# อาทิตย์ 11 พ.ค. 2025วันนี้มีโอกาสได้แวะไปหาเพื่อนร่วมงานที่เคยทำงานอยู่บริษัทเดียวกันแต่เพิ่งลาออกไป เขาอาศัยอยู่ที่ย่าน
ไซโตซากิ (
西戸崎) ซึ่งอยู่บนแผ่นดินส่วนที่เรียกว่า
อุมิโนะนากามิจิ (
海ノ
中道) ซึ่งเป็นส่วนแหลมที่ยื่นออกจากชายฝั่งทางเหนือของเขตฮิงาชิของเมืองฟุกุโอกะ
ที่ส่วนปลายของแหลมอุมิโนะนากามิจินั้นเป็นสันดอนยาวเชื่อมไปสู่
เกาะชิกะ (
志賀島) ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ขนาด ๕ ตารางกิโลเมตรกว่า บนเกาะมีสถานที่เที่ยวทั้งศาลเจ้าและที่เล่นน้ำทะเล รวมไปถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญด้วย
ครั้งนี้จุดประสงค์หลักที่ไปคืออยากแวะไปหาเพื่อน เพราะมีธุระที่อยากคุย แล้วเขาก็เคยเล่าให้ฟังตั้งแต่สมัยอยู่บริษัทแล้วว่าบ้านเขาตั้งอยู่ในบริเวณสถานที่ที่ค่อนข้างโดดเด่นน่าสนใจ ดังนั้นก็ถือโอกาสมาเที่ยวด้วย
การเดินทางมาถึงที่นี่นั้นสามารถมาได้โดยรถไฟหรือรถเมล์ หรือแม่แต่นั่งเรือข้ามฟากมาจากท่าเรือฮากาตะ ซึ่งจะเร็วกว่า เพราะเส้นทางบกต้องไปอ้อมไกล สำหรับครั้งนี้เราตัดสินใจเดินทางไปด้วยรถไฟแล้วขากลับค่อยนั่งเรือกลับ
ส่วนการเที่ยวภายในบริเวณอุมิโนะนากามิจิและเกาะชิกะนั้นครั้งนี้เพื่อนเป็นคนขับรถพาไปทำให้สะดวกมาก เพราะแม้ว่าจะมีทั้งรถเมล์และรถไฟแต่ว่าจำนวนรอบมีไม่มากนัก ยิ่งถ้าอยากจะเที่ยววนรอบเกาะด้วย
สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟนั้นที่นี่มี
สายคาชี (
香椎線) ซึ่งสามารถมาขึ้นได้โดยเปลี่ยนรถจาก
สถานีคาชี (
香椎駅) โดยสายนี้ที่จริงเป็นสายเดียวกับที่ใช้เดินทางจากสถานีอุมิของเมืองอุมิซึ่งเล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20250406แต่ว่ารถไฟจากอุมิโนะนากามิจิที่ลากไปสู่สถานีอุมิโดยตรงนั้นมีน้อย ส่วนใหญ่ยังไงก็ต้องเปลี่ยนรถที่สถานีคาชี
ครั้งนี้เราก็มาเปลี่ยนรถที่สถานีคาชี แล้วก็นั่งไปสู่
สถานีไซโตซากิ (
西戸崎駅) ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายปลายทาง แล้วเพื่อนก็เอารถมารับที่นั่น หลังจากนั้นก็เป็นการนั่งรถเที่ยวแล้ว
สถานีคาชี นั่งมาตามสายหลักคาโงชิมะ แล้วมาเปลี่ยนไปยังสายคาชีตรงนี้

รถไฟสู่สถานีไซโตซากินั้นมีประมาณชั่วโมงละ ๒ เที่ยว ที่เราได้ขึ้นคราวนี้เป็นรอบ 11:09


แล้วรถไฟก็ออก มาจอดที่สถานีแรกคือ
สถานีวาจิโระ (
和白駅) ตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าสู่อุมิโนะนากามิจิ

ถัดมาเป็น
สถานีนาตะ (
奈多駅)

แล้วก็
สถานีกันโนสึ (
巣ノ
巣駅)

จากนั้นก็มาจอดที่
สถานีอุมิโนะนากามิจิ (
海ノ
中道駅) ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวหลัก มีทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและรีสอร์ต มีคนลงที่สถานีนี้มาก แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ตั้งใจมาชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไว้โอกาสหน้าอาจมาอีก


ถัดมารถไฟก็มาถึงสถานีไซโตซากิซึ่งเป็นปลายทาง

เดินออกมานอกสถานี

จากนั้นก็นั่งรถเพื่อนต่อ มุ่งสู่เกาะชิกะ โดยระหว่างทางผ่านสันดอนที่ลากเชื่อมสู่เกาะ ทิวทัศน์ดูสวยงามทีเดียว แต่ว่าฝนก็เริ่มตกลงมา ฟ้าก็ครึ้ม

มองไปทางใต้เห็นย่านตึกสูงในใจกลางเมืองฟุกุโอกะด้วย แต่อากาศไม่ค่อยสดใสจึงมองได้ไม่ชัด

แล้วก็ข้ามมาถึงเกาะชิกะ เข้าชมสถานที่เที่ยวแรกคือ
ศาลเจ้าชิกาอุมิ (
志賀海神社) เป็นศาลเจ้าเล็กๆที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งตะวันออกของเกาะ เรามาจอดรถที่ลานจอดข้างๆศาลเจ้าแล้วก็มาเดินขึ้นบันไดตรงนี้ แต่ว่าฝนตกจึงต้องกางร่มไปเดินชมไป

แผนที่บริเวณทางเดินหน้าศาลเจ้าซึ่งลากยาวไปถึงย่านชุมชนและท่าเรือทางใต้ของเกาะ แสดงให้เห็นว่ามีพวกร้านต่างๆอยู่

เดินขึ้นบันไดไป


มาถึงบริเวณศาลเจ้า เข้าชมดูภายในบริเวณ






ตรงนี้เป็นศาลาที่เก็บเขากวางไว้มากมายนับหมื่นอัน เรียกว่า
รกกากุโดว (
鹿角堂) แปลว่าโถงเขากวาง

ทิวทัศน์ที่มองลงไปจากบนนี้ เห็นสันดอนเชื่อมแผ่นดินที่รถผ่านมาตอนแรก

เดินลงบันไดมาอีกทาง กลับมายังลานจอดรถ แล้วขึ้นรถไปต่อ

แล้วก็ขับรถเลียบริมฝั่งทะเลแบบทวนเข็มนาฬิกา ระหว่างทางก็เห็นคนปั่นจักรยานอยู่ด้วย


แล้วก็มาถึง
สถานที่เล่นน้ำทะเลเกบางาฮามะ (
下馬ヶ浜海水浴場) ซึ่งเป็นหาดทรายทางตอนเหนือของเกาะ

จอดรถฝั่งตรงข้ามถนนแล้วเดินข้ามมา เข้ามายังบริเวณ


หาดทรายบริเวณนี้ ไม่ใหญ่มาก และก็ดูธรรมดา


จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถแล้วก็ไปต่อ เป้าหมายต่อไปคือ
สวนสาธารณะคินอิง (
金印公園) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นบริเวณที่ค้นพบ
ตราประทับทองคำ (
金印, คินอิง) ของประเทศที่มีชื่อว่า
ประเทศนะ (
奴国) ซึ่งเป็นประเทศที่เชื่อกันว่าเคยมีอยู่บนตอนเหนือของเกาะคิวชูในช่วงยุคยาโยอิ มีศูนย์กลางอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ โดยมีหลักฐานบันทึกในเอกสารโบราณของจีน แต่มีรายละเอียดที่ไม่แน่ชัดหลายอย่าง
ในบันทึกประวัติศาสตร์ยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ปี ค.ศ. 25-200) ได้มีการพูดถึงว่าทางฮั่นได้มอบตราประทับทองคำให้ก้บดินแดนที่ชื่อว่าประเทศนะ
ตำแหน่งของประเทศนะนั้นโดยทั่วไปแค่คาดเดากันว่าอยู่ในบริเวณที่เป็นเมืองฟุกุโอกะในปัจจุบัน แต่ก็ยังระบุตำแหน่งแน่ชัดไม่ได้ แต่ในช่วงปลายยุคเอโดะได้มีชาวนาบนเกาะชิกะพบตราทองคำนี้เข้า ตอนหลังจึงรู้ว่ามันมีลักษณะตรงกับตราประทับทองตำจากฮั่นดังที่ถูกบันทึกไว้ จึงกลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญ
ตำแหน่งที่ค้นพบตราประทับทองคำนั้นไม่ได้บันทึกไว้ละเอียดนอกจากแค่บอกว่าอยู่บนเกาะนี้ แต่ได้มีงานวิจัยยุคปัจจุบันคาดการณ์ตำแหน่งและระบุว่าอยู่ทางใต้ของเกาะ จึงได้มีการตั้งสวนสาธารณะขึ้นตรงนั้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตราประทับทองคำนี้ ซึ่งนั่นก็คือสวนสาธารณะคินอิงในปัจจุบัน
ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าทำไมตราประทับทองคำซึ่งเป็นของสำคัญและล้ำค่าขนาดนี้จึงได้ถูกนำมาทิ้งไว้ที่เกาะชิกะ แล้วถ้าไม่มีชาวนามาพบเข้าจะเป็นอย่างไร รวมถึงบันทึกที่ว่าชาวนาเป็นคนมาพบนั้นก็อาจเป็นเรื่องแต่งเติม ดังนั้นจึงยังคงหลงเหลือปริศนามากมายให้คิด แต่อย่างไรก็ตามตราประทับทองคำนี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่น ปัจจุบันถูกเก็บไว้อย่างดีจัดแสดงภายใน
พิพิธภัณฑ์เมืองฟุกุโอกะ (
福岡市博物館)
ส่วนที่สวนสาธารณะที่เป็นบริเวณที่เชื่อว่าค้นพบนั้นก็ได้มีการนำของจำลองมาตั้งแสดงไว้ เป็นที่ระลึกบอกให้รู้ว่านี่น่าจะเป็นตำแหน่งที่ของจริงเคยอยู่ ก็กลายเป็นสถานที่เที่ยว แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นที่รู้จักดีนัก คนที่จะเดินทางมาเที่ยวถึงที่นี่ก็คงไม่ได้มีมาก
ที่หน้าทางเข้าสวนสาธารณะคินอิง ตรงนี้มีลานจอดรถ สามารถมาจอดแล้วก็เดินขึ้นไปได้

เดินขึ้นมาหน่อยมีป้ายแสดงแผนที่ของที่นี่ซึ่งทำไว้สวยและเข้าใจง่าย

ในบริเวณสวนสาธารณะนี้เล็กนิดเดียว แต่ว่าทำทางเดินไว้สวยดีมาก

เดินขึ้นมาถึงด้านบนสุด

บนนี้มีแผ่นป้ายที่ระลึกตราประทับทองคำ

นี่เป็นภาพขยายของตราประทับซึ่งเขียนว่า
漢委奴国王 ด้วยอักษรจีนโบราณ

และภายในตู้กระจกนี้คือตราประทับทองคำที่ทำจำลองขึ้นมา ดูแล้วก็มีขนาดเล็กนิดเดียวเท่านั้น ขนาดแค่ ๒ เซนติเมตร แต่ว่าของจริงทำจากทองคำดังนั้นแน่นอนว่าล้ำค่ามาก รูปร่างก็ทำเป็นลักษณะคล้ายงู ดูสวยดี

ทิวทัศน์ทะเลที่มองไปจากบนนี้

ดูเสร็จแล้วที่นี่ก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็เดินกลับลงไปนั่งรถต่อ

หลังจากนั้นเราก็วนครบรอบเกาะ กลับมาถึงบริเวณย่านชุมชนทางใต้ของเกาะ

ย่านชุมชนที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีโรงเรียนประถมด้วย นี่คือ
โรงเรียนประถมชิกาชิมะ (
志賀島小学校) เป็นโรงเรียนเล็กๆ มีเพียงแห่งเดียวบนเกาะนี้

เจอรถเมล์สวนด้วย เป็นรถเมล์ที่วิ่งมาจากย่านเทนจิง

แล้วก็ได้เวลาบอกลาเกาะนี้แล้ว วิ่งกลับมาตามทางสันดอนไปเพื่อมาเที่ยวในบริเวณอุมิโนะนากามิจิต่อ

ข้ามฝั่งกลับมาก็เป็นเวลาประมาณเที่ยวแล้ว เราก็แวะไปกินราเมงที่ร้าน
เมนยะกอริลลา (
麺屋伍利羅) ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน
โอตาเกะ (
大岳) ใกล้ส่วนปลายของแหลม
มาจอดรถที่ลานจอดรถใกล้ร้าน

ตู้ขายน้ำอัตโนมัติที่ลานจอดรถนี้ทำเป็นลายรูปราเมงของร้านนี้ด้วย ดูแล้วน่ากิน

ตำแหน่งของร้านดูจะเข้าใจยากนิดหน่อย แต่ที่ลานจอดรถมีการเขียนแผนที่บอกตำแหน่งไว้ดูสวยดี

ร้านอยู่ในซอยตรงนี้

แล้วก็มาถึงร้าน

เป็นร้านเล็ก และเวลามื้อเที่ยงแบบนี้ ก็เลยคนแน่น ต้องรอคิวอยู่สักพัก

อาหารสั่งโดยเครื่องขายตั๋วแต่ต้องใช้เงินสดเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถสั่งโดยใช้แอปได้แต่กรณีนี้ต้องพูดสั่งโดยตรง ดูแล้วทำ ๒ ระบบให้ยุ่งยากชวนสับสน ครั้งนี้เราไม่มีแอปแต่มากับเพื่อนที่ใช้แอปจ่าย ก็เลยให้เพื่อนใช้แอปจ่ายแล้วเราก็ให้เงินสดเขา

เข้ามานั่งภายในร้าน ครั้งนี้เรามา ๒ คนจึงมานั่งตรงโต๊ะแยก

ที่เราสั่งคือเมนูที่มีชื่อว่า
เจโนวาราเมง (ジェノバラーメン) เป็นราเมงใส่ซุปกระดูกหมูและโหระพา อร่อยดีทีเดียว เผลอซดซุปไปจนหมดเลย

ก็กินเสร็จแล้วเดินออกมากลับขึ้นรถเพื่อไปเที่ยวต่อ

หลังจากนี้ก็ยังไปเที่ยวที่อื่นในบริเวณอุมิโนะนากามิจิต่อ ซึ่งจะเขียนต่อในตอนต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20250512