#เสาร์ 29 ต.ค. 2022เมืองเซนไดนั้นปัจจุบันแบ่งออกเป็น ๕ เขต โดยเขตที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ติดกับทะเลนั้นมีชื่อว่า
เขตวากาบายาชิ (若林区)ที่มาของชื่อเขตนั้นก็มาจากชื่อ
ปราสาทวากาบายาชิ (若林城) ซึ่งเป็นปราสาทเก่าสมัยเอโดะ ที่เคยตั้งอยู่ในบริเวณนี้นั่นเอง
ปราสาทวากาบายาชิถูกสร้างขึ้นในปี 1628 ช่วงต้นยุคเอโดะ โดยดาเตะ มาซามุเนะ (
伊達 政宗, ปี 1567-1636) ผู้นำคนสำคัญในยุคเซงโงกุซึ่งปกครอง
เซนไดฮัง (仙台藩)เดิมทีที่เมืองเซนไดก็มี
ปราสาทเซนได (仙台城) หรือเรียกอีกชื่อนึงว่า
ปราสาทอาโอบะ (青葉城) เป็นปราสาทหลักที่ใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองเซนไดอยู่แล้ว ซึ่งตั้งอยู่บนเขาซึ่งปัจจุบันอยู่ใน
เขตอาโอบะ (青葉区) ของเซนไดซึ่งเป็นเขตศูนย์กลางเมือง
แต่ว่าดาเตะ มาซามุเนะนั้นได้สั่งให้สร้างปราสาทวากาบายาชิขึ้นมาเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต แล้วยกปราสาทเซนไดให้ลูกชายคนรอง ดาเตะ ทาดามุเนะ (
伊達忠宗, ปี 1600-1658) เป็นผู้ปกครองรุ่นต่อไปแทน
ปราสาทวากาบายาชินั้นหลังสร้างเสร็จก็กลายเป็นที่อยู่ของดาเตะ มาซามุเนะ จนเขาเสียชีวิตลงในปี 1636 ปราสาทแห่งนี้ก็ถูกทำลายลง หลังจากใช้อยู่เพียงแค่ ๘ ปีเท่านั้น
แม้ตัวปราสาทจะหายไปแล้ว แต่ว่าส่วนคลองที่ทำล้อมรอบปราสาทยังคงอยู่มาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ถ้ามองจากแผนที่ที่ถ่ายจากดาวเทียมก็สามารถเห็นร่องรอยของคลองนั้นได้
เมื่อถึงช่วงยุคเมย์จิ ภายในบริเวณที่เดิมเป็นปราสาทวากาบายาชินั้นได้ถูกทำเป็น
เรือนจำมิยางิ (宮城刑務所) ซึ่งถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน
การที่ถูกทำเป็นเรือนจำทำให้ปราสาทวากาบายาชิไม่ใช่สถานที่เที่ยวที่สามารถเข้าไปชมได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีจุดพอให้ชมได้อยู่นิดหน่อย ถ้าสนใจประวัติศาสตร์ละก็อาจลองแวะไปดูได้ แม้อาจไม่ค่อยมีอะไรมาก ไม่ใช่สถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วๆไปจะไปเที่ยวกันก็ตาม
ครั้งนี้เราได้มีโอกาสลองแวะไปเดินดูแถวซากปราสาทวากาบายาชิ เลยได้ถ่ายรูปและเขียนบันทึกการเดินทางลงในหน้านี้ แม้จะไม่มีอะไรมาก แต่ระหว่างทางก็ได้เห็นทิวทัศน์ในเมือง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง กำลังมีสีสันสวยงาม
ปราสาทวากาบายาชินั้นอาจสามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟใต้ดินของเมืองเซนได แต่ก็ไม่ได้มีสถานีไหนที่อยู่ใกล้เป็นพิเศษ ต้องเดินเป็นระยะมากกว่า ๑ กิโลเมตร
ครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดยนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่
สถานียากุชิโดว (薬師堂駅) ซึ่งอยู่ค่อนไปทางเหนือแล้วเดินจากตรงนั้นไป
แต่ว่าตอนเดินออกจากสถานีแล้วกำลังข้ามถนนก็เกิดสะดุดหกล้มเป็นแผลเลือดออกที่แขน ก็เลยตัดสินใจแวะไปร้านขายยาซึ่งอยู่แถวๆนั้นก่อนค่อยเดินไปเที่ยว
เท่าที่ลองค้นในแผนที่ดู ร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่ใกล้กับ
ที่ว่าการเขตวากาบายาชิเมืองเซนได (仙台市若林区役所) เราจึงตัดสินใจเดินไปทางนั้น
ย่านในเมืองระหว่างทางเดินไปตามถนนยากุชิทากาซาโงะโบริ (
薬師高砂堀通り)
แล้วก็มาถึงทีว่าการเขตวากาบายาชิ
แล้วร้านขายยาก็อยู่ข้างๆนั้น
เข้ามาซื้อแถบปิดแผล แล้วก็ให้เขาช่วยทำแผลให้ตรงนั้นเลย
ค่าใช้จ่าย ๔๓๗ + ๓๐๕ เยน
จากนั้นก็เดินไปตามถนนลงไปทางใต้
จนถึงสุดทาง ก็มาถึงที่หมาย
ตรงนี้เป็นทางเข้าสู่เรือนจำมิยางิ
ซึ่งก็มีป้ายติดอยู่ว่าห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป
และตรงหน้าทางเข้านี้ก็มีเสาหินที่เขียนชื่อ
若林城跡 พร้อมป้ายเขียนอธิบายเกี่ยวกับสถานที่นี้
ซึ่งป้ายนี้ก็ดูเก่าโทรมจนอ่านยากพอสมควร
ในป้ายนี้มีแผนที่แสดงคลองรอบปราสาทในสมัยนั้นให้ดู ซึ่งคลองนี้ก็ยังเหลือร่องรอยอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าตัวปราสาทจะไม่อยู่แล้ว และข้างในกลายเป็นเรือนจำไปแล้วก็ตาม
จากตรงนี้ลองเดินไปทางตะวันออก เลียบริมขอบฝั่งเหนือของปราสาท แต่ก็มีรั้วกั้นอยู่ ทำให้ไม่สามารถเห็นตัวคลองจากตรงนี้ได้
เดินจนสุดทางก็เลี้ยวขวา ลงไปทางใต้
จากตรงนี้เดินเลียบทางฝั่งตะวันออกของปราสาท
จากตรงนี้พอจะเห็นกำแพงทางเข้า
ตรงนี้ดูจะเป็นทางเข้า แต่ก็ไม่ได้เปิดให้เข้าได้
จากตรงนี้พอจะมองเห็นสวนรอบปราสาทได้นิดหน่อย
นอกจากนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแล้ว แทบจะไม่สามารถเข้าใกล้บริเวณได้เลย ซึ่งก็ช่วยไม่ได้เพราะที่นี่กลายเป็นเรือนจำไปแล้ว ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ถึงอย่างนั้นแค่ได้มาเดินเล่นแล้วดูแผ่นป้ายที่บอกถึงร่องรอยของปราสาทเก่าให้เห็นถึงประวัติศาสตร์แบบนี้ก็คุ้มค่าพอที่จะมา
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว เดินทางกลับ โดยขากลับตั้งใจจะไปขึ้นอีกสถานีนึงซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันตกของปราสาทวากาบายาชิ
ระหว่างทางเดินไปทางตะวันตก ผ่านย่านในเมือง
ผ่านโรงเรียนประถมฟุรุจิโระเมืองเซนได (
仙台市立古城小学校)
ข้างๆโรงเรียนประถมมีโบสถ์ของเซไกชินโดวเกียว (
世界心道教) เป็นองค์กรทางศาสนาที่มีศูนย์ใหญ่อยู่ที่เมืองโทโยกาวะ (
豊川市) จังหวัดไอจิ และมีโบสถ์อยู่ที่นี่ด้วย
เดินต่อมาจนเจอทางรถไฟ
เดินตามถนนเลียบริมทางรถไฟไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
ระหว่างทางเห็นรถไฟขบวนขนส่งสินค้าวิ่งผ่าน
เดินมาเรื่อยๆจนถึงแถวริมแม่น้ำฮิโรเสะ (
広瀬川) แล้วก็เดินลอดใต้ทางรถไฟไป
ระหว่างลอดอยู่ เห็นรถไฟชิงกันเซงกำลังวิ่งผ่านไปพอดี
จากนั้นเดินต่อไปทางตะวันตกเฉ๊ยงเหนือ
จนเจอสะพานฮิโรเสะ (
広瀬橋) สำหรับข้ามแม่น้ำฮิโรเสะ
เดินข้ามสะพานไปทางตะวันตกเฉียงใต้
มองไปทางตะวันออกเฉ๊ยงใต้เห็นทางรถไฟ
ส่วนทางตะวันตกเฉ๊ยงเหนือมองเห็นสะพานมิยาซากิ (
宮沢橋) อยู่ไกลๆทางโน้น เป็นสะพานอีกแห่งที่ใช้ข้ามแม่น้ำฮิโรเสะ
แล้วก็เดินข้ามมาถึงฝั่งตรงข้าม เมื่อข้ามมาถึงตรงนี้ก็เป็นส่วนของเขตไทฮากุ (
太白区) แล้ว
ลองดูตรงแถวใต้สะพาน มีคนมานั่งเล่นจัดงานอิโมนิ (
芋煮会) กันอยู่ เหมือนที่เราเคยร่วมไปเมื่อต้นเดือนมานี้ที่สะพานอุชิโงเอะ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำฮิโรเสะนี้เหมือนกัน
https://phyblas.hinaboshi.com/20221011 ตรงริมแน่น้ำนี้มีต้นไม้เรียงราย ซึ่งกำลังมีใบไม้เปลี่ยนสีดูสวยงาม
ตรงใกล้ๆสะพานมีศาลเจ้าเล็กๆบูชาเทพฮาชิฮิเมะเมียวจิง (
橋姫明神)
ข้ามถนนแล้วเดินไปทางใต้อีกนิดหน่อย
ก็มาถึง
สถานีนางามาจิอิจโจวเมะ (長町一丁目駅) แล้วเราก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับจากสถานีนี้