# พุธ 13 พ.ย. 2024บันทึกการเที่ยวคิตะคิวชูต่อ หลังจากที่ไปเที่ยวที่โมจิโกวเสร็จแล้วนั่งรถไฟย้อนกลับมา
https://phyblas.hinaboshi.com/20241207เรากลับมาที่สถานีโคกุระเพื่อเที่ยวแถวในตัวเมือง โดยเป้าหมายหลักก็คือ
ปราสาทโคกุระ (
小倉城)
ปราสาทโคกุระเป็นปราสาทยุคเอโดะแห่งหนึ่ง สร้างในปี 1609 เป็นศูนย์กลางการปกครองพื้นที่แถบนี้เรียกว่า
โคกุระฮัง (
小倉藩) แต่ว่าตัวหอหลักได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายไปในปี 1837 แล้วต่อมาปราสาทก็โดนยุบ ส่วนอื่นก็ถูกรื้อทิ้งตามมา
ส่วนปราสาทโคกุระที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นของสร้างใหม่ในปี 1959 ด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่ใช่ของดั้งเดิม และยังมีการต่อเติมต่างไปจากของเดิมด้วย โดยเพิ่มส่วนหน้าจั่วเข้ามาให้ดูสวยขึ้น ตั้งใจจะดึงดูดนักท่องเที่ยว ตามความเห็นของผู้วางแผนฟื้นฟูในขณะนั้น ไม่งั้นก็จะดูเรียบๆเหมือนอย่างปราสาทชิมาบาระ
แต่ปราสาทโคกุระก็ไม่ได้ถือเป็นปราสาทที่มีความโดดเด่น ขนาดก็ปานกลาง ส่วนตัวหอหลักก็เป็นแค่ของสร้างใหม่ แถมสร้างไม่ตรงปก ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒธรรมเลยด้วย แต่ด้วยความที่ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชูซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของเกาะคิวชู อยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีโคกุระ สามารถมาได้ง่ายโดยการเดินมา จึงมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวอยู่ในระดับนึง ยังไงก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ถ้าใครแวะมาคิตะคิวชูแล้วก็มักจะต้องอยากแวะมาชมปราสาทโคกุระ
ในเที่ยวนี้เราได้แวะชมทั้งปราสาทคุมาโมโตะและปราสาทชิมาบาระซึ่งทั้งสวยงามและใหญ่โตกว่ามากมาแล้ว พอมาเห็นปราสาทโคกุระก็เลยอาจรู้สึกเฉยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม จุดเด่นของปราสาทนี้น่าจะเป็นบริเวณรอบๆและเส้นทางที่เดินจากสถานีไป เพราะมีที่เที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงามระหว่างทางด้วย
เรามาถึงสถานีโคกุระเวลา 14:16
เดินออกจากสถานี มายังทางเดินลอยฟ้าฝั่งใต้สถานี ขณะนั้นท้องฟ้าสดใส ต่างจากครั้งก่อนที่มาเป็นอย่างมากเลย
เดินลงจากตรงนี้ไป
เลี้ยวขวาไปทางตะวันตก ผ่านอาร์เคดถนนคนเดินย่านร้านค้าที่เรียกว่า
เคียวมาจิกินเตงไง (
京町銀天街)
พอผ่านออกมาแล้วก็เจอ
สะพานคัตสึยามะ (
勝山橋) ซึ่งข้าม
แม่น้ำมุราซากิ (
紫川) ที่เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ลากผ่านกลางเมือง และฝั่งตรงข้ามมองเห็น
ริเวอร์วอล์กคิตะคิวชู (リバーウォーク
北九州) ซึ่งเป็นกลุ่มตึกห้างสรรพสินค้าที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามโดดเด่น เปิดตั้งแต่ปี 2003
ระหว่างข้ามสะพานก็ชมทิวทัศน์แม่น้ำมุราซากิ ซึ่งสวยงาม เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเมืองนี้
พอข้ามมาแล้วก็เดินมาอีกหน่อยก็ถึงคูที่ล้อมรอบปราสาทโคกุระ
ทางเดินเข้า
เดินเข้าไปบริเวณปราสาทจากตรงนี้
จากตรงนี้มองกลับไปทางทิศเหนือเห็นหมู่อาคารริเวอร์วอล์กคิตะคิวชูตั้งเด่น ช่างมีสีฉูดฉาด ทั้งเหลือง แดง ขาว ดำ ครีม มีเอกลักษณ์เฉพาะแปลกตา เอาเข้าจริงมันดูสะดุดตาดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ยิ่งกว่าปราสาทโคกุระอีก ยิ่งภาพถ่ายปราสาทโคกุระในยุคใหม่บางทีก็ถ่ายให้เห็นหมู่อาคารนี้เป็นฉากหลัง ก็สวยไปอีกแบบ
เมื่อเข้ามาในบริเวณปราสาทก็เจอ
ศาลเจ้าโคกุระกิองยาซากะ (
小倉祇園八坂神社) ตั้งอยู่ภายในบริเวณ
จากบริเวณศาลเจ้า มองไปยังฐานหินของปราสาท
ในบริเวณยังมีสวนญี่ปุ่นข้างปราสาท แต่ว่าในนี้มีค่าเข้าชมเพิ่มเติม เราตัดสินใจไม่เข้าไป
ตรงนี้เป็นทางเดินไปเข้าปราสาท
เริ่มเห็นตัวอาคารหอหลักของปราสาท
ตรงนี้แปลกดี มีการตั้งเสาและผ้าทำเป็นรูปเหมือนฐานหินของปราสาท สงสัยตรงนี้กำลังซ่อมอยู่เลยใช้วิธีพรางตา แล้วก็ทำได้เนียนมากซะด้วย
ด้านหน้าทางเข้าหอหลัก
ค่าเข้าชม ๓๕๐ เยน ถือว่าไม่แพง
ซื้อตั๋วเข้าชมตรงนี้ แล้วจึงเดินต่อเข้าไป
ภายในไม่ค่อยมีอะไร มีของจัดวางอยู่แค่หลวมๆ ไม่แออัด น้อยกว่าที่คิดมาก และส่วนใหญ่เป็นแค่แผ่นป้าย ดูแล้วรู้สึกว่าเขาไม่ได้ลงทุนอะไรเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่าสมแล้วที่ราคาค่าเข้าไม่ได้แพงอะไรเมื่อเทียบกับปราสาทอื่น
ที่ดึงดูดความสนใจเราที่สุดก็คือภาพนี้ ซึ่งแสดงปราสาทญี่ปุ่นที่มีความสูงที่สุด ๑๐ อันดับแรก เดิมทีไม่เคยรู้มาก่อนเลยเหมือนกันว่าปราสาทไหนสูงแค่ไหน
ขำนำข้อมูลมาเขียนสรุปเป็นตารางได้ดังนี้
อันดับ |
ปราสาท |
ความสูง (เมตร) |
1 |
ปราสาทโอซากะ |
大阪城 |
41.5 |
2 |
ปราสาทนาโงยะ |
名古屋城 |
36.1 |
3 |
ปราสาทชิมาบาระ |
島原城 |
33.0 |
4 |
ปราสาทคุมาโมโตะ |
熊本城 |
32.5 |
5 |
ปราสาทฮิเมจิ |
姫路城 |
31.5 |
6 |
ปราสาทโคกุระ |
小倉城 |
28.7 |
7 |
ปราสาทโอดาวาระ |
小田原城 |
27.2 |
8 |
ปราสาทฮิโรชิมะ |
広島城 |
26.6 |
9 |
ปราสาทฟุกุชิมะ |
福山城 |
26.3 |
10 |
ปราสาทวากามัตสึ |
若松城 |
25.1 |
อ้างอิง
https://oshiro-navi.com/oshiro-tensyu-hight-rankingอันดับ ๒, ๘, ๙, ๑๐ เราเคยไปมาหมดแล้ว ส่วนอันดับ ๓ และ ๔ คือปราสาทชิมาบาระและปราสาทคุมาโมโตะก็เพิ่งไปมานี่เอง
และอันดับ ๖ ก็คือปราสาทโคกุระนี่เอง ที่จริงก็ผิดคาดแม้ดูภายนอกแล้วรู้สึกว่าตัวปราสาทไม่ได้ใหญ่อะไร แต่ในเรื่องความสูงนั้นถือว่าโดดเด่น
ปราสาทฮิเมจิซึ่งถือเป็นปราสาทญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นเข้าใจว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุด แต่ในแง่ความสูงของส่วนยอดแล้วอยู่แค่อันดับ ๕ ส่วนที่สูงที่สุดคือปราสาทโอซากะ นี่ก็ผิดคาดเหมือนกัน
ทั้งปราสาทโอซากะและปราสาทฮิเมจิยังไม่เคยไปแต่ก็ตั้งใจว่าจะหาโอกาสไปให้ได้แน่นอน สำหรับคนที่ชอบปราสาทแล้วถือว่าพลาดไม่ได้อยู่แล้ว
เดินขึ้นมาต่อก็เห็นห้องโล่งๆที่มีแค่ภาพปราสาทต่างๆติดอยู่ ไม่รู้ว่าคนออกแบบที่นี่งบหมดหรือว่าตั้งใจให้โล่งๆเดินสบายแบบนี้อยู่แล้ว
แล้วก็ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด ซึ่งถูกทำเป็นร้านกาแฟ
และจากตรงนี้ก็เป็นจุดชมทิวทัศน์ได้ดี มองออกไปทิศเหนือเห็นริเวอร์วอล์กคิตะคิวชูสวยงาม แต่ว่าตัวตึกเหล่านี้สูงกว่าปราสาท จึงบดบังไม่ให้มองเห็นทิวทัศน์ข้างหน้าต่อไปเลย
ทางทิศตะวันออกเป็นแม่น้ำมุราซากิ มีตึกกระจกที่สะท้อนทิวทัศน์สวยงามด้วย
ส่วนทิศใต้เป็น
สวนสาธารณะคัตสึยามะ (
勝山公園) ซึ่งในบริเวณมีอาคารรูปร่างสวยเด่น นั่นคือ
พิพิธภัณฑ์วรรณคดีเมืองคิตะคิวชู (
北九州市立文学館)
ทิศตะวันตกก็เป็นย่านในตัวเมือง
ชมด้านบนเสร็จก็กลับลงมาด้านล่าง เดินดูในบริเวณต่ออีกนิดหน่อย
นี่เป็นรูปปั้นของ
มิยาโมโตะ มุซาชิ (
宮本 武蔵) กับ
ซาซากิ โคจิโรว (
佐々木 小次郎)
ไม่ใช่แก๊งร็อกเกตนะ ซามุไร ๒ คนที่มีชื่อเสียงจากการดวลดาบกันบน
เกาะกันริว (
巌流島) ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในช่องแคบคัมมง ในปี 1612 โดยในสมัยนั้นเกาะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโคกุระฮัง เลยถือเป็นจุดขายสร้างชื่อให้ที่นี่ด้วย
ในบริเวณปราสาทยังมีร้านขายพวกของฝากและนั่งกินอาหาร เราแวะนั่งในนี้สักพัก ได้กินไอติมแท่งรสชาเขียนถั่วแดง ราคา ๓๘๐ แต่ไม่ได้อร่อยเท่าไหร่
จากนั้นก็เดินออกจากบริเวณปราสาท ไปทางใต้ ไปยังสวนสาธารณะคัตสึยามะ ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์วรรณคดีเมืองคิตะคิวชู ที่ตอนแรกมองเห็นจากด้านบนปราสาทโคกุระ
เดินมาจนถึงหน้าทางเข้า แต่ว่าไม่ได้เข้าไปข้างในหรอก เพราะไม่ได้สนใจวรรณคดีมากถึงขนาดนั้น แต่ว่าตึกนี้รูปร่างโดดเด่นดี ได้มาเดินชมใกล้ๆแบบนี้สวยดี
จากนั้นข้างๆมี
พิพิธภัณฑ์เมืองแห่งสันติภาพคิตะคิวชู (
北九州市平和のまちミュージアム) เป็นพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างใหม่ เพิ่งสร้างขึ้นในปี 2022 นี้เอง จัดแสดงเกี่ยวกับเมืองคิตะคิวชูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยเมืองนี้ที่จริงแล้วมีความสำคัญในฐานะเป้าหมายแรกของระเบิดปรมาณูลูกที่ ๒ แฟตแมน ซึ่งเดิมทีจะถูกทิ้งที่เมืองโคกุระ แต่เพราะวันนั้นอากาศไม่ดีเลยไปลงที่เมืองนางาซากิแทน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีการเล่าถึงเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม มีค่าเข้าชม ๒๐๐ เยน ครั้งนี้เราตัดสินใจไม่เข้าไปชม แต่ก็คิดว่าถ้ามีโอกาสแวะมาเมืองนี้อีกก็ค่อยมาชมก็ได้
จากนั้นก็เดินเล่นดูส่วนอื่นๆภายในสวนสาธารณะคัตสึยามะ ก็ดูแล้วน่าเดินดี
ตรงนี้ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวย
จากนั้นก็เดินไปทางตะวันออก กลับสู่ริมแม่น้ำมุราซากิ
เดินเลียบริมแม่น้ำ ทิวทัศน์ตรงนี้สวยดี มองไปทางเหนือก็ยังเห็นริเวอร์วอล์กคิตะคิวชูได้อยู่ด้วย
จากนั้นก็ข้ามสะพาน
นากะโนะฮาชิ (中の橋) เพื่อกลับไปยังฝั่งตะวันออกฝั่งสถานี
สะพานนี้เป็นคนละแห่งกับที่ข้ามมาตอนแรก อยู่ถัดมาทางใต้
ทิวทัศน์ที่เห็นจากสะพานนี้ก็สวยงาม ต่างจากขามาไปอีกแบบ
เที่ยวมาทั้งวันจนถึงเริ่มเย็น 4 โมงกว่าแล้ว ตอนต่อไปเป็นตอนสุดท้ายของการเที่ยวเมืองนี้และสิ้นสุดวันนี้ลง
https://phyblas.hinaboshi.com/20241209