φυβλαςのβλογ
phyblas的博客

#อาทิตย์ 4 พ.ค. 2014

หลังจากที่ไปเปลี่ยนรถที่เมืองแฮสเลโฮล์ม (Hässleholm) มา https://phyblas.hinaboshi.com/20140528

เราก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟเมืองเฮลซิงบอรี (Helsingborg)



เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับ ๘ ของสวีเดน เป็นเมืองบนแผ่นดินใหญ่ของสวีเดนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเดนมาร์กมากที่สุด โดยห่างจากเมืองเฮลซิงเออร์ (Helsingør) ของเดนมาร์กซึ่งถูกคั่นด้วยช่องแคบเออเรซุนด์ห่างออกไปเพียง ๔ กม. สามารถเดินทางข้ามไปมาได้ด้วยเรือข้ามฟาก

เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของสวีเดน เชื่อว่าก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1085 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก และได้ตกเป็นของสวีเดนตั้งแต่ปี 1658 หลังสนธิสัญญารอสกิล

ภายในเมืองนี้เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างเก่าแก่มากมาย หากมองดูตัวเมืองนี้จากทะเลจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้นิยมนั่งเรือข้ามไปยังเมืองเฮลซิงเออร์ซึ่งก็เป็นเมืองที่มองจากทะเลแล้วสวยงามมากเช่นกัน

สถานีรถไฟที่นี่ทางรถไฟอยู่ใต้ดิน



ภายในอาคารสถานีรถไฟ ที่นี่เป็นทั้งสถานีรถไฟและเป็นทั้งท่าเรือด้วย



เรามาถึงก็รีบไปทำการซื้อตั๋วสำหรับเดินทางข้ามฝั่งไปยังเดนมาร์กเตรียมไว้เลย โดยตั๋วที่ซื้อนั้นเป็นตั๋วซึ่งรวมค่าเรือจากเฮลซิงบอรีไปเฮลซิงเออร์ และค่ารถไฟจากเฮลซิงเออร์ไปโคเปนเฮเกน แล้วจากนั้นพอไปถึงโคเปนเฮเกนก็ค่อยซื้อตั๋วเพื่อกลับไปยังคริครานสตาอีกที นี่เป็นแผนของวันนี้ เราเดินทางเป็นวงปิด

ตั๋วที่ซื้อเป็นแบบไม่จำกัดเวลา และเรือก็ออกทุก ๑๕ นาที ดังนั้นเราจึงไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาที่ชัดเจน

พอจัดการเรื่องซื้อตั๋วเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว ก็เลยไปหาอะไรทานมื้อเที่ยง ก็เจอร้านแม็กโดนัลด์ในสถานีรถไฟนี่เอง



จากนั้นเมื่อทานเสร็จเราก็ต้องไปนั่งรถเมล์เพื่อไปยังปราสาทโซฟิเอโร (Sofiero slott) อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไป ๕ กม. ปราสาทนี้เป็นปราสาทที่ไม่ได้เก่ามากนัก สร้างขึ้นเมื่อปี 1865 โดยเป็นที่อยู่ของเชื้อพระวงศ์สวีเดน

ปัจจุบันบริเวณรอบๆปราสาทเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมโดยคิดค่าผ่านประตู ภายในบริเวณปราสาทเป็นสวนขนาดใหญ่ริมฝั่งทะเล มีพืชอยู่จำนวนมากมายหลายชนิด

การไปต้องไปขึ้นรถเมล์ ซึ่งอยู่หน้า 7-11 ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟนี่เอง ภาพนี้ถ่ายจากหน้าแม็กโดนัลด์ก็เห็นตำแหน่งป้ายตรงนั้น



รถเมล์ที่นั่งคือสาย 8 ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่โดมสเตน (Domsten) แต่เรานั่งไม่นานก็ลงแล้ว



ระหว่างทางบนรถก็เห็นทิวทัศน์ริมทะเลด้วย



ลงรถเมล์มาถึงก็จะอยู่ที่หน้าทางเข้าปราสาทโซฟิเอโรเลย



การเข้าไปในบริเวณปราสาทต้องเสียตังค่าเข้า ๑๐๐ โครน ซึ่งถือว่าแพงมาก



นี่เป็นแผนที่ภายในบริเวณสวนรอบๆปราสาท จะเห็นว่าเป็นสวนใหญ่พอสมควรและมีปราสาทอีกแห่งด้านในด้วย



เนื่องจากคิดว่าแค่มองจากตรงนี้ก็ได้เห็นตัวปราสาทโซฟีเอโรแล้ว เท่านี้ก็คิดว่าพอแล้วก็เลยตัดสินใจไม่เข้าไป เป็นปราสาทที่สวยดี เสียดายเหมือนกันไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ



หลังจากนั้นก็นั่งรถเมล์เดินทางกลับมายังใจกลางเมือง เป้าหมายอยู่ที่ย่านเมืองเก่าซึ่งเป็นจุดที่สวยงามที่สุดของเมือง เราลงที่ป้ายศาลาว่าการเมือง (rådhus) และนี่คืออาคารศาลาว่าการเมือง เป็นอาคารที่สวยงามมาก อาคารนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 1897



ตรงนี้เป็นถนนที่สวยงามแห่งหลักของเมือง




ปลายทางของถนนนำไปสู่สวนสาธารณะในกลางเมือง สล็อตฮาเกน (Slottshagen) ประตูทางเข้าสวยงามมาก



เดินขึ้นไป



เมื่อขึ้นไปถึงบนสุดก็จะเห็นตัวปราสาทโบราณแห่งหนึ่งที่เป็นลักษณะหอคอย เรียกว่าแชร์นัน (Kärnan) เป็นปราสาทโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 สมัยที่เมืองนี้ยังเป็นของเดนมาร์กอยู่ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ คู่กับปราสาทครอนบอร์ (Kronborg) ในเมืองเฮลซิงเออร์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของทะเล



ปราสาทนี้สามารถเข้าไปชมด้านในได้ แต่ว่าเก็บค่าเข้าจึงไม่ได้เข้าไปอีกเช่นกัน



มองจากอีกด้าน



ภาพนี้ขึ้นบันไดไปด้านบนแล้วมองลงด้านล่าง เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม



ตรงนี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดีมาก



มองลงไปเห็นตัวเมืองที่อยู่ด้านล่างสวยงามมาก





ศาลาว่าการเมืองมองจากตรงนี้ก็สวย



ชมทิวทัศน์เสร็จก็ได้เวลาเดินกลับไปยังสถานีรถไฟซึ่งเป็นท่าเรือ



ทิวทัศน์ริมทะเลจากตรงนี้ก็สวย



ภายในตัวท่าเรือ ผ่านตรงนี้ไปก็เป็นทางเชื่อมที่จะลงเรือเพื่อไปยังเฮลซิงเออร์



บรรยากาศภายในเรือ เป็นร้านอาหาร



มีพวกตู้เล่นเกมอยู่ในเรือด้วย



สามารถออกมาด้านนอกได้ แต่ลมพัดแรงหนาวพอสมควร



มองเห็นดาดฟ้าเรือ แต่เขาไม่ให้คนทั่วไปขึ้นไปได้



มองกลับไปเห็นตัวเมืองเฮลซิงบอรี



มองแล้วเห็นศาลาว่าการเมืองกับป้อมแชร์นันสวยงามมาก



แล้วเรือก็ค่อยๆมุ่งหน้าไปเรื่อยๆสู่เมืองเฮลซิงเออร์ ติดตามตอนต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20140601

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ