# ศุกร์ 14 มี.ค. 2025วันที่ 14 มี.ค. 2024 นั้นเราได้ออกจากที่ทำงานเก่าที่เซนได ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ฟุกุโอกะในเวลาต่อมา เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมาตั้งปีนึงแล้ว และอีกไม่นานก็ครบรอบปีนึงที่เริ่มทำงานในฟุกุโอกะ ก็อยากเขียนเล่าประสบการณ์เหมือนกัน
แต่ที่จะเล่าถึงวันนี้คือที่บริษัทมีจัดโนมิไก (
飲み
会 = งานกินเลี้ยงตอนเย็น) ต้อนรับพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเริ่มทำงานตั้งแต่สัปดาห์นี้ และนอกจากนี้แล้วก็ยังฉลองให้กับพนักงานอีกคนที่เพิ่งได้เข้าเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคิวซันได ซึ่งต่อจากนี้ไปก็จะทำงานไปศึกษาไปจนจบ คงจะยุ่งน่าดู แต่ว่าการที่บริษัทสนับสนุนให้พนักงานได้เรียนต่อถือเป็นเรื่องดี ถือเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา
โนมิไกครั้งนี้ที่จริงเหมือนจะถูกจัดขึ้นอย่างกะทันหัน เพิ่งจะมาบอกวันนี้ตอนเช้าแล้วถามว่าจะไปหรือเปล่า ตอนแรกก็ลังเล เพราะที่จริงตอนเดือนมกราคมก็เพิ่งมีจัดโนมิไกไป และแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายหลายพันเยน แต่ก็ตัดสินใจไปเพราะพนักงานคนที่ได้เข้าเรียนต่อนั้นเป็นคนที่ได้ทำงานร่วมกันมาหลายงานตั้งแต่เข้าบริษัทมา ก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคยมากในระดับนึง ก็อยากไปร่วมแสดงความยินดีสักหน่อย
ตอนมื้อเที่ยงก็ยังกินอาหารตามปกติทั่วไป วันนี้ไปกิน
บุกกาเกะโซบะ (ぶっかけそば) ๘๐๐ เยน ที่ร้าน
ทาเบโดโกโระยุซึ (
食べどころ
柚ず) ใกล้ๆที่ทำงาน แม้จะไม่เกี่ยวอะไรกับโนมิไก แต่ไหนๆเป็นวันเดียวกันก็เลยขอลงภาพไปด้วย มื้อนี้ก็ถือว่าอร่อยตามปกติ

จากนั้นตอนเย็นก็ไปโนมิไก ซึ่งได้จองไว้เวลา 18:30 ไปกันทั้งหมด ๙ คน ที่หมายคือร้านที่ชื่อว่า
ฟุตปปาระ (ふとっぱら) อยู่ใกล้ประตูตะวันออกของสถานีฮากาตะ
ที่จริงร้านนี้มี ๓ สาขา คือสาขาที่ฝั่งตะวันออกของสถานีฮากาตะ คือที่ที่เราไปครั้งนี้ และมีอีกแห่งอยู่ทางตะวันตกของสถานีฮากาตะ ก็ไม่ห่างกันมาก และอีกแห่งอยู่ที่ย่านเทนจิง
ตัวร้านอยู่บนชั้น ๗ ของ
ตึกฮากาตะจูโอวไง (
博多中央街ビル) ตอนเข้าไม่ได้ถ่ายรูปหน้าตึกไว้ แต่ได้ถ่ายหน้าทางเข้าร้านบนชั้น ๗ ไว้

บรรยากาศภายในร้าน ถ่ายตอนที่เดินไปเข้าห้องน้ำ ดูแล้วมีคนมานั่งกินสังสรรค์กันมากอยู่


เริ่มแรกอาหารที่มาก็คือถั่วแระ (
枝豆) เป็นของกินเล่นระหว่างรอกินของหลัก

จากนั้นที่มาก่อนเลยก็คือ
ราโซเมง (ラーソーメン) ซึ่งเขาว่าเป็นราเมงสูตรเฉพาะที่เป็นเมนูเด็ดของร้านนี้ เป็นเส้นราเมงเย็นที่เอามาแช่ในน้ำแข็ง เวลากินก็จุ่มกับซุปที่เขาเตรียมไว้เฉพาะ อร่อยทีเดียว

รูปตัวอย่างและข้อความอธิบาย

อันนี้เป็นหน้าจอแทบแลตสำหรับสั่งอาหาร ร้านนี้สั่งอาหารผ่านแทบเลตนี้ จะเห็นว่าเขาเอาราโซเมงมาวางไว้เป็นเมนูแนะนำหน้าแรกสุดเลย

ว่าแต่ที่จริงปกติคนที่นี่เขากินเส้นแบบนี้เปล่าๆ ซึ่งเราก็ลองแล้วมันก็มีรสชาติ กินได้อยู่หรอก แต่ก็รู้สึกไม่ชินกับการกินเส้นเปล่าๆ เพราะมันมีแต่แป้ง ดูขาดอะไรป ก็เลยเอาเส้นนี้มาใช้กินกับอาหารอื่นซึ่งเป็นเนื้อกับผัก พอทำแบบนี้แล้วก็ยิ่งอร่อย
อาหารอื่นๆที่สั่งนั้นก็ได้แก่เกี๊ยวซ่า

แล้วก็พวกเนื้อชนิดต่างๆ ซึ่งพวกนี้เราเอามากินกับเส้นราโซเมง



อันนี้คือ
ชีจีมี (지짐이) เป็นแพนเค้กเกาหลีที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น

เครื่องดื่มนั้นมีสั่งทั้งคาลพิส แล้วก็เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เรียกว่า
เรียลโกลด์ (リアルゴールド) ซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อนก็เลยลองสั่งดู เป็นน้ำสีเหลืองสด อร่อยดีเหมือนกัน ปกติเราไม่ดื่มน้ำอัดลมเลย แต่เวลามางานโนมิไกบางทีก็ดื่มบ้าง ดีกว่าให้ดื่มเหล้าตามคนอื่น ซึ่งยิ่งไม่ดีต่อสุขภาพ คนญี่ปุ่นชอบดื่มเหล้ากันมาก แต่เรายังไงก็ยืนกรานที่จะไม่ดื่ม ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

หลังจากนั้นอาหารชุดแรกก็หมดไป ขาดช่วงไปสักพักจึงสั่งต่อ คราวนี้เน้นไปที่พวกอาหารทะเล เช่นคามาโบโกะ ซาชิมิ กุ้ง




จิกุวะ (
竹輪)

มีเฟรนซ์ฟรายด้วย แต่ไม่ได้กินเพราะพอถึงจุดนี้ก็อิ่มเต็มแน่นไปหมดแล้ว

สุดท้ายเขายังยากิราเมงตามมาเป็นตัวปิดท้าย คนญี่ปุ่นเขานิยมกินอาหารพวกเส้นเป็นตัวปิดท้าย นี่ก็เป็นวิธีการกินที่ตอนแรกเราก็ไม่รู้และแปลกใจเหมือนกัน แต่เรากินเส้นราโซเมงไปตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ซึ่งที่จริงก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่มันทำให้อิ่มไปแล้ว เลยไม่ได้กินยากิราเมงเลย

ส่วนตัวราโซเมงที่ตอนแรกเริ่มกินไปก็เหลือนิดหน่อยด้วย เพราะปริมาณมากไป แล้วพอผ่านไปสักพักน้ำแข็งก็ละลาย รู้สึกว่าไม่น่ากินเหมือนตอนแรกแล้ว ก็น่าเสียดายเหมือนกัน แต่ว่านอกจากเส้นราโซเมงแล้วก็มีอย่างอื่นที่กินเหลือเหมือนกัน การกินเหลือไม่ใช่เรื่องแปลกนักเวลามากินเลี้ยงกันแบบนี้

สุดท้ายก็นั่งกินนั่งคุยกันยาว ๒ ชั่วโมงกว่า จนเสร็จ ค่าใช้จ่ายมื้อนี้คือคนละ ๕๐๐๐ เยน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับโนมิไก ที่สำคัญคือได้มาสังสรรค์กันนานๆที
หลังจากเสร็จแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ จบวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ลง เข้าสู่เวลาพักผ่อนเสาร์อาทิตย์