# เสาร์ 3 ก.ย. 2022ช่วงนี้ยังคงทำงานอยู่ที่เซนได ซึ่งก็เป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล วันนี้เกิดอยากเห็นทะเลขึ้นมาก็เลยตัดสินใจแวะไปเที่ยวสักหน่อย
ชายฝั่งทะเลของเมืองเซนไดนั้นอยู่ทางตะวันออก หันไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ชายฝั่งมีส่วนที่เป็นหาดทรายอยู่ระยะหนึ่งย่านอาราฮามะ (
荒浜)
สำหรับการเดินทางนั้นสามารถไปได้โดยนั่งรถเมล์ โดยก่อนอื่นต้องนั่งรถไฟใต้ดินจากใจกลางเมืองเซนไดไปทางตะวันออกจนถึงสุดสาย คือสถานีอาราอิ (
荒井駅)
เราออกเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินมาจนถึงสถานีอาราอิตอนประมาก่อนเที่ยง เมื่อถึงก็เดินเล่นดูแถวๆสถานีสักพักเพื่อรอรถเมล์รอบ 11.59 รถเมล์ที่นี่ออกชั่วโมงละคัน เพราะฉะนั้นถ้าตกรถไปทีต้องรออีกนานเลย ครั้งนี้ถือว่ากะเวลามาได้ค่อนข้างเหมาะดี
รอบๆสถานีดูเงียบเหงา ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่มีรถเมล์มาผ่านหลายสายเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆทางแถบตะวันออกของเซนได ที่นี่จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนรถที่สำคัญแห่งหนึ่ง
ป้ายรถเมล์ที่จะมาขึ้นคือตรงนี้
รอจนถึงเวลา รถเมล์สาย 20 ที่จะขึ้นก็มา
ระหว่างทางรถเมล์ผ่านศูนย์พืชสวนเกษตรกรรมเซนได (せんだい
農業園芸センター) ซึ่งก็เป็นสถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งเหมือนกัน แต่เราไม่ได้แวะที่นี่เพราะไม่ใช่เป้าหมายในครั้งนี้
แล้วรถเมล์ก็มาถึงปลายทางเวลา 12:15 ป้ายอยู่ที่หน้าโรงเรียนประถมอาราฮามะ (
荒浜小学校)
ซึ่งโรงเรียนนี้จริงๆแล้วเหลือแค่อาคารร้าง เนื่องจากโดนถล่มจากคลื่นทสึนามิในปี 2011 หลังจากนั้นแล้วแถวนี้ก็ถูกทิ้งร้าง แต่ก็ถูกทำเป็นสถานที่เที่ยวให้คนมาระลึกถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในตอนนั้น
อย่างไรก็ตาม เราอยากรีบเห็นทะเลเร็วๆแล้ว จึงยังไม่เดินชมตัวอาคารโรงเรียนตอนนี้ ไว้ขากลับก็ต้องกลับมาที่นี่อีก ถึงตอนนั้นค่อยมาลองเดินชมก็ได้ ก่อนอื่นมุ่งหน้าสู่ทะเล ทิ้งอาคารโรงเรียนนี้ไว้ข้างหลัง
รถเมล์ที่นี่ออกชั่วโมงละเที่ยว สำหรับขากลับนั้นมีรอบ 12:29 ซึ่งกระชั้นชิดไป ส่วนรอบถัดไปคือ 13:29 ซึ่งถ้าเราเลือกมาขึ้นรอบนี้ก็จะมีเวลาเดินเล่นอยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงกว่า ถือว่าลงตัวพอดี
กว่าจะถึงทะเลยังต้องเดินไปอีกหน่อย
ตรงนี้มีคลองเทย์ซัง (
貞山運河) และมีแผ่นป้ายอยู่ตรงข้างๆสะพานข้าม
แผ่นป้ายนี้บอกถึงประวัติศาสตร์ของแถวๆนี้ แสดงภาพให้เห็นว่าบริเวณนี้เคยเต็มไปด้วยบ้านเมืองมากมาย แต่ถูกทสึนามิปี 2011 ซัดพังเรียบ หลังจากนั้นก็กลายเป็นพื้นที่รกร้างมาจนถึงตอนนี้
เดินข้ามสะพานข้ามคลองไป
ในที่สุดก็เริ่มมองเห็นทะเล
ตรงนี้มีห้องน้ำ
แล้วก็ตู้ขายน้ำอัตโนมัติด้วย
แต่ก่อนที่จะไปถึงริมชายฝั่ง จะเห็นเจ้าแม่กวนอิมตั้งเด่นอยู่ ที่นี่เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหว 11 มีนาคม 2011 ที่ทำให้เกิดคลื่นทสึนามิซัดจนผู้คนล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก
ชมเจ้าแม่กวนอิมเสร็จต่อไปก็ได้เวลาเดินยังทะเล ตรงหน้าทางเข้ามีเขียนป้ายเตือนว่าที่นี่ปัจจุบันห้ามว่ายน้ำเล่น ตั้งแต่เกินเหตุการณ์แผ่นดินไหวตอนนั้นเป็นต้นมา เมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นสถานที่เล่นน้ำทะเลฟุกานุมะ (
深沼海水浴場) แต่ว่าปิดไปแล้ว ดังนั้นถึงมาเดินตอนนี้ก็ไม่เห็นคนเล่นน้ำ แต่ก็สามารถเดินเล่นบนหาดทรายได้อยู่
ข้ามเนินกั้นตรงนี้ไป
ก็มองเห็นหาดทราย
และแล้วเราก็มาถึง เบื้องหน้านี้คือมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่
มีคนมาเดินเล่นนั่งเล่นอยู่ประปราย
มีคนตกปลาอยู่ด้วย
เราไปเก็บท่อนไม้มาขีดพื้นทรายเล่นสักหน่อย เขียนคำว่า "เซนได" ด้วยอักษรไทยแล้วถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าคนไทยมาเที่ยวหาดที่นี่
แล้วก็เดินเล่นชมแถวหาดนี้สบายๆอยู่สักพัก
บ้างก็เจอขยะตามทางด้วย
เดินเลียบชายฝั่งไปสักพักเห็นว่าทางโน้นไม่น่ามีอะไรแล้วก็เดินข้ามเนินกลับขึ้นมา
มองจากบนเนินเข้าไปยังแผ่นดิน ตรงนี้ก็ดูโล่ง ตัวเมืองอยู่ห่างออกไปทางโน้น
จากนั้นเห็นมีรถตั้งขายอาหารอยู่หน้าทางเข้าหาด
พอดียังไม่ได้กินอาหารมื้อเที่ยงเลย และแถวนี้ก็ไม่มีร้านอะไรอื่นๆ ก็เลยขอแวะอุดหนุนโซบะห่อไข่ (オムそば) ของเขาสักหน่อย ราคา ๕๐๐ เยน
แล้วก็นั่งกินตรงนี้เลย
พอกินเสร็จก็ได้เวลาเดินกลับไปขึ้นรถเมล์กลับแล้ว ก่อนไปก็ถ่ายภาพทะเลภาพสุดท้ายอีกที
เดินย้อนกลับไปยังป้ายรถเมล์
เมื่อถึงแล้วยังพอเหลือเวลาอีกเล็กน้อยพอให้ไปเดินชมอาคารโรงเรียนประถมที่ถูกทิ้งร้างแห่งนี้
เข้ามาดูใกล้ๆ เห็นสภาพอาคารที่เสียหายและถูกทิ้งร้าง
ด้านหน้ามีป้ายบอกถึงประวัติศาสตร์เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนั้นด้วย
สภาพภายในห้องเรียนหลังเหตุการณ์นั้น
เดินอ้อมมาดูด้านหลัง
ตรงนี้มีลิฟต์ยังทำงานอยู่ด้วย สามารถขึ้นไปยังชั้นบนได้ แต่เนื่องจากไม่มีเวลาแล้วก็เลยไม่ได้ขึ้นไป
จากนั้นก็รีบกลับมาขึ้นรถเมล์เพื่อเดินทางกลับ รถเมล์ออกเวลา 13:29
แล้วก็มาถึงสถานีอาราอิเวลา 13:45 จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดินเดินทางกลับ
การเที่ยวทะเลใกล้ๆในครั้งนี้ก็จบลงเท่านี้ ชายหาดแถวนี้มีซากจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวคลื่นทสึนามิปี 2011 อยู่มากมาย ไม่ใช่เพียงแต่ที่นี่ ไว้มีโอกาสก็จะแวะเดินทางไปอีก