caligula overdose ตอนที่ ๙: ลุยสวนสนุกซีพาราอีโซ
เขียนเมื่อ 2020/07/22 11:49
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
>> ตอนที่แล้ว
ผจญภัยในทวีปมู
หลังจากที่จบการซุ่มโจมตีที่อนเซงแล้ว สุดท้ายชมรมกลับบ้านก็ตัดสินใจกลับมาตั้งเป้าหมายที่ซีพาราอีโซอีก แม้ว่าโคโตโนะจะดูเหมือนไม่ค่อยอยากไปจึงปฏิเสธมาตั้งแต่ตอนแรกก็ตาม
เมื่อมาถึงทุกคนก็ดูสนุกสนานกันจนเกือบลืมว่าเราไม่ได้มาเพื่อเล่น ส่วนโคโตโนะดูเหมือนจะรู้เกี่ยวกับที่นี่ดีมากจนน่าแปลกใจเหมือนกับว่าเคยมาบ่อยๆ
แล้วก็พบข่าวว่ามิวกำลังจะจัดคอนเสิร์ตที่นั่นพอดี แต่ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมในธีมพาร์กแล้วผ่านด่านให้ได้ก่อนจึงจะร่วมงานได้
โดยคนจัดคือนักดนตรีออสตินาโตชื่อคุจินาชิ (梔子) เคนสึเกะบอกว่าเท่าที่เขารู้จักนั้นคุจินาชิเป็นผู้หญิงที่ดูเงียบขรึมพูดน้อย
คำว่า "คุจินาชิ" เป็นชื่อดอกไม้หมายถึง "ดอกพุดซ้อน"
ทุกคนจึงตัดสินใจไปเข้าร่วมกิจกรรมในธีมพาร์กของคุจินาชิกัน
เมื่อมาถึงบริเวณธีมพาร์ก บริเวณนี้ถูกออกแบบโดยจินตนาการเหมือนทวีปมู ซึ่งเป็นทวีปในจินตนาการที่คนในอดีตเชื่อว่าเคยมีตัวตนอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
เพลงที่เปิดที่นี่คือเพลง อมโบโระ (おんぼろ) เป็นเพลงของคุจินาชิ เนื้อเพลงดูเป็นการบ่นถึงชีวิตที่แสนทรหด แม้โดนแย่งชิงจนสูญเสียทุกอย่างไปก็ต้องสู้ทนต่อไป
♫ ฟังเพลงนี้ใน youtube
เมื่อเริ่มกิจกรรมก็มีเสียงดังขึ้นว่าทวีปมูกำลังจะจมลงในไม่ช้า โดยสมมุติว่าเราเป็นคนที่อยู่ในทวีปมูที่กำลังจะจม ให้รีบหาทางออกจากที่นี่ให้ทันเวลา
แล้วการผจญภัยในทวีปมูจึงเริ่มต้นขึ้น
ภายในนี้ก็มีดิจิเฮดอยู่ตามทางด้วย
เมื่อเดินลึกเข้ามาก็พบแท่นหินที่มีคำถามอยู่ พอทุกคนเห็นคำถามต่างก็บอกว่าง่ายจนมีแต่เด็กประถมเท่านั้นที่จะตอบผิด
แต่โคตาโรวก็ขอเป็นคนตอบ ทุกคนก็ทำท่าไม่ไว้ใจ แต่ก็ขัดไม่ทัน สุดท้ายก็ตอบผิดได้อย่างหน้าตาเฉย
แล้วก็ร่วงลงมาข้างล่าง ซึ่งก็กลับมายังจุดเริ่มต้น ทำให้ต้องรีบวิ่งกลับไปยังแท่นหินที่ตอบคำถามใหม่อีกรอบ
หลังจากนั้นก็เดินจนกลับมาถึงที่เดิมใหม่ คราวนี้ตอบถูกจึงไปต่อได้
จากนั้นเมื่อเข้าไปต่อจู่ๆระหว่างทางก็เจอพวกดิจิเฮดล้อม
พอเอย์จิโดนดิจิเฮดโจมตีใส่เขาก็กลับโมโหแล้วคาธาร์สิสก็ตื่นขึ้นมา ทำให้ปล่อยไฟโจมตีใส่ดิจิเฮด
หลังจากเริ่มใช้พลังได้เขาก็ดีใจแล้วอาละวาดใหญ่ ทุกคนเห็นแล้วรู้สึกกลัวแต่ก็ดีใจที่ได้พวกพ้องที่เก่งๆมาร่วมสู้อีกคน
เมื่อจัดการดิจิเฮดที่ขวางไว้ได้หมดก็มุ่งหน้าไปต่อ
จนเจอแผ่นหินคำถามอันต่อไป โคตาโรพยายามจะเข้าไปตอบ แต่ก็ถูกห้ามไว้ทันทีแล้วให้เราเป็นคนตอบ จึงตอบถูกแล้วไปต่อได้
แล้วก็ลุยต่อไปเรื่อยๆตามทาง
เจอแผ่นหินคำถามต่อไปคราวนี้พอเราทำท่าจะเลือกคำตอบที่ผิด เอย์จิก็รีบมาห้ามไว้แล้วแย่งตอบแทน เหมือนเขาจะรู้คำตอบดี
เมื่อตอบได้ก็ผ่านมาเจอคำถามต่อไปอีกเรื่อยๆก็ยังคงตอบถูกแล้วผ่านมาได้
สำนึกในบาปที่ทำไว้หรือไม่
แล้วก็ผ่านมาถึงคำถามสุดท้าย เป็นคำถามสั้นๆว่ารู้สึกผิดในบาปที่ทำหรือไม่ ให้ตอบ YES/NO
แต่ละคนก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เพราะคำถามนี้มันแล้วแต่คน แต่ส่วนใหญ่ก็ตอบ YES แต่เอย์จิกลับตอบ NO
จากนั้นพอเลือกตอบไปก็กลับมีกรงร่วงลงมาขัง ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงดังขึ้นโดยมีพูดชื่อเอย์จิ บอกว่าในเมื่อตอบแบบนี้แล้วยิ่งจะปล่อยให้กลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้เด็ดขาด
พอถามเอย์จิว่ารู้จักเจ้าของเสียงนี้หรือเขาก็กลับบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน
หลังจากนั้นคอนเสิร์ตมิวก็เริ่มขึ้น เสียงได้ยินเข้ามาถึงข้างใน จากนั้นเอย์จิก็กลับเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดจะทำลายกรงออกไปให้ได้ แต่เปล่าประโยชน์
สักพักเขาก็สงบสติอารมณ์ลงแล้วเล่าให้ฟังว่าในอดีตเขาเคยโดนโจรที่ชื่อทาโดโกโระ (田所) ลักพาตัวไปจับขังไว้ในห้องแคบๆ สุดท้ายก็รอดมาได้แต่หลังจากโดนขังถึง ๓ วัน ตั้งแต่นั้นมาเลยแพ้การอยู่ในที่แคบๆ
ทุกคนฟังเรื่องราวแล้วก็ดูจะเห็นใจเอย์จิ แต่นารุโกะกลับทำท่าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แล้วเริ่มค้นอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ
หลังจากนั้นก็รอจนคอนเสิร์ตของมิวจบลง เสร็จแล้วมิวก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับผู้หญิงอีกคน เธอก็คือคุจินาชิ นักดนตรีออสตินาโตที่เป็นผู้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นนั่นเอง
คุจินาชิ
ยังไงก็จะไม่ปล่อยให้กลับบ้าน
แล้วทั้ง ๒ คนก็เฝ้าดูพวกเราอยู่จากนอกกรง
สักพักมิวก็แอบส่องดูในจิตใจของเอย์จิ เพราะคุจินาชิต้องการให้ช่วยยืนยันค้นหาความจริงบางอย่าง แล้วก็พูดว่าเป็นไปตามที่คุจินาชิคิดเลย คนคนนี้เคยก่อกรรมอะไรเอาไว้มาก่อนมองออกหมดแล้ว และรู้ว่าต้องการจะกลับไปยังโลกความเป็นจริงเพื่อรีบเก็บกวาดสิ่งที่ตัวเองทำไว้ ดังนั้นยังไงก็จะปล่อยให้เขารอดออกไปไม่ได้เด็ดขาด
เอย์จิได้ยินก็เริ่มคลุ้มคลั่งอาละวาดจนไฟลุกขึ้นมา
แล้วคุจินาชิก็กลับทำท่าทรมานเหมือนมีอาการแพ้ควันไฟ มิวเห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้หยุดไฟแล้วอย่าทำร้ายคุจินาชิอีก เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ปล่อยออกจากกรงให้
แต่พอปล่อยออกมาได้เอย์จิกลับอาละวาดแล้วเข้าโจมตีใส่คุจินาชิ
แต่โคตาโรวก็มาห้ามเอาไว้เพราะเห็นว่าทำเกินไปแล้ว
หลังจากนั้นจึงต้องมาสู้กับคุจินาชิ
หลังสู้จบเอย์จิก็ยังไม่หยุดอาละวาด พยายามจะเข้าทำร้ายคุจินาชิอีก
แต่คราวนี้อายานะมาห้ามไว้เพราะทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงถูกทำร้าย ทำให้คุจินาชิหนีไปได้
หลัวจากนั้นเอย์จิกับอายานะก็ทะเลาะกันไม่หยุด จนเราต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อห้าม ทั้งสองจึงสงบลงได้
แล้วเอย์จิก็ยอมหยุดฟัง แต่ยังคงยืนกรานว่าเพื่อที่จะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วยังไงถ้าไม่คิดจะทำลายเมอบิอุสทิ้งก็ยังอาจจะต้องทำลายมิวทิ้งอยู่ดี
หลังจากนั้นก็ออกมาข้างนอก บรรยากาศยังคงดูอึมครึมไปอีกสักพัก จนเอย์จิยอมขอโทษอายานะแล้วบรรยากาศจึงฟื้นคืนกลับมาได้
>> ตอนถัดไป
ผจญภัยในทวีปมู
หลังจากที่จบการซุ่มโจมตีที่อนเซงแล้ว สุดท้ายชมรมกลับบ้านก็ตัดสินใจกลับมาตั้งเป้าหมายที่ซีพาราอีโซอีก แม้ว่าโคโตโนะจะดูเหมือนไม่ค่อยอยากไปจึงปฏิเสธมาตั้งแต่ตอนแรกก็ตาม
เมื่อมาถึงทุกคนก็ดูสนุกสนานกันจนเกือบลืมว่าเราไม่ได้มาเพื่อเล่น ส่วนโคโตโนะดูเหมือนจะรู้เกี่ยวกับที่นี่ดีมากจนน่าแปลกใจเหมือนกับว่าเคยมาบ่อยๆ
แล้วก็พบข่าวว่ามิวกำลังจะจัดคอนเสิร์ตที่นั่นพอดี แต่ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมในธีมพาร์กแล้วผ่านด่านให้ได้ก่อนจึงจะร่วมงานได้
โดยคนจัดคือนักดนตรีออสตินาโตชื่อคุจินาชิ (梔子) เคนสึเกะบอกว่าเท่าที่เขารู้จักนั้นคุจินาชิเป็นผู้หญิงที่ดูเงียบขรึมพูดน้อย
คำว่า "คุจินาชิ" เป็นชื่อดอกไม้หมายถึง "ดอกพุดซ้อน"
ทุกคนจึงตัดสินใจไปเข้าร่วมกิจกรรมในธีมพาร์กของคุจินาชิกัน
เมื่อมาถึงบริเวณธีมพาร์ก บริเวณนี้ถูกออกแบบโดยจินตนาการเหมือนทวีปมู ซึ่งเป็นทวีปในจินตนาการที่คนในอดีตเชื่อว่าเคยมีตัวตนอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
เพลงที่เปิดที่นี่คือเพลง อมโบโระ (おんぼろ) เป็นเพลงของคุจินาชิ เนื้อเพลงดูเป็นการบ่นถึงชีวิตที่แสนทรหด แม้โดนแย่งชิงจนสูญเสียทุกอย่างไปก็ต้องสู้ทนต่อไป
♫ ฟังเพลงนี้ใน youtube
เมื่อเริ่มกิจกรรมก็มีเสียงดังขึ้นว่าทวีปมูกำลังจะจมลงในไม่ช้า โดยสมมุติว่าเราเป็นคนที่อยู่ในทวีปมูที่กำลังจะจม ให้รีบหาทางออกจากที่นี่ให้ทันเวลา
แล้วการผจญภัยในทวีปมูจึงเริ่มต้นขึ้น
ภายในนี้ก็มีดิจิเฮดอยู่ตามทางด้วย
เมื่อเดินลึกเข้ามาก็พบแท่นหินที่มีคำถามอยู่ พอทุกคนเห็นคำถามต่างก็บอกว่าง่ายจนมีแต่เด็กประถมเท่านั้นที่จะตอบผิด
แต่โคตาโรวก็ขอเป็นคนตอบ ทุกคนก็ทำท่าไม่ไว้ใจ แต่ก็ขัดไม่ทัน สุดท้ายก็ตอบผิดได้อย่างหน้าตาเฉย
แล้วก็ร่วงลงมาข้างล่าง ซึ่งก็กลับมายังจุดเริ่มต้น ทำให้ต้องรีบวิ่งกลับไปยังแท่นหินที่ตอบคำถามใหม่อีกรอบ
หลังจากนั้นก็เดินจนกลับมาถึงที่เดิมใหม่ คราวนี้ตอบถูกจึงไปต่อได้
จากนั้นเมื่อเข้าไปต่อจู่ๆระหว่างทางก็เจอพวกดิจิเฮดล้อม
พอเอย์จิโดนดิจิเฮดโจมตีใส่เขาก็กลับโมโหแล้วคาธาร์สิสก็ตื่นขึ้นมา ทำให้ปล่อยไฟโจมตีใส่ดิจิเฮด
หลังจากเริ่มใช้พลังได้เขาก็ดีใจแล้วอาละวาดใหญ่ ทุกคนเห็นแล้วรู้สึกกลัวแต่ก็ดีใจที่ได้พวกพ้องที่เก่งๆมาร่วมสู้อีกคน
เมื่อจัดการดิจิเฮดที่ขวางไว้ได้หมดก็มุ่งหน้าไปต่อ
จนเจอแผ่นหินคำถามอันต่อไป โคตาโรพยายามจะเข้าไปตอบ แต่ก็ถูกห้ามไว้ทันทีแล้วให้เราเป็นคนตอบ จึงตอบถูกแล้วไปต่อได้
แล้วก็ลุยต่อไปเรื่อยๆตามทาง
เจอแผ่นหินคำถามต่อไปคราวนี้พอเราทำท่าจะเลือกคำตอบที่ผิด เอย์จิก็รีบมาห้ามไว้แล้วแย่งตอบแทน เหมือนเขาจะรู้คำตอบดี
เมื่อตอบได้ก็ผ่านมาเจอคำถามต่อไปอีกเรื่อยๆก็ยังคงตอบถูกแล้วผ่านมาได้
สำนึกในบาปที่ทำไว้หรือไม่
แล้วก็ผ่านมาถึงคำถามสุดท้าย เป็นคำถามสั้นๆว่ารู้สึกผิดในบาปที่ทำหรือไม่ ให้ตอบ YES/NO
แต่ละคนก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เพราะคำถามนี้มันแล้วแต่คน แต่ส่วนใหญ่ก็ตอบ YES แต่เอย์จิกลับตอบ NO
จากนั้นพอเลือกตอบไปก็กลับมีกรงร่วงลงมาขัง ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงดังขึ้นโดยมีพูดชื่อเอย์จิ บอกว่าในเมื่อตอบแบบนี้แล้วยิ่งจะปล่อยให้กลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้เด็ดขาด
พอถามเอย์จิว่ารู้จักเจ้าของเสียงนี้หรือเขาก็กลับบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน
หลังจากนั้นคอนเสิร์ตมิวก็เริ่มขึ้น เสียงได้ยินเข้ามาถึงข้างใน จากนั้นเอย์จิก็กลับเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดจะทำลายกรงออกไปให้ได้ แต่เปล่าประโยชน์
สักพักเขาก็สงบสติอารมณ์ลงแล้วเล่าให้ฟังว่าในอดีตเขาเคยโดนโจรที่ชื่อทาโดโกโระ (田所) ลักพาตัวไปจับขังไว้ในห้องแคบๆ สุดท้ายก็รอดมาได้แต่หลังจากโดนขังถึง ๓ วัน ตั้งแต่นั้นมาเลยแพ้การอยู่ในที่แคบๆ
ทุกคนฟังเรื่องราวแล้วก็ดูจะเห็นใจเอย์จิ แต่นารุโกะกลับทำท่าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แล้วเริ่มค้นอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ
หลังจากนั้นก็รอจนคอนเสิร์ตของมิวจบลง เสร็จแล้วมิวก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับผู้หญิงอีกคน เธอก็คือคุจินาชิ นักดนตรีออสตินาโตที่เป็นผู้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นนั่นเอง
คุจินาชิ
ยังไงก็จะไม่ปล่อยให้กลับบ้าน
แล้วทั้ง ๒ คนก็เฝ้าดูพวกเราอยู่จากนอกกรง
สักพักมิวก็แอบส่องดูในจิตใจของเอย์จิ เพราะคุจินาชิต้องการให้ช่วยยืนยันค้นหาความจริงบางอย่าง แล้วก็พูดว่าเป็นไปตามที่คุจินาชิคิดเลย คนคนนี้เคยก่อกรรมอะไรเอาไว้มาก่อนมองออกหมดแล้ว และรู้ว่าต้องการจะกลับไปยังโลกความเป็นจริงเพื่อรีบเก็บกวาดสิ่งที่ตัวเองทำไว้ ดังนั้นยังไงก็จะปล่อยให้เขารอดออกไปไม่ได้เด็ดขาด
เอย์จิได้ยินก็เริ่มคลุ้มคลั่งอาละวาดจนไฟลุกขึ้นมา
แล้วคุจินาชิก็กลับทำท่าทรมานเหมือนมีอาการแพ้ควันไฟ มิวเห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้หยุดไฟแล้วอย่าทำร้ายคุจินาชิอีก เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ปล่อยออกจากกรงให้
แต่พอปล่อยออกมาได้เอย์จิกลับอาละวาดแล้วเข้าโจมตีใส่คุจินาชิ
แต่โคตาโรวก็มาห้ามเอาไว้เพราะเห็นว่าทำเกินไปแล้ว
หลังจากนั้นจึงต้องมาสู้กับคุจินาชิ
หลังสู้จบเอย์จิก็ยังไม่หยุดอาละวาด พยายามจะเข้าทำร้ายคุจินาชิอีก
แต่คราวนี้อายานะมาห้ามไว้เพราะทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงถูกทำร้าย ทำให้คุจินาชิหนีไปได้
หลัวจากนั้นเอย์จิกับอายานะก็ทะเลาะกันไม่หยุด จนเราต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อห้าม ทั้งสองจึงสงบลงได้
แล้วเอย์จิก็ยอมหยุดฟัง แต่ยังคงยืนกรานว่าเพื่อที่จะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วยังไงถ้าไม่คิดจะทำลายเมอบิอุสทิ้งก็ยังอาจจะต้องทำลายมิวทิ้งอยู่ดี
หลังจากนั้นก็ออกมาข้างนอก บรรยากาศยังคงดูอึมครึมไปอีกสักพัก จนเอย์จิยอมขอโทษอายานะแล้วบรรยากาศจึงฟื้นคืนกลับมาได้
>> ตอนถัดไป