# เสาร์ 2 มี.ค. 2024ต่อจากตอนที่แล้วที่ได้มาตามรอยอนิเมะ CLANNAD ถึงแถว
มหาวิทยาลัยคันไซ (
関西大学) ตั้งอยู่ใน
เมืองซึยตะ (
吹田市) จังหวัดโอซากะ
https://phyblas.hinaboshi.com/20240310ไหนๆก็แวะมาแล้วก็ขอถือโอกาสชมภายในมหาวิทยาลัยนี้ด้วย ซึ่งก็ดูแล้วเป็นมหาวิทยาลัยที่ดูสวยงามและน่าอยู่กว่าที่คิด
ภายในนี้มี
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยคันไซ (
関西大学博物館) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงด้านโบราณคดี มีพวกวัตถุโบราณที่คนสมัยก่อนได้เหลือทิ้งเอาไว้ การเดินเที่ยวในมหาวิทยาลัยครั้งนี้จึงใช้เวลาภายในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นหลัก ส่วนจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ไม่ใหญ่มาก และเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แล้วหลังจากที่ชมมหาวิทยาลัยเสร็จก็เดินทางกลับไปยังสถานีชินโอซากะ นั่งชินกันเซงไปลงสถานีโตเกียว แวะไปอากิฮาบาระเจอเพื่อน แล้วสุดท้ายจึงเดินทางนั่งชิงกันเซงต่อกลับถึงเซนได เป็นอันสิ้นสุด
ภายในบริเวณมหาวิทยาลัย อาคารต่างๆดูออกแบบมาสวยดี หลายหลังก็ดูมีเอกลักษณ์
อาคารพิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัย
เข้าไปชมด้านใน
ส่วนแรกตรงนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนี้
ภายในเล็กนิดเดียว และไม่ได้มีพวกของจริงอะไรวางอยู่ ดูผ่านๆแป๊บเดียวก็เสร็จ
ส่วนหลักของพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นที่จัดแสดงพวกวัตถุโบราณต่างๆอยู่ทางนี้
ตรงนี้เริ่มจัดแสดงพวกวัตถุเก่าแก่สุดตั้งแต่ยุคโจวมง (
縄文時代, ประมาณ 14000-300 ปีก่อน ค.ศ.)
พวกเครื่องปั้นเป็นรูปตุ๊กตาทำจากดิน
อันนี้เป็นไหสำหรับฝังศพเด็ก
ส่วนตรงนี้เป็นพวกของยุคยาโยอิ (
弥生時代, ประมาณ 300 ปีก่อน ค.ศ. - กลางศตวรรษที่ 3)
ระฆังสำริด
ทางนี้เป็นส่วนของวัตถุยุคโคฟุง (
古墳時代, กลางศตวรรษที่ 3 - ศตวรรษที่ 7) ซึ่งเป็นส่วนที่มีเยอะที่สุด
ฮานิวะ (
埴輪)
ส่วนตรงนี้มีของยุคอาสึกะ (
飛鳥時代, ปี 592-710) และยุคนาระ (奈良時代, ปี 710-794) มีไม่มาก ไม่ใช่ส่วนหลักของที่นี่
ตรงนี้มีวางโลงศพดินเผา
หัวพระพุทธรูปของวัดโควฟุกุ (
興福寺) ในเมืองนาระ แต่ว่านี่เป็นของจำลอง
ชุดเกราะยุคโคฟุงที่สร้างจำลองขึ้นตามข้อสันนิษฐาน
คินุงาตะฮานิวะ (
𧞔形埴輪) ในป้ายที่เขียนอธิบายจะใช้อักษร
𧞔 ที่เกิดจากการประกอบระหว่าง 衤 กับ 蓋 แต่ว่าอักษรนี้ไม่มีไม่สามารถพิมพ์ออกมาได้ทั่วไปจึงมักเขียนเป็นแค่
蓋 ไปเลยเฉยๆมากกว่า
ชมพิพิธภัณฑ์เสร็จเท่านี้ จากนั้นก็เดินออกมาแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยขากลับเราเลือกที่จะขึ้นรถเมล์ไปลงสถานีรถไฟ
ระหว่างทางเดินไปยังอยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยก็ชมทิวทัศน์สวยๆในบริเวณนี้แล้วก็ถ่ายภาพไปเรื่อย
ตรงนี้มีสนามเบสบอล เห็นคนกำลังเล่นกันอยู่ด้วย
แถวนี้ดูจะเป็นนอกบริเวณมหาวิทยาลัยแล้ว
แล้วก็มาถึงป้ายรถเมล์ที่จะขึ้นเพื่อกลับคือป้ายคามิยามาเตะโจว (
上山手町)
รอจนรถเมล์มา
ภายในรถเมล์
แล้วก็มาลงที่หน้า
สถานีซึยตะ (
吹田駅) โดยที่อันนี้เป็นสถานีของการรถไฟญี่ปุ่น JR ในขณะที่นอกจากนี้แล้วยังมีอีกสถานีที่เป็นของฮังกิว (
阪急) อยู่ไกลจากตรงนี้ไปอีก ถือเป็นคนละแห่งกัน ดังนั้นต้องระวังขึ้นผิดที่ด้วย
จากจุดป้ายรถเมล์ที่ลงมายังไม่ถึงทางเข้าสถานี ต้องเดินต่ออีกนิด
แถวนี้ดูมีตึกมากอยู่ มองไปเห็นตึกสูง
ทางเข้าไปในสถานี
ผ่านที่ตรวจตั๋ว
เข้ามารอรถในบริเวณชานชลา
ระหว่างทางรถไฟมีแวะจอดทีนึงที่สถานีฮิงาชิโยโดงาวะ (
東淀川駅) อยู่ในเขตเมืองโอซากะ
แล้วก็มาถึงสถานีชินโอซากะ
แล้วก็มาที่เครื่องขายอัตโนมัติ ซื้อตั๋วชิงกันเซงไปยังโตเกียวโดยที่ยังไม่ต้องแตะบัตรออกไปโดยหยิบบัตร Suica ที่ใช้แตะจากสถานีซึยตะมาด้วย เครื่องจะทำการคิดตังค์ค่าเดินทางจากสถานีซึยตะ รวมกับค่าชิงกันเซงแบบไม่ระบุที่นั่งจากชินโอซากะไปยังโตเกียว รวมเป็น ๑๔,๐๔๐ เยน
มารอชิงกันเซงที่ชานชลา
ขบวนที่ขึ้นคราวนี้คือโนโซมิรอบ 14:06 คนมารอขึ้นเพียบ ต่อแถวยาว
แล้วพอขึ้นมาก็พบว่าในโบกี้แบบไม่ระบุที่นั่งนั้นเบียดจนแทบไม่มีที่นั่ง มีหลายคนที่ยืนอยู่ ตอนแรกคิดว่าเราก็อาจต้องยืนด้วย แต่ก็ยังดีที่พอจะหาที่นั่งได้ เพียงแต่ว่าไม่ใช่ที่ริมหน้าต่าง อยากมองทิวทัศน์ก็ไม่ง่าย
ระหว่างทางได้ดื่มชาชิซึโอกะซึ่งซื้อที่ตู้ขายอัตโนมัติในชานชลาตอนที่รอ ชานี้มีรูปภูเขาฟุจิ ดูแล้วเข้ากันดีกับการนั่งชิงกันเซงสายนี้ซึ่งผ่านบริเวณที่มองเห็นภูเขาฟุจิได้ในบริเวณจังหวัดชิซึโอกะ
จากนั้นชิงกันเซงก็แวะจอดที่สถานีเกียวโต เราพยายามหาที่นั่งริมหน้าต่าง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จนมาแวะจอดอีกทีที่สถานีนาโงยะ ในที่สุดก็ได้ที่นั่งริมหน้าต่างจนได้ เรียกได้ว่าต้องมาคอยรอแย่งที่นั่งกันดุเดือด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะให้ได้ชมภูเขาฟุจิระหว่างทางเหมือนอย่างตอนขามา
ตั๋วสำหรับเดินทางครั้งนี้ ถ่ายหลังจากที่ได้ที่นั่งริมหน้าต่างแล้ว
จากนั้นก็ผ่านแถวที่ภูเขาไฟฟุจิอยู่ แล้วก็ต้องพบกับความเป็นจริงที่น่าเสียดายว่าแถวนั้นกำลังเมฆหน้าทำให้มองไม่เห็นภูเขาฟุจิเลย จังหวะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะอย่างน้อยตอนขาไปก็ได้เห็นไปแล้วทีนึง เท่านี้ก็เพียงพอ อย่างน้อยทิวทัศน์ก็สวย ไม่ได้เสียเปล่าที่อุตส่าห์พยายามแย่งที่นั่งริมหน้าต่าง
แล้วก็เดินทางมาถึงสถานีโตเกียว
หลังจากนั้นก็เดินออกจากส่วนชานชลาชิงกันเซง เข้าสู่ส่วนที่ขึ้นรถไฟธรรมดา โดยที่ไม่ต้องออกไปด้านนอก มานั่งสายยามาโนเตะ
ลงที่สถานีอากิฮาบาระ นัดเจอเพื่อนตรงนี้ เป็นเพื่อนคนไทยที่ไม่ได้เจอกันนานแล้วเพิ่งรู้ว่ามาทำงานอยู่โตเกียว และชอบอนิเมะเหมือนกัน
ในช่วงนั้นที่ห้างอาเตรข้างๆสถานีอากิฮาบาระจัดร้านเป็นอนิเมะ
บจจิเดอะร็อก! (ぼっち・ざ・ろっく!)
จากนั้นก็ได้แวะไปหาอะไรกินแถวนั้น
ก็เจอร้านจิเงมงจัมปง (じげもんちゃんぽん)
ทั้ง ๒ คนกินคุโระจัมปง (黒ちゃんぽん) เพื่อนสั่งชามใหญ่ ราคา ๑๒๐๐ เยน เราสั่งชามเล็ก ราคา ๙๐๐ เยน ถ่ายรูปมาเทียบให้เห็นความแตกต่าง
จากนั้นก็ย้อนกลับมาที่ร้านอาเตรใกล้สถานีอากิบะ
ภายในนี้ตอนนี้เต็มไปด้วยพวกบจจิจัง
ขึ้นมาเจอร้านขายสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้
ร้านไม่กว้างแต่คนมาเดินเต็มจนแน่นเลย
ของจำนวนมากขายหมดไปแล้วเพราะเป็นตอนเย็น แต่ก็ยังเห็นเหลืออะไรให้ดูอยู่
หลังจากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยจากห้างอาเตรนี้มีทางเชื่อมไปยังสถานีอากิฮาบาระโดยตรง
เดินขึ้นรถไฟไปพร้อมกับเพื่อนด้วยเพราะไปทางเดียวกัน
แล้วเราก็ลงที่สถานีโตเกียว แยกจากเพื่อนตรงนี้
จากนั้นก็มาที่ช่องซื้อตั๋วชิงกันเซง ซึ่งอยู่ภายในด้านในไม่ต้องแตะบัตรผ่านที่ตรวจตั๋วออกไป ซื้อตั๋วชิงกันเซงสำหรับไปเซนไดจากตรงนี้ ค่าตั๋ว ๑๑,๔๑๐ เยน
เดินมาขึ้นรถไฟขบวนฮายาบุสะ (はやぶさ) รอบ 19:20 ไปถึงเซนไดเวลา 20:52
ตั๋วชิงกันเซงคราวนี้
จากนั้นก็กลับถึงเซนได สิ้นสุดการเดินทางระยะไกลที่สุดครั้งนี้ลงเท่านี้
ตารางสรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด
|
ต้นทาง |
ปลายทาง |
วิธีเดินทาง |
ค่าโดยสาร |
29 ก.พ. |
เซนได |
โคกุระ |
ชิงกันเซง |
29580 |
โคกุระ |
ทังงะ |
รถไฟรางเดี่ยว |
100 |
1 มี.ค. |
โคกุระ |
ฮากาตะ |
รถไฟ JR |
1310 |
หน้าศาลเจ้าคุชิดะ |
ฮากาตะ |
รถไฟใต้ดิน |
210 |
ฮากาตะ |
คาโดมัตสึ |
รถไฟ JR |
230 |
2 มี.ค. |
คาโดมัตสึ |
ฮากาตะ |
รถไฟ JR |
230 |
ฮากาตะ |
ชินโอซากะ |
ชิงกันเซง |
14750 |
ชินโอซากะ |
เรียวกุจิโควเอง |
รถไฟไต้ดิน |
270 |
คามิยามาเตะ |
ซึยตะ |
รถเมล์ |
230 |
ซึยตะ-ชินโอซากะ |
โตเกียว-อากิฮาบาระ |
รถไฟ JR + ชิงกันเซง + รถไฟ JR |
14040 |
อากิฮาบาระ-โตเกียว |
เซนได |
รถไฟ JR + ชิงกันเซง |
11410 |
รวม |
72360 |