ขอพูดถึงเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ในตอนนี้สักหน่อย เนื่องจากช่วงนี้มีความขัดแย้งกันมากขึ้น โดยเฉพาะระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา
ณ ตอนนี้ (21 พ.ค.) ยอดผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกาพุ่งไปสูงถึง 1.5 ล้าน คน (ในจำนวนนั้นเสียชีวิต 9.3 หมื่นคน) ซึ่งนำทิ้งห่างอันดับรองลงมาซึ่งมี 3 แสนกว่าคน
จริงอยู่ว่าถ้าให้คิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรแล้วอาจจะดูลดลงมากเพราะประชากรเยอะ แต่ก็ยังถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ เป็นรองแค่กลุ่มประเทศในยุโรป
จนตอนนี้สถานการณ์เหมือนจะเริ่มเอาอยู่แล้ว เลขผู้ป่วยไม่ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างแต่ก่อนแล้ว และคงมีทีท่าว่าจะหยุดลงได้ในไม่ช้า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำให้สบายใจขึ้นมาได้
แต่ว่าได้ไปเห็นข่าวที่ว่าเมื่อวาน (20 พ.ค.) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวโทษว่า COVID-19 เกิดจากความไม่เอาไหนของจีน แล้วยังบอกว่าไม่ได้พยายามเต็มที่ในการยับยั้งการแพร่กระจาย
ที่มา >>
https://www.facebook.com/594397851280562ซึ่งถ้าติดตามข่าวมาตลอดก็จะเห็นว่าทรัมป์ดูจะมั่นใจในตัวเองมาก เช่นเคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าให้คะแนนตัวเองเต็ม 100 ในการจัดการกับวิกฤตไวรัสโคโรนาคราวนี้ >>
https://www.facebook.com/2822492354514426แล้วยังมีการพูดว่ายอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯที่สูงที่สุดนี้ถือเป็น "ตราเกียรติยศ" >>
https://www.facebook.com/2440421512917393อย่างไรก็ตาม อย่างที่เห็นว่าจากสถานการณ์ที่ปรากฏออกมาก็คงยากที่จะคิดได้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจัดการปัญหาได้ดีจริง
แต่สิ่งที่ทรัมป์ทำก็คือกล่าวโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่น โดยที่ไม่ได้พูดถึงว่าตัวเองทำผิดพลาดอะไรไปบ้างเลย
ที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ยังไงก็คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นความผิดของจีนจริงๆ เพราะการระบาดของโรคก็เริ่มต้นที่เมืองอู่ฮั่นมณฑลหูเป่ย์ในจีน แล้วที่แพร่กระจายไปทั่วจนควบคุมไม่ได้ก็เพราะการปิดข่าวของจีนในช่วงแรก ซึ่งทำให้มีหมอต้องสังเวยชีวิตไปแล้วจึงจะเริ่มหันมาสนใจแก้ไข ปิดอู่ฮั่นจนเชื้อหยุดกระจายตัวลงได้
อย่างไรก็ตาม ก็จะเห็นได้ว่าหลังปิดอู่ฮั่นไปแล้วการกระจายของเชื้อได้ชะลอตัวลง และตอนแรกแทบจะหยุดลงแค่ในจีน ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ชัดถึงความพยายามของจีนในการจัดการโรคนี้หลังจากที่รู้แล้วว่านี่เป็นปัญหาใหญ่
แต่สุดท้ายก็เกิดการระบาดที่เรือ Diamond Princess แล้วตามมาด้วยการแพร่ระบาดที่อิตาลี แล้วก็ลามไปทั่วยุโรป แล้วในที่สุดก็เข้าสหรัฐอเมริกาและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดทิ้งห่างประเทศอื่นไป
แน่นอนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้คงจะกลายมาเป็นตราบาปของจีนในสายตาของชาติอื่นๆไปอีกนาน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็สูญเสียไปมาก คนจีนที่อยู่ในต่างแดนก็โดนเหยียดมากขึ้นไปอีก
ความสูญเสียโดยรวมแล้วยังไงก็ถือเป็นอันดับต้นๆ ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นของ COVID-19 และยังมีประชากรมากที่สุดในโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมสถานการณ์ดีขึ้นจนสามารถกลายเป็นฝ่ายกลับไปช่วยประเทศอื่นได้ โดยเฉพาะประเทศที่เคยช่วยจีนมาตั้งแต่แรกในช่วงที่จีนอาการหนัก
ดังนั้นถ้าจะบอกว่าจีนจัดการปัญหานี้ไม่ดีก็คงจะไม่ถูกต้องนัก และถ้าจะบอกว่าไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยก็ยิ่งไม่ถูกต้องอีก
แต่ทรัมป์กลับพยายามโยนความผิดทั้งหมดไปให้จีน พยายามจะบีบให้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ และดูเหมือนจะยังคงเป็นต่อไป
มีคนบอกว่าเพราะใกล้เลือกตั้งแล้วถ้าทรัมป์ยอมรับว่าตัวเองทำผิดพลาดคะแนนนิยมก็คงจะตกลงไปอย่างมาก จึงพยายามดึงดันโทษโน่นโทษนี่
แต่ว่า ปัญหาทุกอย่างล้วนมีสาเหตุมาจากหลายทาง จีนเป็นสาเหตุในเบื้องต้นที่ทำให้เชื้อแพร่กระจาย แต่ที่การระบาดในบางประเทศเช่นสหรัฐฯลุกลามไปจนควบคุมไม่ได้ก็คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นเพราะความผิดพลาดของรัฐบาลหรือประชาชนในประเทศนั้นเอง
ในขณะที่ประเทศอื่นๆเช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ กลับรับมือสถานการณ์ได้ดี มีความเสียหายน้อยมาก เพราะผู้นำดี มีความสามารถ ประชาชนก็ให้ความร่วมมือดี
ดังนั้นการระบาดที่เกิดขึ้นในหลายประเทศนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อสถานการณ์ออกมาเลวร้าย ยังไงสาเหตุก็มาจากที่ตัวประเทศนั้นเอง
แน่นอน ไม่ได้บอกว่าทรัมป์หรือรัฐบาลสหรัฐฯผิดเต็มประตู ส่วนหนึ่งยังไงก็เป็นความผิดของจีนด้วยจริงๆ
แต่คนเราจะมัวแต่มองความผิดพลาดจากรอบข้างไม่ได้หรอก ต้องรู้จักโทษตัวเองบ้าง ต้องลองมองตัวเอง ดูว่าตัวเองได้ทำอะไรผิดพลาดไป
พอทำแบบนี้แล้ว จึงจะสามารถปรับปรุงตัวเองได้ แล้วก็จะเก่งกล้าขึ้น แข็งแกร่งขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด
ดังที่ได้มีคนกล่าวไว้ว่า "คนดีชอบแก้ไข คนあไรชอบแก้ตัว"
แทนที่จะมัวไปโทษคนอื่น ให้มองหาข้อผิดพลาดในตัวเองก่อน จะทำให้ปรับปรุงตัวเอง และก้าวหน้าขึ้นได้มากยิ่งขึ้นไป
คนเราจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อหันมามองตัวเอง ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง
ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สิ่งที่ควรทำมากกว่าการโทษกันไปมาก็คือการพยายามร่วมมือกันต่อจากนี้ไป
จีนและสหรัฐอเมริกาอาจจะเป็นคู่ปรับกันซึ่งแข่งกันชิงดีชิงเด่นกันมาตลอด แต่ COVID-19 คือศัตรูของมนุษย์ทั้งโลกตอนนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คืออะไร คงจะรู้กันอยู่แล้ว