φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



อี้อู ตลาดขายส่งขนาดใหญ่ในเมืองเล็ก
เขียนเมื่อ 2012/08/25 19:37
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42


#อังคาร 7 ก.พ. 2012

เราได้มาพักอยู่ในเมืองหางโจวตั้งแต่ช่วงวันที่ 10 มกราคม ภึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ระหว่างนั้นก็ได้เที่ยวมากมาย ทั้งในหางโจวและเมืองรอบๆ

เดิมทีวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. แล้ว แต่พอรู้ว่าวันที่ 7 พวกเพื่อนๆและรุ่นพี่ใน ม. เจ้อเจียง เขาจะพากันไปเที่ยวอี้อู (义乌) กัน ทำให้เราตัดสินใจอยู่ต่อเพิ่มอีกวันเพื่อจะได้ไปด้วย ซึ่งวันที่ 7 ทั้งวันก็ไปเที่ยวอี้อูแล้วก็กลับมาหางโจวอีกทีตอนเย็น จากนั้นไม่ช้าก็รีบเดินทางลาจากหางโจวในคืนวันนั้นเลย

ดังนั้นอี้อูนี้คือสถานที่สุดท้ายในบันทึกการท่องเที่ยวตะลุยมณฑลเจ้อเจียงที่เขียนมาอย่างยืดยาวนี้แล้ว ในที่สุดก็ได้เขียนถึงหน้าสุดท้ายสักที



อี้อู เป็นเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง เป็นเมืองในจังหวัดจินหัว (金华) แต่ว่ากลับดังกว่าตัวเมืองจีนหัวเองซะอีก (เมืองจีนหัวเราก็มีไปเที่ยวมา อ่านได้ที่ https://phyblas.hinaboshi.com/20120123)

ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหางโจว นั่งรถไฟหัวจรวดเพียงชั่วโมงกว่าก็ไปถึงแล้ว อยู่ระหว่างทางก่อนที่จะถึงตัวเมืองจินหัว แต่สถานีรถไฟของอี้อูนั้นอยู่ห่างจากใจกลางเมืองพอสมควร แต่ก็มีรถเมล์นั่งเข้าสู่กลางเมือง ไม่ลำบากนัก

แม้จะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ว่ากลับมีความสำคัญมาก เพราะที่นี่ได้รับการจัดให้เป็นตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก แทบจะเรียกได้ว่าทั้งตัวเมืองเป็นตลาดแห่งหนึ่ง

เมืองนี้เดิมทีมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน แต่ก็ไม่ใช่เมืองที่โดดเด่นอะไร เมืองอี้อูเพิ่งจะมามีชื่อเสียงโด่งดังมีความสำคัญอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้

ที่นี่มีสินค้าต่างๆเยอะแยะมากมายซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาถูกมาก เพียงแต่ว่าการจะซื้อของที่นี่ทีจะต้องซื้อทีละจำนวนมากๆแบบขายส่ง ถ้าซื้อทีละชิ้นสองชิ้นเขาจะไม่ให้ หรือแม้จะขายให้ก็จะไม่ใช่ถูกๆเลย เพราะเป้าหมายหลักของตลาดที่นี่คือขายส่ง

ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยอาคารห้างใหญ่มากมายซึ่งทันสมัยจนไม่คิดเลยว่าที่นี่เป็นเพียงแค่เมืองเล็กๆ ร้านค้าแบ่งเป็นส่วนต่างๆแยกตามประเภทของสินค้าที่ต้องการซื้อด้วย

เมืองนี้มีชาวต่างชาติอยู่ไม่น้อยเพราะเป็นเมืองการค้า มีคนมาลงทุนทำธุรกิจเยอะ แต่สภาพในเมืองดูแล้วค่อนข้างวุ่นวายใช่เล่น ไม่ใช่เมืองที่ดูสวยงามนัก



การไปครั้งนี้สำหรับเรานั้นเพียงแค่จะไปเดินเล่นดูบรรยากาศเท่านั้น ส่วนเพื่อนบางคนไปเพราะจะหาช่องทางทำการค้า เผื่อจะทำนำเข้าไปที่ไทย และก็มีพี่ที่ไปเพื่อซื้อของกินจำนวนมาก

ที่นี่หากเดินจริงๆจังๆละก็ ทั้งวันก็ไม่หมด เพราะใหญ่มากเหลือเกิน และตลาดแต่ละแห่งก็ไม่ใช่ว่าเดินถึงกันได้ง่าย ต้องนั่งรถเมล์เอา



เรานั่งรถไฟออกกันตั้งแต่เช้า ถึงอี้อู ๙ โมงกว่า จากนั้นก็นั่งรถเมล์ เนื่องจากสถานีรถไฟห่างไกลจากตัวเมืองเลยใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงตัวย่านร้านค้า



นั่งตั้งแต่ต้นสายคนกำลังว่างๆ



เรานั่งรถเมล์ไปสุดสายเลย ถึง ศูนย์การค้าระหว่างประเทศอี้อู (义乌国际商贸城, อี้อูกั๋วจี้ซางเม่าเฉิง) ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารใหญ่ๆหลายอาคารมาก แบ่งเป็นเขตต่างๆ ที่พวกเรามาถึงกันก่อนนี้คือเขต ๓



ด้านนอกอาคารจะมีป้ายติดเอาไว้ว่ามีขายอะไรที่ชั้นไหนบ้าง



ภายในอาคารแห่งหนึ่งซึ่งเราเข้าไปเป็นที่แรก อาคารนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างใหม่ สังเกตได้ว่าเงียบเหงามาก ร้านเปิดไม่มาก









มองแบบนี้ก็คล้่ายพวกร้านขายของเบ็ดเตล็ดธรรมดา เพียงแต่ต่างกันตรงที่เขาไม่ขายทีละชิ้นแต่ต้องซื้อทีละมากๆ




เสร็จแล้วก็ออกมาเดินต่อ เราเดินดูในตึกข้างๆแต่ทั้งหมดนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในเขต ๓ ทั้งนั้น





อาคารนี้ขายพวกอุปกรณ์ทานอาหารโดยเฉพาะ



แล้วเราก็มาถึงเขต ๒ ตึกนี้เราได้เข้าไปเดินกันนานหน่อย



รายการของที่ขายในแต่ละชั้น สำหรับชั้นแรกจะเป็นขายพวกกระเป๋า



เราเดินชั้นแรกกัน









ฝรั่งกำลังเลือกกระเป๋าอยู่



ไม่นานก็เที่ยง เราก็ออกไปทาน KFC กัน



ร้านขายพรม



ต่อไปเราก็มาเดินดูบริเวณที่มีพวกอุปกรณ์ตกแต่ง ของประดับต่างๆ







พวกเครื่องแก้วสวยงาม








รูปปั้น



ไม้กางเขน



นาฬิกา



ภาพวาด




แมวนางกวัก





จากนั้นเราก็ออกมาขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังที่ตลาดอีกแห่งหนึ่งที่ไกลออกไป เนื่องจากตลาดที่เราดูมาแต่ต้นนั้นเป็นขายของพวกเบ็ดเตล็ดแต่ไม่มีของกิน คราวนี้เราจะมาเดินซื้อของกินกัน จึงมาที่ ศูนย์การค้าเกษตรระหว่างประเทศอี้อู (义乌农贸城)

ภายในเต็มไปด้วยของกินขายเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ก็เป็นโหลๆ แต่ที่ขายเดี่ยวๆก็มี











เป้าหมายของเราคือไอ้นี่ ป๊อกกี้ ซื้อเป็นโหล



แบกกลับไปสองลังแบบนี้แหละ รวมแล้ว ๗๒ กล่อง พอซื้อเยอะก็จะถูกมากเลย



แล้วเราก็จบแค่นี้เพราะพอซื้อป๊อกกี้โหลใหญ่นี่แล้วก็เดินไปไหนต่อไม่ไหวแล้ว



อีกสิ่งหนึ่งที่น่าพูดถึงเกี่ยวกับเมืองนี้ก็คือพฤติกรรมการจอดรถของผู้คน มีพวกทำอะไรแหวกแนวแบบไม่สนใจใครอยู่เยอะ

ลองสังเกตรถคันนี้ เขามีเลนให้จอดดีๆ แต่ไม่จอด เล่นจอดแบบหัวทิ่มเข้าทางเท้าแบบนี้



แล้วอย่างรถคันนี้ จอดรถซะลึกจนจมเข้าไปในทางเท้าเลย



ส่วนตรงนี้เขาพร้อมใจกันจอดฝังทางเท้าแบบนี้ทั้งสองคัน



เป็นอะไรที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ดูเหมือนนี่จะเป็นวิถีชีวิตในแบบของชาวอี้อู... หวังว่าที่เมืองอื่นคงไม่เจอแบบนี้อีก



หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับสถานีรถไฟเพื่อกลับหางโจว แล้วเราก็เตรียมรอเพื่อขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปเมืองเหอเฝย์ต่อไปดังที่เล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20120714




-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศจีน >> จีนแผ่นดินใหญ่ >> เจ้อเจียง

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ