พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เหล็กที่เมืองคามาอิชิ ต้นกำเนิดอุตสาหกรรมเหล็กสมัยใหม่ของญี่ปุ่น
เขียนเมื่อ 2023/10/17 23:37
แก้ไขล่าสุด 2023/10/18 18:46
# เสาร์ 14 ต.ค. 2023
ต่อจากตอนที่แล้วที่ได้เที่ยวชมเจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งคามาอิชิเสร็จไป https://phyblas.hinaboshi.com/20231016
เป้าหมายต่อไปคือแล้วพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เหล็ก (鉄の歴史館)
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเหล็กสมัยใหม่ เนื่องจากว่าเมืองคามาอิชิแห่งนี้เป็นเมืองที่ริเริ่มการผลิตเหล็กสมัยใหม่ขึ้นมา
โดยบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กที่เมืองนี้ก็คือ โอชิมะ ทากาโตว (大島 高任, ปี 1826-1901) เป็นชาวจังหวัดอิวาเตะผู้เชี่ยวชาญด้านเหมืองแร่แห่งยุคเมย์จิ เขาได้เลือกเมืองนี้เป็นสถานที่ตั้งโรงงานถลุงเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น
อุตสาหกรรมถลุงเหล็กที่นึ่ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1857 สาเหตุที่เลือกที่นี่ก็เพราะมีแหล่งทรัพยากรพร้อม และยังมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเหล็กมาตั้งแต่เดิมอยู่แล้ว
ปัจจุบันยังเหลือร่องรอยของโรงถลุงเหล็กเก่าอยู่เรียกว่าซากโรงหลอมฮาชิโนะ (橋野高炉跡) ตั้งอยู่ในพื้นที่ฮาชิโนะ (橋野) ลึกเข้าไปทางตะวันตกในเขตภูเขา
ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2015 ในชื่อว่า แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยุคเมย์จิ การถลุงเหล็ก การผลิตเหล็กกล้า การต่อเรือ การทำเหมืองถ่านหิน (明治日本の産業革命遺産 製鉄・製鋼、造船、石炭産業) ร่วมกับแหล่งอื่นๆอีกหลายแห่งในญี่ปุ่น ในฐานะที่การถลุงเหล็กนั้นเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง
น่าเสียดายว่าซากโรงหลอมฮาชิโนะนั้นเดินทางไปลำบาก ไม่มีรถเมล์ไป ถ้าไม่มีรถขับไปเองก็ยากที่จะไปได้ จึงต้องตัดใจ ได้แต่ชมภาพและแบบจำลองภายในพิพิธภัณฑ์
ป้ายริมถนนใหญ่หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์
จากตรงนี้ยังต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยจึงจะถึง
ระหว่างทางเห็นป้ายรถเมล์ ซึ่งถ้าใครจะนั่งรถเมล์เพื่อมาที่นี่ก็ต้องมาลงที่นี่เที่ยวทั้งพิพิธภัณฑ์นี้และเจ้าแม่กวนอิม เห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมตั้งเด่นเป็นฉากหลังอยู่
เดินผ่านย่านเมืองเข้ามา เห็นอาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนนี้แล้ว แต่ตรงนี้ไม่มีทางขึ้นไป ยังต้องเดินอ้อมไปอีก
มาถึงหน้าทางเข้า
เดินเข้าไปชม
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเข้าชมราคา ๕๐๐ เยน เสร็จแล้วพอเข้ามาเขาก็ถามว่าเรามาจากที่ไหน แล้วก็แปะสติกเกอร์เพื่อเช็คจำนวน ถ้าเป็นคนจังหวัดอิวาเตะก็ติดที่แผนที่ทางด้านซ้าย ถ้าจากจังหวัดอื่นก็ดูทางด้านขวา
แต่สำหรับชาวต่างชาติเขาไม่ได้เตรียมแผนที่ไว้ ก็จะติดแยกไว้โดยเขียนเพิ่ม พอเราบอกว่ามาจากไทยเขาก็เขียนคำว่า タイ แล้วก็ติดอันนึงไว้ตรงนี้ นอกจากนั้นแล้วก็ยังเห็นมีคนจากเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และอิตาลีด้วย
จากนั้นเดินเข้ามาด้านใน
ตรงนี้มีแผนที่และแบบจำลองแสดงทำนบก้นบริเวณอ่าวคามาอิชิ
แต่ต่างๆ
มีทางเดินออกมาด้านนอก
ตัวนี้คือแรดที่ทำจากเหล็กชื่อว่าไซตาโรว (サイ太郎) เป็นตัวละครมาสคอตของที่นี่
ถ่ายไซตาโรวคู่กับเจ้าแม่กวนอิม
จากนั้นกลับเข้ามาด้านในอาคาร
ที่นี่เป็นห้องฉายวิดีโอ มีการฉายคลิปแสดงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และสอนวิธีการถลุงเหล็กคร่าวๆ การฉายที่นี่ไม่ใช่แค่ฉายบนจอเดียวเหมือนหนังทั่วไป แต่มีการใช้ ๒ จอพร้อมกันและยังมีฉากหลังที่ทำเป็นรูปเตาหลอมซึ่งมีการเคลื่อนไหวด้วย
ภายในห้องฉายนี้ยังมีแสดงแบบจำลองโรงถลุงเหล็ก
ตรงนี้วางพวกวัสดุที่เกี่ยวข้อง
เดินถัดเข้ามาห้องอ่านใน ตรงนี้เล่าประวัติศาสตร์การใช้เหล็กตั้งแต่ยุคโบราณ เหล็กเป็นสิ่งที่ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยเริ่มยุคประวัติศาสตร์ของโลกแล้ว ก่อนที่จะเริ่มอุตสาหกรรมถลุงเหล็กสมัยใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 19
เดินเข้ามาตรงนี้เป็นห้องจัดแสดงหลัก
บรรยากาศโดยรวมภายในห้อง ดูกว้างและมีอะไรมาก
แบบจำลองบริเวณซากโรงหลอมฮาชิโนะ
ตรงนี้เป็นที่อธิบายขั้นตอนการถลุงเหล็ก โดยมีแบบจำลองโรงงานอยู่ด้านในและมีการฉายภาพตัวละครเคลื่อนไหวไปมาในนั้นและมีเสียงประกอบอธิบาย
ตรงนี้เล่าประวัติของโอชิมะ ทากาโตว บุคคลสำคัญของที่นี่
นอกจากนั้นก็มีจัดแสดงอะไรอีกมากมาย ซึ่งเราก็ไม่ได้ดูเก็บรายละเอียดมาก เพราะถ้าจะดูละเอียดจริงๆคงหมดไปอีกทั้งวัน จึงแค่เอาภาพที่ถ่ายไว้มาลง
จากนั้นก็ต่อที่ชั้น ๒
ชั้นนี้แสดงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กของเมืองนี้
ส่วนตรงกลางแนะนำบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง
เครื่องจักรไอน้ำ
อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นชั้น ๓
นี่เป็นห้องโล่งๆที่มีกล้องโทรทรรศน์ตั้งอยู่
เดินถัดเข้ามามีผนังที่ถูกทำจำลองหินฟอสซิลแอมโมไนต์ขนาดใหญ่ มาจากเมืองดีญ-เล-แบ็ง (Digne-les-Bains) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองพี่น้องกับเมืองคามาอิชิ แผ่นนี้กว้าง ๑๖ เมตร สูง ๑๒ เมตร
ป้ายนี้อธิบายเกี่ยวกับเมืองดีญ-เล-แบ็ง
ส่วนในนี้มีจัดแสดงพวกฟอสซิลอยู่นิดหน่อย
นอกจากนั้นก็มีให้ขึ้นมาชั้น ๔ ซึ่งก็มาโผล่ห้องเดียวกัน สามารถดูแผ่นฟิสซิลนี้ส่วนด้านบนได้
และที่ชั้น ๔ สามารถเดินออกมาเดินบนดาดฟ้าได้
ทิวทัศน์ที่เห็นจากตรงนี้
การเที่ยวชมที่นี่ก็หมดเท่านี้ เดินกลับลงมาชั้นล่างแล้วออกไป
ส่วนด้านข้างพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นสวนเล็กๆที่มีอะไรให้ชมอีกหน่อย
ตรงนี้จัดแสดงรถไฟ SL เก่าที่ในอดีตเคยใช้วิ่งระหว่างเหมืองแร่และโรงถลุงเหล็ก
ก้อนแร่เหล็ก
มองไปทางด้านโน้นเป็นสวนสุสาน
ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ ถ่ายจากด้านหลัง
การเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็จบลงเท่านี้ ตอนต่อไปจะไปเดินเล่นภายในตัวเมืองคามาอิชิ https://phyblas.hinaboshi.com/20231018
ต่อจากตอนที่แล้วที่ได้เที่ยวชมเจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งคามาอิชิเสร็จไป https://phyblas.hinaboshi.com/20231016
เป้าหมายต่อไปคือแล้วพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เหล็ก (鉄の歴史館)
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเหล็กสมัยใหม่ เนื่องจากว่าเมืองคามาอิชิแห่งนี้เป็นเมืองที่ริเริ่มการผลิตเหล็กสมัยใหม่ขึ้นมา
โดยบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กที่เมืองนี้ก็คือ โอชิมะ ทากาโตว (大島 高任, ปี 1826-1901) เป็นชาวจังหวัดอิวาเตะผู้เชี่ยวชาญด้านเหมืองแร่แห่งยุคเมย์จิ เขาได้เลือกเมืองนี้เป็นสถานที่ตั้งโรงงานถลุงเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น
อุตสาหกรรมถลุงเหล็กที่นึ่ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1857 สาเหตุที่เลือกที่นี่ก็เพราะมีแหล่งทรัพยากรพร้อม และยังมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเหล็กมาตั้งแต่เดิมอยู่แล้ว
ปัจจุบันยังเหลือร่องรอยของโรงถลุงเหล็กเก่าอยู่เรียกว่าซากโรงหลอมฮาชิโนะ (橋野高炉跡) ตั้งอยู่ในพื้นที่ฮาชิโนะ (橋野) ลึกเข้าไปทางตะวันตกในเขตภูเขา
ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2015 ในชื่อว่า แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยุคเมย์จิ การถลุงเหล็ก การผลิตเหล็กกล้า การต่อเรือ การทำเหมืองถ่านหิน (明治日本の産業革命遺産 製鉄・製鋼、造船、石炭産業) ร่วมกับแหล่งอื่นๆอีกหลายแห่งในญี่ปุ่น ในฐานะที่การถลุงเหล็กนั้นเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง
น่าเสียดายว่าซากโรงหลอมฮาชิโนะนั้นเดินทางไปลำบาก ไม่มีรถเมล์ไป ถ้าไม่มีรถขับไปเองก็ยากที่จะไปได้ จึงต้องตัดใจ ได้แต่ชมภาพและแบบจำลองภายในพิพิธภัณฑ์
ป้ายริมถนนใหญ่หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์
จากตรงนี้ยังต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยจึงจะถึง
ระหว่างทางเห็นป้ายรถเมล์ ซึ่งถ้าใครจะนั่งรถเมล์เพื่อมาที่นี่ก็ต้องมาลงที่นี่เที่ยวทั้งพิพิธภัณฑ์นี้และเจ้าแม่กวนอิม เห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมตั้งเด่นเป็นฉากหลังอยู่
เดินผ่านย่านเมืองเข้ามา เห็นอาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนนี้แล้ว แต่ตรงนี้ไม่มีทางขึ้นไป ยังต้องเดินอ้อมไปอีก
มาถึงหน้าทางเข้า
เดินเข้าไปชม
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเข้าชมราคา ๕๐๐ เยน เสร็จแล้วพอเข้ามาเขาก็ถามว่าเรามาจากที่ไหน แล้วก็แปะสติกเกอร์เพื่อเช็คจำนวน ถ้าเป็นคนจังหวัดอิวาเตะก็ติดที่แผนที่ทางด้านซ้าย ถ้าจากจังหวัดอื่นก็ดูทางด้านขวา
แต่สำหรับชาวต่างชาติเขาไม่ได้เตรียมแผนที่ไว้ ก็จะติดแยกไว้โดยเขียนเพิ่ม พอเราบอกว่ามาจากไทยเขาก็เขียนคำว่า タイ แล้วก็ติดอันนึงไว้ตรงนี้ นอกจากนั้นแล้วก็ยังเห็นมีคนจากเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และอิตาลีด้วย
จากนั้นเดินเข้ามาด้านใน
ตรงนี้มีแผนที่และแบบจำลองแสดงทำนบก้นบริเวณอ่าวคามาอิชิ
แต่ต่างๆ
มีทางเดินออกมาด้านนอก
ตัวนี้คือแรดที่ทำจากเหล็กชื่อว่าไซตาโรว (サイ太郎) เป็นตัวละครมาสคอตของที่นี่
ถ่ายไซตาโรวคู่กับเจ้าแม่กวนอิม
จากนั้นกลับเข้ามาด้านในอาคาร
ที่นี่เป็นห้องฉายวิดีโอ มีการฉายคลิปแสดงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และสอนวิธีการถลุงเหล็กคร่าวๆ การฉายที่นี่ไม่ใช่แค่ฉายบนจอเดียวเหมือนหนังทั่วไป แต่มีการใช้ ๒ จอพร้อมกันและยังมีฉากหลังที่ทำเป็นรูปเตาหลอมซึ่งมีการเคลื่อนไหวด้วย
ภายในห้องฉายนี้ยังมีแสดงแบบจำลองโรงถลุงเหล็ก
ตรงนี้วางพวกวัสดุที่เกี่ยวข้อง
เดินถัดเข้ามาห้องอ่านใน ตรงนี้เล่าประวัติศาสตร์การใช้เหล็กตั้งแต่ยุคโบราณ เหล็กเป็นสิ่งที่ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยเริ่มยุคประวัติศาสตร์ของโลกแล้ว ก่อนที่จะเริ่มอุตสาหกรรมถลุงเหล็กสมัยใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 19
เดินเข้ามาตรงนี้เป็นห้องจัดแสดงหลัก
บรรยากาศโดยรวมภายในห้อง ดูกว้างและมีอะไรมาก
แบบจำลองบริเวณซากโรงหลอมฮาชิโนะ
ตรงนี้เป็นที่อธิบายขั้นตอนการถลุงเหล็ก โดยมีแบบจำลองโรงงานอยู่ด้านในและมีการฉายภาพตัวละครเคลื่อนไหวไปมาในนั้นและมีเสียงประกอบอธิบาย
ตรงนี้เล่าประวัติของโอชิมะ ทากาโตว บุคคลสำคัญของที่นี่
นอกจากนั้นก็มีจัดแสดงอะไรอีกมากมาย ซึ่งเราก็ไม่ได้ดูเก็บรายละเอียดมาก เพราะถ้าจะดูละเอียดจริงๆคงหมดไปอีกทั้งวัน จึงแค่เอาภาพที่ถ่ายไว้มาลง
จากนั้นก็ต่อที่ชั้น ๒
ชั้นนี้แสดงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กของเมืองนี้
ส่วนตรงกลางแนะนำบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง
เครื่องจักรไอน้ำ
อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นชั้น ๓
นี่เป็นห้องโล่งๆที่มีกล้องโทรทรรศน์ตั้งอยู่
เดินถัดเข้ามามีผนังที่ถูกทำจำลองหินฟอสซิลแอมโมไนต์ขนาดใหญ่ มาจากเมืองดีญ-เล-แบ็ง (Digne-les-Bains) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองพี่น้องกับเมืองคามาอิชิ แผ่นนี้กว้าง ๑๖ เมตร สูง ๑๒ เมตร
ป้ายนี้อธิบายเกี่ยวกับเมืองดีญ-เล-แบ็ง
ส่วนในนี้มีจัดแสดงพวกฟอสซิลอยู่นิดหน่อย
นอกจากนั้นก็มีให้ขึ้นมาชั้น ๔ ซึ่งก็มาโผล่ห้องเดียวกัน สามารถดูแผ่นฟิสซิลนี้ส่วนด้านบนได้
และที่ชั้น ๔ สามารถเดินออกมาเดินบนดาดฟ้าได้
ทิวทัศน์ที่เห็นจากตรงนี้
การเที่ยวชมที่นี่ก็หมดเท่านี้ เดินกลับลงมาชั้นล่างแล้วออกไป
ส่วนด้านข้างพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นสวนเล็กๆที่มีอะไรให้ชมอีกหน่อย
ตรงนี้จัดแสดงรถไฟ SL เก่าที่ในอดีตเคยใช้วิ่งระหว่างเหมืองแร่และโรงถลุงเหล็ก
ก้อนแร่เหล็ก
มองไปทางด้านโน้นเป็นสวนสุสาน
ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ ถ่ายจากด้านหลัง
การเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็จบลงเท่านี้ ตอนต่อไปจะไปเดินเล่นภายในตัวเมืองคามาอิชิ https://phyblas.hinaboshi.com/20231018