ฟ้าสวยสิ้นสุดฤดูร้อน อากาศเริ่มดี มีอะไรรออยู่อีกมากมายในช่วงปลายปีที่เหลือนี้
เขียนเมื่อ 2020/09/25 18:33
แก้ไขล่าสุด 2023/03/30 06:27
# ศุกร์ 25 ก.ย. 2020
ที่ไต้หวันตอนนี้ปิดเทอมฤดูร้อนก็สิ้นสุดลงแล้ว เข้าสู่ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง
พอวันนี้ดีฟ้าสวยก็เลยเดินถ่ายรูปภายในมหาวิทยาลัยตอนเย็นแล้วเอารูปมาลงพร้อมทั้งเล่าเกี่ยวกับช่วงนี้
ตรงแถวๆริมทะเลสาบเป็นตำแหน่งที่ดี วันไหนฟ้าสวยๆก็มักจะมาเดินเล่นตรงนี้ประจำ อากาศก็เริ่มเย็นสบายดีด้วย เวลาเย็นแบบนี้เห็นพระจันทร์ด้วย คือจุดขาวๆทางขวาบน
ช่วงเวลาฤดูร้อนที่ว่างๆที่ผ่านเวลาไปด้วยการเล่นเกม อ่านมังงะ หรือปั่นบทความมากมายลงบล็อกนั้นก็สิ้นสุดลง
จากนี้มีอะไรต้องทำอีกมากมาย ทั้งต้องเริ่มงานวิจัยใหม่ ซึ่งคงจะกินเวลาไม่น้อย แต่ก็ยังคงอยากหาเวลามาเขียนบทความไพธอนและการเรียนรู้ของเครื่องที่ยังเขียนค้างอยู่ต่อ
ไม่ใช่แค่นั้น ทาง amazon ก็ขยันส่งเมลมาโฆษณาแนะนำหนังสือที่น่าสนใจล่อให้ซื้ออยู่เรื่อยๆ มีทั้งหนังสือเก่าและใหม่
ทั้งหนังสือตำราหรือพวกอ่านเอาความรู้ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องคอมพิวเตอร์หรือเขียนโปรแกรม แต่หลังๆเริ่มขยายขอบเขตไปที่เรื่องอื่นๆอีก
แล้วก็ทั้งมังงะหรือนิยายด้วย ในเมลมีเรื่องน่าสนใจมากมายถูกส่งมาโฆษณา คงจะดูจากเรื่องที่เคยอ่านมาก่อนแล้วเดาใจว่าหนังสือแบบไหนจะล่อให้เราสนใจได้ง่าย นี่ก็เป็นผลจากระบบ AI ที่ถูกเขียนมาดีเกินไปของเว็บนี้นั่นเองสิ
แล้วช่วงนี้ก็เหมือนตัวเองจะติดเบ็ดง่ายขึ้น เผลอกดซื้อไปมากทั้งหนังสือความรู้และหนังสืออ่านเล่นมากมาย
แค่สัปดาห์นี้ก็พอลองดูเมลก็พบว่ามีการกดซื้อจาก amazon ไปแล้วถึง ๖ ครั้งภายใน ๔ วัน
หนังสือที่อ่านไปก็มักจะไม่ชอบเก็บเงียบไว้คนเดียว ถ้าเป็นหนังสือความรู้ก็พยายามจะสรุปเนื้อหาลงบล็อกหรือแฟนเพจใน facebook ถ้าเป็นมังงะหรือนิยายที่ติดใจก็อยากเล่าเรื่องย่อแนะนำลงบล็อก
วันก่อนก็เพิ่งจะเขียนแนะนำมังงะที่อยู่นอกกระแสแต่อ่านแล้วติดไปเรื่องนึง https://phyblas.hinaboshi.com/20200922
แต่มังงะหรือนิยายไม่ได้กินเวลามาก เท่าพวกหนังสือที่อ่านเอาความรู้
หนังสือความรู้ส่วนใหญ่ที่ซื้อจะออกแนวเขียนเล่าแบบสบายๆหรือเป็นการ์ตูนมากกว่าจะเป็นแบบหนังสือเรียนจริงจังที่ใช้ภาษาซึ่งอ่านแล้วชวนให้ง่วง แต่ก็เพราะอย่างนี้ล่ะจึงอ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อ
ถึงอย่างนั้นก็มีอีกหลายเล่มที่ซื้อไว้แล้วไม่มีเวลาอ่าน พอผ่านไปก็มีเล่มใหม่โผล่มา ก็ซื้อมาอ่านโดยที่เล่มเก่าก็ยังดองต่อไป
สภาพตอนนี้คงตรงกับที่เรียกว่า "ซึนโดกุ" 積ん読 แปลว่า "ดองหนังสือไว้ ไม่ทันอ่านหมดก็ซื้อใหม่อีก" แม้จะเป็น e-book ทั้งหมดก็ตามก็ถือว่าซึนโดกุได้เหมือนกัน
แต่ก็ยังดีกว่าหนังสือเป็นเล่มจริงๆตรงที่ไม่กินที่ ถ้าหากที่ซื้อมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้เป็นหนังสือเล่มจริงๆอาจจะไม่มีที่เก็บแล้วก็เป็นได้
แต่ก็เพราะเป็น e-book ด้วยแหละที่ทำให้ซื้อมาเยอะโดยไม่ได้ยับยั้งช่างใจแบบนี้ เพราะแค่กดคลิกปุ่มในคอมแค่ทีเดียวก็ซื้อเรียบร้อย แล้วโหลดอ่านได้ทันทีไม่ต้องรอของส่งด้วย
e-book ทั้งถูกและสะดวก แต่ก็เป็นอะไรที่ล่อให้คนเสียเงินซื้อง่ายขึ้นกว่าหนังสือธรรมดามากขึ้น ทำให้คนฟุ่มเฟือยมากขึ้นด้วย
และอีกทั้งช่วงนี้อากาศก็เริ่มเย็นลงเพราะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ทำให้เหมาะแก่การออกไปท่องเที่ยว ไม่อาจอุดอู้อยู่กับที่เหมือนอย่างตอนฤดูร้อน แม้ว่าอาจจะไม่คิดไปเที่ยวเยอะเหมือนปีอื่นๆเพราะติดโควิดอยู่ก็ตาม
ไปๆมาๆ มีเรื่องที่จะต้องทำเต็มไปหมดเลยนี่ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเที่ยว เรื่องงานอดิเรก ฯลฯ
หนังสือที่อยากอ่านมีเยอะขึ้น แต่เวลาก็ต้องแบ่งให้การทำเรื่องอื่นๆมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าจะแบ่งเวลายังไง เป็นอะไรที่ต้องคิดให้ดีพอสมควร
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะต้องเครียดอะไร การมีเรื่องให้ทำเยอะนั้นกลับเป็นอะไรที่สนุก หากเทียบกับความจำเจตอนปิดเทอมฤดูร้อนที่แทบไม่ได้ทำอะไรนอกจากเล่นเกมและอ่านหนังสือเก็บตัวอยู่เป็นเดือนๆ แบบนั้นออกจะอุดอู้อึมครึม
ต่อให้อะไรๆต่างๆจะไปได้ไม่ค่อยสวย แต่สิ่งที่จะค่อยๆดีขึ้นจากนี้ไปแน่นอนก็คือสภาพอากาศ ฤดูกาลเป็นสิ่งที่ตายตัวตามช่วงปีไม่ว่ายังไงจากนี้ไปก็ต้องเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง แล้วฤดูหนาวก็ตามมา ท้องฟ้าก็สวย เดินถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน
แม้จะเป็นห่วงว่าฤดูหนาวโควิดจะแพร่ได้ง่าย แต่ถึงตอนนี้ซึ่งผู้คนเริ่มจะชินกับโควิดและปรับตัวกับสภาพในตอนนี้ได้แล้วนั้นหากให้เทียบกับเมื่อช่วงต้นปียังไงก็คงยังดีกว่า
ปีนี้ผู้คนต่างต้องลำบากทรมานกันเพราะโควิด ทางบ้านเราเองก็ทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้องแม่จะไม่มีใครติดโรคแต่ก็ต้องเสียหายขาดรายได้ไปมาก อยู่ในสภาวะแย่เลย
แต่เมื่อพูดถึงความลำบากที่เกิดจากโควิดในปีนี้แล้วนั้นยังมีคนอีกมากมายที่เจอผลกระทบหนักกว่า เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วเราก็คงไม่อาจมัวซึมหรือชะงักลง
ปี 2020 ที่ยากลำบากนี้เหลืออีกเพียงแค่ 1/4 เท่านั้นแล้ว จะมีอะไรรออยู่ก็ฝ่าฟันต่อไป
ที่ไต้หวันตอนนี้ปิดเทอมฤดูร้อนก็สิ้นสุดลงแล้ว เข้าสู่ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง
พอวันนี้ดีฟ้าสวยก็เลยเดินถ่ายรูปภายในมหาวิทยาลัยตอนเย็นแล้วเอารูปมาลงพร้อมทั้งเล่าเกี่ยวกับช่วงนี้
ตรงแถวๆริมทะเลสาบเป็นตำแหน่งที่ดี วันไหนฟ้าสวยๆก็มักจะมาเดินเล่นตรงนี้ประจำ อากาศก็เริ่มเย็นสบายดีด้วย เวลาเย็นแบบนี้เห็นพระจันทร์ด้วย คือจุดขาวๆทางขวาบน
ช่วงเวลาฤดูร้อนที่ว่างๆที่ผ่านเวลาไปด้วยการเล่นเกม อ่านมังงะ หรือปั่นบทความมากมายลงบล็อกนั้นก็สิ้นสุดลง
จากนี้มีอะไรต้องทำอีกมากมาย ทั้งต้องเริ่มงานวิจัยใหม่ ซึ่งคงจะกินเวลาไม่น้อย แต่ก็ยังคงอยากหาเวลามาเขียนบทความไพธอนและการเรียนรู้ของเครื่องที่ยังเขียนค้างอยู่ต่อ
ไม่ใช่แค่นั้น ทาง amazon ก็ขยันส่งเมลมาโฆษณาแนะนำหนังสือที่น่าสนใจล่อให้ซื้ออยู่เรื่อยๆ มีทั้งหนังสือเก่าและใหม่
ทั้งหนังสือตำราหรือพวกอ่านเอาความรู้ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องคอมพิวเตอร์หรือเขียนโปรแกรม แต่หลังๆเริ่มขยายขอบเขตไปที่เรื่องอื่นๆอีก
แล้วก็ทั้งมังงะหรือนิยายด้วย ในเมลมีเรื่องน่าสนใจมากมายถูกส่งมาโฆษณา คงจะดูจากเรื่องที่เคยอ่านมาก่อนแล้วเดาใจว่าหนังสือแบบไหนจะล่อให้เราสนใจได้ง่าย นี่ก็เป็นผลจากระบบ AI ที่ถูกเขียนมาดีเกินไปของเว็บนี้นั่นเองสิ
แล้วช่วงนี้ก็เหมือนตัวเองจะติดเบ็ดง่ายขึ้น เผลอกดซื้อไปมากทั้งหนังสือความรู้และหนังสืออ่านเล่นมากมาย
แค่สัปดาห์นี้ก็พอลองดูเมลก็พบว่ามีการกดซื้อจาก amazon ไปแล้วถึง ๖ ครั้งภายใน ๔ วัน
หนังสือที่อ่านไปก็มักจะไม่ชอบเก็บเงียบไว้คนเดียว ถ้าเป็นหนังสือความรู้ก็พยายามจะสรุปเนื้อหาลงบล็อกหรือแฟนเพจใน facebook ถ้าเป็นมังงะหรือนิยายที่ติดใจก็อยากเล่าเรื่องย่อแนะนำลงบล็อก
วันก่อนก็เพิ่งจะเขียนแนะนำมังงะที่อยู่นอกกระแสแต่อ่านแล้วติดไปเรื่องนึง https://phyblas.hinaboshi.com/20200922
แต่มังงะหรือนิยายไม่ได้กินเวลามาก เท่าพวกหนังสือที่อ่านเอาความรู้
หนังสือความรู้ส่วนใหญ่ที่ซื้อจะออกแนวเขียนเล่าแบบสบายๆหรือเป็นการ์ตูนมากกว่าจะเป็นแบบหนังสือเรียนจริงจังที่ใช้ภาษาซึ่งอ่านแล้วชวนให้ง่วง แต่ก็เพราะอย่างนี้ล่ะจึงอ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อ
ถึงอย่างนั้นก็มีอีกหลายเล่มที่ซื้อไว้แล้วไม่มีเวลาอ่าน พอผ่านไปก็มีเล่มใหม่โผล่มา ก็ซื้อมาอ่านโดยที่เล่มเก่าก็ยังดองต่อไป
สภาพตอนนี้คงตรงกับที่เรียกว่า "ซึนโดกุ" 積ん読 แปลว่า "ดองหนังสือไว้ ไม่ทันอ่านหมดก็ซื้อใหม่อีก" แม้จะเป็น e-book ทั้งหมดก็ตามก็ถือว่าซึนโดกุได้เหมือนกัน
แต่ก็ยังดีกว่าหนังสือเป็นเล่มจริงๆตรงที่ไม่กินที่ ถ้าหากที่ซื้อมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้เป็นหนังสือเล่มจริงๆอาจจะไม่มีที่เก็บแล้วก็เป็นได้
แต่ก็เพราะเป็น e-book ด้วยแหละที่ทำให้ซื้อมาเยอะโดยไม่ได้ยับยั้งช่างใจแบบนี้ เพราะแค่กดคลิกปุ่มในคอมแค่ทีเดียวก็ซื้อเรียบร้อย แล้วโหลดอ่านได้ทันทีไม่ต้องรอของส่งด้วย
e-book ทั้งถูกและสะดวก แต่ก็เป็นอะไรที่ล่อให้คนเสียเงินซื้อง่ายขึ้นกว่าหนังสือธรรมดามากขึ้น ทำให้คนฟุ่มเฟือยมากขึ้นด้วย
และอีกทั้งช่วงนี้อากาศก็เริ่มเย็นลงเพราะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ทำให้เหมาะแก่การออกไปท่องเที่ยว ไม่อาจอุดอู้อยู่กับที่เหมือนอย่างตอนฤดูร้อน แม้ว่าอาจจะไม่คิดไปเที่ยวเยอะเหมือนปีอื่นๆเพราะติดโควิดอยู่ก็ตาม
ไปๆมาๆ มีเรื่องที่จะต้องทำเต็มไปหมดเลยนี่ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเที่ยว เรื่องงานอดิเรก ฯลฯ
หนังสือที่อยากอ่านมีเยอะขึ้น แต่เวลาก็ต้องแบ่งให้การทำเรื่องอื่นๆมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าจะแบ่งเวลายังไง เป็นอะไรที่ต้องคิดให้ดีพอสมควร
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะต้องเครียดอะไร การมีเรื่องให้ทำเยอะนั้นกลับเป็นอะไรที่สนุก หากเทียบกับความจำเจตอนปิดเทอมฤดูร้อนที่แทบไม่ได้ทำอะไรนอกจากเล่นเกมและอ่านหนังสือเก็บตัวอยู่เป็นเดือนๆ แบบนั้นออกจะอุดอู้อึมครึม
ต่อให้อะไรๆต่างๆจะไปได้ไม่ค่อยสวย แต่สิ่งที่จะค่อยๆดีขึ้นจากนี้ไปแน่นอนก็คือสภาพอากาศ ฤดูกาลเป็นสิ่งที่ตายตัวตามช่วงปีไม่ว่ายังไงจากนี้ไปก็ต้องเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง แล้วฤดูหนาวก็ตามมา ท้องฟ้าก็สวย เดินถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน
แม้จะเป็นห่วงว่าฤดูหนาวโควิดจะแพร่ได้ง่าย แต่ถึงตอนนี้ซึ่งผู้คนเริ่มจะชินกับโควิดและปรับตัวกับสภาพในตอนนี้ได้แล้วนั้นหากให้เทียบกับเมื่อช่วงต้นปียังไงก็คงยังดีกว่า
ปีนี้ผู้คนต่างต้องลำบากทรมานกันเพราะโควิด ทางบ้านเราเองก็ทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้องแม่จะไม่มีใครติดโรคแต่ก็ต้องเสียหายขาดรายได้ไปมาก อยู่ในสภาวะแย่เลย
แต่เมื่อพูดถึงความลำบากที่เกิดจากโควิดในปีนี้แล้วนั้นยังมีคนอีกมากมายที่เจอผลกระทบหนักกว่า เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วเราก็คงไม่อาจมัวซึมหรือชะงักลง
ปี 2020 ที่ยากลำบากนี้เหลืออีกเพียงแค่ 1/4 เท่านั้นแล้ว จะมีอะไรรออยู่ก็ฝ่าฟันต่อไป