# ศุกร์ 24 พ.ย. 2023หลังจากที่ตอนที่แล้วได้ไปขึ้นเขาชมทิวทัศน์และหิมะแล้วก็กลับเข้ามยังตัวเมือง
https://phyblas.hinaboshi.com/20231207เราก็กลับมาแวะ
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (
小樽オルゴール
堂) สถานที่เที่ยวชื่อดังอีกแห่งของเมืองโอตารุ
อนึ่ง ชื่อในภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ใช้คำว่าพิพิธภัณฑ์แต่ใช้คำว่า
堂 ซึ่งปกติแล้วหมายถึงอาคาร แต่ว่าในเว็บของทางร้านซึ่งมีแปลภาษาไทยใช้ชื่อเรียกแบบนี้ จึงเป็นที่รู้จักทั่วไปในชื่อไทยว่าพิพิธภัณฑ์ว่าพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ ในที่นี่ก็เลยขอเรียกตามนั้นด้วย
เว็บไซต์หน้าภาษาไทยของร้าน
https://www.otaru-orgel.co.jp/thแม้จะเรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นร้านขายของเป็นหลัก มีส่วนจัดแสดงที่ไม่ใช่ของขายอยู่แค่นิดหน่อย โดยของที่ขายก็คือพวกกล่องดนตรีแบบต่างๆมากมาย ถือเป็นร้านขายของกล่องดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีกล่องดนตรีสวยๆมากมาย แม้ว่าจะไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับกล่องดนตรี ไม่ได้คิดจะซื้ออะไรก็ตาม แค่มาเดินดูกล่องดนตรีสวยๆก็ถือว่าคุ้มแล้ว อีกทั้งตัวอาคารก็ตกแต่งสวยงาม เดินชมไปเพลินๆ
ย่านที่อาคารพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุตั้งอยู่น
ี้เรียกว่า
ย่านร้านค้าถนนซาไกมาจิ (
堺町通り
商店街) ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยย่านร้านค้า ยาวประมาณ ๙๐๐ เมตร โดยที่นี่มีจุดเริ่มต้นมาจาก
ร้านแก้วคิตาอิจิ (
北一硝子) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแก้วชื่อดังของโอตารุ ได้มาตั้งร้านที่นี่ แล้วจากนั้นก็ได้มีร้านอื่นๆมาเปิดตามกันบนถนนสายนี้ รวมถึงพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีด้วย จึงกลายเป็นย่านท่องเที่ยวที่สำคัญขึ้นมา
การมาเที่ยวแถวนี้นอกจากจะชมกล่องดนตรีแล้วก็ยังได้ชมอาคารสวยๆตามถนน แวะดูร้านค้าอื่นซึ่งส่วนใหญ่ขายพวกเครื่องแก้ว
เพื่อที่จะเที่ยวที่นี่ เรามาจอดรถตรงที่จอดรถที่ข้างๆอาคารพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี
จากนั้นก็เดินอ้อมมาด้านหน้าทางเข้าร้าน
ที่หน้าร้านมีนาฬิกาไอน้ำที่ทำขึ้นโดยช่างชาวแคนาดา
เดินเข้าร้านทางประตูหน้า
ภายในร้านเต็มไปด้วยกล่องดนตรีสวยๆวางอยู่มากมาย ดูเพลินๆไปเรื่อยๆ
ภายในร้านมีเขียนข้อความหลายภาษาอยู่บางจุด ซึ่งรวมถึงภาษาไทยด้วย
อย่างตรงนี้มีป้ายเขียนว่าไม่ให้หยิบตุ๊กตาขึ้นมาเวลาถ่ายรูป
ตรงนี้ก็มีป้ายเตือนแบบเดียวกัน แต่มีแค่ภาษาญี่ปุ่น และภาพกล้องถ่ายรูป ถ้าดูแค่นี้แล้วไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นคนคงจะเข้าใจผิดว่าตรงนี้ห้ามถ่ายรูป ทั้งที่จริงๆที่นี่ทั้งร้านสามารถ่ายรูปได้อย่างอิสระอยู่แล้ว
จากตรงนี้มีบันไดขึ้นไปสู่ชั้น ๒
ตรงส่วนนี้ขายพวกของจุกจิก
สามารถมองลงไปเห็นด้านล่างได้
จากนั้นมาตรงส่วนห้องเล็กๆตรงกลาง เป็นที่ห้องจัดแสดงพวกกล่องดนตรีที่ทำโดยช่างชาวฮกไกโด
ส่วนห้องนี้ขายพวกของขนาดใหญ่
และตรงนี้เป็นห้องเล็กๆี่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกล่องดนตรี โดยไล่เรื่องราวตามปีและมีแบบจำลองประกอบด้วย
จากนั้นขึ้นไปชั้น ๓
ชั้น ๓ นี้เป็นห้องใต้หลังคามีพื้นที่เล็กนิดเดียว วางขายพวกตุ๊กตา
มีโปเกมอนและโดราเอมอนด้วย
และตรงนี้เป็นพวกตัวละครของสตูดิโอจิบลิ โทโทโร่น่ารักดี
จากนั้นก็ออกมาจากร้าน แล้วก็เดินชมย่านร้านค้าตรงนี้ต่ออีกหน่อย ระหว่างนั้นหิมะก็ยังตกลงอยู่เรื่อยๆ แถมอากาศก็เริ่มเย็นจนทำให้เริ่มจะเห็นหิมะตกตะกอนขายขึ้นมาบ้างแล้ว
ย่านตรงนี้เต็มไปด้วยร้านค้าของร้านแก้วคิตาอิจิ
เราเข้าไปดูในนี้ ซึ่งเป็นอาคารหมายเลขสามของร้านแก้วคิตาอิจิ
ในนี้มีร้านไอศกรีมซึ่งดูเหมือนจะมีชื่อเสียงมาก
ที่เห็นคนต่อแถวคิวยาวนี้ก็เพื่อเข้าไปกินในร้าน
แต่ส่วนสำคัญของอาคารนี้จริงๆไม่ใช่ร้านไอศกรีม แต่แน่นอนว่าเป็นร้านขายแก้ว เราก็เข้ามาชมในนี้สักหน่อย แม้จะไม่ได้สนใจซื้ออะไรเป็นพิเศษ
หลังจากเดินดูแป๊บเดียวก็ออกมา แล้วก็เดินกลับไปตามทางเดิน แต่ระหว่างนั้นหิมะก็ตกลงมาเรื่อยๆและเริ่มทับถมจนขาวอย่างเห็นได้ชัด
เดินกลับมาถึงด้านหน้าพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งก็เริ่มปกคลุมด้วยสีขาวโพลนแล้ว
ถ่ายภาพด้านหน้าทางเข้าประตูข้างของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนถ่ายจึงเกิดเป็นแสงไฟเหมือนเป็นประกายสวยงามแบบนี้
แล้วก็กลับมายังที่จอดรถ ซึ่งได้จอดรถเอาไว้ รถเองก็ปกคลุมไปด้วยสีขาวเหมือนกัน
จากนั้นก็ออกรถไป ขณะนั้นเป็นเวลาสี่โมงเย็น ฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว เราเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่จะแวะในวันนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20231209