๆไปหน่อย ที่จริงมันกว้างกว่านี้มาก ถ้าเขาจัดเวลาให้เที่ยวอยู่ที่นั่นนานหน่อยอาจจะได้เดินชมทั่วบริเวณก็ได้ มันน่าสนใจมากจริงๆ อันนี้กลายเป็นว่าเราได้ดูแต่ในพิพิธภัณฑ์ซะเป็นส่วนใหญ่

แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกได้ว่าคุ้มมาแล้วที่มา มาเที่ยวนี้ไม่ผิดหวัง หวังว่าจะได้มีโอกาสเที่ยวแบบนี้อีก

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ