# เสาร์ 25 พ.ค. 2019เสาร์อาทิตย์ที่ 25-26 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว
เมืองไอซึวากามัตสึ (会津若松市) ใน
จังหวัดฟุกุชิมะ (福島県) ซึ่งอยู่ในภูมิภาค
โทวโฮกุ (東北) หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น
แผนที่จังหวัดฟุกุชิมะ แสดงตำแหน่งเมืองไอซึวากามัตสึเป็นสีชมพูเข้ม
ไอซึวากามัตสึนั้นเมื่อก่อนมีชื่อว่าไอซึเฉยๆ สมัยเอโดะเคยเป็นศูนย์กลางของ
ไอซึฮัง (会津藩) ("ฮัง" คือเขตการปกครองในยุคเอโดะ คล้ายกับจังหวัด)
ตั้งแต่ปี 1889 เมืองนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เมืองวากามัตสึ (若松市) แต่เนื่องจากมีชื่อเมืองวากามัตสึซ้ำอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ ต่อมาเลยเติมคำว่าไอซึซึ่งเป็นชื่อเดิมลงไปนำหน้า กลายเป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน
เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างสำคัญ มีบทบาทมากในปลายยุคเอโดะ เนื่องจากในเป็นฐานที่มั่นสำคัญของฝ่ายผู้สนับสนุนรัฐบาลโชกุน ทำให้เมืองนี้เป็นจุดทำสงครามที่สำคัญใน
สงครามโบชิง (戊辰戦争) ปี 1868-1869 ซึ่งเป็นสงครามระหว่างรัฐบาลโชกุนกับกลุ่มปฏิวัติซึ่งตอนหลังได้ชัยชนะแล้วตั้งเป็นกลุ่มรัฐบาลใหม่
สงครามในส่วนของที่ไอซึวากามัตสึนี้รู้จักกันดีในชื่อ
สงครามไอซึ (会津戦争) เกิดในช่วงกลางปี 1868
ผลจบลงด้วยความแพ้ย่อยยับของฝ่ายรัฐบาลโชกุน ซึ่งต้องถอยหนีร่นไปทางเหนือต่อ ก่อนจะแพ้อีกในไม่ช้าและจบสิ้นยุคของซามุไร เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ คือยุคเมย์จิ
ไซโตว ฮาจิเมะ (斎藤 一) หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม
ชินเซงงุมิ (新選組) ซึ่งเป็นหน่วยนักรบพิเศษของฝ่ายโชกุน ได้เข้าร่วมสงครามที่ไอซึ และเมื่อแพ้ก็ถูกจับตัวไว้ เป็นหนึ่งในสมาชิกชินเซงงุมิที่รอดตายมีชีวิตอยู่จนถึงยุคเมย์จิได้ หลังจากเขาตายสุสานของเขาก็ถูกตั้งไว้ที่เมืองนี้ด้วย
ในสงครามไอซีได้เกิดเหตุการณ์หนึ่งที่มีชื่อเสียงดังไปทั่ว นั่นคือโศกนาฏกรรมของกลุ่ม
เบียกโกะไต (白虎隊, แปลว่า "กองกำลังเสือขาว"
) ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กซามุไรอายุ ๑๕-๑๗ ซึ่งได้คว้านท้องฆ่าตัวตายหลังจากที่รู้ว่าไอซึแพ้สงคราม
ที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนซามุไรสมัยเอโดะที่มีชื่อเสียงและมีหอดูดาวอยู่ในตัว ชื่อว่า
นิชชิงกัง (日新館) ซึ่งกลุ่มเบียกโกะไตเองก็เรียนที่นี่ด้วย
นิชชิงกังได้ถูกเผาทำลายไปในสงครามไอซึ แต่ส่วนของหอดูดาวยังคงหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน และกลายมาเป็นสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเมือง
คำว่าไอซึนั้น ปัจจุบันเขียนด้วยอักษรตัวย่อเป็น 会津 แต่เมื่อก่อนใช้อักษรตัวเต็มเป็น 會津 สมัยนี้ก็ยังมีคนเขียนแบบนี้อยู่ ชื่อสถานที่บางแห่งที่นี่ถูกเขียนด้วยอักษร 會 แต่ไม่ว่าจะเขียนด้วยตัวไหนที่จริงแล้วก็คือคำเดียวกัน
สถานที่เที่ยวหลักๆของเมืองมีดังนี้
-
ซากหอดูดาวนิชชิงกัง (日新館天文台跡) เป็นส่วนของโรงเรียนซามุไรนิชชิงกังที่เหลือรอดจากสงคราม ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
-
ปราสาทวากามัตสึ (若松城) หรือ
ปราสาททสึรุงะ (鶴ヶ城) เป็นปราสาทเก่าแก่ของเมือง แต่ถูกทำลายไปในสงครามไอซึ ที่เห็นอยู่ปัจจุบันเป็นของที่สร้างใหม่ให้เหมือนเก่า
-
สุสานตระกูลมัตสึไดระผู้ครองไอซึฮัง (会津藩主松平家墓所) สถานที่ฝังศพของไดเมียวผู้ปกครองไอซึฮังในแต่ละรุ่น
-
เขาอีโมริ (飯盛山) เขาทางตะวันออกของเมือง เป็นจุดที่มองลงมาเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองได้ดี
-
ซาซาเอะโดวแห่งไอซึ (会津さざえ堂) อยู่ตรงตีนเขาอีโมริ อาคารที่มีลักษณะเป็นเกลียวเหมือนหอยสังข์ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะที่โดดเด่น
-
สุสานของเบียกโกะไตสิบเก้านาย (白虎隊士十九士の墓) อยู่บนเขาอีโมริ อยู่ไม่ไกลจากจุดที่กลุ่มเบียกโกะไตฆ่าตัวตาย
-
ไอซึฮังโกวนิชชิงกัง (會津藩校日新館) เป็นสถานที่ที่จำลองจากนิชชิงกังที่ถูกทำลายไป ตั้งอยู่บนเขาห่างจากตัวเมืองไปทางเหนือ
-
นาโนกะมาจิ (七日町) ย่านเมืองเก่าแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของเมือง
-
วัดอามิดะ (阿弥陀寺) สุสานที่ฝังศพของไซโตว ฮาจิเมะ
-
หอที่ระลึกชินเซงงุมิแห่งไอซึ (会津新選組記念館) เป็นที่จัดแสดงของเกี่ยวกับชินเซงงุมิและของที่เกี่ยวข้องในเมืองนี้
ที่แนะนำไปตรงนี้เป็นแค่สถานที่หลักๆซึ่งได้ไปมาเท่านั้น นอกจากนี้แล้วก็ยังมีสถานที่เที่ยวอื่นๆอีกมากมายซึ่งไม่อาจไปชมได้ทั้งหมด
ที่มาของเที่ยวนี้มาจากการที่ได้รู้ว่าที่เมืองนี้มีซากหอดูดาวสมัยเอโดะอยู่ คือที่โรงเรียนซามุไรนิชชิงกังนั่น
แล้วคนที่หอดูดาวแห่งชาติที่ทำงานอยู่ก็ได้บอกมาว่าเมืองไอซึวากามัตสึนี้เป็นบ้านเกิดของรองผู้อำนวยการหอดูดาวแห่งชาติ วาตานาเบะ จุนอิจิ (
渡部 潤一) ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของญี่ปุ่น
อาจารย์วาตานาเบะเรียนจนจบมัธยมปลายที่ไอซึวากามัตสึบ้านเกิด และเข้าโตเกียวไปศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโตเกียว เขาเป็นเพื่อนรุ่นน้องของอาจารย์พีรพัฒน์แห่งภาควิชาฟิสิกส์จุฬาฯซึ่งสมัยนั้นได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นไปเรียนดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโตเกียวด้วย เลยได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว อาจารย์เขาเคยพูดถึงให้ฟัง
เพื่อนคนไทยที่ทำงานอยู่ที่ฝ่ายบริการวิชาการในหอดูดาวแห่งชาติได้มีโอกาสเจออาจารย์วาตานาเบะบ่อยๆ มีโอกาสได้คุยกัน คุยไปคถุยมาเขาจึงชวนไปเที่ยวบ้านเกิดเขา เพราะเขาอยากให้คนรู้จักที่เที่ยวที่นั่นมากขึ้น แผนเที่ยวนี้จึงเกิดขึ้น
พอดีช่วงนี้เราเองก็ได้มาทำวิจัยที่หอดูดาวแห่งชาติด้วย เขาเลยชวนไปด้วย เที่ยวนี้เลยได้ไปด้วยกันสองคน
โดยที่อาจารย์วาตานาเบะได้แนะนำคนรู้จักของเขาที่ไอซึวากามัตสึให้ เขาเป็นหัวหน้าแผนกวัฒนธรรมของสมาคมการศึกษาเมืองนี้ ให้เขาช่วยพาเราเที่ยวชมหอดูดาวนิชชิงกังและปราสาทวากามัตสึ
นับเป็นเรื่องโชคดีอย่างมากที่การไปเที่ยวไอซึครั้งนี้ได้เขาช่วยทั้งแนะนำสถานที่อย่างละเอียด และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการพาเยี่ยมชมปราสาทวากามัตสึ
เขายังได้พาคนไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มาช่วยเป็นล่ามให้ด้วย เป็นผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นที่เป็นชาวเมืองนี้และใช้ชีวิตอยู่เมืองนี้มาเกือบ ๒๐ ปี จนพูดญี่ปุ่นคล่อง
ที่จริงเราคุยภาษาญี่ปุ่นได้ แต่เพื่อนอีกคนไม่ได้คล่องภาษาญี่ปุ่นมาก ดังนั้นการมีคนไทยมาช่วยแปลให้จึงช่วยได้มากทีเดียว และเขาก็เก่งภาษาญี่ปุ่นกว่าเรามาก สามารถคุยได้คล่องเหมือนคนญี่ปุ่น แม้จะลืมภาษาไทยไปบ้าง เพราะมาอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่อายุน้อย และกลับไทยไม่บ่อย
สำหรับเราแล้วนี่เป็นจังหวะเหมาะดีและเป็นโอกาสดีมาก อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวภูมิภาคโทวโฮกุ และทำให้ได้ถือว่าไปมาครบทุกภูมิภาคบนเกาะฮนชูของญี่ปุ่นแล้ว (ในขณะที่เกาะอื่นยังไม่เคยไปเลย)
ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสได้ยินชื่อเมืองนี้ตั้งแต่สมัยที่ดูอนิเมะเรื่อง
ฮากุโอวกิ (薄桜鬼) ซึ่งเป็นเรื่องที่เอาประวัติศาสตร์ของชินเซงงุมิมาแต่งเติม พอดูเรื่องนี้ก็ทำให้รู้ประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นไปด้วย
เนื่องจากไอซึวากามัตสึเป็นสนามรบที่สำคัญจึงถูกพูดถึงตั้งแต่ตอนที่ ๕ ของภาค ๒ ของเรื่อง และปรากฏตลอดตอนที่ ๗
ฉากที่ทำให้ชื่อไอซึติดตรึงอยู่ในใจมาจากการที่ฮาราดะ ซาโนสึเกะ (
原田 左之助) สมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งของชินเซงงุมิที่กลายมาเป็นตัวเอกคนนึงในอนิเมะได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า
"ชิมปาจิกำลังรออยู่... ต้องรีบ... ไปที่ไอซึ..." (新八が待ってるから…早く、会津に…行かねぇと…) ก่อนสิ้นใจเพราะติดพันศึกที่เอโดะ ทำให้ไม่มีโอกาสได้ตามไปสมทบกับพวกพ้องคนอื่นที่ไอซึ
ชิมปาจิที่พูดถึงคือนางากุระ ชิมปาจิ (
永倉 新八) สมาชิกคนสำคัญอีกคนของชินเซงงุมิ ซึ่งแยกกลุ่มออกไปแล้วเดิมทีตั้งใจจะไปสมทบกันที่ไอซึ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปร่วมศึกไอซึเช่นกัน
ถ้าใครรู้ประวัติศาสตร์มาก่อน มาดูเรื่องนี้คงต้องรู้อยู่แล้วว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของชินเซงงุมิจะต้องตายในสงคราม จึงคงต้องทำใจมาก่อนแล้ว แต่ในเรื่องทำฉากจบของแต่ละคนออกมาได้อารมณ์มาก
ส่วนฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของไซโตว ฮาจิเมะนั้นก็ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสวยงาม โดยที่เขาพุ่งเขาหากองทัพศัตรูแบบไม่คิดชีวิต แล้วฉากก็ตัดจบลงเท่านี้ ให้คิดต่อกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคนที่รู้ประวัติศาสตร์ก็คงรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้พบจุดจบเหมือนอย่างคนอื่น
ศึกไอซึนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ย่อยยับของฝ่ายรัฐบาลโชกุนและชินเซงงุมิ ไซโตว ฮาจิเมะถูกจับเป็นเชลย ส่วนคนที่เหลืออยู่อย่างเช่นรองหัวหน้ากลุ่ม ฮิจิกาตะ โทชิโซว (
土方 歳三) ก็ต้องถอยร่นไปยังเซนได แล้วก็ฮาโกดาเตะ
รายละเอียดเกี่ยวกับศึกไอซึจะเล่าถึงตอนเขียนถึงที่ไปเที่ยวปราสาทวากามัตสึอีกที พร้อมทั้งเทียบภาพปราสาทกับที่ปรากฏในอนิเมะด้วย
สำหรับการเดินทางจากโตเกียวไปนั้น หากต้องการเร็วที่สุดก็อาจนั่งรถไฟชิงกันเซงไปลง
สถานีโคริยามะ (郡山駅) ใน
เมืองโคริยามะ (郡山市) แล้วต่อรถไฟธรรมดาไปถึงไอซึวากามัตสึได้ ระยะเวลารวมประมาณ ๓ ชั่วโมง
แต่หากต้องการประหยัด รถบัสก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ระยะเวลาเดินทาง ๔ ชั่วโมงครึ่ง ช้ากว่าชิงกันเซง แต่ถูกกว่าประมาณ ๒ เท่า และไปถึงโดยตรงทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ
ครั้งนี้เพื่อประหยัดจึงเลือกเดินทางด้วยรถบัส ค่าเดินทาง ๔๘๐๐ เยน
รถบัสมีหลายเที่ยวต่อวัน ตั้งแต่เช้าถึงเย็น มีประมาณชั่วโมงละคัน
การนั่งรถบัสมักต้องจองตั๋วล่วงหน้า เพราะอาจเต็มได้ง่าย
ตารางเวลารถบัส
http://time.jrbuskanto.co.jp/bk02020.htmlการจองอาจจองผ่านเว็บ หรือไปซื้อตั๋วที่สถานีไว้ล่วงหน้าก็ได้
สำหรับรถรอบที่เลือกคราวนี้เป็นรอบ 7:30 ออกจาก
ท่ารถชินจุกุ (バスタ新宿) ใกล้สถานีชินจุกุ
บนรถมีห้องน้ำด้วยจึงไม่ต้องห่วงว่าจะปวดระหว่างทาง อีกทั้งระหว่างทางยังมีการแวะพักถึง ๒ ครั้ง จะเข้าห้องน้ำตรงจุดพักก็ได้
สำหรับโรงแรมที่จะพัก เราได้จองผ่านเว็บรากุเตง
https://travel.rakuten.co.jpโดยได้เลือกโรงแรมทากาโก (タカコー) ซึ่งอยู่ค่อนข้างใกล้ใจกลางเมือง
https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/18105/18105.htmlค่าพักราคา ๖๗๐๐ เยน หารกัน ๒ คนก็เป็นคนละ ๓๓๕๐ เยน
เริ่มเล่าเรื่องการเดินทาง
ตอนเช้า ออกมาจากที่พักในหอดูดาวแห่งชาติตั้งแต่หกโมงเช้า
เพื่อมารอรถเมล์ที่จะไปสถานีโจวฟุเพื่อนั่งรถไฟไปสถานีชินจุกุ
ถึงสถานีชินจุกุตั้งแต่เจ็ดโมงแล้วก็เดินไปตามหาท่ารถบัส
ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงท่ารถบัส
ต้องเข้ามาด้านในแล้วขึ้นไปชั้น ๔
บรรยากาศชั้น ๔ เต็มไปด้วยผู้คน
ตารางแสดงเวลาเดินรถ เต็มไปด้วยรอบรถมากมาย ไปยังที่ต่างๆทั่วญี่ปุ่น
ตรงนี้เป็นที่ขายตั๋ว ถ้าไม่ได้ซื้อล่วงหน้าไว้ก็มาซื้อเดี๋ยวนั้นได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีที่เหลือ ถ้าไม่มีเหลือก็อด เพื่อความปลอดภัยยังไงก็จองล่วงหน้าไว้ดีกว่า เพราะต่างจากรถไฟตรงที่ถ้าเต็มแล้วจะขึ้นไปยืนก็ไม่ได้
ใกล้ถึงเวลาก็เดินไปขึ้นรถ
บนรถก่อนออก
ทิวทัศน์ริมน้ำหลังจากออกรถไม่นาน ยังอยู่ในโตเกียว แต่ว่าหลังจากนั้นก็ขึ้นทางด่วน ซึ่งมักล้อมด้วยเนินกั้น ไม่ค่อยจะสามารถชมทิวทัศน์ข้างทางได้ จึงไม่ได้ถ่ายอะไรระหว่างทางอีกเลย
ชั่วโมงกว่าผ่านไปรถก็มาจอดยังจุดพักฮานิว ที่
เมืองฮานิว (羽生市) จังหวัดไซตามะ เขาปล่อยให้ลงไปเข้าห้องน้ำหรือซื้อของได้ประมาณ ๑๐ นาที
เราก็ลงมาเข้าห้องน้ำแล้วก็ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย
จุดพักตรงนี้ใหญ่พอสมควร ด้านในมีที่ขายของมากมาย มีโรงอาหารด้วย แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรกินเพราะเตรียมมื้อเช้ามากินบนรถตั้งแต่แรกแล้ว
มีแม้แต่สตาร์บัก
พอใกล้เวลาก็กลับขึ้นรถ จากนั้นรถก็วิ่งต่อไป
ระหว่างทางมีผ่าน
จังหวัดโทจิงิ (栃木県) แต่ไม่ได้มีการหยุดพัก จึงเป็นแค่จังหวัดทางผ่านที่ไม่มีโอกาสได้เที่ยว ที่จริงสถานที่เที่ยวของโทจิงิก็ชื่อดังเหมือนกัน ไว้โอกาสหน้าสักวันคงได้แวะมาเที่ยวบ้าง
ผ่านไปอีกชั่วโมงครึ่งก็มาถึงจุดพักอีกจุด คือจุดพักอาบุกุมะ อยู่แถวริม
แม่น้ำอาบุกุมะ (阿武隈川) ใน
เมืองชิรากาวะ (白河市) ซึ่งตรงนี้อยู่ในเขตจังหวัดฟุกุชิมะแล้ว แต่เป็นเมืองที่อยู่ใต้สุด ติดกับจังหวัดโทจิงิ
จุดพักตรงนี้ไม่ได้ใหญ่เท่าที่ฮานิว แต่ก็พอมีร้านอะไรให้เดินเล่นได้ มีตู้ขายน้ำอัตโนมัติ และกาชาปง
ตรงนี้ดูเหมือนจะเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้ ชิรากาวะราเมง (
白河ラーメン)
แล้วก็ขึ้นรถแล้วออกเดินทางต่อ พอใกล้ถึงเขตเมืองไอซึวากามัตสึก็มีการจอดให้คนลงหลายจุด
ที่นึงที่เห็นคนลงมากคือที่
สถานีอินาวาชิโระ (猪苗代駅) ใน
เมืองอินาวาชิโระ (猪苗代町) เป็นเมืองเล็กๆระหว่างทาง อยู่ทางตะวันออกของเมืองไอซึวากามัตสึ
ส่วนที่หมายปลายทางสุดคือที่สถานีรถไฟไอซึวากามัตสึกลางเมือง
มาถึงที่หมายคือสถานีไอซึวากามัตสึเวลา 12:10
จากนั้นก็ต้องเดินไปยังโรงแรมซึ่งอยู่ห่างจากสถานีไปพอสมควร ต้องเดิน ๒๐ นาที
ถนนหน้าสถานีต้องลอดใต้ดินเพื่อข้าม อาคารทางข้ามทำเป็นตึกแบบเก่าสวยดี
บ้านเมืองระหว่างทาง ดูแล้วบรรยากาศค่อนข้างเงียบๆ ผู้คนน้อยอยู่กันแบบสบายๆ
บ้านหลายหลังดูร้างเหมือนว่าประชากรเมืองนี้อยู่ในช่วงขาลง จากการที่คนอพยพเข้าไปเมืองใหญ่กันมาก เมืองนี้ก็ไม่ได้เป็นเมืองเล็ก แต่ก็ไม่ได้ใหญ่
แล้วก็มาถึงโรงแรมทากาโกที่จองไว้
ล็อบบีโรงแรมอยู่ชั้น ๓ ขึ้นมาเช็กอินตรงนี้ แต่ว่าเนื่องจากมาถึงก่อนเวลาเช็กอินคือบ่ายสาม จึงยังเข้าห้องไม่ได้ ได้แต่เอาสัมภาระมาวางไว้ ไว้หลังจากกลับมาอีกทีตอนเย็นค่อยเข้าห้อง
พวกเรานัดกับคนที่จะมาพาเที่ยวไว้เวลาบ่ายสอง มีเวลาชั่วโมงกว่าสำหรับหามื้อเที่ยงกินแถวนั้น
ทางโรงแรมได้มีเตรียมแผนที่ร้านอาหารแถวๆนั้นไว้ จึงลองเดินหาตามนั้นดู แล้วก็เลือกกินที่ร้าน
Parlor Jiro
เมนูดูแล้วราคาไม่แพงเกินไปจึงตัดสินใจกินที่นี่
เลือกกินชุดอุดงเย็น (冷うどん) ราคา ๖๕๐ เยน
ข้างๆมีวัดเล็กๆ วัดโควโตกุ (
興徳寺)
กินเสร็จก็กลับไปโรงแรมเพื่อรอคนที่จะพาเที่ยวอยู่ที่ล็อบบีของโรงแรม
พอถึงบ่ายสองโมงเขาก็มาตามเวลา แล้วพาเราไปขึ้นรถเพื่อพาเที่ยว โดยเริ่มจากพาไปยังสถานที่เที่ยวแห่งแรก คือซากหอดูดาวนิชชิงกัง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการมาเที่ยวนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20190603