# ศุกร์ 19 พ.ค. 2023
หลังจากที่ได้ขึ้นไปบนหอคอยของโตเกียวสกายทรีมาแล้ว
https://phyblas.hinaboshi.com/20230524ต่อมาเราจะปิดการเที่ยวครั้งด้วยการการเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสึมิดะ (すみだ
水族館) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณฐานของโตเกียวสกายทรี
หลังจากที่ลงจากหอคอยมา เราก็มาโผล่ชั้น ๕ จากตรงนี้มองลงไปตรงระเบียงชั้น ๔ เห็นว่าฝนกำลังตกอยู่
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนั้นอยู่แยกจากส่วนห้างแสะส่วนหอคอย แต่ก็เชื่อมกันอยู่ด้วยระเบียงชั้น ๔ ซึ่งเป็นกลางแจ้ง แต่มีส่วนที่ร่ม ทำให้เดินข้ามไปได้โดยไม่ต้องกางร่ม
บันไดทางขึ้นไปยังส่วนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อยู่ชั้น ๕ ของอาคาร
หน้าทางเข้า
เมื่อเข้ามาก็ต้องมาซื้อตั๋วเข้าชมก่อน ค่าเข้าชม ๒๕๐๐ เยน
ซื้อเสร็จเดินเข้ามา ผ่านที่ตรวจตั๋วตรงนี้เข้าไป
จากนั้นเดินขึ้นไป เริ่มชมจากชั้น ๖ ก่อน
เมื่อเข้ามาถึงด้านใน ส่วนแรกที่พบก็คือตู้ที่มีพวกปลาเล็กๆ แต่ว่าบนตู้ไม่ได้เขียนบอกอะไรเลยไม่รู้ว่าเป็นปลาอะไร
ถัดมาเป็นตู้ที่มีแมงกะพรุน เห็นแมงกะพรุนสวยๆมากมายล่องลอยไปมาในน้ำ แมงกะพรุนไฟ
Chrysaora fuscescens ส่วนี่คือแมงกะพรุนแดง
Chrysaora pacifica ตัวเล็กๆนี่คือแคนนอนบอลเจลลี
Stomolophus meleagris ตู้กระจกรูปโค้ง มีแมงกะพรุนหลายชนิดอยู่
ที่เด็ดคือตู้ตรงนี้ เป็นสระขนาดใหญ่ที่มีแมงกะพรุนเต็มไปหมด ดูสวยดีแต่ก็น่ากลัว ถ้าหากตกลงไป
ส่วนตรงนี้เป็นตู้ขนาดใหญ่ที่นำลองระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตหมู่เกาะโองาซาวาระ (
小笠原)
ตรงนี้มีบอกว่ามีปลาอะไรอยู่บ้าง
ตู้นี้ขนาดใหญ่มาก กินพื้นที่ ๒ ชั้น ทั้งชั้น ๕ และชั้น ๖ โดยสามารถมองจากชั้น ๖ ตรงนี้ก็ได้ ลงไปดูจากชั้น ๕
ส่วนตรงนี้เป็นตู้ยาวๆหลายตู้ที่ใส่ปะการังและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกับปะการัง
อันนี้ปลาปักเป้าหนู
Diodon hystrix ส่วนในตู้นี้เต็มไปด้วยปลาไหลอานาโงะ (
穴子) ตัวเล็กๆที่ชอบมุดดินอยู่
ตรงนี้เลี้ยงเต่าที่มาจากโองาซาวาระไว้ ๒ ตัว พร้อมบันทึกการเจริญเติบโต
ตู้ตรงนี้ก็มีเต่า
ซาลามานเดอร์โตเกียว
Hynobius tokyoensis ตรงส่วนชั้น ๖ ก็เดินทั่วแล้ว ที่เหลือก็เดินลงชั้น ๕
จากชั้น ๖ นั้นสามารถมองลงไปเห็นสระขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้น ๕ ได้ โดยสระนี้แบ่งเป็น ๒ ส่วน ฝั่งนี้เป็นส่วนเลี้ยวแมวน้ำ
และอีกส่วนเลี้ยงเพนกวิน ทั้ง ๒ ส่วนนี้แยกขาดจากกันโดยมีหินตรงกลางกั้น ถ้าปล่อยให้แมวน้ำกับเพนกวินมาเจอกันคงจะเจอปัญหาเพราะจะโดนจับกัน
ลงมาด้านล่าง ดูสระเพนกวินอย่างใกล้ชิด
ส่วนตรงนี้ก็มีแมงกะพรุนอีกแล้ว
ตู้นี้เป็นแมงกะพรุนสายพันธุ์
Cassiopea ornata จะเห็นว่ามันเอาส่วนหัวลงแล้วจมอยู่ใต้ก้นตู้ ชื่อภาษาญี่ปุ่นก็คือ サカサクラゲ แปลว่าแมงกะพรุนกลับหัว
ตรงนี้เป็นทางเดินที่มีตู้ปลาทองวางอยู่
เดินเข้ามาด้านใน เห็นทางขวาเป็นสระที่แมวน้ำอยู่
ตรงนี้เป็นถ้ำที่เข้าไปดูตู้แมวน้ำจากข้างใต้ได้
แต่แมวน้ำว่ายน้ำเร็ว เลยถ่ายภาพชัดๆไม่ได้เลย
แต่กลับถ่ายภาพนักประดาน้ำที่อยู่ในนี้ได้แทน
จากนั้นก็หมดแต่เพียงเท่านี้ เดินออกไปทางนี้
พอออกมาจากส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำก่อนจะออกไปถึงด้านนอกก็ต้องผ่านร้านขายของที่ระลึก ซึ่งใหญ่พอสมควร มีอะไรมากมาย
ที่น่าสนใจคือพวกตุ๊กตารูปสัตว์น้ำต่างๆ ซึ่งก็ดูสวยงามน่ารักน่าซื้อไปใช้กอดเล่นทั้งนั้น
หลังจากนั้นก็แวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารที่อยู่ในตึกนั้น ตอนแรกคิดว่าจะมีแต่ร้านแพงๆ แต่ก็เจอร้านที่ไม่ได้แพงอย่างที่คิด
เมนูของร้านนี้ มีที่ไม่ถึงพันอยู่ด้วย
ที่เราสั่งกินคือราเมงคนเนียกุ (こんにゃくラーメン) ซึ่งไม่ใช้เส้นราเมง แต่เอาคนเนียกุมาทำเป็นเส้นแทนราเมง ก็อร่อยดี ราคา ๘๙๐ เยน
เสร็จแล้วเราก็เดินลงมาชั้น ๑ มายังที่ฝากกระเป๋าเพื่อเอาสัมภาระที่ฝากไว้คืน
จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว โดยไปขึ้นรถไฟจากสถานีโอชิอาเงะ (
押上駅)
ภาพระหว่างทางเดินไปหาสถานี
ตัวสถานีอยู่ใต้ดิน ต้องเดินลงไป
จากนั้นเราก็แยะจกาเพื่อนตรงนี้ เพราะเพื่อนจะเดินทางไปยังสนามบินนาริตะเพื่อบินกลับไทย ส่วนเราจะไปที่สถานีอุเอโนะเพื่อนั่งชิงกันเซง สามารถขึ้นจากสถานีโอชิอาเงะได้เหมือนกันแต่ไปคนละทาง
การเดินทางจากสถานีโอชิอาเงะไปสถานีอุเอโนะนั้นต้องต่อรถที่สถานีอาซากุสะ (
浅草駅)
แล้วเราก็มาถึงสถานีอุเอโนะ
ซื้อตั๋วเดินทางจากอุเนโนะไปเซนได ยามาบิโกะ รอบเวลา 15:06 และไปถึงเซนไดเวลา 16:57
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับถึงเซนไดตามเวลา เป็นอันจบการพาเพื่อนเที่ยวญี่ปุ่น ๕ วันเพียงเท่านี้