# พฤหัส 18 พ.ค. 2023
มาถึงตอนสุดท้ายของการเที่ยวตามรอยยุรุแคมป์ ต่อจากตอนที่แล้ว
https://phyblas.hinaboshi.com/20230522หลังจากที่เดินทางจากตีนเขามิโนบุมาจนถึงย่านแถวๆสถานีมิโนบุ (
身延駅) คราวนี้จะมาตามรอยฉากแถวๆนี้ก่อนเดินทางกลับโตเกียว แถวนี้ถูกใช้เป็นฉากในอนิเมะภาค ๑ ตอนที่ ๘ เป็นหลัก

เราเดินจากสะพานมิโนบุที่อยู่ทางเหนือลงมาตามถนนไปทางใต้ผ่านย่านเมืองจนถึงสถานี

อาคารร้านต่างๆบริเวณแถวสถานีดูสวยงาม บรรยากาศน่าเดินดีมาก

นี่คือด้านหน้าอาคารสถานีมิโนบุที่ปรากฏในอนิเมะ เราได้ถ่ายมุมเดียวกันมาเทียบกันดู


จากนั้นเราก็ลองเดินหาร้านกินกันเป็นมื้อเย็น ก็เจอร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสถานี ชื่อร้านอัปปุรุ (あっぷる) เห็นมีโฮวโตว (ほうとう) ด้วยเลยตัดสินใจแวะกินร้านนี้เลย ตอนแรกนึกว่าจะอดกินซะแล้วจากที่เมื่อตอนเที่ยงเพราะร้านปิด แต่ไหนๆมาถึงยามานาชิแล้วก็อยากกินโฮวโตวซึ่งเป็นอาหารถิ่นที่ขึ้นชื่อ

เพียงแต่ว่าพอเข้าไปสั่งจึงรู้ว่าโฮวโตวชามนึงราคาสูงถึง ๑๔๐๐ ต้องใช้เวลาทำนานถึง ๑๕ นาที ซึ่งถ้าอาจทำให้มีปัญหาเรื่อวเวลาได้เพราะเราต้องรีบไปขึ้นรถไฟซึ่งจะออกเวลา 17:43 แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูแล้วยังพอทัน จึงตัดสินใจสั่งแล้วระหว่างที่รอก็ไปเดินเล่นรอบๆสถานีเพื่อตามรอยฉากยุรุแคมป์ตามที่วางแผนไว้
จุดแรกที่เรามาถ่ายก็คือที่ร้านยุตากายะ (ゆたか
屋) ซึ่งพอดีว่าก็คือร้านข้างๆร้านที่เรานั่งกินอยู่นั่นเอง ออกมาก็เจอเลย ร้านนี้จริงๆแล้วก็เป็นร้านอาหารที่มีโฮวโตวเหมือนกัน แต่ว่าวันพฤหัสเป็นวันหยุดของร้านพอดี เลยกำลังปิดอยู่

ภาพในอนิเมะ นาเดชิโกะมาแถวนี้เป็นครั้งแรกและให้ความสนใจกับป้ายที่เขียนว่าโฮวโตว


เดินถัดไปทางใต้อีกนิดเจอศาลเจ้าเล็กๆ ชื่อศาลเจ้าเนโนะ (
子之神社)

จากนั้นมาเดินดูใกล้ๆกันนั้น มีร้านเอย์โชวโดว (
栄昇堂) ซึ่งมีของขึ้นชื่อคือมิโนบุมันจู (みのぶまんじゅう) แต่ว่าร้านนี้ปิดเร็ว เปิดถึงแค่บ่ายสามเท่านั้น ตอนที่ไปจึงปิดอยู่ ไม่งั้นก็อยากซื้อมากิน

นี่คือภาพหน้าร้านที่ปรากฏในอนิเมะ เทียบกับที่ไปถ่ายมา นาเดชิโกะดูจะตื่นเต้นให้ความสนใจว่ามิโนบุมันจูคืออะไร ได้ซื้อมากินด้วย


อีกมุม มองเอียงๆหน้าร้านตอนเย็นๆ


ถัดมาทางเหนือเป็นย่านที่เห็นแม่น้ำฟุจิได้โดยไม่มีตึกบัง


มุมนี้ซึ่งมองเห็นสะพานมิโนบุไปด้วยได้นั้นปรากฏในอนิเมะ พวกนาเดชิโกะนั่งตรงม้านั่งที่นี่


มุมเดิม ขยายเข้ามาใกล้ๆ หลังจากที่นาเดชิโกะเดินออกไปแล้ว เหลือ ๒ คน


อีกมุม ซึ่งมีแม่น้ำเป็นฉากหลัง


ว่าแต่ว่าใครเอากระเป๋ามาวางไว้บนม้านั่งก็ไม่รู้ ทำให้ภาพที่ถ่ายมาติดกระเป๋าใบนี้ไปด้วยหมดเลย แต่ก็ไม่เป็นไร
บริเวณนี้สามารถลงมาเดินริมแม่น้ำได้ ภาพทิวทัศน์จากตรงนี้


จากนั้นเราก็รีบวิ่งกลับมาที่ร้านเพื่อมากินโฮวโตวที่สั่งไว้ โฮวโตวเสร็จในเวลาประมาณ ๑๕ นาทีพอดี พอได้แล้วเราก็รีบกินให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไปขึ้นรถไฟให้ทันเวลา มีเวลากินแค่ไม่ถึง ๑๐ นาทีเท่านั้น

สุดท้ายเราก็กินไม่หมด จำเป็นต้องทิ้งส่วนที่เหลือไว้แล้วรีบวิ่งไปยังสถานีเพื่อขึ้นรถไฟให้ทัน แม้จะกินไม่หมดแต่ก็ถือว่าได้มาลองลิ้มรสของขึ้นชื่อของทีนี่ ก็ถือว่าไม่ได้เสียดายอะไร อร่อยดีนะ เส้นเหมือนราเมง แต่ว่าเส้นหน้าและกว้างกว่า ใส่เนื้อหมูและฟักทอง
รีบวิ่งเข้าไปในสถานีมิโนบุ

จากนั้นตอนจะผ่านที่ตรวจตั๋วเข้าไปจึงได้รู้ว่าที่นี่ใช้ Suica ไม่ได้ แต่มีพนักงานอยู่ เราจึงถามว่าควรทำยังไง เพราะจะรีบไปขึ้นรถไฟ ในขณะที่ไม่มีเวลาพอให้ซื้อตั๋วแล้ว

พนักงานก็เลยยื่นใบนี้มาให้ ซึ่งแสดงเป็นหลักฐานว่าเราขึ้นรถไฟมาจากสถานีมิโนบุ ให้ไปยื่นให้พนักงานบนรถไฟหรือที่สถานีปลายทางดูแล้วจ่ายเอาตอนนั้นได้

เราจึงรับใบนั้นมาแล้วรีบมาขึ้นรถไฟ ทันเวลา


สำหรับการเดินทางกลับนั้นครั้งนี้ต้องต่อรถหลายต่อเพื่อไปให้ถึงโตเกียว โดยเริ่มจากนั่งรถไฟจากสถานีมิโนบุไปให้ถึงสถานีฟุจิ (
富士駅) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฟุจิ (
富士市) จังหวัดชิซึโอกะ จากนั้นจึงนั่งต่อไปจนถึงสถานีมิชิมะ (
三島駅) ซึ่งอยู่ในเมืองมิชิมะ (
三島市) สถานีนี้เป็นสถานีที่มีชิงกันเซง เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็นั่งชิงกันเซงกลับโตเกียวได้ง่าย
กำหนดการคือออกจากสถานีมิโนบุเวลา 17:43 แล้วไปถึงสถานีฟุจิเวลา 19:13
จากนั้นออกจากสถาฟุจิเวลา 19:28 แล้วไปถึงสถานีมิชิมะเวลา 20:00
สุดท้ายคือชิงกันเซงออกจากสถานีมิชิมะเวลา 20:27 แล้วไปถึงโตเกียวเวลา 21:18
ถ้ารวมเวลาทั้งหมดก็ประมาณ ๓ ชั่วโมงครึ่ง ใช้เวลาพอๆกับตอนขามาซึ่งนั่งรถบัสเลย ครั้งนี้เส้นทางถือว่าอ้อมกว่า แต่ก็ได้นั่งชิงกันเซงก็เลยค่อนข้างเร็วขึ้นมา
หลังจากออกจากสถานีมิโนบุมาเราก็สังเกตข้างทางอยู่เรื่อยๆ ถ่ายป้ายสถานีต่างๆตามทาง เริ่มจากสถานีคาอิโอชิมะ (
甲斐大島駅) ซึ่งยังอยู่ในเมืองมิโนบุ สถานีนี้แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏในอนิเมะโดยตรง แต่ก็ปรากฏในภาพโฆษณาอนิเมะ จึงอาจเป็นเป้าหมายการตามรอยด้วยเหมือนกัน ถ้าหากแวะมา แต่เดินทางไม่สะดวก เลยขอแค่ถ่ายภาพป้ายสถานีไป

ถัดมาเป็นสถานีอุตสึบุนะ (
内船駅) ซึ่งอยู่ในเมืองนัมบุ (
南部町) นี่เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้สุดของจังหวัดยามานาชิ ที่นี่เองก็ถูกใช้เป็นฉากในอนิเมะด้วย จึงอาจเป็นเป้าหมายหนึ่งในการมาตามรอย

ถัดมาเป็นสถานีโยริฮาตะ (
寄畑駅) ตอนที่ไปถึงนั้นจังหวะไม่ค่อยดีเลยถ่ายป้ายระหว่างรถไฟกำลังวิ่ง เลยได้ภาพออกมาในสภาพนี้

แล้วก็สถานีอิเดะ (
井出駅) ก็ได้แต่ถ่ายตอนรถไฟกำลังวิ่งเช่นกัน

ต่อมาเป็นสถานีโทชิมะ (
十島駅) เป็นสถานีสุดท้ายในเมืองนัมบุ และในจังหวัดยามานาชิแล้ว หลังจากผ่านสถานีนี้ไปก็จะเข้าสู่จังหวัดชิซึโอกะ

หลังจากนั้นรถไฟก็เข้าสู่จังหวัดชิซึโอกะ มาจอดครั้งแรกที่สถานีอินาโกะ (
稲子駅) ซึ่งอยู่ในเขตเมืองฟุจิโนมิยะ (
富士宮市) เมืองนี้เป็นเมืองที่ภูเขาฟุจิตั้งอยู่ ถ้าใครจะมาเที่ยวปีนเขาฟุจิละก็ส่วนใหญ่ก็จะแวะมาที่เมืองนี้กัน

ถัดมาก็เป็นสถานีชิบากาวะ (
芝川駅)

หลังจากสถานีนี้ไปแล้วฟ้าก็เริ่มมืดจนมองไม่เห็นอะไรนัก เราเลยหยุดถ่ายภาพข้างทาง ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายสถานีระหว่างทางเลยก่อนจะถึงเป้าหมาย แต่ว่าไม่ได้ถ่าย ขอจบการแนะนำสถานีบนเส้นทางนี้แต่เพียงเท่านี้
แล้วในที่สุดก็มาถึงสถานีฟุจิอันเป็นเป้าหมาย

จากตรงนี้เราต้องรอเปลี่ยนรถไฟเป็นเวลา ๑๕ นาที รถไฟที่จะขึ้นคือรอบ 19:28 มีปลายทางอยู่ที่สถานีอาตามิ (
熱海駅) ซึ่งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของจังหวัดชิซึโอกะ

รถไฟมาแล้วเราก็ไปขึ้น

ระหว่างทางรถไฟมาจอดเป็นเวลานานสักพักหนึ่งที่สถานีนุมาซึ (
沼津駅) เมืองนุมาซึ (
沼津市) ซึ่งเป็นสถานีก่อนถึงสถานีมิชิมะ ระหว่างนั้นเราก็เลยเดินลงจากรถไฟไปถ่ายภาพในบริเวณชานชลา

จากนั้นก็กลับขึ้นรถไฟมา เดินทางต่อ ในที่สุดก็ถึงเป้าหมายคือสถานีมิชิมะ

จากนั้นก็เดินออกมาซื้อตั๋วชิงกันเซงสำหรับไปโตเกียวตรงนี้ โดยซื้อแบบที่นั่งอิสระไม่มีจองที่ ราคาค่าตั๋วคือคนละ ๔๐๗๐ เยน

ที่สถานีนี้เราต้องรอ ๒๗ นาทีกว่ารถไฟจะมา ระหว่างนั้นก็ไปเดินดูหน้าสถานี ก็ดูเป็นย่านในเมืองที่คับคั่งอยู่

ได้แวะดูร้านสะดวกซื้อที่หน้าสถานี แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร

พอใกล้เวลาจึงเดินผ่านที่ตรวจตั๋วเข้าไป

ข้างในยังมีร้านขายของฝากอยู่ด้วย ก็เดินดูเล็กน้อยในระหว่างเวลาที่เหลือ ของฝากส่วนใหญ่ดูจะเกี่ยวข้องกับภูเขาฟุจิ

หลังจากนั้นก็มาที่ชานชลา ได้ถ่ายภาพตอนที่ชิงกันเซงกำลังวิ่งมาจอดพอดี

ภาพชิงกันเซงกับป้ายสถานีก่อนจะเดินเข้าไปนั่ง

หลังจากนั้นรถไฟก็กลับสู่โตเกียว เมื่อถึงโรงแรมที่พักเราก็ไปหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากตอนมื้อเย็นกินโฮวโตวไม่หมดเลยยังอยากกินอะไรอีก ก็ไปซื้อซูชิมากินกัน

ก็เอาเป็นว่าจบลงเท่านี้ กับบันทึกการตามรอยยุรุแคมป์ในเมืองมิโนบุ จังหวัดยามานาชิ เป็นวันหนึ่งที่ได้เที่ยวเต็มที่คุ้มค่าทีเดียว แม้เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการเดินทางมากกว่าเดินเที่ยวก็ตาม
วันต่อไปเป็นวันสุดท้ายในการพาเพื่อนเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20230524------------------------------------------------------------ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "ยุรุแคมป์" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "ยุคุแคมป์"この記事では、比較研究を目的としてアニメ「ゆるキャン△」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて「ゆるキャン△」の製作者に帰属します。