# เสาร์ 28 ม.ค. 2023หลังจากที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาหิมะตกหนักจนเมืองเซนไดขาวโพลนไปหมดตามที่ได้เล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20230125ตั้งแต่วันนั้นมาอุณหภูมิก็ยังคงติดลบอยู่ และหิมะก็ยังคงถมปกคลุมเมืองอยู่ แม้จะผ่านมา ๓ วันแล้วทิวทัศน์ขาวโพลนก็ยังคงหลงเหลืออยู่ พอถึงวันนีเป็นวันเสาร์มีเวลาว่างก็เลยขอไปเดินเล่นในเมืองสักหน่อย
เป้าหมายที่เลือกเดินทางไปคราวนี้คือที่
ศาลเจ้าอาโอบะ (青葉神社) เป็นศาลเจ้าเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆในย่านคิตะเซนได (
北仙台) ในเขตอาโอบะ (
青葉区) อยู่ค่อนไปทางเหนือของตัวเมืองเซนได
ศาลเจ้านี้อยู่ใกล้กับ
สถานีคิตะเซนได (北仙台駅) ซึ่งเป็นทั้งสถานี JR และรถไฟไต้ดิน ดังนั้นจึงเดินทางมาได้สะดวก
แต่ครั้งนี้เราตัดสินใจเดินทางมาด้วยการเดินจากหอพักที่อยู่ที่วิทยาเขตคาตาฮิระของมหาวิทยาลัยโทวโฮกุ เส้นทางเดินนั้นผ่านถนนโคกุบุนโจว (
国分町通り) ซึ่งเป็นถนนสายที่ลากตามแนวเหนือใต้
เดินออกจากที่พักมา เริ่มต้นที่ถนนอิตซึตสึบาชิ (
五橋通り) เหมือนทุกที
ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของถนนโคกุบุนโจว
จากนั้นก็เดินไปตามถนนโคกุบุนโจว
ผ่านสี่แยกที่ตัดกับถนนมินามิมาจิ (
南町通り)
แล้วก็ผ่านสี่แยกที่ตัดกับถนนอาโอบะ (
青葉通り)
ระหว่างทางผ่านแยกที่เรียกว่าบาโชวโนะทสึจิ (
芭蕉の
辻) ซึ่งเป็นสี่แยกใจกลางเมืองเซนไดที่มีความสำคัญตั้งแต่สมัยเอโดะ ตรงนี้มีป้ายที่ระลึกตั้งอยู่ที่หัวมุมฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของแยก
จากนั้นเดินขึ้นเหนือไปตามถนนโคกุบุนโจวต่อไป
แล้วก็ผ่านสี่แยกที่ตัดกับถนนฮิโรเสะ (
広瀬通り)
ซึ่งจากตรงนี้เมื่อข้ามไปก็จะเป็นทางเข้าสู่ย่านโคกุบุนโจว (
国分町) ซึ่งชื่อเหมือนกับชื่อถนน
บริเวณนี้เป็นย่านสถานเริงรมย์
ร้านอาหารก็มีอยู่มากมาย
จากนั้นก็ออกจากย่านสถานเริงรมย์ มาโผล่ที่ถนนโจวเซนจิ (
定禅寺通り)
จริงแล้วถนนสายนี้เป็นสถานที่จัดงานเซนไดฮิการิโนะแพเจนต์ (SENDAI光のページェント) ซึ่งเคยเล่าถึงไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20221220 แต่ว่าตอนนี้มีหิมะปกคลุม บรรยากาศก็ดูสวยงามไปอีกแบบ
ข้ามถนนโจวเซนจิมาแล้วเดินไปตามถนนโคกุบุนโจวต่อ
แล้วก็เดินมาถึงสี่แยกที่ตัดถนนคิตะยมบังโจว (
北四番丁通り) เมื่อผ่านสี่แยกนี้ไปแล้วบริเวณต่อจากนี้จะเข้าสู่บริเวณถนนอาโอบะจินจะ (
青葉神社通り) ซึ่งจริงๆแล้วก็คือสายเดียวกับถนนโคกุบุนโจว แค่เปลี่ยนชื่อเรียกในช่วงตรงนี้
เดินไปตามถนนอาโอบะจินจะ
ระหว่างทางเจอร้านอาหารไทยด้วย ชื่อว่าร้านอาหารไทยสบายสบาย (タイ
料理サバイ・サバイ)
แล้วเดินต่อมาก็เจอศาลเจ้าคุมาโนะ (
熊野神社) เป็นศาลเจ้าเล็กๆแห่งหนึ่ง
ภายในก็ไม่มีอะไรมาก แต่รูปปั้นยักษ์สองตนตรงนี้ก็ดูโดดเด่นดี
จากนั้นก็เดินต่อมาจนเริ่มเห็นสีเขียวๆด้านหน้า ศาลเจ้าอาโอบะอันเป็นเป้าหมายก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว
เริ่มเห็นปากทางเข้าศาลเจ้าอาโอบะแล้ว
แล้วก็มาถึงหน้าทางเข้าศาลเจ้าอาโอบะ
จากนั้นก็ต้องเดินขึ้นบันไดไป ซึ่งก็ไม่ได้สูงมาก เดินขึ้นสบายๆ
เมื่อขึ้นถึงด้านบนแล้วมองลงไป
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนก็เจอตัวอาคารหลักของศาลเจ้า
ข้างๆนั้นเป็นอาคารสำนักงานของศาลเจ้า
บริเวณรอบๆปกคลุมไปด้วยหิมะ เราเลยมาขีดเขียนเล่นลงบนหิมะสักหน่อยสนุกดี เขียนคำว่า "อาโอบะ" ซึ่งเป็นชื่อศาลเจ้าแห่งนี้ด้วยอักษรไทยลงไป
เขียนตรงนี้อีกมุม
ส่วนอื่นๆภายในบริเวณศาลเจ้า
ตรงนี้เป็นศาลาเล็กๆตั้งซึ่งรายล้อมด้วยน้ำ แต่ว่าน้ำก็แข็งเป็นน้ำแข็งแล้วก็มีหิมะถมอยู่
ชมภายในบริเวณศาลเจ้าเสร็จก็ได้เวลาเดินกลับลงไป
ขากลับนั้นเราเดินไปทางตะวันออกเพื่อจะขึั้นรถไฟที่สถานีคิตะเซนไดกลับ
แต่ระหว่างทางยังผ่านวัดโควเมียว (
光明寺) ซึ่งเป็นวัดเล็กๆอีกแห่งที่อยู่ใกล้กัน เลยแวะเข้าไปชมด้วย
วัดนี้ก็อยู่บนเนิน ต้องเดินขึ้นบันไดไปเหมือนกัน
บริเวณด้านบน
ส่วนตรงนี้เป็นสุสาน
จากนั้นเดินกลับลงมา แล้วไปทางตะวันออกต่อ
จนมาถึงสถานีคิตะเซนได ตรงนี้เป็นทางเข้าส่วนสถานีรถไฟใต้ดิน
ส่วนตรงนี้เป็นส่วนสถานีรถไฟ JR
เราต้องการจะเดินทางกลับสถานีเซนได ซึ่งที่จริงจะนั่งรถไฟใต้ดินหรือรถไฟ JR กลับก็ได้ แต่เราเลือกนั่ง JR กลับเพราะถูกและเร็วกว่า แม้ว่าเที่ยวรถไฟจะน้อยกว่าก็ตาม
ระหว่างรอรถไฟก็ไปเดินหาซื้อของกิน แล้วก็เจอร้านนี้ซึ่งขายเบนโตว
ก็เลยซื้อเบนโตวจากที่นี่ไปแล้วค่อยกลับไปอุ่นกิน ราคา ๔๓๐ เยน
แล้วพอใกล้เวลารถไฟออกก็เข้ามาที่สถานี รถไฟที่จะนั่งนั้นคือรอบ 12:04
ส่วนด้านในตัวชานชลาของสถานีก็ปกคลุมไปด้วยหิมะ เลยเดินถ่ายรูประหว่างรอ
สถานีนี้ที่จริงแล้วเคยนั่งรถไฟผ่านแล้วถ่ายภาพเก็บไว้เมื่อตอนปีใหม่ดังที่เล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20230103แต่ว่าในตอนนั้นบริเวณสถานีนี้ไม่มีหิมะ จึงไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นในครั้งนี้
แล้วรถไฟก็มา เราก็นั่งรถไฟกลับ แป๊บเดียวก็ถึงสถานีเซนได
เมื่อรถไฟถึงสถานีเซนไดเราก็เดินทางกลับสู่หอพัก เป็นอันสิ้นสุดการเที่ยวในวันนี้
แถมภาพอาคารเซนไดทรัสต์ทาวเวอร์ (
仙台トラストタワー) ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในเซนได พอดีเดินผ่านระหว่างเดินกลับจากสถานีเซนไดก็เลยถ่ายเก็บมา
พอกลับมาถึงก็เอาข้าวที่ซื้อไว้มาอุ่นไมโครเวฟกิน