# อาทิตย์ 29 มี.ค. 2020คอม macbook มีปัญหามาสักพักแล้ว คือแบตเตอรีบวม และปุ่มคีย์บอร์ดหลุด อยากจะไปซ่อมแต่ก็ไม่ค่อยสะดวก เพราะต้องใช้งานตลอด และช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากออกไปไหนทำอะไรมาก เนื่องจากไวรัสโคโรนาก็กำลังระบาดอยู่
แต่พอคิดว่าถึงรอต่อไปสถานการณ์ก็ไม่ใช่ว่าจะดีขึ้น อาจจะแย่ลงก็เป็นได้ ถ้าแบบนั้นช่วงนี้ซึ่งยังพอออกไปไหนได้ก็น่าจะออกไปก่อนดีกว่า
สถานการณ์ในไต้หวันตอนนี้ถือว่าดีกว่าหลายประเทศรอบๆมาก ห้างร้านอะไรต่างๆยังคงเปิดได้ตามปกติ มหาวิทยาลัยก็เปิดเรียนตามปกติ แม้จะมีหลายวิชาที่เปลี่ยนไปเรียนออนไลน์แทน
เพียงแต่ออกไปไหนมาไหนต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเป็นปกติ เหมือนกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปแล้ว
หน้ากากอนามัยยังกำลังเป็นของหายาก แต่รัฐบาลก็ช่วยสนับสนุนให้เร่งผลิตและแจกจ่ายเต็มที่ ทำให้สถานการณ์ค่อยๆดีขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่สามารถมีหน้ากากอนามัยใช้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานบริการต่างๆ
สำหรับร้านที่ไปซ่อม macbook นั้นคือร้าน studio a ศูนย์บริการของทาง apple ซึ่งจริงๆแล้วเขามีศูนย์อยู่ภายในมหาวิทยาลัยชิงหัวด้วย แต่จากที่ลองถามเขาบอกว่าถ้าส่งซ่อมตรงนี้เขาก็ต้องส่งไปยังศูนย์ในเมืองแล้วก็ต้องส่งกลับมาอีก กินเวลาเพิ่ม ดังนั้นทางที่ดีคือเข้าไปร้านในเมืองโดยตรงจะเร็วกว่ามาก
ดังนั้นวันนี้เราจึงเดินทางไปยังใจกลางเมือง หา studio a ตรงหน้าสถานีรถไฟซินจู๋ โดยนั่งรถเมล์ไป
ช่วงนี้แทบไม่ได้ออกไปไหนจริงๆ เลย การออกมาครั้งนี้ก็ถือโอกาสผ่อนคลาย เดินเล่นในเมืองไปด้วย
ร้าน studio a อยู่ทางเหนือของสถานีรถไฟ จากหน้าร้านมองลงไปก็ยังเห็นตัวสถานีรถไฟได้ชัด
เข้ามาในร้านต้องรอคิวสักหน่อยจึงจะได้ยกคอมไปให้เขาซ่อม
พอให้คอมไปเสร็จ ก่อนจะกลับก็มาเดินเล่นแถวๆนี้สักหน่อย แถวใกล้สถานีนี่เป็นย่านร้านค้าย่านเดินเล่นที่สำคัญของเมืองนี้
จากสถานการณ์โรคระบาดตอนนี้ทำให้คนอาจจะออกมาเดินไม่เยอะ ไม่พลุกพล่าน แต่ก็ยังเห็นคนออกมาเดินทั่วไป ร้านอาหารต่างๆก็เปิดตามปกติ
เดินมาเจอร้านซูชิถาดหมุน ก็ขอสักหน่อย ไม่ได้ออกมากินอาหารข้างนอกแบบนี้นาน ซูชิก็ไม่ได้กินนานแล้ว
เข้ามาในร้านตอนนนี้ก็ดูไม่ต่างจากเวลาปกติ เพียงแต่พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และตอนเดินเข้าเขาจะเอาปืนวัดไข้มาจ่อที่หน้าผาก แล้วก็ฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่มือให้ด้วย
ที่จริงตอนแรกยังห่วงว่าร้านซูชิจะได้รับผลกระทบอะไรหรือเปล่า แต่เท่าที่ดู ซูชิก็ยังหมุนไปตามสายพานตามปกติ ไม่ได้ต่างจากเวลาปกติ
จานละ ๓๐ บาท กินไป ๖ จานก็ ๑๘๐ บาท คงเป็นมื้อที่แพงที่สุดของช่วงนี้แล้ว แต่ก็นานๆที ไม่ได้ออกมาแบบนี้บ่อยนัก
เสร็จแล้วก็มารอรถเมล์เพื่อกลับมหาวิทยาลัย
ช่วงนี้ก็คงจะเก็บตัวอยู่ต่อไปเช่นเคย จะออกมาอีกทีก็คงตอนที่เอาคอมที่ซ่อมเสร็จ แต่ก็คงไม่ได้ไปเที่ยวไหน แผนเดิมที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปญี่ปุ่นก็โดนล้มเลิกแล้ว จากนี้ไปก็คอยติดตามสถานการณ์โคโรนาไวรัสไปเรื่อยๆ
อากาศช่วงนี้ยังเย็นสบาย มีฝนตกบ้าง แต่ก็กำลังอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เป็นฤดูใบไม้ผลิตามปกติ จะต่างจากปกติก็คงแค่ตรงที่ว่าผู้คนออกมาชมดอกไม้กันน้อยลงมาก
แต่ช่วงนี้รักษาตัวให้ดีไว้ก่อน แล้วปีหน้าจะค่อยมาเที่ยวก็ไม่สายหรอก