# 18-20 ส.ค. 2025หลังจากที่อยู่ฟุกุโอกะมาปีกว่า ตอนนี้ก็ได้งานใหม่ทำให้ต้องย้ายที่อยู่อีกครั้งแล้ว
สำหรับครั้งนี้ที่จริงแล้วได้งานที่จังหวัดโทจิงิ แต่ว่าก่อนอื่นบริษัทให้ไปฝึกงานประมาณ ๒ เดือนที่สาขาที่อยู่ที่
เมืองยามาโตะ (
大和市) จังหวัดคานางาวะ ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากย้ายไปอาศัยที่นั่นก่อนในระหว่างนั้น
ออกเดินทางจากฟุกุโอกะด้วยรถบัสกลางคืนซึ่งออกจากท่ารถบัสข้าง
สถานีฮากาตะ (
博多駅) ไปยัง
สถานีเกียวโต (
京都駅) จากนั้นจึงนั่งชิงกันเซงไปลงที่
สถานีชินโยโกฮามะ (
新横浜駅) แล้วจึงต่อรถไฟไปยังสถานที่พักใหม่ที่อยู่ในเมืองยามาโตะ
รถบัสออกเดินทางจากฟุกุโอกะตอน 22:45 แล้วไปถึงสถานีโตเกียวตอน 8:25 ของวันถัดไป (เวลาตามกำหนดคือ 8:40 แต่ถึงก่อน) ก็ประมาณเกือบชั่วโมง
ก่อนที่จะย้ายก็ยุ่งกับอะไรหลายอย่าง มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวมากมาย เช่นไปที่ที่ว่าการเขตเพื่อทำเรื่องย้ายออก เรียกคนมาเอาพวกเครื่องเรือนและเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องออก ไปที่ไปรษณีย์เพื่อให้ช่วยขนสัมภาระไปยังที่ใหม่ให้ เป็นต้น
หน้านี้จะเขียนบันทึกช่วง ๓ วันสุดท้าย คือวันที่ 18-20 สิงหาคม 2025 ที่ยังอยู่ฟุกุโอกะ ไปจนถึงขึ้นรถบัสเพื่อออกเดินทาง
เริ่มจากตอนก่อนเที่ยงวันจันทร์ที่ 18 ไปที่ที่ว่าการเขตมินามิซึ่งอยู่แถวย่าน
โอฮาชิ (
大橋) เพื่อทำเรื่องย้ายออก

แต่ว่าการทำเรื่องต้องใช้เวลา เขาบอกว่าประมาณ ๔๐ นาที ก็เลยไปหาอะไรกินแถวๆนั้นก็ตัดสินใจเลือกแวะกินที่ร้าน
จัมปงเตย์โคชิกิ (ちゃんぽん
亭コシキ) ที่อยู่ไม่ไกลจากนั้น

ร้านนี้เป็นร้านจัมปงที่มีขายจัมปงหลากหลายแบบมาก ครั้งนี้เราเลือก
อังกาเกะจัมปง (あんかけちゃんぽん) เห็นว่าเป็นจัมปงสูตรเฉพาะของร้าน เพราะปกติไม่เห็นที่อื่นทำจัมปงใส่อังกาเกะแบบนี้ ราคา ๑๑๐๐ เยน ลองกินแล้วก็รู้สึกเฉยๆ

กินเสร็จก็กลับไปยังที่ว่าการเขตก็พบว่าทำเรื่องเสร็จแล้ว ก็ได้เลยรับเอกสารได้ทันที เอกสารที่ได้รับจากตรงนี้จำเป็นต้องเอาไปใช้ยื่นที่ที่ว่าการเขตหรือเมืองใหม่ที่จะอยู่ตอนทำเรื่องขอย้ายเข้า
หลังจากนั้นเราก็กลับห้องพักไป แล้วตอนมื้อเย็นก็ออกมาหาร้านราเมงอร่อยกิน ครั้งนี้เลือกไปกินที่ร้าน
ราเมงทนตง (ラーメンTonTon) ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆที่อยู่ในย่าน
อาราเอะ (
荒江) ในเขตโจวนังค่อนไปทางตะวันตกของเมือง ไม่ใช่แถวที่มีอะไรสำคัญเป็นที่รู้จัก แต่ก็มีชื่อพอสมควร


ราเมงของร้านนี้ก็เป็นราเมงซุปกระดูกหมูแบบที่พบได้ทั่วไปในฟุกุโอกะ แต่มีแบบที่เรียกว่า
คุโระราเมง (
黒ラーメン) คือแบบที่ใส่น้ำมันกระเทียมเกรียมที่เรียกว่า
มายุ (マー
油) เหมือนคุมาโมโตะราเมง ราคา ๘๘๐ เยน อร่อยดี

จากนั้นวันต่อมาอังคารที่ 19 สิงหาคม ตอนช่วงเช้าได้ติดต่อนัดบริษัท NANDEMO KAITORI มาเอาพวกเครื่องเรือนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้ ตอนแรกว่าจะให้เขาช่วยซื้อเครื่องซักผ้า ตู้เย็น พัดลม ชั้นวางของ แต่ว่าพอเขามาตรวจสภาพก็กลับพบว่าไม่เข้าข่ายของที่จะขายได้เลย ก็เลยกลายเป็นให้เขาช่วยกำจัดให้ แต่ก็ต้องจ่ายเงินให้แทนเพื่อจะกำจัด โดยต้องเสียถึง ๑๑,๐๐๐ เยน เพื่อให้เข้าขนของออกไป

พอจัดการข้าวของเสร็จ ตอนเที่ยงก็ออกมาหาร้านราเมงอร่อยกินอีก ครั้งนี้เลือกไปที่ร้าน
ราเมงซากาบะยามาโงยะ (ラーメン
酒場やまごや) ที่
สถานีเมย์โนฮามะ (
姪浜駅) ในเขตนิชิทางตอนตะวันตกของเมืองฟุกุโอกะ ที่นี่อยู่ไกลนิดหน่อยแต่มีรถไฟใต้ดินจึงเดินทางมาได้ง่าย ร้านนี้เป็นร้านในเครือ
จิกุโฮวราเมงยามาโงยะ (
筑豊ラーメン
山小屋) ที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่
เมืองคาวาระ (
香春町) ทางตะวันออกของจังหวัดฟุกุโอกะ และมีเปิดสาขาไปทั่วคิวชูและยังไปถึงภูมิภาคอื่นด้วย

ราเมงร้านนี้โดยหลักแล้วก็ใช้ซุปกระดูกหมูแบบที่นิยมทั่วไปในฟุกุโอกะ แต่ว่าก็มีการปรุงเพิ่มเติมหลากหลาย

ที่เราเลือกครั้งนี้คือ
ยุซึตามะราเมง (
柚子玉ラーメン) เป็นราเมงที่ปรุงด้วยยุซึ (พืชตระกูลส้ม) ราคา ๙๖๐ เยน อร่อยมาก ไม่ผิดหวังที่อุตส่าห์มาถึงนี่

แล้วก็นั่งรถไฟฟ้าย้อนมาแถวย่านเทนจิง มานั่งในร้านกาแฟโดโตร์ รอจนถึงช่วงเย็นซึ่งได้นัดเจอเพื่อนร่วมงานกินด้วยกันด้วยสถานีฮากาตะ เป็นงานเลี้ยงอำลา

เมื่อใกล้ถึงเวลานัดก็เดินออกจากย่านเทนจิงไปยังแถวสถานีฮากาตะ ข้าม
สะพานนิชินากาชิมะ (
西中島橋) ไปยังย่าน
นากาสึ (
中洲) ที่เป็นเกาะกลางแม่น้ำ

แล้วก็ข้าม
สะพานฮิงาชินากาชิมะ (
東中島橋) เพื่อออกจากนากาสึ ข้ามไปยังย่านเมืองเก่าฮากาตะ

แล้วก็เดินไปทางตะวันออกมุ่งสู่สถานีฮากาตะ ระหว่างทางก็ผ่านพวกย่านท่องเที่ยวสำคัญ เช่น
ศาลเจ้าคุชิดะ (
櫛田神社)

แล้วก็ย่านร้านค้าคาวาบาตะ

ไปตามถนนใหญ่เรื่อยๆก็ถึงสถานีฮากาตะ


ก่อนนั้นไม่นานร้านโปเกมอนเซนเตอร์ได้เปิดทำการใหม่ที่ห้างคิตเตะฮากาตะข้างสถานีฮากาตะ ก็เลยแวะไปเดินฆ่าเวลา เพราะว่ามาก่อนเวลานัด

แล้วก็ไปยังร้านที่นัดไว้ ชื่อว่าร้าน
ฮากาตะโรบะโนงามิ (
博多炉端野が
海) อยู่ทางฝั่งตะวันออกของสถานีฮากาตะ

อาหารที่ได้กินในร้านนี้คืนนี้ก็ถ่ายรูปเก็บไว้หมด










จากนั้นวันต่อมาพุธที่ 20 สิงหาคม ในที่สุดก็เป็นวันสุดท้ายในฟุกุโอกะแล้ว วันนี้เริ่มต้นด้วยการขนเอาส้มภาระไปยังที่ว่าการไปรษณีย์ เพื่อให้เขาช่วยส่งไปยังที่ใหม่ให้ โดยส่งเช้าวันนี้แล้วของก็ขึ้นเครื่องบินไป ไปถึงตอนช่วงกลางคืนวันถัดไปได้เลย

ส่งสัมภาระเสร็จแล้วก็แวะไปหาอะไรกินใกล้ๆ ก็เลือกไปแถวย่าน
ทากาซาโงะ (
高砂) ตรงนั้นมีร้าน
ฮากาตะทงกตสึราเมงบุตโตบิ (
博多豚骨ラーメンぶっとび) ก็เป็นร้านราเมงเล็กๆที่เพิ่งเปิดไม่นานเอง ร้านก็เล็กและมีที่นั่งเคาน์เตอร์ไม่กี่ที่ ตอนช่วงเที่ยงที่คนแน่นเคยมาแล้วเห็นต่อคิวรออยู่

ราเมงร้านนี้ก็เป็นซุปกระดูกหมูแบบที่นิยมในฟุกุโอกะ อันนี้สั่งแบบใส่ไข่และสาหร่ายด้วย ราคา ๙๓๐ เยน

มีให้เติมขิงดองเบนิโชวงะกับเมล็ดงาด้วย ยิ่งอร่อย

จากนั้นก็เดินกลับ ระหว่างทางผ่านตรงย่าน
นะโนะคาวะ (
那の
川) เห็นร้าน
ฮากาตะราตัมเมงมารุตัง (
博多拉担麺まるたん) ซึ่งเป็นร้านโปรดกำลังปิดปรับปรุงอยู่ กว่าจะเปิดอีกทีก็เดือนกันยายนซึ่งเราไม่อยู่แล้ว แต่ว่าร้านนี้มีอีกสาขาอยู่ที่สถานีคาชี (เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20250406) ก็เลยแวะไปกินสาขานั้นมาแล้ว อร่อยมากเหมือนกัน พอคิดว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสได้กินแล้วก็รู้สึกเสียดาย

ข้างๆนั้นเป็นร้าน
อิจิรัง (
一蘭) หรือที่เป็นที่รู้จักกันในไทยในชื่อว่าราเมงข้อสอบ เป็นร้านฮากาตะราเมงที่มีหลายสาขาในทั่วญี่ปุ่นและหลายประเทศ แต่ที่นี่เป็นสาขาแรกดั้งเดิม ตั้งอยู่ตรงนี้ เปิด ๒๔ ชั่วโมง ปกติเวลาเดินผ่านจะเห็นคนมายืนรอคิวอยู่หน้าร้านไม่ขาดสาย แต่วันนี้มาเร็วเลยดูจะยังเงียบอยู่

แล้วก็กลับมาถึงที่ห้อง เจอกับคนของบริษัท J:COM ซึ่งเราใช้บริการอินเทอร์เน็ต เขามาถอดเครื่องส่งสัญญาณ wifi ที่ติดตั้งไว้คืนก่อนที่เราจะย้ายออก

จากนั้นก็เรื่อยเปื่อยอยู่ภายในห้องที่ว่างเปล่าเพราะเก็บของออกไปหมดแล้วเหลือแต่สัมภาระที่จะติดตัวไป รอจนถึงเวลาหกโมงเย็นก็มีคนมาตรวจห้องเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อดูว่ามีอะไรเสียหายต้องชดใช้หรือไม่และไม่ลืมอะไรมั้ย แล้วก็รับกุญแจคืนไป ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วเราก็ออกจากห้อง ได้เวลาลาจากที่นี่แล้ว ก่อนจากก็ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มองจากชั้น ๘ อาคารที่อยู่เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นก็คงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว

หลังจากคืนห้องเสร็จก็ลาจากมา แล้วก็มาหาอะไรกินเป็นมื้อเย็น โดยนี่เป็นมื้อสุดท้ายในฟุกุโอกะแล้ว ตัดสินใจไปกินแถว
สถานีรปปมมัตสึ (
六本松駅) ในย่านรปปมมัตสึที่อยู่ค่อนไปทางตะวันตกของเขตจูโอว

ร้านที่เลือกกินเป็นมื้อสุดท้ายนี้คือร้าน
ฮากาตะจัมปงเอย์โตะ (
博多ちゃんぽんえいと)


ที่นี่เป็นร้านจัมปง และก็มีซาระอุดงด้วย ที่เลือกมากินซาระอุดง (
皿うどん) ในมื้อสุดท้ายนี้ก็เพราะว่าซาระอุดงเป็นของท้องถิ่นที่พบในคิวชูเป็นหลัก พอออกจากที่นี่ไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กินอีกเมื่อไหร่แล้ว

กินเสร็จก็นั่งรถเมล์ไปยังสถานีฮากาตะ ที่จริงนั่งรถไฟใต้ดินก็ได้ เร็วกว่าด้วย แต่ก็อยากชมทิวทัศน์ในเมืองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจาก ก็เลยเลือกรถเมล์

แล้วก็มาถึงสถานีฮากาตะ ยังเหลือเวลาอีกเหลือเฟือก่อนจะถึงเวลารถบัสออก ก็มานั่งเรื่อยเปื่อยหน้าสถานีฮากาตะ นั่งศึกษาเรื่อง AI สร้างภาพไป ตอนนั้น Qwen-Image-Edit กำลังเป็นประแสดัง ก็เลยนั่งอ่านบทความสอนการใช้ แล้วก็ลองเอามาใช้ดูบ้าง ถือว่าดีทีเดียว

แล้วก็เข้ามาเดินในสถานีฮากาตะ ช่วงนี้ในนี้กำลังมีกิจกรรมความร่วมมือกับเกม Fate/Grand Order อยู่เลยเห็นวิดีโอที่ใช้ตัวละครจากเกมนี้มาแนะนำสนับสนุนการท่องเที่ยวในคิวชูและโอกินาวะ

สัก 21:20 ก็ไปยังท่ารถบัสซึ่งอยู่ทางใต้ของสถานี เดินไปนิดหน่อย

ที่นี่ให้บริการรถบัสกลางคืน มีเป้าหมายเป็นที่ต่างๆมากมาย โดยส่วนใหญ่เป็นแถวภูมิภาคคันไซ และมีนาโงยะด้วย ส่วนที่เราจะขึ้นนั้นเป็นรอบ 22:45 ซึ่งแวะจอด ๓ ที่คือที่โควเบะ โอซากะ และสุดท้ายคือที่เกียวโต

ภายในอาคารรอรถบัสนั้นชั้นล่างก็มีที่นั่งรอ แต่ว่าแอร์ไม่ค่อยดีเลยยังร้อนอยู่ เลยลองขึ้นไปชั้นบน

ซึ่งชั้นบนเป็นร้านกาแฟ แอร์เย็นดีด้วย

มีที่นั่งอย่างดี มีที่ให้ชาร์จไฟได้ด้วย แต่ว่าจะมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อซื้อเครื่องดื่มหรืออาหารจากร้านเท่านั้น ก็เลยมานั่งนี่ไม่ได้

จากตรงชั้น ๒ นี้เดินออกไปยังระเบียงก็มองไปเห็นรางรถไฟยกระดับ

เดินข้ามมายังอาคารข้างๆแล้วมองย้อนกลับไปก็เห็นส่วนอาคารรอขึ้นรถบัส เห็นรถบัสมาจอดรับคนขึ้นไปพอดี เดี๋ยวเราก็ต้องไปขึ้นรถบัสแบบนี้เหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่รอบนี้

เดินต่อไปหน่อยก็เจอทางเชื่อมไปถึงอาคารห้างคิตเตะฮากาตะ ซึ่งสามารถเดินเชื่อมไปถึงสถานีฮากาตะได้เลย

เดินเล่นเสร็จไม่มีอะไรแล้วเราก็กลับมานั่งรอที่ห้องรอขึ้นรถบัสชั้นล่างจนถึงเวลา 22:30 เขาก็เรียกไปขึ้นรถ

เอากระเป๋าสัมภาระที่พกติดตัวไปฝากไว้ที่ห้องเก็บัสัมภาระชั้นล่างแล้วก็ขึ้นรถไป

ได้ที่นั่ง 4B แถวที่ ๔ ติดริมทางเดิน ภายในรถหน้าต่างปิดม่านมิดชิดไม่ให้แสงสว่างจากภายนอกเข้า และทำให้ไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อะไรข้างนอกได้เลยด้วย เอาไว้สำหรับให้นอนหลับไปตลอดทาง รู้สึกตัวอีกทีก็ถึงปลายทางแล้ว

พอถึงเวลา 22:45 รถก็ออกเดินทางจากฟุกุโอกะไป ชีวิตในฟุกุโอกะของเราก็เป็นอันจบลงเท่านี้แล้ว ได้เวลาไปพยายามต่อในที่แห่งใหม่
สำหรับบันทึกต่อจากนี้ไปจนถึงเดินทางถึงที่ใหม่จะเล่าในตอนต่อไป