# เสาร์ 26 ก.ค. 2025ต่อจากตอนที่แล้วที่ข้ามมาถึงอามากุสะ
https://phyblas.hinaboshi.com/20250730เราก็เดินทางมาถึงสถานที่เที่ยวสุดท้ายของวัน คือที่
ชุมชนหมู่บ้านซากิตสึ (
﨑津集落) เป็นสถานที่หนึ่งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อว่า
มรดกที่เกี่ยวข้องกับแหล่งคริสเตียนลับในภูมิภาคนางาซากิ (
長崎と
天草地方の
潜伏キリシタン
関連遺産) ร่วมกับสถานที่อีกหลายแห่งภายในจังหวัดนางาซากิ รวมถึง
ปราสาทฮาระ (
原城) ซึ่งได้แวะไปมาแล้วด้วย
มรดกโลกนี้ได้รับการพิจารณาความสำคัญในฐานะที่เป็นสถานที่ที่มีชาวคริสต์อยู่อย่างหลบๆซ่อนๆหลังจากที่ทางรัฐบาลโชกุนสั่งห้ามนับถือศาสนาคริสต์ ชาวคริสต์ที่ยังไม่ยอมทิ้งความเชื่อต้องกลายเป็นคริสเตียนลับ หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า
คากุเระคิริชิตัง (
隠れキリシタン)
ชุมชนชาวคริสต์ลับนี้กระจัดกระจายอยู่หลายแห่งภายในจังหวัดนางาซากิเป็นหลัก แต่ก็มีส่วนหนึ่งอยู่ในหมู่เกาะอามากุสะด้วย แม้จะเป็นส่วนน้อย และหนึ่งในนั้นก็คือชุมชนหมู่บ้านซากิตสึนี้เอง
เรามาจอดรถอยู่ตรงที่จอดรถหน้า
หอที่ระลึกอาลบู (ハルブ
記念堂) ซึ่งเป็นหอที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง
โอกุสแต็ง อาลฟงส์ ปีแยร์ อาลบู (Augustin Alphonse Pierre Halbout, ปี 1864-1945) นักบวชชาวฝรั่งเศสที่ถูกส่งมาประจำที่นี่ตั้งแต่ปี 1927 แล้วได้มาสร้างโบสถ์ที่นี่

ตรงนี้มีป้ายรถเมล์ด้วย ถ้าใครนั่งรถเมล์มาก็ต้องมาลงตรงนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ตรงนี้ยังมีศูนย์แนะนำการท่องเที่ยวด้วย แต่ว่าเปิดถึง 17:00 ตอนที่เรามาถึงนั้นเป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น ซึ่งแทบไม่มีอะไรเปิดแล้ว แต่ว่าก็สามารถเดินในบริเวณได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในอาคารอะไร

แผนที่ในบริเวณ ที่นี่ไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเที่ยวรอบได้

ตรงที่จอดรถนี้ยังตั้งอยู่หน้าทางเข้า
ศาลเจ้าซากิตสึสึวะ (
﨑津諏訪神社) สามารถเดินขึ้นไปได้



จากตรงนี้มองไปเห็น
โบสถ์ซากิตสึ (
崎津教会) ซึ่งเป็นโบสถ์เล็กๆแต่ก็ดูโดดเด่นภายในย่านชุมชนญี่ปุ่นนี้

เดินต่อขึ้นไปถึงตัวศาลเจ้า

จากนั้นเดินต่อไปก็ยังมีทางให้ขึ้นบันไดไปอีกไกลถึง
สวนสาธารณะชมทิวทัศน์ระฆังโบสถ์น้อย (チャペルの
鐘展望公園) ซึ่งสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้

ก็เดินขึ้นบันไดไป ใช้เวลาประมาณนึง แต่ก็ไม่ได้ลำบากมาก




ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงด้านบนสุด

ที่นี่มีระฆังอยู่ตรงกลาง และมีที่นั่งรายล้อม


มีศาลาเล็กๆให้นั่งพัก

ตรงนี้มีศาลเจ้าเล็กๆ


เดินมาจนสุดมีระฆังเล็กๆ แล้วก็ภาพที่แสดงว่าทิวทัศน์ที่เห็นนี้ตรงไหนเป็นอะไรแม้จะดูขาดเปื่อยยุ่ย


ตรงนี้มีบันไดที่ถึงลงไปก็ดูจะไม่มีทางไปต่อ

ทิวทัศน์ที่เห็นจากตรงนี้สวยงามมาก


มุมนี้พอจะเห็นชุมชนหมู่บ้านข้างล่างได้ แต่โดยรวมแล้วต้นไม้บัง

แล้วก็เดินกลับลงไป

ต่อไปก็เดินไปทางทะเล

มาที่โบสถ์ซากิตสึ

ในบริเวณโบสถ์มีบ่อปลาโค่ยด้วย

เดินทะลุบริเวณโบสถ์ออกมาตรงนี้ก็ถึงทะเล


ริมน้ำดูสบายๆ


มีแมวอยู่ตรงนี้ด้วย

แล้วก็ตรงนี้อีกตัว ที่นี่มีแมวเยอะมากทีเดียว

แล้วก็เดินไปต่อลงไปทางใต้

ตรงนี้ก็เจอแมวอีกตัว

แล้วก็เจออีกตัว เราถ่ายภาพทุกตัวที่เจอไว้หมด

มองหันกลับมาถ่ายโบสถ์สักหน่อย

เดินต่อไปก็เจออาคารตรงนี้ซึ่งเป็นร้านอาหาร แต่ว่าปิดไปแล้ว

จากนั้นก็เดินต่อไป ไม่ได้เห็นมีร้านอะไรเปิดอยู่เลย


ริมน้ำตรงนี้มีแมวนอนอยู่สบายๆ

เดินต่อมาทางใต้เรื่อยๆก็ถึงบริเวณ
ท่าเรือซากิตสึ (
崎津港)



ทิวทัศน์ท่าเรือตรงนี้สวยดี ที่จริงริมฝั่งตรงนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยด้วย แต่ว่าเราไม่ได้อยู่รอจนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะอยากไปให้ถึงที่พักก่อนฟ้ามืด

ข้างๆมีศาลเจ้าเล็กๆ
นิชิโนมิยะงู (
西宮宮)


จากนั้นก็กลับขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปต่อ การเที่ยววันนี้จบลงแค่นี้แล้ว ต่อไปเป้าหมายต่อไปคือไปเข้าโรงแรม ขณะนั้นเป็นเวลาเย็นค่ำเต็มที่ พระอาทิตย์ตกดินไปในระหว่างที่เราอยู่บนรถ เลยได้ภาพทิวทัศน์สวยอยู่ระหว่างทาง


แล้วก็มาถึงที่พักหลังพระอาทิตย์ตกดินไปสักพัก ฟ้ายังพอสว่างอยู่บ้าง ที่พักที่จองไว้คืนนี้คือ
เรียวกังฮามาซากิ (
旅館はまさき) ตั้งอยู่ในย่าน
โอนิกิมาจิ (魚貫町) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆทางใต้ของเกาะชิโมะ ไม่ได้มีอะไรที่เที่ยวเป็นพิเศษ แต่มาที่นี่เพราะมีเรียวกังถูกๆให้พักเท่านั้นเอง

เข้ามาข้างใน ตรงนี้เป็นห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ดูแล้วสวยดี คนดูแลเรียวกังเป็นคุณป้าที่ดูจะมีอายุแล้ว ดูใจดีมากทีเดียว

เข้ามาถึงเขาก็พาขึ้นมายังห้องพักที่อยู่ชั้น ๒

สภาพห้องเป็นแบบนี้ เรานอนกัน ๓ คน เขาก็เตรียมที่นอนไว้ให้ ๓ ที่ แต่ห้องนี้ดูกว้างขวาง สามารถพักได้สูงสุดถึง ๖ คน

ใกล้ๆมีห้องน้ำ

ชั้น ๑ ก็มีห้องน้ำ

แล้วห้องอาบน้ำก็อยู่ชั้น ๑

จากนั้นเราก็ไปหาอะไรกินเป็นมื้อเย็น แต่ว่าแถวโรงแรมเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆที่ไม่มีร้านอะไรเลย ทำให้ต้องขับรถออกไปไกลจากตรงนั้นหน่อย และเวลาตอนนั้นเลยทุ่มครึ่งไปแล้วยิ่งมีร้านน้อยด้วย ลองค้นข้อมูลแผนที่กูเกิลดูก็พบว่าที่ย่านชุมชนหมู่บ้านเล็กข้างๆ
คุตามะมาจิ (
久玉町) มีร้านนึงที่เปิดอยู่ถึงสองทุ่มครึ่ง ชื่อร้านว่า
โทวเตงโกว (
東天紅) แต่พอมาดูจริงๆก็พบว่าร้านนี้ปิดไปแล้ว ทำให้มาเสียเที่ยว ข้อมูลในกูเกิลบางทีก็อาจมีผิด ต้องระวังด้วย

หลังจากนั้นก็เลยหาร้านอื่นต่อไป ก็ต้องออกไปไกลอีกหน่อย ลงมาถึงแถวย่าน
อุชิบุกะมาจิ (
牛深町) ซึ่งเป็นย่านชุมชนใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของเกาะชิโมะแล้ว ที่นี่มี
สะพานอุชิบุกะไฮยะ (
牛深ハイヤ
大橋) ซึ่งเป็นสะพานที่ออกแบบมาได้สวยดี ใช้ข้ามไปยัง
เกาะเกสึ (
下須島) ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆอีกเกาะที่อยู่ทางใต้ลงไป
ที่ตรงใต้สะพานนี้มีร้านอาหารชื่อ
อาโอสะ (あおさ) ซึ่งข้อมูลในแผนที่กูเกิลบอกว่าเปิดถึงสามทุ่มก็เลยมา

ขึ้นไป เห็นร้านยังเปิดไฟอยู่

แต่พอเข้าไปถามว่ายังกินได้มั้ยเขาก็บอกว่าวัตถุดิบหมดแล้วเลยกำลังจะปิดร้าน ก็ปรากฏว่ามาเสียเที่ยวอีกแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เราได้มาชมทิวทัศน์ตรงสะพานอุชิบุกะไฮยะ แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน เป็นสะพานที่สวยดี

ตรงนี้ยังมีท่าเรือด้วย ซึ่งใช้นั่งเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือ
คุราโนโมโตะ (
蔵之元港) ที่อยู่ใน
เมืองนางาชิมะ (
長島町) ของจังหวัดคาโงชิมะ


หลังจากนั้นเราก็นั่งรถย้อนมาภายในย่านชุมชนมองหาร้านอื่นๆที่น่าจะเปิดโดยคราวนี้ไม่พึ่งแผนที่กูเกิลแล้ว ก็มาเจอร้านชื่อว่า
โควรัง (
紅蘭) เป็นร้านอาหารจีนเล็กๆ เห็นว่าเปิดอยู่ก็ลองเข้าไปถามดูว่ากินได้มั้ย ก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา เลยได้ที่กินจนได้

เมนูของร้านนี้

เราสั่งจัมปงทะเลพิเศษ (
特製海鮮チャンポン) ราคา ๑๒๐๐ เยน

นี่เป็นจัมปงที่ใส่พวกอาหารทะเลแบบจัดเต็มที่ที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลย มีทั้งหอยนางรม กุ้ง หมึก ที่จริงแล้วอามากุสะนี่ก็มืชื่อเสียงเรื่องจัมปงเช่นเดียวกับนางาซากิด้วย

เรานั่งกินอยู่จนลูกค้าอื่นกลับหมดแล้ว กลายเป็นลูกค้ากลุ่มสุดท้ายของร้าน บรรยากาศร้านก่อนจะออกดูอึมครึม

หลังกินเสร็จก็กลับมายังที่จอดรถ มองดูบรรยากาศย่านชุมชนแถวนี้ก็ดูมีคนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

ในย่านแถวนี้ยังมีร้านยุเมะมาร์ตอยู่ด้วย

ข้างในก็กว้างพอสมควรเลย แม้จะอยู่ย่านไกลสุดปลายเกาะแบบนี้แต่ก็ยังมีห้างแบบนี้ก็ดูจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่ลำบากเลย

แวะซื้อของในยุเมะมาร์ตเสร็จก็กลับมายังเรียวกัง

ของที่ซื้อมาจากยุเมะมาร์ต มีนมถั่วเหลือง กาแฟ ชาอูหลง

หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วก็มานั่งเล่นคอมอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างจนถึงดึกแล้วก็กลับเข้านอน

ในที่สุดก็เล่าเรื่องการเที่ยวจบวันแรกลง ตอนต่อไปจะเป็นการเที่ยววันสุดท้ายภายในจังหวัดคุมาโมโตะไปจนเดินทางกลับ